11 พฤศจิกายน 2552

อาถรรพ์11 11

อาถรรพ์ เลข11 11

วันนี้เป็นวันที่ 11 เดือน 11

สังเกตว่า เลข 11 จะไม่เหมาะสำหรับหลายคน
ทั้ง 11 กันยา ที่ถูกโจมตีตึกคู่

ซึ่งตึกคู่เวิลด์เทรด ก็เป็นเหมือน 11

911 รวมกันก็ได้ 11

หลายคนก็แพ้เลข 111 เพราะเล่นเอาโดนเลิกเล่นการเมืองไปเลย

นี่เล่นมีข่าวย้ายยักษที่สุวรรณภูมิ บ้างก็ว่าแก้ฮวงจุ้ย บ้างก็ว่าให้ฝรั่งถ่ายรูปชัดๆ บ้างก็ว่าย้ายเพื่อช่วยอดีตนายก เพราะที่เดิมดักไม่ให้เข้ามา แต่เมื่อวานดูหมดดูที่เป็นเรือตรี เค้าบอกว่า ย้ายมาตรงนั้น ยิ่งดักไม่ให้กลับเข้ามา ป้าดดดดดด เรื่องย้ายยักษ์ เกี่ยวกับการเมืองไหมเนี่ย

เฮ้อ

10 พฤศจิกายน 2552

ผิวสวยสุขภาพดี ตอนที่ 1

ผิวสวยสุขภาพดี ตอนที่ 1

ลาก่อน…ผิวเสียหน้าหนาว
อย่าปล่อยให้ปัญหาผิวแห้งเสียเป็นอุปสรรคความสวยอีกต่อไป มารู้จักวิธีดูแลรักษาผิวหน้าหนาว
กันเสียแต่วันนี้ดีกว่า
5 อาการผิวป่วยหน้าหนาว
ผิวแห้งและเหี่ยวอาการแรกเริ่มของผิวในหน้าหนาว เกิดจากผิวขาดความชุ่มชื้นเพราะอากาศสัมพัทธ์หรือความชื้นรอบตัวน้อย ทำให้ร่างกายเสียน้ำมากกว่าปกติจึงแห้งและเกิดริ้วรอย บริเวณที่ผิวแห้งเป็นประจำคือ หน้าแข้ง หลังมือ แขน
ผิวแตก เป็นผลต่อเนื่องจากผิวแห้งที่ขาดการดูแลรักษา ทำ

อ่านต่อที่ http://www.healthy-care.saweedas.com/?p=39

09 พฤศจิกายน 2552

เคล็ดลับผิวสวย

เคล็ดลับผิวสวย

19 วิธีดูแลสุขภาพในช่วงฤดูหนาวมาฝาก

เพื่อให้คุณสามารถดูแลตัวเองได้อย่างปลอดภัยจากอากาศที่แสนจะหนาวเย็นกันค่ะ
1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่
2. ดื่มน้ำมาก ๆ ไม่ควรดื่มน้ำเย็น ถ้าจะให้ดีที่สุดควรเป็นน้ำอุ่น
3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ วันละ 15 – 30 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน
4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 6 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
5. หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไข้หวัด


ติดตามต่อที่ http://www.healthy-care.saweedas.com/?p=36

08 พฤศจิกายน 2552

ครบ 2 ปี ของการเป็นครู คศ.1

เมื่อวานนี้ เป็นวันที่ครบ 2 ปี ในการดำรงตำแหน่งครู คศ.1
ซึ่งผมก็ถือว่าเป็นระยะเวลา 2 ปีที่ยาวนาน(มาก)

เช่นเดียวกับการเป็นครูผู้ช่วย ที่เป็นระยะเวลา 2 ปีที่ต้องทำอะไร และเรียนรู้อะไรหลายอย่าง

บางสิ่ง ก็ไม่มีใครสอนเรา แม้แต่คู่มือ หรือเอกสารที่ทาง เขตฯ ให้มา
ดังนั้นอะไรๆ ก็ต้องศึกษาด้วยตนเอง สังเกต จะโชคดีหน่อยที่มีพี่บางคนคอยดูแล คอบบอก คอยสอน คอยเตือน... สุดยอด

ใครที่กำลังก้าวสู่อาชีพครู หรือ กำลังอยากจะเป็นครู

ขอให้รู้นะครับว่า งานครู คืองานหนัก งานที่ลำบาก

คุณต้องเลือกระหว่างความก้าวหน้าของนักเรียน กับความสบายของเรา

...เพราะถ้าเราทำไม่ดี ไม่คิดถึงเด็ก วันหนึ่ง จะย้อยกลับมาที่ลูกเราเอง เชื่อเถิดครับ


"วันที่ 7 พ.ย. วันที่มีความสุข เพราะเราได้ชื่อว่าเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"

07 พฤศจิกายน 2552

กาแฟลดความอ้วน

เตือนภัย อย่าเชื่อดื่มกาแฟลดอ้วน

ศ.น.พ.สุรัตน์ โคมินทร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนวิทยาคลินิกและโรคเบาหวาน

อดีตหัวหน้าหน่วยโภชนวิทยาและชีวเคมีทางการแพทย์ กล่าวถึงโฆษณาประเภทกาแฟ ซึ่งโฆษณาว่าดื่มแล้วจะทำให้รูปร่างผอมได้ว่า เป็นการชวนเชื่อและทำให้ประชาชนคิดว่า การดื่มกาแฟแล้วจะทำให้รูปร่างผอมเพรียว ซึ่งไม่เป็นความจริงทั้งหมด แม้ว่ากาแฟจะมีส่วนต่อระบบการเผาผลาญของร่างกาย แต่หากดื่มเป็นปริมาณมาก โดยหวังว่าจะให้ร่างกายผอม หุ่นดีนั้น อาจเกิดอันตรายกับร่างกายได้ แทนที่จะผอม เพราะกาเฟอีนจะทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายทำงานดีขึ้น แต่หากดื่มมากไปจะทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ

“นอกจากนี้หากดื่มกาแฟก็อาจอ้วนได้เช่นกัน เพราะหากส่วนผสมของกาแฟนั้นมีครีมเทียม น้ำตาลผสมอยู่มากก็จะมีพลังงานหลายกิโลแคลอรี ดังนั้นทำให้อ้วน จะผอมได้อย่างไร ก็ถ้าอยากดื่มกาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาลและครีม ก็ถือว่าพอมีประโยชน์ในการช่วยเผาผลาญบ้าง แต่ก็ไม่ควรดื่มหลายๆแก้วต่อวัน” ศ.น.พ.สุรัตน์ กล่าว

น.พ.ฆนัท ครุธกูล ผู้จัดการศูนย์หัวใจหลอดเลือดและเมตาบอลิก คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่ากาแฟมีส่วนช่วยให้ระบบเมตาบอลิซึม

ซึ่งเป็นการเผาผลาญของร่างกายเพิ่มขึ้นในระดับสัตว์ทดลอง.....

อ่านต่อที่ http://www.healthy-care.saweedas.com/?p=26

06 พฤศจิกายน 2552

ลดความอ้วนด้วยสัปรด

ลดความอ้วนด้วยผลไม้ ลดอ้วนด้วยสัปปะรด


สับปะรด

สับปะรดเป็นผลไม้ที่หากินง่าย แต่สิ่งที่น่าสนใจของสับปะรดนั้น ดูเหมือนว่าจะอยู่ที่เอนไซม์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า โบรเมอเลน เอนไซม์ ตัวนี้มีคุณสมบัติในการย่อยโปรตีนโดยเฉพาะเนื้อสัตว์ต่างๆ ดังนั้นการย่อยอาหารของร่างกายจึงเป็นปกติ ท้องไม่อืดหรือเฟ้อหากกินเป็นประจำ

นอกจากนี้แล้วเอนไซม์ตัวนี้ยังช่วยรักษาโรคหัวใจที่มสาเหตุจากการเกิดลิ่มเลือด เพราะเอนไซม์มีโบรเมอเลน เป็นเอนไซม์ที่ช่วยละลายลิ่มเลือดได้เป็นอย่างดี

อ่านต่อ http://www.healthy-care.saweedas.com/?p=24

05 พฤศจิกายน 2552

โยคะ [YOGA ]

โยคะ [YOGA ]

โยคะ (YOGA) หมายถึง การสร้างความสมดุลของร่างกาย-จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยรวมให้เป็นหนึ่งเดียว หะฐะโยคะ (HATHA YOGA) เป็น 1 ในสาขาโยคะทั้งหมด หะฐะโยคะ จะใช้ศิลปการบริหาร ร่างกาย ภายใต้การควบคุมของจิตใจ เกิดความสมดุลของพลังด้านบวกและด้านลบ โยคะจึงช่วย บรรเทาและบำบัดโรคได้ หะฐะโยคะ จึงเป็นที่นิยมแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนเห็นความสำคัญของ สุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี


ประโยชน์ของโยคะ [ Benefits of YOGA ]

เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ปรับระดับความดันเลือดให้เป็นปกติ บำบัดโรคที่เกี่ยวกับเลือดไม่ดี โรคภูมิแพ้ ลมหมักหมม
ผิวพรรณที่ไม่ผ่องใส สมองไม่ปลอดโปร่ง มึนศีรษะง่าย
อ่านต่อ http://www.healthy-care.saweedas.com/?p=28

04 พฤศจิกายน 2552

กินเห็ด (Mushrooms.) เพื่อสุขภาพ ตอนที่ 1

กินเห็ด (Mushrooms.) เพื่อสุขภาพ ตอนที่ 1

เห็ดหอม (Mushroom onion) ชาวจีนยกให้เห็ดหอมเป็นอาหารตำรับ “ อมตะ ” เพราะมีคุณสมบัติความเป็นยาบำรุงกำลังและบรรเทาอาการไข้หวัด การไหลเวียนเลือดไม่ดี ปวดกระเพาะอาหาร รวมทั้งอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย ซึ่งเห็ดหอมจะให้โปรตีนได้มากกว่าเห็ดแชมปิญองถึง 2 เท่า นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินบี ซีลีเนียม และธาตุอื่นๆ ที่ร่างกายต้องการ

เห็ดนางฟ้า (Mushroom fairy) เห็ดนางรม และเห็ดเป๋าฮื้อ

อ่านต่อที่ http://www.healthy-care.saweedas.com/?p=30

03 พฤศจิกายน 2552

ครูหนาว

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของครูที่หนาวหัวใจ

และไม่ใช่เรื่องที่หนาวเพราะเขตจะมาตรวจโรงเรียน...


แต่เห็นอาการของความหนาวเน็บที่ต้องขี่มอเตอร์ไซต์ ผ่านสายลมหนาว กลุ่มไอหมอก สุดยอดๆๆๆๆ


นี่ยังไม่รวมไข้หวัด 2009 มราเงียบไป (เพราะคนหยุดเสนอข่าว) หันไปเสนอข่าวของหมีแพนดา หรือเด็กตามหาพ่อที่ทิ้งไป ข่าวสำคัญๆที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนส่วนใหญ่กลับไม่นำเสนอ

ยังไงก็ระวังป้องกันตัวเองนะครับ

เพราะถ้าเป็นขึ้นมา ไม่ใช่มีใครมาโอบอุ้มเรา ไม่นำเสนอข่าวของเราด้วย 555

02 พฤศจิกายน 2552

หญ้าปักกิ่ง

หญ้าปักกิ่ง นี้นะจะชอบอยู่ในดินร่วนๆๆนะครับ ปลูกไม่ดีก็ตายหมดเลยนะครับ เหมือนหญ้าที่ชายทะเล เลยนะครับ ต้นจะไม่สูงมากนะครับ ประมาณ 1 คืบ เกือบ 2 คืบเลยนะครับ นะความสูงของหญ้าปักกิ่งนะครับ
หญ้าปักกิ่ง (หญ้าเทวดา)
เขียนโดย D.Healer เมื่อ 01 สิงหาคม 2008 - 10:29am
หญ้าปักกิ่ง หรือ หญ้าเทวดา
มีข้อถกเถียงกันมานานเรื่องการใช้ หญ้าปักกิ่ง แต่ผลการวิจัยได้พิสูจน์ว่าหญ้าปักกิ่ง มีคุณสมบัติยับยั้งโรคมะเร็งได้จริง แต่ต้องรับประทานอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องระมัดระวังให้มาก หลังจากที่ หญ้าปักกิ่งแพร่หลายในบ้านเรา คือเรื่อง หญ้าปักกิ่งปลอม ซึ่งต้องสังเกตให้ดี อย่าหลงเชื่อผู้ขาย และต้องปรึกษาผู้รู้เท่านั้น

หญ้าปักกิ่ง หรือในชื่อภาษาจีนว่า เล้งจือเช่า หรือหญ้าเทวดา เป็นยามีรสจืด เย็น มีสรรพคุณในการยับยั้งโรคมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งในคอ มะเร็งตับ มะเร็งมดลูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว การตรวจวิเคราะห์ในห้องแล็บพบว่า ลำต้นหญ้าปักกิ่งมีสารกลุ่มกลัยโคสพิงโกไลบิตส์ เป็นสารต้านมะเร็งระยะต้น ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เช่น โรคมะเร็ง เส้นเลือดหัวใจตีบ โรคภูมิแพ้ โรคความดันและเบาหวาน สามารถใช้รักษาร่วมกับยาแผนปัจจุบันได้ ช่วยลดอาการข้างเคียงจาการฉายแสง ในผู้ป่วยที่จำเป็นต้องฉายแสง

“ชาวจีนสมัยโบราณใช้หญ้าปักกิ่งเป็นยารักษาโรคมานับพันปีแล้ว รักษาสารพัดโรคครอบจักรวาล เช่น บำรุงพลังปราณ ปรับสมดุลร่างกาย เสริมภูมิคุ้มกัน ในประเทศไทยมีการนำเข้ามาปลูกเป็นยาจีน รักษาโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และทำน้ำคั้นดื่มรักษาโรคมาเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เคยทำวิจัยคุณสมบัติหญ้าปักกิ่ง พบว่า ไม่มีพิษสะสมต่ออวัยวะอื่น และได้สรรพคุณทางเคมีเภสัชว่า สามารถทำลายเซลล์มะเร็งโดยตรงระยะอ่อน-ปานกลาง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม และลำไส้ใหญ่ ซึ่งสารที่แสดงฤทธิ์ คือกลุ่มกลัยโคสพิงโกไลบิตส์”

ถิ่นกำเนิดของหญ้าปักกิ่ง
หญ้าปักกิ่งมีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนตอนใต้แถบสิบสองปันนา ในตำรายาจีนปรากฏพืชชนิดสกุลเดียวกันนี้ ใช้รักษาอาการเจ็บคอและมะเร็ง มีลักษณะคล้ายกับหญ้ามาเลเซียที่นำมาปูพื้นสนาม แต่หญ้าปักกิ่งจะอวบน้ำกว่า ใบนุ่ม หลังใบมีขนอ่อนๆ โคนต้นทรงกระบอก สีออกขาว ดอกออกเป็นช่อที่ยอดรวมกันเป็นกระจุกแน่น กลีบดอกสีฟ้าหรือสีม่วงอ่อน มีสรรพคุณเสริมภูมิต้านทาน ช่วยให้คุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งดีขึ้น

การแปรรูปหญ้าปักกิ่ง
เก็บเอาหญ้าปักกิ่งทั้งต้นทั้งราก คัดเอาใบที่สมบูรณ์และใบซีดเหลืองออกก่อน ล้างเศษดินที่ติดมากับรากให้สะอาดนำไปล้างน้ำอีก 2 ครั้ง ทิ้งให้สะเด็ดน้ำ นำหญ้าปักกิ่งมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆขนาด ครึ่งเซนติเมตร นำไปตากแดดประมาณ 5-7 วัน เวลาตากควรเกลี่ยให้ทั่วและเกลี่ยบ่อยๆ เมื่อแห้งสนิมแล้วนำมาบรรจุภาชนะให้มิดชิด สามารถนำไปทำเป็นลูกกลอน ยาอัดเม็ด แคปซูล ชา และเครื่องดื่มชนิดผง

“ส่วนมากจะทำเป็นน้ำหญ้าปักกิ่ง มีส่วนผสมคือ หญ้าปักกิ่ง น้ำเชื่อม น้ำสะอาด วิธีการคือ นำหญ้าปักกิ่งที่สดใหม่ ล้างน้ำให้สะอาด แช่ด่างทับทิม 15-20 นาที แล้วหั่นตามขวางละเอียด ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำแล้วกรองด้วยผ้าขาว เติมน้ำเชื่อมพอหวาน ชิมรสตามชอบจะได้น้ำหญ้าปักกิ่งสีเขียวหวานใส”

ประวัติการรักษาโรคมะเร็งในประเทศนั้น
ประมาณปี 2527 มีผู้ป่วยโรคมะเร็งดื่มน้ำคั้นสดจากหญ้าเทวดาเพื่อรักษาและบรรเทาอาการจากโรคมะเร็ง สามารถยืดชีวิตต่อไปได้ในระยะหนึ่ง ทำให้หญ้าเทวดาเป็นที่สนใจมาก นอกจากนั้นมีผู้ป่วยโรคมะเร็งรายหนึ่ง แพทย์บอกว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีก 3 เดือน ขอให้นำไปพักรักษาที่บ้าน แต่ผู้ป่วยได้ดื่มน้ำหญ้าปักกิ่งคั้นสด 1 ปีต่อมายังไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ผลของผู้ป่วยรายนี้กระตุ้นให้มีการศึกษาวิจัยคุณสมบัติของหญ้าเทวดา นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยบางรายที่ใช้หญ้าปักกิ่งรักษาอาการร่วมกับยาแผนปัจจุบัน

“ในการวิจัยที่เคยมีการทำกันมามีรายงานว่า สารสกัดหญ้าเทวดา มีผลลดความรุนแรงของการแพร่กระจายของมะเร็งในหนู จึงคาดว่า สารสกัดหญ้าเทวดาอาจใช้ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้”

ข้อควรระมัดระวังในการใช้หญ้าเทวดา
หญ้าเทวดาที่มีคุณประโยชน์ต่อผู้ป่วยต้องเป็นต้นที่มีอายุเหมาะสม กล่าวคือ หากเป็นหญ้าที่มีการปลูกโดยการชำกิ่งต้องมีอายุมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป แต่ถ้าเป็นหญ้าที่ปลูกจากการเพาะเมล็ด ต้องมีอายุมากกว่า 5 เดือนขึ้นไป
หญ้าเทวดาที่มีอายุยังไม่ครบ ได้มีการศึกษาแล้วพบว่า สารกลุ่มกลัยโคสพิงโกไลบิตส์ ไม่มีการสร้างในต้นที่มีอายุยังไม่ครบ ดังนั้นการซื้อหญ้าเทวดามาบริโภคต้องมั่นใจว่าต้นนั้นๆมีอายุครบตามเกณฑ์ที่กำหนด จึงจะได้คุณประโยชน์ที่พึงประสงค์

“ในด้านการพัฒนาสู่มาตรฐานสากลในประเทศไทยนั้น สถาบันวิจัยและพัฒนาขององค์การเภสัชกรรม ได้นำหญ้าเทวดามาพัฒนาเป็นยาเม็ด โดยใช้ส่วนประกอบทุกอย่างเป็นสารธรรมชาติ แม้กระทั่งสีที่ใช้เคลือบยาเม็ดก็ได้จากสีเขียวของคลอโรฟีลล์จากพืช วัตถุดิบและการผลิตทั้งหมดเป็นภูมิปัญญาของคนไทยล้วนๆไม่พึ่งต่างชาติ แต่การประกันคุณภาพจะเทียบเท่ามาตรฐานสากล”

การพัฒนาหญ้าเทวดาในรูปของยาเม็ด นอกจากเป็นรูปแบบของยาที่รับประทานง่ายแล้ว ยังช่วยให้ผู้ป่วยได้รับคุณค่าของยาอย่างสม่ำเสมอ เพราะยาเม็ดหญ้าเทวดาทุกเม็ดได้ผ่านกระบวนการผลิตและการควบคุมที่ทันสมัย เพื่อประกันคุณภาพของยาเม็ดหญ้าเทวดาทุก 2 เม็ดมีคุณค่าเทียบเท่ากับหญ้าเทวดาสดจำนวน 3 ต้น

“การใช้ยานี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควรรับประทานยานี้เป็นรอบ โดยรับประทาน 7 วันแล้วหยุด 4 วัน สลับกันไปแล้วเริ่มรับประทานรอบใหม่ ระยะเวลาการรับประทานขึ้นกับจุดประสงค์การใช้ยาดังนี้ กรณีใช้ลดผลข้างเคียงจากรังสีบำบัดหรือเคมีบำบัดผู้ป่วยมะเร็งรับประทานควบคู่ไปกับการรักษาแผนปัจจุบัน โดยรับประทาน 7 วัน หยุด 4 วัน การหยุดรับประทานเป็นช่วงๆ เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน”

ส่วนกรณีป้องกันการแพร่กระจายและการกลับมาเป็นซ้ำของผู้ป่วยโรคมะเร็งหลังจากได้รับการรักษาแล้ว โดยป้องกันการแพร่กระจายและกลับเป็นซ้ำอีก ให้รับประทาน 7 วัน หยุด 4 วัน เช่นนี้ติดต่อกัน 1 ปี และตรวจมะเร็งปีละ 2 ครั้ง ส่วนกรณีการใช้เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ในผู้ที่ไม่ได้เป็นมะเร็ง รับประทาน 7 วัน หยุด 4 วัน ติดต่อกันเป็นเวลาไม่เกิน 6-8 สัปดาห์ โดยใช้เฉพาะช่วงที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ติดเชื้อไวรัสเป็นต้น

[img]http://i314.photobucket.com/albums/ll429/kurabdang/1face3df.jpg[/img]
ข้อมูลจาก คุณกุหลายบสีแดง เว็บ http://www.seal2thai.org/board/viewtopic.php?p=30310#30310

01 พฤศจิกายน 2552

เบื่อจริงๆ คนไม่จริงใจ

วันนี้ไปก็ไม่เกิดอะไร

เค้าคงเป็นว่า พิษณุโลก - กำแพงเพชร ไปได้แป๊บเดียว

คนนะเฟ้ย ไม่ใช่โดราเอม่อน ใช้ประตูวิเศษไปไหนก็ได้

ไหนจะเสียเวลา เสียเงิน แต่มาไม่ทำอะไร เด็กก็ไม่มา
เด็กก็เป็นอะไรก็ไม่รู้ เวลาปิดเทอมอยากปิดก่อน แต่เวลาเปิด ไม่ยอมกลับมา พอเช็คเวลาเรียนไม่พอก็โวยวาย ผู้ปกครองหนอ แล้วเวลาที่เกรดของลูกออก เค้าจะใส่ใจไหมเนี่ย

กลับมาที่สี่แยกปลวกสูง ก็พบว่า รถเมล์ที่ขึ้นทุกวัน ในวันนี้เต็มไปด้วยนักศึกษา เต็มเอี๊ยด เต็มจริงๆ เต็มโครตๆ ถึงกับต้องเดินลงมาทีเดียว รอขึ้นรถคันหลัง

ผมไม่รู้นะ ช่วงปิดเทอม ผมจะเดินทางช่วงกลางสัปดาห์ และกลับก่อน 2 - 3 วัน เพราะหากไม่มีที่นั่ง ก็ต้องยืนจากแพร่ มาถึง พิษณุโลก (3 ชั่วโมงนะครับ พี่น้อง)

อย่างว่าแหละ ครูบ้านนอก ไม่มีรถ ขับรถไม่เป็น เงินเดือนยังน้อย 555+ เหนื่อยมาก


แล้วใครใช้ให้มาเป็นครูละ
อ้าว... ก็อาชีพครู มีโอกาสโกงชาติได้น้อยที่สุด ไงละครับบบบบบ

31 ตุลาคม 2552

เหนื่อยกับวันเตรียมความพร้อม

วันนี้ต้องไปเตรียมความพร้อม

ตื่นเช้ากว่าวันปกติ (ช่วงปิดเทอม) ไปซื้อข้าว จากนั้นก็เตรียมตัว

เวลา 07.20 น. ขี่มอเตอร์ไซด์จาก อ.เมือง พิษณุโลก ไป อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร เป็นระยะทาง 62.5 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ ชั่วโมงกว่า เหนื่อยและเมื่อย (บ้าง) หิว (นิดหน่อย) ปวดหลัง (มาก)

หลายคนที่ไม่เคยโดยสารรถเมล์ และขี่มอเตอร์ไซต์ไปทำงาน 2 ต่อ ก้จะไม่รู้ว่าลำบากแค่ไหน บางครั้งก็พลาดรถเมล์ บางครั้งก็ต้องเสี่ยงต่อการถูกรถโดยสารคันใหญ่ๆเฉี่ยวชน เสี่ยงกับงูหรือสัตว์ที่วิ่งตัดหน้ารถ

เราเป็นว่าบางคนสบายกว่าเรา

มันเลยทำให้เรารู้ว่า การเดินทางที่ลำบาก และการทำงานกับคนที่ไม่เห็นคุณค่า มันทำให้ท้อ

ถึงจะท้ออย่างไรก็ตาม เราก็จะปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างเต็มความสามารถ แม้ว่าข้อด้อยของเราจะอยู่ตรงไปถึงช้าหน่อย กลับเร็วในบางครั้ง แต่คนที่เค้าไม่โดยสารรถประจำทาง ที่ไม่ค่อยมาเป็นเวลาเค้าจะไม่รู้ว่า มันลำบากโครตๆ

อยากบ่น อยากนินทา อยากว่า ... เชิญตามสบาย
อย่างน้อยๆ จิตวิญญาณ อุดมการณ์ มันต่างกัน

วันนี้ไปก็ไม่เจออะไร ไม่ได้ทำอะไร ไปเสียเงิน ไปเสียเวลา ดีตรงที่ว่า ได้ไปช่วยครูเก๋ขนของเท่านั้นเอง

...

30 ตุลาคม 2552

สารพัดบัตร

วันนี้ โรงเรียนใกล้เปิดแล้ว
ต่อให้ไม่มีเวลาว่างก็ต้องไปตามต่ออายุบัตรต่างๆให้เสร็จ
ตั้งแต่บัตรเบิกจ่ายตรงโรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวร (10 นาทีได้รับเลย)
ไปถ่ายบัตรประชาชน (หมดอายุเกิน 3 เดือน โดนบัตร 20 บาท)
ต่ออายุบัตรจ่ายตรงโรงพยาบาลมหาวิทยานเรศวร (เดือนหน้าได้)
ส่งวิทยานิพนธ์

โหย เหนื่อยๆมากๆๆๆๆ

วันนี้วิ่งรอบเลยครับ

29 ตุลาคม 2552

คนดี ที่เป็นข่าวเพียงวันสองวัน

อย่าปล่อยให้ข่าวคนทำดี หายไปอย่างรวดเร็ว
เพราะคนดี มีมาก แต่สังคมไม่ชอบ (เพราะไปชอบหมีแพนด้า กับพ่อที่ทิ้งลูกไว้)

แม่บ้านห้างสรรพสินค้าท็อปแลนด์ จ.พิษณุโลก เก็บเงินกว่า 5 แสนบาทคืนเจ้าของ

(28 ต.ค.52) นางทองคำ ชาญสมาธิ์ อายุ 54 แม่บ้านห้างสรรพสินค้าท็อปแลนด์พลาซ่า อ.เมืองพิษณุโลก มีภูมิลำเนา อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เก็บเงิน ของนายเกรียงเดชน์ และนางอัชณัฐ อู่ดี ข้าราชการสำนักประชาสัมพันธ์ เขต 4 จำนวน 530,000 บาท ซึ่งได้จากการขายบ้าน และลืมทิ้งไว้ที่ศูนย์อาหารในห้างสรรพสินค้าท็อปแลนด์พลาซ่า อ.เมืองพิษณุโลก หลังมารับประทานอาหารในช่วงเที่ยงของวันนี้ และนางอัชณัฐ จึงได้มอบเงินให้นางทองคำไว้ จำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นการขอบคุณ นางทองคำ กล่าวว่า ตนเองเดินมาเก็บภาชนะที่โต๊ะอาหาร เหลือบไปเห็นกระเป๋าสะพายแขวนอยู่ที่เก้าอี้ จึงได้นำไปให้ผู้จัดการเก็บไว้ เพื่อรอเจ้าของมารับ โดยไม่ได้เปิดดูในกระเป๋าว่ามีอะไร ซึ่งปกติแล้วก็มีคนลืมของไว้เป็นประจำ และตนเองก็จะเก็บไว้เสมอ

หากใครเข้ามาอ่านข้อความของผม โปรดรับทราบว่า "ผมชอบข่าวคนทำดี" มากกว่าการประโคมข่าวตามกระแส ครับ

28 ตุลาคม 2552

มีเงินล้นฟ้า แต่ต้องมา(ตายใน)คุก

ตอนนี้มีกระแสข่าวของคนที่อาศัยความรู้ความสามารถ และอำนาจของตนเอง
นำสิ่งเหล่านั้นมาใช้แสวงหาประโยชน์ของตนเอง

คนเหล่านั้นคงไม่ต้องการกลับเมืองไทย
เพราะหากเค้ารักเมืองไทย เค้าคงไม่ทำแบบนั้น
ทั้งการปั่นหุ้น NPL ปล่อยข่าวลวง
นี่ยังไม่นับบางกลุ่มที่โจมตีค่าเงินบาทไทย (ซื้อ 25 บ. และพอปล่อยให้เงินบาทลอยตัวได้เกือบ 50 บ. กำไรดีกว่าทำ adsense เห็นๆ)

ที่สำคัญ หากกลับมาถึง ได้นอนบนเตียง มีคนดูแล ตามหลักสิทธิมนุยษชน เสียอย่างเดียว (ห้องนี้ผีดุ)

คนที่ขายชาติ มีจุดจบไม่กี่อย่าง ติดคุก ตายอย่างอนาถา ครอบครัวแตกแยก ลูกผลาญสมบัติ และไม่มีแผ่นดินอยู่
(เชื่อเถอะ มีคนพูดแบบนี้เป็นล้านๆๆๆ)

ใครมีความเห็นอย่างไร ขอเชิญแสดงความเห็นครับ

27 ตุลาคม 2552

การกำจัดแมลงศัตรูพืชไม้ดอกไม้ประดับ

ประเภทของแมลงศัตรูพืช

แมลงปากดูด มีหลายชนิด เช่น เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย เป็นต้น แมลงเหล่านี้ทำลายพืชด้วยการดูดน้ำเลี้ยง ทำให้พืชหงิกงอ เหี่ยวแห้ง
หนอนผีเสื้อ จะกัดกิน ทำให้ใบ ดอกขาดหรือเป็นรู

แมลงปีกแข็ง เช่น ด้วงกุหลาบ เต่ากล้วยไม้ จะกัดกินดอกและใบ

แมลงวัน เช่น แมลงวันดอกกล้วยไม้ ตัวหนอนจะเจาะเข้าไปกัดกินอยู่ภายในดอก จะระบาดเป็นครั้งคราว

ศัตรูอื่น ๆ เช่น ไร ทาก และหนู

วิธีป้องกันและกำจัด
# หมั่นตรวจดูไม้ดอกไม้ประดับอย่างสม่ำเสมอ หากพบมีการทำลายไม่มากก็จับแมลงที่พบมาทำลายทิ้ง
# หากพบมีการระบาดรุนแรงก็ฉีดพ่นด้วยสารเคมีทุก ๆ 5-7 วัน จนกว่าจะไม่พบการระบาด

รู้อย่างนี้แล้ว ควรหมั่นตรวจดูไม้ดอกไม้ประดับอย่างสม่ำเสมอ จะได้ห่างไกลจากศัตรูพืช.

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

26 ตุลาคม 2552

การดื่มน้ำกับการออกกำลังกาย

การออกกำลังกายที่ต้องออกแรงให้รู้สึกเหนื่อยหอบปานกลาง ทำให้หัวใจเต้นสูบฉีดต่อเนื่องในระยะเวลาที่เหมาะสมและอย่างสม่ำเสมอ ช่วยทำให้ปอดและหัวใจแข็งแรง สุขภาพโดยรวมแข็งแรง ห่างไกลโรคร้ายอย่างโรคอ้วนหรือเบาหวานได้อย่างสบายๆ

การออกกำลัง กายเรียกเหงื่อจะทำให้เรารู้สึกสดชื่นกระปรี้กะเปร่า ซึ่งเมื่อเสียเหงื่อก็ต้องดื่มน้ำเปล่าเข้าไปชดเชยน้ำที่สูญเสียไปจากร่าง กายในรูปของเหงื่อ โดยการดื่มน้ำที่ได้สมดุลต่อสุขภาพร่างกายของคุณตั้งแต่ทั้งก่อน ระหว่างและหลังออกกำลังกายต้องมีปริมาณมากน้อยเพียงใด เรามีคำแนะนำง่ายๆ ค่ะ

ก่อนออกกำลังกาย
ควรดื่มน้ำให้ เพียงพอ ประมาณ 400-600 มล. (1-1 ½ ขวดกลาง) ก่อนการออกกำลังกายทุกชนิดล่วงหน้าสัก 1-2 ชั่วโมง และอีก 200-400 มล. (1/2 -1 ขวดกลาง) ก่อนออกกำลังกายประมาณ 15 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการจุกเสียดท้อง

ระหว่างการออกกำลังกาย
ขณะ ออกกำลังกายอย่างสนุกสนาน ร่างกายจะขับเหงื่อเพื่อปรับและรักษาอุณหภูมิไว้ให้สมดุล ดังนั้นเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ ในกรณีที่ออกกำลังกายน้อยกว่า 60 นาที คุณควรพักดื่มน้ำทุกๆ 15-20 นาที ครั้งละ 200 มล. (1/2 ขวดกลาง) ทั้งนี้ในกรณีที่ร่างกายส่งสัญญาณเตือนว่ากำลังขาดน้ำ เช่น คอแห้ง น้ำลายเหนียว ก็ควรพักดื่มน้ำสักหน่อยก่อนกลับไปออกกำลังกายต่อ สัก 2-3 อึกก็ยังดี หรือถ้าออกกำลังกายที่มีความหนักและสูญเสียเหงื่อมาก อาจดื่มน้ำเกลือแร่เสริมได้ เพื่อเพิ่มน้ำตาลในเลือด ป้องกันไม่ให้เหนื่อยอ่อนแรงและช็อค ซึ่งจะให้ดีเครื่องดื่มนั้นควรมีอุณหภูมิประมาณ 15-20 องศาเซลเซียส เพื่อเพิ่มการดูดซึม

หลังการออกกำลังกาย
การ ดื่มน้ำชดเชยเหงื่อที่สูญเสียไปจากการออกกำลังกายขึ้นอยู่กับความหนัก เปรียบเทียบง่ายๆ ด้วยการชั่งน้ำหนักก่อนและหลังการออกกำลังกาย (ดังนั้นอย่าเข้าใจผิดว่าหลังออกกำลังกายหรือซาวนาแล้วจะผอมทันที เพราะจริงๆ แล้ว น้ำในร่างกายสูญเสียไปต่างหาก) หรือปริมาณปัสสาวะที่ขับออกมาก็ได้ ถ้าปัสสาวะมีสีเข้มแสดงว่าดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และพยายามหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ดัง นั้นระหว่างการออกกำลังกาย อย่ามัวแต่สนุกสนานกับการเผาผลาญพลังงานจนลืมดื่มน้ำนะคะ มิฉะนั้นอาจจะหมดเรี่ยวแรง และอาจเกิดอาการขาดน้ำจนถึงช็อคได้ ส่วนน้ำที่ดีที่สุดเมื่อออกกำลังกายก็คือ น้ำเปล่า...ทั้งนี้รวมถึงคนที่ทำกิจกรรมทั่วไปก็ต้องดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้ว นะคะ...วันนี้คุณดื่มน้ำเพียงพอแล้วหรือยัง?

ที่มาข้อมูล : นิตยสาร Health Today

25 ตุลาคม 2552

คาถาพระสุนทรีวาณี (คาถาความจำดี)

คาถาพระสุนทรีวาณี
ตั้ง นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)

มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรีปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนังฯ



พระสุนทรวาณี นั้นเป็นพระปางพิเศษ เป็นรูปเทพธิดาทรงอาภรณ์อันงดงามวิจิตร พระหัตถ์ขวาแสดงอาการกวัก อันหมายถึงการเรียกเข้ามาหา นัยน์ว่าเป็นการเรียกสิ่งดีๆต่างๆเข้ามาหาผู้บูชา พระหัตถ์ซ้ายหงายอยู่บนพระเพลา (หน้าตัก) มีดวงแก้ววิเชียร (เพชร) อยู่ในพระหัตถ์ พระสุนทรีวาณี เป็นพระซึ่งเกิดจากนิมิตแห่งคาถาสุนทรีวาณี ซึ่งเป็นคาถาที่ปรากฏในคัมภีร์สัททาวิเสส มี 32 คำ พระคาถานี้เป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดเมื่อเรียนพระไตรปิฎก เรียนพระธรรม เรียนวิชา ภาวนาแล้วสามารถดับอวิชชา บังเกิดปัญญางาม ปัญญากลายเป็นสัญญา(สัญญา --- ความจำได้หมายรู้) คือความทรงจำอันเลิศล้ำ โบราณาจารย์ได้สั่งสอนศิษยานุศิษย์ให้ท่องทุกครั้งก่อนที่จะเรียนพระไตรปิฎกตลอดมา

สืบความได้ว่า ผู้ที่ท่องคาถานี้เฉพาะในยุครัตนโกสินทร์ ดำรงสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระสังฆราช 3 พระองค์ เป็นพระสมเด็จ พระราชาคณะ และเป็นพระคณาจารย์ผู้มากด้วยเมตตาอีกเป็นจำนวนมาก สมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวฺฑฒโน) อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 3 ของวัดสุทัศน์ฯ ได้ภาวนาโดยใช้คาถานี้จนเกิดเป็นนิมิต จึงให้จิตรกรหลวงเขียนภาพนิมิตนั้นแล้วตั้งบูชาที่หัวนอน ครั้นต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เสด็จประพาสยุโรป สมเด็จพระวันรัต (แดง) ได้ถวายคาถานี้ให้จำเริญ ครั้งเมื่อเสด็จกลับมาจึงได้ตรัสว่าคาถานี้ศักดิ์สิทธิ์นัก และได้ทรงขอยืมรูปพระสุนทรีวาณีไปบูชา เป็นเวลา 5 ปี จนเมื่อสมเด็จพระวันรัต (แดง) อาพาธ ก่อนมรณภาพ จึงขอพระราชทานกลับมาคืนวัด ปัจจุบันภาพนั้นอยู่ที่คณะ 6 วัดสุทัศน์ฯ โดยได้มีการสร้างเหรียญ และเหรียญหล่อจากภาพนิมิตดังกล่าวแล้วหลายครั้ง ผู้ที่บูชาพระสุนทรีวาณีจะเกิดความผ่องใส เกิดโชคลาภ และประสบความสำเร็จต่างๆ

สนับสนุนข้อมูล รับสร้างบ้าน ออกแบบบ้าน งบไม่บาน

24 ตุลาคม 2552

สร้างบ้าน ออกแบบบ้าน ราคาไม่บาน

สร้างบ้าน ออกแบบบ้าน ราคาไม่บาน ความหวังของครูบ้านนอก

เกิดมาครั้งหนึ่ง ก็หวังว่า จะมีบ้านกับเค้าบ้าง
ยิ่งเป็นครูบ้านนอก ก็ยิ่งอยากมี
อย่างว่าแหละ ชีวิตครู ถ้าไม่กู้ ก็ไม่มี เงินเดือนน้อย

พอดีไปเจอเว็บหนึ่ง ออกแบบบ้านคุณภาพดี แถมยังสร้างบ้านราคาถูกอีกด้วย
สามารถสอบถามและหาคำแนะนำได้จากผู้จัดการของบริษัท (ที่รู้ เพราะพี่เค้าเป็นศิษย์พ่อเดียวกัน)

เข้าชมที่ รับสร้างบ้าน ออกแบบบ้าน ราคาไม่บาน

23 ตุลาคม 2552

วันปิยมหาราช

วันนี้เป็รนวันปิยมหาราช
แต่แตกต่างจากวันปิยมหาราชปีก่อนๆตรงที่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหายจากอาการประชวร

เชื่อไหม

วันนี้เสียงสรรเสริญ
เสียงร้องด้วยความดีใจ
เสียงแห่งความปราบปลื้มยินดีก้องไปทั่วประเทศ


เรามีความยินดี 2 อย่าง

ทั้งเสด็จพ่อ ร.5 ทรงเลิกทาส (ในอดีต)
และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหาย

แต่ปัจจุบัน คน(เลว)บางคน กลับพยายามนำชาติไปเป็นทาสชาติอื่น
ขายชาติ ขายแผ่นดิน

ทำบาปต่อชาติโดยไม่เกรงกลัวบาปกรรม ไม่เกรงกลัววิญญาณบรรพชน

เดี๋ยวคงได้รู้กันว่า กรรมติดจรวดเร็วแค่ไหน

22 ตุลาคม 2552

ผ่านไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

ผ่านไปแล้ว 1 อาทิตย์
สำหรับการปิดเทอม และก็กำลังจะผ่านไปอีก 1 อาทิตย์

หลายเรื่องราวที่ยังค้างคาก็ยังมีอยู่
งานมากมายก็ยังค้างอยู่
ทั้งทำเว็บ
ทั้งวิจัย
ทั้งวิทยานิพนธ์

ทั้งรอลุ้นผลการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา น่าจะมีลุ้นนะ

วอนขอทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่เคารพนับถือ
ตั้งพระเครื่อง ตะกรุด เครื่องราง คาถาอาคม ใช้หมด

หวังว่าผลบุญก็คงจะส่งผลให้ประสบความสำเร็จในเร็ววัน


สาธุ

20 ตุลาคม 2552

สัปเหร่อออนไลน์ แต่งกลอนงานศพฟรี

เว็บนี้แต่งกลอนงานศพให้ฟรี

ไม่คิดค่าใช้จ่าย
ขอเพียงบอกที่มาของเว็บเค้าเท่านั้น (เก๋ดีเนาะ)

ส่วนใครใจบุญอยากสนับสนุน ก็อนุโมทนาครับ

19 ตุลาคม 2552

วัดดอยจำค่า

วันนี้ได้ไปทำบุญวัดดอยจำค่า

ไปขอเมตตาพระอาจารย์สยาม สิริปํญโญ ปลุกเสกเดี่ยว วัตถุมงคลที่ห้อยอยู่ และเหรียญพระพุทธชินราช (รุ่นพิเศษที่เตรียมไว้) ปี 2552 จำนวน 52 เหรียญ เข้าด้วย

จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมยาย

แล้วเดินทางกลับพิษณุโลก กว่าจะได้กลับก็ลำบากทุลักทุเลเหมือนขามา

เหนื่อยจริงๆๆๆๆๆๆๆ

18 ตุลาคม 2552

ไปทำบุญ

วันนี้ไปทำผ้าป่าที่บ้านดอนชัย
เป็นวัดที่อยู่ใกล้กับโรงเรียนของแม่

การทำบุญแต่ละที่ไม่เหมือนกัน แตกต่างกัน

ขอบที่นี่จะต้องเอาไปวาง แล้วให้อาจารย์ที่เป็นฆราวาทมาประพรมน้ำมนต์พร้อมเรียกชื่อคนที่จะอุทิศให้

จากนั้นก็นำไปวางหน้าพระสงฆ์ แล้วพระก็จะเรียกชื่อตาม เซ่นตาน (รายชื่อที่จะอุทิศให้คนตาย)

ขนาดอำเภแอเดียวกัน ยังทำไม่เหมือนกันเลย โชคดีที่ได้เรียนรู้

17 ตุลาคม 2552

กลับบ้าน

ปิดเทอมทั้งที ได้กลับบ้านแค่ไม่กี่วัน
ทั้งนี้เพราะภาระหน้าที่ที่มากมาย

กว่าจะได้กลับ ต้องแช่งชิงที่นั่งกัน

กว่าจะถึง เหนื่อยกาย

รถก็ขับโยกไปมา (เพราะทำถนน) ดีนะที่ได้มะขามของสารัช (มะขามจี๊ดจ๊าด) คนข้างๆเลยไม่เมารถ

กลับไปถึงก็ไปวัดแพร่ธรรมารามก่อน พระอาจารย์เอกราชท่านจำวัดอยู่ (เพิ่งกลับมาจากกฐินที่ร้องกวาง)

ไปคุยกับยาย

ไปดูหมา

นอน

นอน

นอน

นอน

อยากกลับบ้านนานๆจัง ทำไมครูบ้านนอก จึงมีโอกาสแบบนี้น้อยจังเนาะ เฮ้อ

ป.ล. ไปไหน อย่าลืมพกมะขามจี๊ดจ๊าด ของมะขามสารัช ไปด้วยนะครับ ช่วยได้มาก

16 ตุลาคม 2552

มะขาม

ประเทศไทยขึ้นชื่อผลไม้
เหนือจรดใต้มากมายหลากหลายยิ่ง
เพชรบูรณ์มีมะขามอร่อยจริง
ขึ้นชื่อยิ่ง สารัช เด่นดังไกล

มะขามคลุก มะขามกวน ยั่วยวนเย้า
มะขามสด เรื่องเล่าเด่น เป็นไฉน
นี้ของดัง มะขามจี๊ดจ๊าด เลื่องลือไป
ทั่วเมืองไทย รู้จัก สารัชเอย
(เอามาจากเว็บ http://www.สารัช.com) คนรักมะขามจี๊ดจ๊าดของสารัชเค้าแต่งให้

15 ตุลาคม 2552

พระเลี่ยมเงิน และ wordpress

เลี่ยมพระ และ wordpress

วันนี้ไปรับพระที่นำไปเลี่ยมเงินที่วัดใหญ่ เป็นพระไพรีพินาศ รุ่นชัยชนะศึก

โค๊ด ๙๘๑

พระองค์นี้ ผมรักมาก เพราะมีปาฎิหาริย์เกิดกับผมเอง แรงมาก

แล้วไปที่ se-ed เพื่อหาหนังสือ wordpress มา หายากมาก ขายดิบขายดี เฮ้อ

แล้วก็จองกระเป๋าใบหนึ่ง สวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

14 ตุลาคม 2552

เดินทาง กินขนมจีน ชิมมะขามเพชรบูรณ์

วันนี้มีโอกาสดี
ได้เดินทางไปอำเภอหล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ออกเดินทางตั้งแต่ 08.30 น. ด้วยรถที่ "เก่า" และคนขับ "สูงอายุ"
เบาะรถถูกออกแบบมาให้ชิดกัน เพื่อให้บรรจุผู้โดยสารให้มากที่สุด (โห) เล่นเอาทั้งปวด

เมื่อยไม่สบายตัว

เวลาที่ลุ้นมากที่สุดคือ ช่วงขึ้นเขา รถเขาเกียร์ 1 ฮืมมมมมมมมมมมมม
(แอบช่วยลุ้ม ช่วยเหยียบคันเร่ง)

ขณะที่ผ่านบ้านเข็กน้อย และเข็กใหญ่ (ศูนย์ส่งเสริมชาวเขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย)

มีชุมชนที่ตั้งอยูกลางดอย
วิถีชีวิตอยู่กับเกษตรกรรม การเลี้ยงสัตว์ และหัตถกรรม

บริเวณข้างทางเป็นภูเขาที่มองเห็นข้าวไร่เป็นทิวๆ เริ่มออกรวงสีเหลือง นี่เป็นวิธีทำ

เกษตรกรรมแบบชาวเขา น่าเสียดายที่การปลูกพืชแบบนี้ต้องทำลายต้นไม้บนภูเขา ซึ่ง

อาจเกิดอันตรายตอนที่มีฝนตกหนัก เพราะอาจมีน้ำป่าหรือโคลนถล่มได้

แล้วรถก็เข้าถึงตลาดหล่มสัก นั่งสามล้อเครื่องไปลงที่ร้านสารัช ขนมจีนเส้นสด 7 สี ( ต้นตำรับขนมจีนเส้น 7 สี) อาจนั่งรถสองแถวไปหล่มเก่าก็ได้นะครับ เข้าไปพบกับ

บรรยากาศใหม่ มะขามฝักใหญ่ที่อยู่หน้าร้านถูกปรับปรุง เสาในร้านที่เคยมีลายเซ็นต์ ของผู้มาเยี่ยมชิม ทั้งดารานักแสดง หรือประชาชนทั่วไป ก็เขียนฝากไว้นั้น ถูกทาสีทับใหม่เพราะต้องทำการปรับปรุง

ขณะที่รอชุดขนมจีนมาลงที่โต๊ะนั้น ผมได้ไปเดินชมผักปลอดสารพิษ ซึ่งทางร้านขนมจีนเส้นสด 7 สี ได้ปลูกไว้หลังร้าน ทำให้มั่นใจได้ว่าผักเคียงขนมจีนที่นี่ ปลอดสารพิษ จริงๆ

สำหรับน้ำขนมจีนของที่ร้านสารัช (ร้านดังประจำหล่มเก่า) ประกอบไปด้วยน้ำยาป่า น้ำยากะทิ แกงเขียวหวาน และน้ำยา...(ความลับครับ ใครอยากรู้ต้องไปชิมกันเองนะครับ สูตรลับจากทางร้าน)

ส่วนเครื่องเคียงที่สั่งมาวันนี้คือ หมูปิ้งเสียบไม้ ห่อหมกหมู ไข่ต้ม และแหนม
(ห่อหมกหมูอร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ)

หลังจากที่อิ่มอร่อยเรียบร้อยแล้ว ก็ปิดท้ายด้วยขนมหวานก็คือ ขนมถ้วยสูตรเด็ด เข้มข้ม หวานมัน อร่อยอีกเช่นกัน (หมดถาด 555)

และเมื่อเคลียร์ของอร่อยประจำหล่มเก่าหมดแล้ว ก็เดินไปชมสินค้าของฝาก ซึ่งก็คือ มะขามสารัช ที่ขึ้นชื่อมากก็มะขามจี๊ดจ๊าดที่เปรี้ยวถึงใจ เล่นเอาตาสว่าง มะขามกวน หวานอมเปรี้ยวกำลังดี มะขามสด โห สุดยอดแห่งมะขามหวานเพชรบูรณ์

ดังนั้นจึงเกิดความสนใจ ขอไปชมที่โรงงาน พบว่ากำลังขยายกิจการ เพิ่มโรงงาน ส่วนผลิต และปรับสีรถใหม่ (สวยโครต)

มีเจ้าหน้าที่ตรวจตราทุกชั่วโมง ขั้นตอนการผลิตก็รัดกุม (มารู้ตอนหลังว่า โรงงานนี้มีชื่อเสียงถึงกับมีคนมาขอดูงานมากมาย หลังสุดคือว.เทคนิค) แสดงว่าดังจริงๆ

งานนี้เจ้าของโรงงานออกมานำเสนอเองเลย ว้าวววว
ป.ล. ก่อนกลับ ได้ของฝากมากมาย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง และรสชาดที่อร่อย

ใครอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างก็สามารถติดต่อสารัชได้เลยจ้า

(เรื่องเล่านี้ เล่าจากคุณพร ....ขอบพระคุณมา ณ ที่นี้)

13 ตุลาคม 2552

วันนี้วันดี ฤกษ์ดี

วันนี้วันดี มีฤกษ์สำหรับการออกกิจการใหม่ ฤกษ์เปิดร้านใหม่ ฤกษ์การขึ้นบ้านใหม่ เป็นสิ่งที่ดี

ใครๆก็มองเห็นว่า ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ดี

โชคดีกันมากมายนะครับพี่น้อง อยากให้เป็นจุดเริ่มต้นของร้านใหม่ บ้านใหม่


การเริ่มต้นใหม่ เป็นการเริ่มก้าวเดิน
บางคนอาจเดินครั้งแรก
บางคนอาจเคยล้ม แล้วเดินใหม่

มีเพียงคนตายเท่านั้นที่ไม่เดิน

ใครบ้างจะยอมเป็นคนตาย

เดิน เดิน เดิน

ฤกษ์ดี ฤกษ์งาม ย่อมคู่กับฤกษ์สะดวกสบาย เรื่องฤกษ์บางคนอาจมองว่าไร้สาระ แต่แต่ละวัน พระอาทิตย์ขึ้นไม่พร้อมกัน
น้ำขึ้น น้ำลงไม่พร้อมกัน
มันมีเวลาของมันอยู่

ฤกษ์ผานาทีที่ดีงาม ย่อมอยู่กับกิจการที่ประกอบด้วยคุณธรรมด้วยนะครับ

ที่มา www.saweedas.com

12 ตุลาคม 2552

อ.หนู กันภัย

บนทางเดินมากมายมีหลายหลาก
บ้างลำบาก บ้างสบายเพราะกุศล
พ่อหนูช่วย ผู้ลำบากและอับจน
จึงอยู่ใน ใจชน ตลอดกาล
(พิริยะ)
อ.หนู กันภัย ยันต์ 5 แถว หนังสือ หมื่นยันต์ เหรียญห้าแถวนะมหาสำเร็จกินไม่รู้สิ้น

11 ตุลาคม 2552

ทำบุญทอดกฐินที่วัดป่าวิสุทธิชาติ หนองบัวลำภู

วันนี้มีโอกาสดี เดินทางไปร่วมทำบุญที่วัดป่า วัดวิสุทธิชาติ จ.หนองบัวลำภู ออกเดินทางตั้งแต่ตี 3 จากพิษณุโลก หมอกจัดมากๆๆๆๆๆๆ ระหว่างช่วยที่ผ่าน จ.เลย

แล้วจะเอาภาพมาให้ชมนะครับ

10 ตุลาคม 2552

เปิดโปงเรื่องย้าย

วันนี้ ขอเปิดโปงเรื่องย้ายกัน

คนๆหนึ่งต้องการย้าย (โดยมีเหตุผลหลายประการ)

คนๆหนึ่ง จึงเดินไปหาคนๆหนึ่ง เพื่อให้แนะนำให้รู้จักกับคนอีกคนหนึ่ง (กี่คนแล้ววะ)

เมื่อมาพร้อมหน้ากัน ทุกคนก็คุยเรื่องย้าย คนแรกก็ยกความจำเป็นที่ต้องย้าย

คนที่สอง กึ่งสนับสนุน กึ่งวางตัว (กั๊ก)

คนที่สาม มองดูในมือของคนที่หนึ่ง

เมื่อคุยกันจนถึงจุดที่ลงตัว (ผลประโยชน์ตรงกัน)


พวกเขาก็เริ่มย้าย.....










ทั้งหมด ช่วยกันย้ายตู้หนังสือออกจากทางเดิน เพราะกลัวว่านักเรียนจะเดินมาชน (ฮา)
เรื่องโดย อ.ก.ค.ศ.

09 ตุลาคม 2552

หมื่นยันต์

หนังสือหมื่นยันต์ โดย อ.หนู กันภัย
ในหนังสือถูกแบ่งออกเป็น 5 บรรพ
1.ศึกษาอักขระขอมโบราณ
2.เรื่องราวของ อ.หนูในหลาก หลายรูปแบบ
3.เป็นเรื่องราวอันหลากหลายของประสบการณ์ที่ลูกศิษย์ได้ผ่านพบมา
4.ภาพลายสักรวมถึงอักขระและ เลขยันต์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบได้นำเอาไปเก็บรักษากว่า 100 ลายภาพ
5.ภาคภาษาอังกฤษเกือบ100 หน้า สำหรับลูกศิษย์ชาวต่างชาติ ได้อ่านศึกษาเพื่อทำความเข้าใจในการสักยันต์แบบโบราณ

ทั้งหมดมีความหนากว่า 450 หน้าเต็มอิ่มจุใจ รวมอยู่ในพ๊อกเก็ตบุ๊ค(Pocket Book) ของ อ. หนู กันภัยภายใต้ชื่อ “หมื่นยันต์

08 ตุลาคม 2552

เรื่องเล่า ข้อสังเกต อ.หนู กันภัย

สวัสดีครับ
วันนี้มีเรื่องเล่า ข้อสังเกต และข้อคิดเห็นมาเล่าสู่กันฟัง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ

1. เรื่องแรก ผมได้เอาเสือเหลี่ยวหลังที่พี่จ๋อมมอบให้ไปเลี่ยมพลาสติกกะว่าจะเอาไปห้อยคอ สับเปลี่ยนกับพระหรือวัตถุมงคลอื่นๆ คนที่เลี่ยมเค้าบอกว่า เค้าเป็นลูกศิษย์ของพระรูปหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการสักในระแวกพิษณุโลก เค้าบอกว่า อาจารย์ท่านั้นบอกว่า ยันต์ห้าแถวของ อ.หนู อักขระไม่ครบ หายไปตัวหนึ่ง แต่ที่ดังๆและราคาค่าครูสูง เพราะดารามาสักกันเยอะ

ตอนแรก ผมก็ว่า เอ ทำไม มาพูดแบบนี้ แต่ก็ใช้สติ และสมองอันน้อยนิดประกอบกับความเป็นครูวิทยาศาสตร์ คิดวิเคราะห์ว่า
- หากยันต์ห้าแถว อ.หนู ไม่มีจริง ไม่ครบจริง ทำไมพระรูปนั้นถึงบอกใครต่อใครว่าเป็นศิษย์ผู้พี่ หรือเป็นเพื่อนร่วมสำนักกับ อ.หนู
- ทำไม ท่านสักห้าแถวให้คนอื่นด้วย
...แสดงว่า ลักษณะนี้ ภาษาทางวงการพระเรียกว่า "สวด" ใช่ไหมครับ

เมื่อคิดได้ดังนี้ ผมก็เลยสบายใจ ไม่สนใจกับสิ่งที่เค้าพูด เพราะคนที่พูดเค้าไม่รู้ว่า ค่าสัก ค่าบูชาวัตถุมงคล อาจารย์หนูนำไปช่วยเหลือคนยากไร้ นำไปสร้างวัด บำรุงดูแลสำนัก และเลี้ยงดูผู้คนในสำนักมากมาย เป็นธรรมดา ที่ต้องมีราคาสูง แต่ก็ไม่เกินไปอยู่แล้ว เพราะท่าน มีความเมตตาต่อทุกคนเสมอกัน (อ่านต่อที่ ทำไมผลถึงศรัทธาอาจารย์หนู กันภัย)

2. หลายท่าน(ที่อื่นๆ) มักจะบอกว่าสำนักบางสำนักราคาแพง อาศัยดารามาโปรโมท ผมก็สังเกตว่า ดาราที่มาสัก เค้าก็มีงานตลอด (ลองสังเกตดู) และเมื่อเค้าพูดๆๆๆ โจมตี แต่เค้าก็สักห้าแถวให้ศิษย์ตัวเอง แล้วบอกว่า ห้าแถวคนละอย่าง เหอะๆๆ (คิดต่อกันเอาเองนะครับ...อาศัยความดังจากคนที่ตัวเองเพิ่งตำหนิเปล่าเนี่ย)

3. ที่อาจารย์หนูกล่าวไว้ในหมื่นยันต์
3.1 อาจารย์บอกว่า ไม่อยากให้ลูกศิษย์กล่าวว่า รอเก็บเงินก่อน เพราะไม่ค่อยเป็นมงคลกับคนพูดเอง ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ครับ เพียงแต่บางคน(เช่นผม) ถ้าอยากสัก ก็ต้องเก็บหอมรอมริบบางส่วนมา เงินเดือนน้อยนิด ก็ต้องเก็บเล็กผสมน้อย ซึ่งส่วนตัวผมก็เห็นว่าดีกว่าจะพูดว่า "รอผมกู้มาก่อนนะครับ" เหอะๆๆ แบบนั้นยิ่งไม่เป็นมงคลใหญ่ ดังนั้น หากบรรลุถึงวัตถุประสงค์แล้ว ก็นำมาสร้างมงคล และร่วมสร้างบุญกับพ่อหนูครับ (อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดพลาดอย่างไรขออภัยครับ)
3.2 พ่อบอกว่า พุทธคุณจะค่อยๆลดลง ทั้งนี้เพราะการปฏิบัติของเรา จึงต้องสร้างบุญ กุศล เพิ่มๆไปเรื่อยๆ ... เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทุกสิ่งอนิจจัง ของดี ต้องรักษา และหมั่นสร้างบุญให้อยู่กับเรานานๆ (อันนี้ผมชอบมากครับ พ่อสอนไว้ในลายยันต์แท้ๆ)

4. บางคน ชอบว่าพ่อหนูไปโจมตีสำนักอื่น ผมดู ติดตาม อ่านตามเว็บ พ่อหนูเพียงพูดว่า "ไม่อยากให้คัดลอกลาย ไม่อยากให้นำไปสักกับเด็กอายุต่ำกว่า 20 เพื่อให้ไปตีรันฟันแทง" พ่อก็ไม่ได้พูดถึงใครเลย มีบางเว็บบางแห่ง กล่าวชื่อเลยบ้าง กล่าวลอยๆบ้าง ว่า"ไม่แพงเหมือนบางที่ ที่ดาราชอบไป" ครูดี ย่อมไม่ยุให้ศิษย์ไปทะเลาะกับคนอื่นๆ ใช่ไหมครับ .......พ่อเราไม่เคยทำ

5. ผมสังเกตว่า สำนักมีข้อถือ และข้อห้าม
5.1 ข้อห้าม
***ข้อห้ามสำหรับ บุรุษเพศ (ชาย)***
1.)ห้ามทุบตี ด่าว่า บุพการีผู้ให้กำเนิด ความหมายที่แท้จริง คือ **ไม่ว่าจะเป็นการกระทำในลักษณะใดก็ตาม ที่ทำให้บุพการีคือพ่อและแม่ ได้เจ็บช้ำตามร่างกาย หรือให้ได้รับบาดแผลแม้แต่รอยเท่าแมวข่วน ถือว่าผิด
**ถ้อยคำใดก็ตามที่กล่าวไปแล้วทำให้บุพการีคือพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิด เสียใจ จะเป็นคำพูดที่ต่อว่าคำใดก็ตามที่ทำให้บุพการีเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจจากคำ พูดที่กล่าวออกไป ถือว่าผิด
2.)ห้ามไปผิดเมียของคนอื่น คำว่าผิดเมียคนอื่นนั้น ในที่นี้หมายถึง **ห้ามร่วมหลับนอนกับสตรีที่มีสามีเป็นตัวเป็นตนอยู่โดยเด็ดขาด หากไปหลับนอนกับหญิงที่ไม่ใช่ภรรยาของตัวเอง แต่สตรีผู้นั้นไม่มีสามีหรือเลิกกับสามีไปแล้ว ไม่อยู่ในข้อถือ
**แต่หากไปร่วมหลับนอนกับสตรีที่มีสามีโดยที่ตนเองไม่รู้ไม่ทราบมา ก่อนเลยว่าหญิงนั้นมีสามี แต่มาทราบภายหลัง ก็ไม่ถือว่าผิดแต่ต้องหยุดพฤติกรรมดังกล่าวและเลิกข้องแวะโดยทันที
3.)ห้ามลบหลู่ดูหมิ่นครูอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ความหมายที่แท้คือ ครูผู้ประสิทธิ์ประสาทความรู้ อาจารย์ผู้สั่งสอน ถ่ายทอดวิชาให้

***ข้อห้ามสำหรับสตรีเพศ (หญิง)***
การสักยันต์ยึดถือเพียงข้อที่ 1. เพียงข้อเดียว คือห้ามทุบตี ด่าว่า บุพการีผู้ให้กำเนิด ส่วนข้ออื่น ๆ ไม่มีในข้อถือ
*** และหากไม่ยึดถือตามที่กล่าวมานี้ ถือว่าผิดของที่ได้ไปนั้นถือว่า ""หลุดหรือเสื่อม""***
**ส่วนข้อห้ามอื่นๆ นอกเหนือจากตามระบุเขียนห้าม ไม่ว่าจะการลอดราวตากผ้า ลอดใต้สะพาน ใต้ถุนบ้าน หรือการรับประทานอาหาร เช่น มะเฟือง บวบ ฟัก แตง หรืออาหารอื่น ๆ ที่สงสัย ไม่ห้ามไม่อยู่ในข้อถือ**

5.2 ข้อถือ ที่ผมได้เคยอ่านจากเว็บนี้ และจากที่พ่อหนูเขียนใน มงคลโสฬส
นอกจากข้อห้ามด้านบนแล้ว ต้อง
1) ถือศีล 5 อย่างเคร่งครัด
2) สวดมนต์ทำสมาธิเป็นประจำ อย่างน้อย 15 นาทีก่อนนอน

ถ้าไม่มีศีล แปลว่าเป็นคนไม่ปกติ (เพราะศีลแปลว่าปกติ) และศีล เป็นเครื่องกำกับให้คนเป็นคนดี (ศิษย์พ่อ ย่อมเป็นคนดีตลอดเวลา เพราะมีศีลกำกับจิตใจ)
การสวดมนต์ ทำให้มีสติ มีสมาธิ บางคนไม่สวดมนต์ พอมาสักก็สวดมนต์ ทำสมาธิ แสดงให้เห็นว่า การสักยันต์ น้อมนำให้ปฏิบัติดี

เด็กนักเรียนโรงเรียนผมเพิ่งจบไปปีที่แล้ว ไปสักห้าแถวมา จากที่ไหนไม่รู้ครับ ผมว่าผมพออ่านอักษรขอมได้นะ แต่อ่านไม่ออก ที่สำคัญ ไม่ใช่นะโมบุญญฤทธิ์อิติฯ แน่นอน ผมก็ถามว่า ไปสักทำไม อายุยังไม่ถึงเลย (เพิ่ง 16) เด็กบอกว่า ก็เรียนจบแล้ว และที่สำนักนั้นก็ไม่ว่าอะไร (อันนี้ก็ลองเปรียบเทียบดูแล้วกันนะครับ) เด็กคนนี้สักมาแล้ว ชอบโชว์ ชอบหาเรื่องไล่ตีกัน สอนให้เชื่ออะไรผิดๆ ยังไงผมก็ได้แต่เตือนเค้าครับ คงช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะเค้าไปสักมาแล้ว (กรรมเป็นของของๆตน) น่าสงสารเด็ก เพราะไม่รู้ว่า สำนักนั้น เค้าจะสอนอะไรมาบ้าง กลัวแต่เวลากินเหล้าเมา แล้วโชว์ลายสัก จากนั้นก็เอามีดแทงกัน เฮ้อ ที่สำคัญ...เค้าบอกว่า เป็นห้าแถวคนละอย่าง เหอะๆๆๆ เจตนาให้เป็นห้าแถวซะด้วยนะครับ

เขียนซะยาวเลยครับ แบบว่า อัดอั้นมาอะครับ
ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ

07 ตุลาคม 2552

รถมีอาการสะอึก เบาเครื่องไม่ได้ (ในวันปิดเทอม)

ในที่สุด วันที่รอคอยก็มาถึง

หลังจากที่เปิดเทอมมาได้แป๊บๆๆๆๆ ก้ปิดแล้ว

จริงๆต้องปิดวันศุกร์ แต่เนื่องจากนักเรียนเกือบทั้งโรงเรียนไม่อยู่แล้ว (ผู้ปกครองมารับไปไหนต่อไหน) ก็เพราะบางคนเค้ามาบอกเด็กว่า "วันพฤหัสหน้า ให้ผู้ปกครองมารับได้นะ" เด็กก็ไปบอกสิครับ พอถึงเวลา ครูยังสอบไม่เสร็จ เค้าบอกว่า "เอาไว้ซ่อมเทอมหน้า"

เออดี เจริญละ

มีฝ่ายวิชาการไว้ทำไม (วะ) มากำหนดกะเกณฑ์ (กู)อยากทำอะไรก็ทำ
เซ็ง

บอกว่าจะเน้นวิชาการ เพราะผลการประเมินคราวที่แล้วได้เกรด C
บอกว่าจะลดกิจกรรม
บอกว่าจะไม่อบรมบ่อย

เหอะๆๆๆๆ

ทำไม่ได้


อย่างว่าแหละ มันอดไม่ได้ที่จะเที่ยว กิน ร้องคาราโอเกะ

555+
เจริญละ ตราบใดที่มีผู้บริหารอย่างนี้ เฮ้อ


มาเล่าเรื่องวันนี้ดีกว่า
วันนี้ขี่มอเตอร์ไซต์มาจากกำแพงเพชร กลับมาพิษณุโลก แต่มีอาการผิดปกติตั้งแต่เช้า...
สตาร์ทติดยาก ต้องใช้โช๊ค เมื่อเบาเครื่องแล้วดับ บางครั้งมีอาการสะอึก และมีเสียงระเบิดจากท่อ เหมือนกับการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์

เมื่อเติมน้ำมันตอนเช้าแล้ว คิดว่าอาจเกิดจากไม่ได้ใช้งาน 4 วัน (ก่อนหน้านี้ทิ้งไว้เป็นอาทิตย์ ยังไม่เป็นขนาดนี้)

พอตอนเย็น จะขี่กลับ
ก็ภาวนา สวดคาถาเวลาขับรถ
สวดมนต์ ปลุกพระ ปลุกตะกรุด
เพราะต้องขี่บนถนนที่มีรถมากมาย ใหญ่ๆทั้งนั้น

(กลัว)


เมื่อยก็พัก เหนื่อยก็หยุด
จะให้พี่ที่กลับด้วยกันขี่ก็กลัว เพราะแกเป็นผู้หญิง กลัวการตัดสินใจของแก
อีกอย่าง ซ้อนแล้วเมื่อยขามากๆ

ที่นี้มาจอดรอไฟแดง พรึบบบบบบบ
เกือบดับ
ลองถอนเกียร์ กระชาก ครึกกกกกกก

พอเกือบมาถึงหอ โห ฝนเม็ดเท่าข้าวโพด ภาวนาว่า อย่าเพิ่งตกนะ สาธุๆๆๆๆ
ฝนก็หยุดตก (ขี่มาอีกหน่อยจึงรู้ว่า พื้นที่ในเมืองตกไปแล้วเมื่อครู่)
โชคดีอีกละ

ในที่สุดก็ถึงซักที

แล้วตอนเย็นพี่ดาก็โทรมา บอกว่า มีโคลนและขี้ฝุ่นลูกรัง เข้าไปอุดในคาบูเรเตอร์ (เอ้อ ชีวิตครูบ้านนอก)

กินหมูกะทะอีกแล้วววววววววว อร่อย
มาเที่ยวพิษณุโลกกันนะครับ ปิดเทอมนี้

06 ตุลาคม 2552

เรื่องเสียวๆบนรถเมล์ (ตอนกลับบ้าน)


วันนี้มาขอเล่าเรื่องเสียวๆหน่อยนะครับ
สำหรับคนอ่านบางท่านอาจจะไม่เสียวเท่าไร แต่สำหรับคนที่อยู่ในเหตุการณ์เสียวสุดยอด

วันนี้หลังจากที่สอบเสร็จ และประชุมปิดภาคเรียนเสร็จแล้ว ก็รอทุกคนเสร็จกิจ

และเมื่อมาถึงสี่แยกปลวกสูง ก็รอรถได้ประมาณ 15 นาที ก็มีครูบางส่วนเท่านั้นที่ขึ้น

ปกติรถเมล์สายนี้ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์อะไรกับตัวผม
แม้ว่าจะเคยได้ยินกิตติศัพท์มาบ้างก็เถอะ

วันนี้ได้พบเจอกับตัวเอง

ขณะที่รถวิ่งไป

มันทั้งขย่ม เขย่าอย่างเมามัน โดยไม่สนสีหน้า แววตาของผู้โดยสาร

ผมมองเห็นสายตาของคนขับ เขายิ้มและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ขับๆไป มันก็เขย่า

ขับๆไป มันก็ขย่ม

ขับๆไป กันก็กระแทกจนตัวโยน


มาเสียวมากตอนที่กำลังขับข้ามทางเบี่ยงสะพานที่กำลังก่อสร้าง กลัวว่าหัวมันจะปักลงข้างทาง

แต่มาเสียวสุดๆตอนข้ามสะพาน กลัวมาหัวรถจะทิ่มลงในในแม่น้ำยม

ตอนนั้น

ผมเชิญทั้งพ่อแม่ครูบาอาจารย์
ผู้มีชื่อมีฤทธิ์อยู่ในพระเครื่อง อยู่ในตะกรุด
ทั้งพญาครุฑ หลวงพ่อสวัสดิ์
ทั้งเหรียญห้าแถวอาจารย์หนู กันภัย (ที่ได้มาจากคุณ เก่ง PP)

ทั้งจับ
ทั้งท่อง
ทั้งเรียก
ทั้งปลุก

กว่าจะผ่านหน้า ม.น. ไปได้ ลองเอามือจับดู รู้สึกร้อนๆเล็กน้อย
....โอ๊ยยยยย เสียวสุดๆๆ


ใครไม่ลองไม่รู้ว่า บนรถเมล์วันนี้ มันเสียวขนาดไหน


แทบดีใจเมื่อก้าวขาลงจากรถได้
สงสารแต่คนที่ยังไม่ได้ลง
สายตาละห้อยเชียว
(พี่สาวสุดที่รักก็ยังอยู่บนนั้นกับลูกของเค้า เหอะๆๆๆๆ)

สาธุ
กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่คุ้มครองให้ลูกปลอดภัย

05 ตุลาคม 2552

ตักบาตเทโว

วันนี้ตักบาตรเทโวกันนะครับ
โชคดีที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย
มีศาสนาพุทธ
มีพระราชาที่ทรงห่วงใยประชาชน

เสียอย่างเดียว
มีนักการเมืองขี้โกง เท่านั้นแหละ เนาะ

04 ตุลาคม 2552

วันออกพรรษา

วันนี้วันออกพรรษา
เสียดายที่ตื่นมาทำบุญไม่ทำ เหนื่อยมากๆครับ

เดินทาง
เดินทาง
เดินทาง

ทำไมชีวิตมันเหนื่อยขนาดนี้

มีแต่งาน
งาน
งาน
งาน

ทำเพื่ออนาคต ก็ต้องทน ทน ทน ทน ทน ทน ทน ทน ทน ทน ทน

เอาละครับ
วันนี้เป็นวันสำคัญของชาวพุทธนะครับ และยังเป็นวันที่หลายคนต่างตั้งตารอคอยการบังเกิดขึ้นของ บังไฟพญานาค

ไม่ว่าจะอย่างไร
ศรัทธา คือความเชื่อ + ปัญญา

ศาสนา สอนให้เชื่ออย่างมีปัญญา
แต่.......
ทำไม จึงมีพญานาคทุกวัด ไม่เชื่อ ไปดูตามอุโบสถดูนะครับ

มีของมาฝากครับ มีอะไรในดินแดนปัญญาชน ครับ

03 ตุลาคม 2552

เมื่อเช็คของ adsense มาอีกใบ

หลังจากที่รอมานาน
เช็คจาก google adsense ก็มาอีกใบ ครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ก็ถือว่าใช้ได้ (ใบแรกประมาณ 6 เดือน)

ครั้งนี้ได้น้อยกว่าครั้งที่แล้ว 4 เหรียญ

แต่ก็คุ้ม เพราะกะว่าพอจะได้ค่าเช่าเว็บบ้างก็ดีครับ

เป็นกำลังใจให้คนทำ adsense นะครับ

02 ตุลาคม 2552

ประชุมผู้ปกครองนักเรียน (ในวันที่ฝนตก ถนนลื่น)

วันนี้มีการประชุมผู้ปกครองนักเรียน
ในตอนเช้า มีฝนตกปรอยๆ (ทั้งๆที่ตกมาทั้งคืนแล้ว สงสัยเป็นอิทธิพล กิสนา ) จึงทำให้ถนนลื่นมาก และเดินทางไปคนเดียวด้วย

ระหว่างทางเข้าโรงเรียนนั้น ครูหนิง ภคมนต์ ก็ขี่แซงหน้าไป

ผมก็ค่อยๆขี่ตามไป (เส้นนี้มีประสบการณ์มา 4 ปีแล้ว)
ทันใดนั้น รถจักรยานยนต์ของครูหนิงก็ล้มคว่ำ เกือบไถลตกคูชลประทานไป

ตอนแรกผมไม่เห็น เพราะการขับขี่บนถนนลื่นๆ จะเน้นระยะมุมมองไม่เกิน 10 เมตร

ขอบคุณครับ ที่ทำให้ผมรับรู้ว่า รสชาดของความเป็นครูบ้านนอกเป็นอย่างไร

ขอบคุณที่ทางหลวงชนบท ทะเลาะกับ อบจ.กำแพงเพชร เรื่องทำถนนเส้นนี้

ขอบคุณที่ชาวบ้านนอนรอถนนมากว่า 50 ปี



เมื่อมีการประชุมผู้ปกครอง ผมขอร้องให้ผู้ปกครองร่วมกันดูแลนักเรียนในด้านการศึกษา เพราะผลการเรียนตกต่ำลง พฤติกรรมก็ย่ำแย่ ทั้งนี้เพราะไม่มีการให้นักเรียนซ้ำชั้น และไม่มีการตีเพื่อลงโทษ

ขอบคุณ สำหรับคนสร้างกฎนี้ ขอให้ลูกหลานของท่าน เป็นเด็กดีนะครับ

01 ตุลาคม 2552

หวยเด็ด (ออกแน่)

หวยเด็ด ออกแน่

รอบนี้เจ้ามือเจ๊ง


แต่.......


ผิดคาด

เจ้ามือกินเรีบอีกแล้ว 5555

หวยเด็ด หวยดี หวยดัง หวยเจ้าแม่ หวยกุมารทอง หวยหลวงพ่อ หวยร่างทรง หวยๆๆๆๆๆๆๆๆ

30 กันยายน 2552

หวยดัง

วันพรุ่งนี้หวยจะออกแล้ว
เรามาดูหวยดังกันดีกว่า

(ว่าแต่ ดูจากอะไร)

เออ นั้นสิ

อ๋อ ข่าวหนังสือพิมพ์ไง เห็นชอบเอามาออกกันช่วงวันหวยออก สงสัยกระตุ้นยอดขาย

ว่าแต่อ่านข่าวแล้วมาตีเป็นหวยได้ไงเนี่ย

จิ้งจกสามหาง เด่น 773

ฝันเห็นช้าง เด่น 255

ต้นไม้ออกลูก ดัง 48


อยากรู้จัง เค้าตีเลขกันได้อย่างไร

อยากรู้จัง เค้าคำนวณเลขเด็ดได้อย่างไร

อยากรู้จัก ไอ้งวดที่บอกว่าล๊อค เพื่อรัฐบาลจะล้มเจ้ามือ มันมีจริงไหม ได้ยินข่าวมา 8 ปีแล้ว เฮ้อ

มาดูเลขเด็ดกันเร็ววววววว

29 กันยายน 2552

วิธีคลายเครียดตามเดือนเกิด

เครียดจัง
มาคลายเครียดกันดีกว่าครับ

มกราคม เป็นคนที่เห็นทุกสิ่งในชีวิตเป็นเรื่องจริงจัง ทำให้ความเครียดสะสมมากไปหน่อยควรหาเวลาไป Relax ด้วยการเล่นกีฬาโปรดดูบ้าง หรือถ้าไม่ว่างจริงๆ การอาบน้ำด้วยครีมสมุนไพรก็
พอจะช่วยให้เธอผ่อนคลายได้เหมือนกัน

กุมภาพันธ์ เป็นคนที่เครียดได้ง่ายมากๆ ถึงจะไม่โวยวาย แต่ก็เก็บความโกรธไว้ การผ่อนคลายที่เหมาะคือ การได้อยู่คนเดียวเงียบๆ หรือทำกิจกรรมส่วนตัว หรือไม่ก็เล่นอินเทอร์เน็ต ท่องโลกกว้าง

มีนาคม เป็นคนที่อ่อนไหว และชอบยกหัวใจให้อยู่ในกำมือของคนอื่น การคาดหวังมากเกินไปอาจทำให้เสียจิต คิดแล้วก็เครียด การผ่อนคลายควรเป็นการเล่นดนตรีหรือไม่ก็วาดภาพ แต่ถ้ามีเวลาสั้นๆ ก็แค่เอาตัวลงไปจุ่มในน้ำเย็นๆ เท่านี้ก็ชื่นใจแล้ว

เมษายน เป็นคนที่มีสมาธิในการทำงานมาก จนบางครั้งลืมขยับเขยื้อนร่างกาย ทำให้อาการเมื่อยเข้าครอบงำ วิธีผ่อนคลายคือ การได้ออกแรงมากๆ กับกีฬาผาดโผน หรือไปเล่นเครื่องเล่นเสี่ยงตายในสวนสนุก จะทำให้สมองโล่งขึ้น

พฤษภาคม เป็นคนที่มีสารเครียดอยู่ในร่างกายพอสมควร รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างวิธีผ่อนคลายคือ การได้เดินดูของสวยๆ งามๆ ก็ทำให้ผ่อนคลายแล้ว

มิถุนายน เป็นคนชอบพบปะผู้คน ดังนั้นถ้ารู้สึกเครียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร สังสรรค์กับเพื่อนน่าจะเป็นวิธีผ่อนคลายที่ดีที่สุด หรือไม่ก็เดินช็อปปิ้งเดินดูของสวยๆ งามๆ

กรกฎาคม สิ่งที่ทำให้เครียดที่สุดก็คือ เรื่องการเดินทาง หรือต้องอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย เพราะเป็นคนเหนื่อยง่าย แถมถ้าเหนื่อยใจยิ่งแย่ใหญ่ การผ่อนคลายน่าจะเป็นการได้เล่นกับสัตว์เลี้ยง ปลูกต้นไม้ หรือไม่ก็หลับยาว

สิงหาคม เรื่องที่ทำให้เครียดมากที่สุดก็คือ ความพ่ายแพ้หรือล้มเหลว เพราะมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ชอบแพ้ใครแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ วิธีผ่อนคลายคือ การได้ดูหนัง ฟังเพลง ช้อปปิ้งของใช้ทุกอย่างต้องดูดีมีระดับ แค่นั้นก็ทำให้หายเครียดไปเยอะแล้ว

กันยายน การได้นอนเกลือกกลิ้งอยู่กับคนรัก เป็นการผ่อนคลายที่มีความสุขแล้วตุลาคม สิ่งที่ทำให้เครียดได้ก็คือความเหงา อ้างว้างเดียวดาย แค่ได้วุ่นวายกับเสื้อผ้า
แต่งหน้า ทำผม แบบโน้นแบบนี้ ก็เป็นการผ่อนคลายแล้ว

ตุลาคม เขาหรือเธอชอบอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย สิ่งที่ทำให้เธอเครียดได้ก็คือความเหงา แค่ได้วุ่นวายกับเสื้อผ้า แต่งหน้า ทำผม แบบโน้นแบบนี้ ก็เป็นการผ่อนคลาสำหรับเขาหรือเธอแล้ว

พฤศจิกายน เป็นคนที่เกิดอาการเครียดได้บ่อยเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องความรักจะหนักที่สุด การผ่อนคลาย น่าจะเป็นการอ่านหนังสือนิยายรัก กุ๊กกิ๊ก ก็ช่วยได้เหมือนกัน

ธันวาคม สิ่งที่ทำให้เครียดก็คือ การที่ต้องทนอยู่กันอะไรนานๆ เพราะเป็นคนไม่ชอบอยู่นิ่งออกแนวไฮเปอร์หน่อยๆ การผ่อนคลาย คือการได้ไปเที่ยวในที่ต่างๆ ไม่ก็อ่านหนังสือแบบไม่จำกัดแนว ก็ช่วยให้สมองปลอดโปร่งได้

28 กันยายน 2552

ทายนิสัยจากการอ่านหนังสือ

yenta4 อีกแล้ว แหมๆๆๆๆ ขอลงหน่อยนะจ๊ะ น้องๆ

ทายนิสัยจากการอ่านหนังสือ

สิ่งที่จะทำให้รู้นิสัยของคนเรานั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างและ กริยาท่าทางหรือความสนใจในบางสิ่งก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถบ่งบอกนิสัยของคนเราได้เช่นกัน อย่างการอ่านหนังสือก็สามารถบ่งบอกได้เช่นกันนะ ลองมาดูกันนะคะว่าจะตรงกับนิสัยของคุณหรือเปล่า
1**สมมุติว่าเราหยิบหนังสือมาหนึ่งเล่ม หากเราเปิดอ่านแค่คร่าว ๆ โดยไม่ได้ใส่ใจที่จะอ่านรายละเอียดมากนัก แสดงว่าเป็นคนใจร้อน วู่วาม เวลาจะทำงานอะไรก็ จะไม่ค่อยละเอียดถี่ถ้วนนัก

จะให้ความสนใจแต่เรื่องหลัก ๆ ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า นึกอยากจะทำอะไรก็จะลงมือเลยแบบตามใจตัวเองโดยไม่คิดให้รอบคอบเสียก่อน จึงมักจะมีเรื่องให้ผิดหวังอยู่เสมอ


2**เปิดอ่านแต่เรื่องที่ตนเองสนใจ แสดงว่าเป็นคนที่มีความเป็นเด็กอยู่ในตัวสูง มักเอาแต่ใจตัวเอง นึกคิดอะไรก็ทำไปอย่างนั้น ไม่ค่อยนึกถึงจิตใจผู้อื่นเท่าใดนัก

แต่เป็นคนจิตใจดี ใจกว้าง ชอบ ช่วยเหลือผู้อื่น แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยมีมนุษยสัมพันธ์เลยทำให้ไม่ค่อยมีคนกล้าเข้าใกล้หรือกล้าเข้ามาทำความรู้จักด้วย


3**ชอบอ่านทุกหน้าและทุกเรื่อง จะเป็นคนใจกว้าง ยอมรับความคิดหรือสิ่งใหม่ ๆ ได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นความคิดของใครก็ตาม เป็นคนที่ให้โอกาสคนอื่นสูง

ความสนใจใคร่รู้ในสิ่งต่าง ๆ และทันเหตุการณ์และหากสนใจในเรื่องใด ก็มักจะทุ่มเทให้กับเรื่องนั้นเพื่อให้รู้จริง มีความคิดกว้างไกลมากและมักจะได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง


4**ชอบออกเสียงเวลาอ่านหนังสือ แสดงให้เห็นถึงการมีใจคอเปิดเผยจริงใจและซื่อสัตย์ต่อทุกคนที่คบด้วยและเป็น คนไว้ใจได้ไม่ค่อยมีพิษมีภัยกับใคร เป็น คนรักสงบ มีชีวิตเรียบง่าย สมถะ รักธรรมชาติ

ถึงแม้จะไม่ใช่คนมีภูมิความรู้อะไรมากนักแต่ก็มีความน่านับถืออยู่ในตัว มีโลกส่วนตัวและมีโลกในอุดมคติของตัวเอง


5**ชอบขีดเส้นข้อความสำคัญเวลาอ่านหนังสือ อุปนิสัยเป็นคนช่างจดจำและค่อนข้างยึดมั่นในตัวเอง สิ่งไหนที่เป็นของตนเองก็ไม่อยากให้ใครมาแย่งไป

แต่ก็เป็นคนทำงานเก่งและทำได้ดี เพราะเวลาทำงานมักจะทำอย่างจริงจัง และไม่ชอบเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ


6**ชอบพับขอบหนังสือ เวลาอ่านหนังสือค้างไว้มักจะใช้วิธีพับขอบแทนการใช้ที่คั่นหนังสือ แสดงว่าเป็นคนไม่ค่อยเรียบร้อยนัก แต่เมื่อได้ลงมือทำอะไรก็มักจะทำอย่างจริงจัง หมกมุ่นจนทำสำเร็จ ไม่ค่อยใส่ใจคนรอบข้างนัก

ดูเหมือนเป็นคนเห็นแก่ตัวแต่ที่จริงเค้าไม่เก่งเรื่องโฆษณาประชาสัมพันธ์ตัวเองซะมากกว่า ยิ่งเวลามีคนมาขอความช่วยเหลือเค้าก็จะพร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ จะลองสังเกตการอ่านหนังสือของคนใกล้ตัวดูก็ได้นะค่ะ จะได้รู้นิสัยเค้าด้วย

27 กันยายน 2552

เคล็ดลับ 13 ประการ เพื่อ การเรียน อย่างมี ประสิทธิภาพ

ไปเจอใน yenta4 (เว็บที่นักเรียน ต.อ. ภาคเหนือ แนะนำมา) เห็นว่ามีประโยชน์ เลยโพสต์หน่อยนะครับ

เคล็ดลับ 13 ประการ เพื่อ การเรียน อย่างมี ประสิทธิภาพ
1. รับผิดชอบ
- รับผิดชอบตนเอง ไม่ยืมจมูกคนอื่นหายใจ เป็นผู้ชนะจากความสามารถของตน

2. เริ่มต้นดี
- ช่วงเดือนแรกในรั้วมหาวิทยาลัย ถือเป็นช่วงวิกฤตของน้องใหม่ หากเริ่มต้นดี ความสำเร็วจะไม่อยู่ไกลเกินเอื้อม

3. กำหนดเป้าหมายในการเรียนอย่างแน่วแน่
- กำหนดเป้าหมายในการเรียนให้ชัดเจน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว และทุ่มเทความพยายามให้บรรลุเป้าหมายนั้น

4. วางแผน และจัดการ
- มีการวางแผน จัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมที่ต้องทำ หากทำตารางเวลาเป็นรายสัปดาห์ได้ยิ่งดี
5. มีวินัยต่อตนเอง
- เมื่อกำหนดเป้าหมาย วางแผน และจัดการ ตามข้อ 4 และ 5 แล้วต้องสัญญากับตนเองอย่างแน่วแน่ที่จะมีวินัย และปฏิบัติตาม

6. อย่าล้าสมัย
- วิทยาการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การค้นคว้าหาความรู้ ต้องอิงกับข้อมูลที่ทันสมัย ทันเหตุการณ์

7. ฝึกฝนตนเองให้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ศึกษาข้อเสนอแนะในคู่มือเล่มนี้ และฝึกทักษะการเรียนรู้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ติดตัวตลอดไป

8. เตรียมพร้อมเพื่อเข้าสู่ชั้นเรียน
- เตรียมตัวเป็นผู้ใฝ่หาความรู้อย่างแข็งขัน หากเป็นไปได้เตรียมอ่านเอกสารที่จะเรียนมาก่อนเข้าห้องเรียน

9. มุ่งมั้น จดจ่อต่อบทเรียน
- มีสมาธิ สนใจ ตั้งใจ เวลาอาจารย์สอน ไม่เข้าเรียนเพื่อพูดคุยกัน ซังกะตาม รอเวลาเลิกชั้น

10. เป็นตัวของตัวเอง
- รู้จักคิดและทำ ด้วยความสามารถของตนเองคิดเสมอว่าเราเป็นผู้หนึ่งที่มีศักยภาพสูง

11. มีความกระตือรือล้น
- ความสำเร็จเป็นของผู้ที่มีความริเริ่ม เป็นฝ่ายรุกที่จะมุ่งหน้า และคว้าความสำเร็จเป็นของตน

12. มีสุขภาพดี
- อย่าลืมใส่ใจต่อสุขภาพร่างกาย กิจกรรมนันทนาการ และกิจกรรมสังคม วางแผนจัดเวลาต่อสิ่งเหล่านี้ให้พอเหมาะ

13. เรียนอย่างมีความสุข
- พยายามเก็บเกี่ยวความน่าสนใจในบทเรียน คิดเสมอว่าทุกวิชาน่าเรียนรู้ น่าสนุกทั้งนั้น แล้วท่านจะพบว่า เราก็เรียนอย่างมีความสุขได้

................................
ของฝากจาก พิริยะ
................................
ดินแดนปัญญาชน :: Free Toolbar :: กรมหลวงชุมพร :: เสด็จเตี่ย
มะขาม :: ผลงานชำนาญการพิเศษ :: ยันต์ 5 แถว
มะขามจี๊ดจ๊าด :: ผลงานครู ค.ศ.3 :: อ.หนู กันภัย
ขนมจีน :: เกม :: รับทำเว็บผลงานครู
ขนมจีนเส้นสด :: เคล็ดลับ notebook :: สอบบรรจุครู
thailand travel memo :: 80 นวัตกรรมฯ โดย ผศ.ดร.ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์ : : เรียนพิเศษในพิษณุโลก

26 กันยายน 2552

เคล็ดลับวิธีทำความเข้าใจและจดจำบทเรียนได้อย่างแม่นยำ

เคล็ดลับวิธีทำความเข้าใจและจดจำบทเรียนได้อย่างแม่นยำ

เคล็ดลับการทำความเข้าใจและจดจำบทเรียนนี้ เป็นเทคนิคง่าย ๆ นักเรียนนักศึกษาสามารถนำไปปฏิบัติได้ทุกคน ขอแต่เพียงเข้าใจเคล็ดลับวิธีการเท่านั้นเอง หัวใจสำคัญของการทำความเข้าใจและจดจำบทเรียน คือ การหมั่นฝึกฝนตามขั้นตอนให้เกิดความเคยชินจนติดกลายเป็นนิสัยการอ่านเพื่อทำความเข้าใจนี้จะแตกต่างจากการอ่านเพียงเพื่อท่องจำ

1. เวลาอ่านบทเรียนหรือตำรา ให้อ่านอย่างตั้งใจ แต่ทว่าเราจะไม่อ่านไปเรื่อย ๆ คือเราจะ หยุดอ่านเมื่อจบย่อหน้าหรือหยุดเมื่ออ่านไปได้พอสมควรแล้ว

2. จากนั้นให้ปิดหนังสือ ! แล้วลองอธิบายสิ่งที่ตนเองได้อ่านมาให้ตัวเองฟัง คือ เราสามารถอธิบายให้ตัวเองฟังด้วยภาษาสำนวนของเราเอง ฟังแล้วเข้าใจหรือเปล่า หากเราสามารถอธิบายให้ตัวเองฟังรู้เรื่อง แสดงว่าเราเข้าใจแล้ว ให้อ่านต่อไปได้

3. หากตอนใดเราอ่านแล้วแต่ไม่สามารถอธิบายให้ตัวเองรู้เรื่อง แสดงว่ายังไม่เข้าใจ ให้กลับไปอ่านทบทวนใหม่อีกครั้ง

4. หากเราพยายามอ่านหลายรอบแล้วยังไม่เข้าใจจริงๆให้จดโน้ตไว้เพื่อนำไปถามอาจารย์ จากนั้นให้อ่านต่อไป

5. ข้อมูลบางอย่างในตำราจำเป็นที่จะต้องท่องจำ เช่น ตัวเลข สถิติ ชื่อสถานที่ บุคคล หรือ สูตร ต่าง ๆ ฯลฯ ก็ควรท่องจำไว้ด้วย เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจ ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

6. การเรียนด้วยวิธีท่องจำโดยปราศจากความเข้าใจ เรียนไปก็ลืมไป สูญเสียเวลา เปล่าประโยชน์ เสียเงินทอง

7. การเรียนที่เน้นแต่ความเข้าใจ โดยไม่ยอมท่องจำ ก็จะทำให้เราเข้าใจเรื่องต่าง ๆ ไม่ชัดเจน คลุมเครือ

8. ดังนั้นจึงขอสรุปเทคนิคง่าย ๆ สั้น ๆ ดังต่อไปนี้ :-

ก.ให้อ่านหนังสือ สลับกับ การอธิบายให้ตัวเองฟัง
ข.ให้ท่องจำเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นต้องจำจริง ๆ เช่น ตัวเลข ชื่อเฉพาะต่างๆ

อ่านหนังสือด้วยวิธีการนี้จะทำให้เราเข้าใจบทเรียนได้ทั้งเล่ม ไม่ลืมเลย...สวัสดี


หมายเหตุ * เทคนิคการทำความเข้าใจและจดจำบทเรียนได้อย่างแม่นยำนี้ เป็นเพียงข้อเดียว (อรรถปฏิสัมภิทา) ในธรรมะชุดปฏิสัมภิทา 4 หรือ ธรรมะเพื่อความเลิศทางวิชาการ จาก พระไตรปิฎกมรดกทางปัญญาที่สำคัญที่สุดของคนไทย )

25 กันยายน 2552

เทคนิคการอ่านหนังสือยังไงน่ะให้จำง่ายๆ

อันนี้เห็นแปลกดี ภาษาวัยรุ่นซะ เลยเอามาฝากครับ

...เทคนิคการอ่านหนังสือยังไงน่ะให้จำง่ายๆ...

ข้อที่ 1. น้องๆต้องใส่ใจเรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆก่อนเลยล่ะ ดูซิ!!!ว่าวิชาไหนน่ะที่เราต้องสอบเป็นอันดับแรกๆ หยิบวิชานั้นขึ้นมาก่อนเลย เตรียมไว้นะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับวิชาที่จะสอบ ชีท เอกสารต่างๆ หรือแนวข้อสอบ(อันนี้สำคัญนะค่ะ หาให้เจอล่ะ) ค้นเลยๆ ทุกวิชานะค่ะ

ข้อที่ 2.แยกหมวดหมู่แต่ละวิชา ก่อน-หลัง แล้วหาที่วางไว้อย่างเป็นระเบียบด้วยล่ะ

ข้อที่ 3.เตรียม ดินสอ/ปากกา สมุด และปากกาเน้นข้อความไว้ด้วยนะ


ข้อที่ 5.เริ่มอ่านวิชาที่จะต้องสอบก่อนเป็นวิชาแรกเลยค่ะ ตรงนี้แหละสำคัญมาก น้องๆอย่าอ่านๆๆๆๆๆแล้วก็อ่านเพื่อให้จบ แบบผ่านๆนะค่ะ ต่อให้น้องๆอ่านสัก 10 รอบแล้วบอกคนอื่นๆว่า "ก็เค้าอ่านเป็นสิบๆรอบแล้วอ่ะ แต่ทำไมทำข้อสอบไม่ได้เลยน่ะ?" อ่ะๆๆๆ!!! อ่านสัก 100 รอบก็ไม่ช่วยอะไรหรอกเจ้าค่ะ อ่านแล้วต้องทำความเข้าใจไปด้วย ตรงไหนที่คิดว่าสำคัญๆ น้องๆก็เน้นตรงจุดนั้นไว้ อาจจะใช้วิธีการจดบันทึกไว้ หรือ เน้นข้อความด้วยปากกาสีต่างๆก็ได้ค่ะ เพื่อว่าจะได้กลับมาอ่านอีกครั้ง


ข้อที่ 6.นั้นงัยๆๆๆพี่บอกไปตะกี้เองนะค่ะว่าอย่าอ่านแบบผ่านๆ ดูสิ!!!น้องๆลองกลับไปอ่านข้อ 3 ใหม่สิค่ะ แล้วดูซิว่าที่ต่อจากข้อ 3 นะเป็นข้อที่เท่าไหร่ ข้อที่ 4หายไปๆๆๆๆ ส่วนน้องๆคนไหนสังเกตเห็นก่อนที่พี่เฉลย น้องก็ไม่มีปัญหาในเรื่องของการอ่านหนังสือแล้วละค่ะ เก่งมากๆเลย ส่วนน้องๆคนไหนที่ไม่ทันได้สังเกต ก็เอาจุดนี้เนี่ยแหละค่ะไปลองปรับใช้กับการอ่านหนังสือดูตามที่พี่บอกไว้ในข้อที่ 5 นะค่ะ


ข้อที่ 7.อ่ะ ต่อๆๆ การไม่ปล่อยให้ท้องว่างก็เป็นสิ่งสำคัญนะค่ะ ถ้าน้องๆอ่านๆๆๆหนังสืออย่างเดียวจนลืมทานข้าวแล้วละก็ นอกจากน้องๆ จะอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องแล้ว อาจจะทำให้ป่วย และทำให้เป็นโรคกระเพาะได้ด้วยนะจ๊ะ สำคัญเลย ต้องหาอะไรทานเมื่อท้องว่างด้วยน้า...อย่าทรมาณตัวเองละ


ข้อที่ 8.ในการอ่านหนังสือ น้องๆควรเลือกเวลาที่รู้สึกว่าสมองเราพร้อมจะทำงานด้วยนะจ๊ะ แล้วเมื่อน้องๆรู้สึกว่าเริ่มอ่านไม่ไหวแล้วล่ะ อ่านนานมากไปทำให้ปวดตา ปวดหัว ให้น้องๆพักก่อน อาจจะหาอย่างอื่นทำ เช่นพักสายตาโดยการหาเพลงเพราะๆฟัง(อ่ะๆๆๆเลือเพลงที่ฟังแล้วจรรโลงใจด้วยละ ถ้าฟังเพลงที่หนักไป อาจทำให้ยิ่งปวดหัวมากกว่าเดิม ไม่รู้ด้วยนะเจ้าค่ะ) จะดูทีวี เล่นเกม หรือกิจกรรมอื่นๆที่ทำแล้วผ่อนคลายก็หามาลองทำกันดูนะเจ้าค่ะ แต่ๆๆๆๆแล้วก็แต่...อย่าพักจนเพลินละ เมื่อถึงเวลาที่ร่างกายผ่อนคลายเพียงพอแล้วก็กลับเข้าสู่โหมดการอ่านหนังสือต่อเลยยย (เอาน่าๆทนเอาหน่อยนะเจ้าค่ะ สอบไม่ได้มีมาบ่อยๆ ตั้งใจให้สุดๆไปเลย)

ข้อที่ 9.นั้นแน่ๆ พี่รู้นะว่าน้องๆเริ่มใส่ใจในรายละเอียดในการอ่านกันบ้างแล้ว คงคิดใช่มั้ยละ ว่าพี่จะแกล้งทำให้ข้อไหนหายไปอีกน่ะ!!! ดีแล้วค่ะถ้าน้องๆคิดแบบนี้นะ เป็นการฝึกตัวเองไปด้วย ให้เป็นคนรอบคอบ ดีค่ะๆ อ่ะต่อๆ


ข้อที่ 10.อ้า....อ่านไม่ทันแล้วอ่ะ!!!ทำไงดีๆ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนๆคนอื่นๆเกือบทุกคนละค่ะ ที่สำคัญเลย อย่าตื่นเต้นจนรนล่ะ ตั้งสตินะค่ะตรงนี้สำคัญมากๆเลย ให้น้องๆหยุดอ่านหนังสือต่อสักพักนึง แล้วดูซิว่า...พรุ่งนี้เราสอบวิชาอะไรบ้าง แล้วหยิบวิชาที่สอบเป็นวิชาแรกมาอ่านทบทวนก่อนเลย แล้วก็ทบทวนวิชาอื่นๆต่อไป (ตรงถ้าคิดว่ากลัวอ่านไม่ทันรอบทบทวนให้น้องๆอ่านในส่วนที่เน้น ที่สำคัญๆเอาไว้ก่อนเลย จำได้มั้ยเอ๋ยว่าในการอ่านรอบแรกพี่ให้น้องๆจดบันทึกที่สำคัญๆไว้ที่คิดว่าน่าจะออก หรือส่วนที่มันยาก จำไม่ได้ก็นำมาอ่านก่อนเลย ตรงส่วนไหนที่น้องๆจำได้ หรือเข้าใจก็เปิดผ่านๆเลยค่ะ ตอนนี้เราต้องทำเวลาแหละน่ะ)


ข้อที่ 11.เอาละ...อ่านหนังสือสอบก็ต้องฟิสหน่อย น้องๆบางคนอาจจะอ่านหนังสือเร็วและเข้าใจง่ายทำให้การอ่านหนังสือไม่ค่อยมีปัญหาเลยก็ดีไป ส่วนน้องคนไหนเป็นคนที่อ่านหนังสือช้าก็ต้องขยันกว่าคนอื่นๆหน่อยแล้ว อาจจะทำให้อ่านหนังสือไม่ทัน ทำให้ต้องนอนดึกหน่อย ก็อย่าลืมดูแลตัวเองนะค่ะ หานมอุ่นๆหรือของว่างทานสักนิดนึง ใส่ใจในสุขภาพหน่อยนะค่ะ เพราะเดี๋ยวน้องๆอาจป่วยได้ แล้วเป็นงัยน่ะ ไปสอบไม่ได้ แย่เลยน่ะเจ้าค่ะ สำคัญเลย ถ้าอ่านหนังสือไม่ทันแล้วจริงๆ แต่ร่างกายเราไม่ไหวแล้ว อย่าฝืนนะค่ะ ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น รีบเตรียมตัวเข้านอนกันดีกว่าค่ะ ตื่นเช้ามาจะได้สดชื่น แถมถ้าเราตื่นเร็ว ก็จะมีเวลาอีกนิดในการทบทวนก่อนเข้าห้องสอบนะค่ะน้องๆ

จากพี่ นางฟ้าซาตาน

24 กันยายน 2552

6 เทคนิคการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบให้ได้ผล ใน 1 เดือน

6 เทคนิคการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบให้ได้ผล ใน 1 เดือน

เทคนิค 6 ข้อ ที่ควรทำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบให้ได้ผล ใน 1 เดือน ซึ่งอาจจะมีข้อสำคัญสำหรับน้องๆ คือ การเลิก Chat ไปสักระยะ (แหม ข้อนี้ทำร้ายจิตใจกันจริงๆ นะคะ) แต่ก็นั่นล่ะค่ะ แชทมากไปก็ไม่ดี น้องๆ ก็รู้อยู่ แชทพอให้หายเครียดก็คงเป็นทางสายกลางที่น่าจะทำนะคะ.. เอ๊า มาดูกัน ว่ามีเทคนิคอะไรน่าสนใจบ้าง

1.ต้องเลิกเที่ยว เลิกดื่ม เลิกสร้างบรรยากาศที่ไม่ใช่การเตรียมสอบ เลิก chat ตอนดึกๆ เลิกเม้าท์โทรศัพท์นานๆ ตัดทุกอย่างออกไป ปลีกวิเวกได้เลย ต้องทำให้ได้ ถ้าไม่ได้อย่าคิดเลยว่าจะสอบติด ฝันไปเถอะ

2.ตัดสินใจให้เด็ดขาด ว่าต่อไปนี้จะทำเพื่ออนาคตตัวเอง บอกเพื่อน บอกพ่อแม่ บอกทุกคนว่า อย่ารบกวน ขอเวลาส่วนตัว จะเปลี่ยนชีวิต จะกำหนดชีวิตตัวเอง จะกำหนดอนาคตตัวเอง เพราะเราต้องการมีอนาคตที่กำหนดได้ด้วยตัวเอง ใช่หรือไม่

3.ถ้าทำ 2 ข้อไม่ได้ อย่าทำข้อนี้ เพราะข้อนี้คือ ให้เขียนอนาคตตัวเองไว้เลยว่า จะเรียนต่อคณะอะไร จบแล้วจะเป็นอะไร เช่น จะเรียนพยาบาล ก็เขียนป้ายตัวใหญ่ๆ ติดไว้ข้างห้อง มองเห็นตลอดเลยว่า “เราจะเป็นพยาบาล” จะเรียนแพทย์ก็ต้องเขียนไว้เลยว่า “ปีหน้าจะไปเหยียบแผ่นดินแพทย์ศิริราช-จุฬา” อะไรทำนองนี้ เพื่อสร้างเป้าหมายให้ชัดเจน

4.เตรียมตัว สรรหาหนังสือ หาอาจารย์ติว หาเพื่อนคนเก่งๆ บอกกับเค้าว่าช่วยเป็นกำลังใจให้เราหน่อย ช่วยเหลือเราหน่อย หาหนังสือมาให้ครบทุกเนื้อหาที่จะต้องสอบ เตรียมห้องอ่านหนังสือ โต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟ ให้พร้อม

5.เริ่มลงมืออ่านหนังสือ เริ่มจากวิชาที่ชอบ เรื่องที่ถนัดก่อน ทำข้อสอบไปด้วย ทำแบบฝึกหัดจากง่ายไปยาก ค่อยๆ ทำ ถ้าท้อก็ให้ลืมตาดูป้าย ดูรูปอนาคตของตัวเอง ต้องลงมืออ่านอย่างจริงจัง อย่างน้อยวันละ 10 ชั่วโมง แล้วจะทำได้ไง วิธีการคือ อ่านทุกเมื่อที่มีโอกาส อ่านทุกครั้งที่มีโอกาส หนังสือต้องติดตัวตลอดเวลา ว่างเมื่อไรหยิบมาอ่านได้ทันที อย่าปล่อยให้ว่างจนไม่รู้จะทำอะไร ที่สำคัญอ่านแล้วต้องมีโน้ตเสมอ ห้ามนอนอ่าน ห้ามกินขนม ห้ามฟังเพลง ห้ามดูทีวี ห้ามดูละคร ดูหนัง อ่านอย่างเดียว ทำอย่างจริงจัง

6.ข้อนี้สำคัญมาก หากท้อให้มองภาพอนาคตของตัวเองไว้เสมอ ย้ำกับตัวเองว่า “เราต้องกำหนดอนาคตของตัวเอง ไม่มีใคร กำหนดให้เรา เราต้องทำได้ เพราะไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” ให้กำลังใจกับตัวเองอยู่เสมอ บอกกับตัวเองอย่างนี้ทุกวัน หากท้อ ขอให้นึกว่า อย่างน้อยก็มีผู้เขียนบทความนี้เป็นกำลังใจให้น้องๆ เสมอ นึกถึงภาพวันที่เรารับปริญญา วันที่เราและครอบครัวจะมีความสุข วันที่คุณพ่อคุณแม่จะดีใจที่สุดในชีวิต ต่อไปนี้ต้องทำเพื่อท่านบ้าง อย่าเห็นแก่ตัว อย่าขี้เกียจ อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง เลิกนิสัยเดิมๆ เสียที

................................
ของฝากจาก พิริยะ
................................
ดินแดนปัญญาชน :: Free Toolbar :: กรมหลวงชุมพร :: เสด็จเตี่ย
มะขาม :: ผลงานชำนาญการพิเศษ :: ยันต์ 5 แถว
มะขามจี๊ดจ๊าด :: ผลงานครู ค.ศ.3 :: อ.หนู กันภัย
ขนมจีน :: เกม :: รับทำเว็บผลงานครู
ขนมจีนเส้นสด :: เคล็ดลับ notebook :: สอบบรรจุครู
thailand travel memo :: 80 นวัตกรรมฯ โดย ผศ.ดร.ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์ : : เรียนพิเศษในพิษณุโลก

23 กันยายน 2552

5 เคล็ดลับการอ่านหนังสือสอบ

5 เคล็ดลับการอ่านหนังสือสอบ
วิธีอ่านหนังสือ แบบว่าอยากสอบผ่าน....

1. คนที่อ่านหนังสือคนเดียวมักจะเสียเปรียบ คนที่อ่านเป็นกลุ่มมักจะได้เปรียบ เนื่องจากอ่านคนเดียวอาจเข้าใจคลาดเคลื่อน หรืออ่านไม่ตรงจุด หรือ(บางคน)อาจอ่านไม่รู้เรื่อง ถ้าอ่านเป็นกลุ่มโอกาสอ่านผิดจุดจะยากขึ้น และยังพอช่วยกันฉุดได้

** แต่วิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับคนชอบแชตนะค่ะ อิอิ

2. ควรอ่านเองที่บ้านก่อน 1 รอบ และจับกลุ่มติว เสร็จแล้วกลับไปอ่านทบทวนเองที่บ้านอีก 1 รอบ (ต้องรับผิดชอบตัวเอง)

3. ผลัดกันติว ใครเข้าใจเรื่องใดมากที่สุดก็ให้เป็นผู้ติว ข้อสำคัญ อย่าคิดแต่จะเป็นผู้รับอย่างเดียว จงคิดว่าเป็นผู้ให้ก่อน แล้วคนอื่น (ถ้าไม่แล้งน้ำใจเกินไป) ก็จะให้ตอบเอง

4. ผู้ติวจะได้ทบทวนเนื้อหา และจะรู้ว่าตัวเองขาดอะไร บกพร่องอะไร จากคำถามของเพื่อนที่สงสัย บางครั้งเพื่อนก็สามารถเสริมเติมเต็มในบางจุดที่ผู้ติวขาดหายได้

5. การติวจะทำให้เกิดการ Share ความคิด และฝึกวิธีทำงานร่วมกับผู้อื่น ช่วยพัฒนาทั้งด้าน IQ และ EQ (อ่านเองจะพัฒนาแต่ IQ)

เป็นยังไงบ้างคะ กับวิธีอ่านหนังสือที่เน้นการจับกลุ่มซะหน่อยนึง แต่ลองทำดูสิ อาจจะได้ผลนะ
ที่มา aommee
ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ