29 เมษายน 2553

วิธีดูแลตัวเองจากโรคมะเร็ง

หลังจากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะ ลอง และใช้ในการกำจัดโรคมะเร็ง ในที่สุดโรงพยาบาลจอห์น ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆอีก

ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ โรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์

1. ทุกๆคนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐาน จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษา แล้ว มันหมายถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่ มากพอ จนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น

2. เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง 6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง

3. เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย แข็งแรงเพียงพอ เซลมะเร้งจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก

4. เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง มันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต

5. เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่องหลาย ประการเกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกัน แข็งแรงขึ้น

6. การทำคีโมคือการให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลมะเร็งที่กำลัง เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูก ทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด ฯลฯ

7. การฉายรังสีแม้ว่าจะเป็นการทำลายเซลมะเร็ง แต่ก็ทำให้เกิดอาการไหม้ เป็นแผลเป็น และทำลายเซลที่ดี เนื้อเยื่อ และอวัยวะ

8. การบำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตามถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก

9. เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจาก การทำคีโมหรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆนั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมี ความซับซ้อนยิ่งขึ้น

10. การทำคีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกลายพันธุ์ ดื้อยา และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย

11. วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับ มะเร็ง คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว

อะไรคืออาหารที่ป้อน ให้กับเซลมะเร็ง

a. น้ำตาลคืออาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให้กับเซลมะเร็ง สารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น ' นิวตร้าสวีต ' ' อี ควล ' ' สปูนฟูล ' ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวาน ซึ่งเป็นอันตราย สารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่าคือน้ำผึ้งมานูคา (จาก นิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อย แต่ในปริมาณน้อยๆเท่านั้น เกลือสำเร็จรูปก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้ ' แบรก อมิโน ' หรือเกลือทะเลแทน

b. นมเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็งจะไ้ด้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม จะทำให้เซลมะเร็งไม่ได้รับอาหาร

c. เซลมะเร็งเติบโตได้ดี ในภาวะแงดล้อมที่เป็นกรด อาหาร จำพวกเนื้อจะ สร้างสภาวะกรดขึ้น ดังนั้นจึงควรหันไปรับประทานปลาจะดีที่สุด รองลงไปคือรับประทานไก่แทนเนื้อและหมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์ และเชื้อปรสิตบางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง

d. อาหารที่ประกอบด้วยผักสด 80% และน้ำผลไม้ พืชจำพวกหัว เมล็ด ถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้จำนวนเล็กน้อย จะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่าง อาหารอีก 20% อาจ ได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่ว น้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึมซาบสู่ระดับเซลภายใน 15 นาที เพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดี ให้พยายามดื่มน้ำผักสด ( ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่วที่มีหน่อหรือต้นอ่อน) และรับประทานผักสดดิบ 2-3 ครั้งต่อวัน เอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ 140 องศา F ( ประมาณ 40 องศา C)

e. ให้หลีกเลี่ยงกาแฟ น้ำชา และช๊อกโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูง ชาเขียวถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง น้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์ หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซินและโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรด ให้หลีกเลี่ยง

12. โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยาก และต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย เนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความ เป็นพิษมากขึ้น

13. ผนังของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงดหรือการรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอมาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็ง และช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น

14. สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่ม ภูมิคุ้มกัน ( สาร IP6 [inositol hexaphosphate หรือ phytic acid], สาร Flor-essence, สาร Essiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์ , วิตามิน , เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น สารอาหารอื่นๆเช่น วิตามินอี เป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตายลงของเซล หรือกำหนดระยะเวลาการตายของเซล ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดเซลที่ถูกทำลาย ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป

15. มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การป้องกันเชิงรุกและการคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำ สงครามกับมะเร็ง... ความโกรธ การไม่รู้จักให้อภัย และความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้น ให้เรียนรู้ที่จะมีความรักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัย เรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต

16. เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโต ได้ในสภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมาก การออกกำลังกายทุกวัน และการหายใจลึกๆจะช่วยให้่ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้นลงไปจนระดับเซล การบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลายเซลมะเร็ง

28 เมษายน 2553

หมาเน่า กับไม้เขี่ยหมาเน่า

ฉันได้ฟังปริศนาธรรมเรื่องนี้จากคุณแม่
ซึ่งพระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณฺโณ
จากวัดป่าชิคาโก ท่านกรุณาเทศน์ให้ฟัง
พระอาจารย์เริ่มเรื่อง ด้วยคำถามว่า...



ENTRE RAICES





"ถ้ามีหมาเน่า ลอยน้ำมาติดที่หน้าบ้านของเรา เราจะทำยังไง"



Grass


ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียว กันว่า...
"ให้เอาไม้เขี่ยมันออก ไป"

Hummer with flash


พระอาจารย์ก็ถามต่อว่า...
"เขี่ยเสร็จแล้ว หมาเน่าลอยไปแล้ว ไม้นั้นเราทำยังไง"



lotus #12


ทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันอีกว่า...
"ก็ต้องโยนทิ้งไป"




tell me a story



คราวนี้พระอาจารย์ก็บอกว่า...



Peaceable Kingdom

"นั่นแหละ มีคนบางพวก ไม่ยอมทิ้งไม้เขี่ยหมาเน่านั้นไปเฉยๆ ไม่รู้เสียดายอะไร ทั้งๆที่รู้ว่าเหม็น แต่ก็หยิบกลับขึ้นมาดมอยู่เรื่อย ไม้เขี่ยหมาเน่าๆเหม็นๆน่ะ"




Autumn



พระอาจารย์เล่าเรื่องจบเพียงแค่นี้ ทิ้งไว้เป็นปริศนาธรรมให้เอามาคิดต่อ



papilio far away

เห็นด้วยกับฉันมั้ย คนที่รู้ทั้งรู้ว่าไม้เหม็น แต่ก็ยังเก็บมาดมอยู่ได้เนี่ย...




"Lily Reflections..."



"ไม่โง่ก็โรคจิตนะ"

- : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - - :

เคยเป็นบ้างมั้ย เวลามีใครมาทำให้เราโกรธ
จนเรื่องต่างๆ เหตุต่างๆที่ทำให้เราโกรธมันดับไปหมดแล้ว แต่เราก็ยังเก็บมาคิดมาแค้นอยู่นั่นแหละ ไม่รู้เสียดายอะไร...

ทั้งๆที่รู้ว่าทำให้ เป็นทุกข์ แต่ก็เก็บความคิดแค้นมา เผาใจอยู่เรื่อยๆ

หรือไม่ต้องเรื่องความโกรธก็ได้ เรื่องอะไรๆที่มันผ่านไปแล้ว แต่หลายครั้ง เราก็ยังเก็บโน่นเก็บนี่มาคิด มากังวล มาเสียใจ...อะไรก็แล้วแต่
ฉันคนหนึ่งล่ะ ที่เคยเป็น แล้วฉันก็คิดว่า ทุกคนก็คงเคยเป็น

คราวหลังถ้าเป็นอีก ลองบอกตัวเองสิว่า...
"แน่ะ หยิบไม้เขี่ยหมาเน่ามาดมอีกแล้วนะเรา"
ดูซิว่า ยังจะอยากเก็บไม้เหม็นๆไว้ดมอีกมั้ย...

- : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - - :

ขอบคุณ เมล์ดีๆที่มาของข้อความนี้ครับ

27 เมษายน 2553

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด เดือนธันวาคม

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด เดือนธันวาคม- ดอกพุทธรักษา

" ดอกพุทธรักษา " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้แห่งความสนุกสนาน ความโชคดีของชีวิต มีความสว่างไสวอยู่ในมุมที่น่าเบื่อที่สุดของสวน ดังนั้นผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงมีความประพฤติดี ๆ และมีระเบียบวินัยที่ผ่อนคลายยืดหยุ่นได้ตลอดเวลา จึงมักที่จะเป็นแรงกำลังใจให้กับเพื่อนฝูงในเวลาตกต่ำของชีวิต ทำให้คนอื่นรอบข้างมองโลกในทางที่ดีขึ้น เบิกทางสู่เสรีภาพ และมักนำคนรอบข้างไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องอยู่เสมอ จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนธันวาคม มีบุคลิกโดดเด่น ร่าเริงและมีความสามารถในการปลอบโยนให้กำลังใจคนได้ดี และที่สำคัญมีความศรัทธาเกี่ยวกับเรื่องการก่อตั้งองค์กรทางศาสนา

26 เมษายน 2553

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด เดือนพฤศจิกายน

เดือนพฤศจิกายน - ดอกตะบองเพชร



" ดอกตะบองเพชร " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่แอบแฝงด้วยความลึกลับในกำเนิด และเกสร รวมทั้งในทุก ๆ กลีบดอก ผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงมักมีความลับนับร้อย ๆ อยู่ในการดำเนินชีวิตของเขา แต่สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ดึงดูงเพศตรงข้ามได้อย่างล้ำลึก เนื่องจากน่าสนใจและน่าค้นหาไม่รู้จบนั่นเอง ชาวเดือนนี้จึงมักชอบอยู่เงียบ ๆ ในออฟฟิตมากกว่าจะออกไปสังคมข้างนอก และมักจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้อยู่เสมอ

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนพฤศจิกายน ผู้ที่เกิดเดือนมักมีสัมผัสเร้นลับเกี่ยวกับความเชื่อโชคลางและศาสนา

25 เมษายน 2553

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด เดือนเดือนตุลาคม

เดือนตุลาคม - ดอกกุหลาบ



" ดอกกุหลาบ " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่มีความโดดเด่น อ่อนหวาน เข้าได้กับทุกสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี แถมชอบบรรยากาศที่สวยงาม อากาศที่บริสุทธ์ ดังนั้นผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงหลงไหลกับบรรยากาศรอบข้างไปด้วย แต่ก็ไม่ใช่คนมีระเบียบมากนัก ออกจะรกกว่าคนอื่น ๆ ด้วยซ้ำไป และเนื่องจากดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม จึงมี อิทธิพล ให้ชาวเดือนนี้มักเป็นคนที่มีเสน่ห์ในวงสนทนาเป็นพิเศษ

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนตุลาคม ผู้ที่เกิดในเดือนนี้เชื่อมั่นในความรัก และศรัทธาในศาสนาอย่างลึกซึ้ง รักความสงบเป็นพิเศษ

24 เมษายน 2553

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด เดือนกันยายน

เดือนกันยายน - ดอกทิวลิป



" ดอกทิวลิป " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความนุ่มนวลและถูกขัดเกลามาอย่างดี ดอกทิวลิปเป็นดอกไม้ที่แคร์ความรู้สึกของคนอื่น ๆ มากกว่าระดับปกติ มีหัวใจที่ลึกซึ้งด้วยความเห็นอกเห็นใจคนรอบข้างแสดงถึงความฉลาดหลักแหลม ชอบที่จะใช้วิธีในทางธรรมชาติบำบัด ดอกทิวลิปเป็นดอกไม้แห่งความรู้สึก " ซาบซึ้ง " โดยจะสังเกตเห็นได้จาก เป็นคนเจ้าระเบียบ ตรงระเบียบ ตรงต่อเวลา แต่ก็มักวิตกกังวลกับเรื่องต่างๆ ได้ง่าย

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนกันยายน ผู้ที่เกิดเดือนนี้จะชอบเข้าวัดและผูกพันลึกซึ้งกับศาสนา เชื่อเรื่องโชคลางโหราศาสตร์เป็นพิเศษ

23 เมษายน 2553

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด เดือนสิงหาคม

เดือนสิงหาคม - ดอกทานตะวัน



" ดอกทานตะวัน " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความเป็นมิตร และความสดใสร่าเริง ที่สำคัญยังงามโดดเด่น ดอกไม้ชนิดนี้เป็นดอกไม้ที่อารมณ์ดีที่สุดในหมู่ดอกไม้ทั้งหมด ดอกไม้ชนิดนี้มีใจกลางดอกที่งามเด่น แสดงถึงความมั่นใจและไม่ค่อยเรื่องมากในเรื่องของความรัก แม้จะเด่นก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากเป็นพิเศษ กลับชอบที่จะอยู่อย่างสันโดษหาความสนุกสนานใส่ตัวมากกว่า

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนสิงหาคม ผู้ที่เกิดเดือนนี้มักมีความนับถือในพระอาทิตย์ ชื่นชมแสงแดดเป็นพิเศษ และที่สำคัญรักธรรมชาติเป็นที่สุด

22 เมษายน 2553

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด เดือนกรกฎาคม

เดือนกรกฎาคม - ดอกบัว



" ดอกบัว " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความอ่อนหวานในสระน้ำลึก บรรยากาศที่ดีเป็นสิ่งที่จะทำให้ดอกไม้นี้ผลิบานงดงามเต็มที่ ผู้ที่เกิดเดือนนี้ก็เช่นกันเค้าต้องการสิ่งแวดล้อมที่อบอุ่น สวยงาม เรียบร้อยและมีระเบียบ ผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงมักจมอยู่กับห้วงแห่งความฝัน มักคาดหวังในชีวิตสูง

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนกรกฎาคม ผู้ที่เกิดเดือนนี้มักฝักใฝ่ที่จะแก้ไขปัญหาในทุก ๆ เรื่อง และชอบที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ มีความกรุณาเอื้ออาทรสูง และเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ดี

21 เมษายน 2553

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด เดือนมิถุนายน

เดือนมิถุนายน - ดอกเล็บมือนาง



" ดอกเล็บมือนาง " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน เพราะมักจะบานบ่อยๆ ด้วยเสน่ห์แบบง่ายๆ และความเฉลียวฉลาด เป็นดอกไม้ที่มีความงามแบบเฉพาะตัวเมื่อปลูกอยู่ริมรั้ว ผู้ที่มีดอกไม้นี้เป็นดอกประจำเดือน มักจะเป็นคนที่มีความคิดเปิดกว้างและยืดหยุ่น แต่อารมณ์แปรปรวนง่าย โดยเฉพาะในเรื่องของความรัก

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนมิถุนายน ผู้ที่เกิดเดือนนี้จะสนใจเรื่องศาสนาและนิกายแปลกๆ

20 เมษายน 2553

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด เดือนพฤษภาคม

เดือนพฤษภาคม - ดอกลีลาวดี



" ดอกลีลาวดี " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้บ่งบอกถึงความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ บอกถึงความเป็นตัวตนของผู้ที่เกิดเดือนนี้ ด้วยลักษณะของดอกลีลาวดีมีสีขาว มองดูแล้วให้ความสงบสุข ผู้ที่เกิดเดือนนี้ส่วนใหญ่จะมีบุคลิกที่รอบคอบ สุขุม และจะมองการณ์ไกล สุขุมรอบคอบ และเต็มไปด้วยความรักในมวลมนุษย์ ดอกลีลาวดีนี้มักถูกปลูก หรือแต่งแต้มสีสันลงในภาพวาดภาพเขียนเพื่อนชื่นชม และใช้ประโยชน์ตั้งแต่แกลอรี่งานศิลปะ ไปจนถึงการนำไปปรุงแต่งเป็นน้ำมันหอมระเหยหรืออะไรมาเธอราพี เพื่อบำบัด นอกจากนั้นยังนำมาปรุงอาหารได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ เพราะฉะนั้นคนที่เกิดเยี่ยงดอกลีลาวดีนี้มักโกรธยากและมีความจำเป็นเลิศ

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนพฤษภาคมนี้ คือเป็นผู้ชื่นชมความงามของธรรมชาติอย่างมาก และมีสัมผัสพิเศษในเรื่องของปรากฏการณ์ธรรมชาติ

19 เมษายน 2553

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด เดือนเมษายน

เดือนเมษายน - ดอกลิลลี่



" ดอกลิลลี่ " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้นำอยู่ในท่ามกลางธรรมชาติอยู่แล้ว สังเกตได้ว่าดอกลิลลี่จะโดดเด่นกว่าดอกไม้อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดจัดช่อหรือการจัดซุ้มดอกไม้ และก็เป็นที่ประทับใจให้กับทุกๆคนที่ได้รับมันด้วย

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนเมษนั้น มีความสนใจในด้านปราชญาที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะและภาพเขียนแนวสัจนิยม

18 เมษายน 2553

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด เดือนมีนาคม

เดือนมีนาคม - ดอกคาร์เนชั่นแดง



" ดอกคาร์เนชั่นแดง " นั้น ถือว่าเป็นดอกไม้โปรดของบรรดาเหล่าศิลปิน เพราะเป็นดอกไม้แห่งความผันอันลึกลับ เป็นแรงบันดาลใจที่ปรากฏขึ้นให้เห็นในโลกแห่งตัวตนของคนในเดือนนี้ เมื่อความฝันนั้นถูกนำเข้าสู่ความจริง ไม่ว่าจะด้วยงานเขียนภาพแนวสร้างสรร หรืองานบริการต่างๆ ก็ตาม ผู้ที่เกิดในเดือนนี้ ส่วนใหญ่จึงมีบุคลิกเป็นไปในทางอาร์ท ศิลปิน ออกแนวเซอร์ กันให้เห็นอย่างชัดเจน

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนมีนาคมนั้น มีสัมผัสพิเศษในการติดต่อกับโลกแห่งวิญญาณ มีใจฝักใฝ่ในหลักธรรมคำสอนเป็นการส่วนตัว

17 เมษายน 2553

ถวายพระพุทธรูป

วันนี้ได้มีโอกาสถวายพระพุทธรูปที่วัดแพร่ธรรมาราม
รู้สึกดีมากๆครับ ที่ได้ถวายพระพุทธรูปปางลีลา ซาติน ที่บูชามาจากพิพิธภัณฑ์จ่าทวี

อานิสงส์จะมาก จะน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับจิตใจของผู้ทำบุญ และผู้รับ
บัดนี้มีปีติ มีความเกษม ก็ดีแล้วละครับ

........................................................
วัตถุมงคล อ.หนู กันภัย
เหรียญทูลเกล้า

16 เมษายน 2553

เดินทาง

เดินทางกลับบ้าน
สุขใจๆ
สุขที่ได้ใกล้
บิดามารดร

สุขได้กลับบ้าน
ที่เคยหลับนอน
ไกลห่างรายล้อม
ก็ได้กลับมา

15 เมษายน 2553

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด เดือนกุมภาพันธ์

เดือนกุมภาพันธ์- ดอกกล้วยไม้



" ดอกกล้วยไม้ " นั้น ถือว่าเป็นที่ต้องการดูแลการเอาใจใส่เป็นอย่างดี ต้องปลูกในที่ร่มในเรือนเพาะชำคำนวนอัตราสัดส่วนของน้ำและแสงให้พอเหมาะ ถึงจะงอกงามสวยงาม เช่นกัน ผู้ที่เกิดในนี้ จึงเป็นต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก และยังเป็นแรงบันดาลใจให้มนุษย์มีความใฝ่ฝันที่จะผลักดันความฝันตัวเองให้เป็นจริง และเต็มไปด้วยความเอื้ออาทรและเอาใจใส่ทุกๆสิ่งทุกอย่างรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ สิ่งของ มีความฉลาดหลักแหลม รักธรรมชาติ และใจกว้าง แต่เนื่องจากกล้วยไม้นั้นเป็นดอกไม้มีกลีบดอกที่ค่อนข้างหนา บานได้นานกว่าดอกไม้อื่นๆ จึงต้องดูแลในระยะยาวนานและจริงจัง เพื่อให้มันคงความงดงามอยู่ตลอดไป

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนกุมภาพันธ์ คุณเป็นคนที่มีความสนใจในด้านปราชญาศาสนา ประวัติศาสตร์ สถูปโบราณ แต่ก็สนใจความรู้สมัยใหม่ร่วมไปด้วย เพื่อผสมผสานศาสตร์เก่าและใหม่เข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน

14 เมษายน 2553

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด เดือนมกราคม

เดือนมกราคม - ดอกเบญจมาศ



" ดอกเบญจมาศ " นั้น ถือว่าเป็นดอกไม้แห่งความสูงส่ง ในบางแห่งใช้ดอกเบญจมาศนี้แทนสัญญลักษณ์ของกษัตริย์ หรือราชวงศ์ที่สูงศักดิ์ ดอกเบญจมาศมักบานเป็นเวลานานก่อนที่จะโรยรา ซึ่งแอบแฝงความนัยว่า มีหลักแหลมแฝงอยู่ตัวตนเป็นพิเศษผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงฉลาดหลักแหลม มีความสำเร็จในชีวิต และมีเพื่อนที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา เช่นเดียวกับกลีบที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ หลายชั้นมีคนอุ้มชู เกื้อหนุนตลอดเวลา แถมยังเป็นนักฟังที่ดีด้วย

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนมกราคม ผู้ที่เกิดเดือนนี้มักจะเป็นนักอนุรักษ์นิยมเกี่ยวกับประเพณี และมักจะหัวโบราณกว่าชาวเดือนอื่น

13 เมษายน 2553

เพลงไทยสามัคคี

ไทยสามัคคี
คำร้อง บทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖ / ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

อย่าเห็นแก่ตัวมัวพะวง ลุ่มหลงริษยาไม่ควรที่
อย่าต่างคนต่างแข่งกันแย่งดี อย่าให้ช่องไพรีที่มุ่งร้าย
แม้เราริษยากันและกัน ไม่ช้าพลันจะพากันฉิบหาย
ระวังการยุยงส่งร้าย นั่นแหละเครื่องทำลายสามัคคี
คณะใดศัตรูผู้ฉลาด หมายมาดทำลายให้เร็วรี่
ก็ยุแยกให้แตกสามัคคี เช่นกษัตริย์ลิจฉวีวงศ์โบราณ
พราหมณ์ผู้เดียวรับใช้ไปยุแหย่ สาระแนยุญาติให้แตกสาน
จนเวลาศัตรูจู่ไปราญ มัวเกี่ยงกันเสียการ เสียนคร
ฉะนั้นไซร้ขอไทยจงร่วมรัก จงร่วมสมัครสโมสร
เอาไว้เผื่อเมื่อมีไพรีรอน จะได้สู้ดัสกรด้วยเต็มแรง

12 เมษายน 2553

รู้ไว้ใช่ว่า : ฉลากบนผลไม้ (ยังไม่ได้มีการยืนยันว่าจริงเท็จแค่ไหน โปรดใชวิจารณญาน)


Conventional Fruit Labels - Four digits starting with
4

ฉลากผลไม้ทั่วไป - มีตัวเลขสี่หลัก ขึ้นต้นด้วย
4
เช่น
4xxx



Organic Fruit Labels - Five digits and starts with number

9


ฉลากผลไม้
Organic (ผลไม้ที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี) -
มีตัวเลขห้าหลัก ขึ้นต้นด้วย 9
เช่น
9xxxx




Genetically Modified Fruits (GMO) -Start with the digit
8


ฉลากผลไม้ GMO (ผลไม้ที่ปลูกโดยใช้พันธ์ที่ผ่านการดัดแปลงทางพันธุกรรม)

-
มีตัวเลขห้าหลัก ขึ้นต้นด้วย 8
เช่น
8xxxx



So next time you go shopping, remember these critical numbers and know how to avoid purchasing inorganic and GMO fruits. Shop Safe :


This is good to know because stores aren't obligated to tell you if a fruit has been genetically modified .

ดังนั้นครั้งต่อไปที่คุณจะเลือกซื้อผลไม้ จำไว้ว่าตัวเลขสำคัญที่คุณควรรู้ เพื่อจะหลีกเลี่ยงการซื้อผลไม้ที่มีสารเคมีและผลไม้
GMO




So if you come across an apple in the store and it's label is 4922, it's a conventional apple grown with herbicides and harmful fertilizers.




ดังนั้น ถ้าคุณเห็นแอปเปิ้ล ที่มีรหัส
4922
แปลว่า แอปเปิ้ลนี้เป็นแอปเปิ้ลทั่วๆไป ที่ปลูกด้วยการใส่ปุ๋ยปกติ




If it has a sticker 99222, it's organic and safe to eat.

ถ้าแอปเปิ้ลติดสติ๊กเกอร์ มีรหัส
99222
แสดงว่าเป็นแอปเปิ้ลที่ปลูกโดยวิธีปลอดสารเคมี และปลอดภัย




If it says 89222, then do not buy!!!! It has been
genetically modified
(GMO).

ถ้าแอปเปิ้ลติดสติ๊กเกอร์ มีรหัส
89222
อย่าซื้อ!!!


แสดงว่าเป็นแอปเปิ้ลที่ผ่านการดัดแปลงทางพันธุกรรม(GMO)

11 เมษายน 2553

ไขปริศนา 49 วัน ชีวิตหลังความตาย

ไขปริศนา 49 วัน ชีวิตหลังความตาย

มนุษย์และ สัตว์มิได้สิ้นสุดที่ความตาย เพราะการ "ตาย" หมายถึง สภาพร่างกายที่ไม่สามารถให้บริการแก่จิตวิญญาณใช้งานต่อไปได้อีก วิญญาณยังคงอยู่ ถึงแม้ร่างกายจะหมดอายุขัยไปแล้ว ทั้งนี้สภาพการตายจะบ่งบอกให้รู้ว่าจิตวิญญาณนั้นไปสุคติหรือลงสู่นรกภูมิ


1. ตอนตายใหม่ ถ้าหากสีหน้าปกติ ร่างกายอ่อนนิ่ม สีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่ เนื่องจากได้บรรลุธรรม ดวงวิญญาณจะไปสู่สุคติ

2. ตอนตายใหม่ๆ หน้าตาซีดผาด เหมือนคนตกใจ แสดงว่าวิญญาณได้ตกสู่นรกแล้ว

3. ตอนตายใหม่ๆ ร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาน่ากลัว เพราะความตกใจ บางคนจะกรีดร้องเสียงคล้ายสัตว์ คนเหล่านี้จะไปเกิดเป็นสัตว์ 4 ชนิด สังเกตได้จากตา หู จมูก ปาก ตาจะมีน้ำตาออก หูจะมีขี้หู จมูกจะมีน้ำมูก ปากจะมีน้ำลายฟูมปาก เป็นทวารที่ไม่สะอาด 4 ช่องทาง เมื่อจิตวิญญาณออกทางนี้ จะเกิดเป็นสัตว์ 4 ประเภท



- ตา ชอบดูสิ่งเหลวไหล ลุ่มหลงในรูปต่างๆ คนเหล่านี้เวลาใกล้ตาย ดวงตาจะเบิกกว้าง จะไปเกิดเป็นสัตว์ปีก (เกิดออกจากไข่)

- หู ชอบฟังเรื่องเหลวไหล เรื่องซุบซิบนินทา คนเหล่านี้เวลาตาย หูจะชันขึ้น จะไปเกิดเป็นสัตว์ที่เกิดจากครรภ์ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย

- จมูก ชื่นชมกลิ่นคาวโลกีย์ เช่น เงินทอง สุรา นารี การพนัน ชื่อเสียงลาภยศ และค่านิยมที่ผิดศีลธรรม ฯลฯ จะไปเกิดเป็นแมลง มด ยุง แมลงวัน ฯลฯ บาปหนักมาก วิญญาณจึงถูกตีเป็นเศษวิญญาณ

- ปาก ชอบพูดเรื่องเหลวไหล พูดนินทา พูดวิจารณ์ พูดกล่าวร้ายป้ายสี ด่าคำหยาบคาย คนเหล่านี้เวลาตาย ปากจะอ้าค้างอยู่ตลอด จะเกิดเป็นสัตว์น้ำ ไปอยู่กับรสชาติที่โสโครกและสกปรก


เมื่อออกจากร่าง วิญญาณจะไปที่ไหน?

ดวงวิญญาณที่ออกจากร่างในตอนแรก จะวนเวียนอยู่บริเวณนั้น พอได้สติก็จะมีท่านมัจจุราชทำหน้าที่มานำเอาวิญญาณของมนุษย์หรือสัตว์ที่ ชะตาถึงฆาต พาไปยังยมโลก เพื่อตรวจสอบบาปบุญความดีความชั่ว ในขณะที่มีชีวิตอยู่


วิญญาณบาปจะถูกนำตัวส่งไปนรก 8 ขุมใหญ่ แต่ละขุมแบ่งย่อยขุมละ 36 แห่ง แต่ละแห่งมีการลงทัณฑ์และทรมานอีก 800 ด่าน แต่ละด่านมีเครื่องทรมานนับไม่ถ้วน วิญญาณบางดวงอาจตกนรกทั้ง 8 ขุมเลยก็มี โดยเฉพาะคนที่ทำกรรมชั่วมหันต์ หรือเรียกว่า "อนันตริยกรรม" มีอยู่ 5 อย่าง คือ 1.ฆ่าพ่อ 2. ฆ่าแม่ 3. ฆ่าพระ อรหันต์ 4. ยุยงสงฆ์ให้แตกแยก 5. ทำร้ายพระพทุธเจ้าห้อเลือด

หลังจากที่คน เราตายประมาณ 1-2 วัน ปกติแล้ว เขาจะไม่รู้ว่าตัวเองตาย 7 วัน ให้หลังเขาจึงรู้ว่าตนเองตายแล้ว วิญญาณจะถูกกักบริเวณไว้ 49 วันเพื่อรอพิจารณาคดี ในระหว่างนั้นผู้ตายก็กำลังรอบุญกุศลจากลูกหลานทางโลกที่กำลังง่วนอยู่กับ งานศพ

เรามาดู ปรากฏการณ์ 49 วัน ชีวิตหลังความตาย ขณะที่วิญญาณของผู้ตายออกจากร่าง ชีวิตหลังความตายก็เริ่มต้นเปิดฉากขึ้นในโลกที่ผู้ตายต้องเข้าไปเพียงลำพัง เท่านั้น ไม่มีสิ่งใดเลยที่สามารถเอาติดตัวจากโลกมนุษย์ได้ เว้นเสียแต่บาปกับบุญเท่านั้น

เจ็ดวันรอบ แรก

วิญญาณผู้ ตายต้องเดินผ่านดงหมาป่า ซึ่งมีฝูงหมาป่าดุร้ายเหมือนเสือขวางทาง เมื่อวิญญาณบาปไปถึง ก็เกิดหวาดกลัวไม่กล้าเดินต่อไป ฝูงหมาป่าเห็นดังนั้น ก็กระโจนเข้าขย้ำขบกัดวิญญาณบาปจนเลือดท่วมตัว กรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทุกขเวทนา

ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงดงหมาป่า ก็จะมีหมู่เทวทูตคอยพิทักษ์คุ้มครอง พวกหมาป่าได้แต่นิ่งเฉย ไม่กล้าทำอะไร จึงผ่านไปได้โดยปลอดภัย

เจ็ดวันรอบ ที่ สอง

เมื่อวิญญาณ ผู้ตายมาถึงด่านประตูผี เจ้าหน้าที่ผู้รักษาด่าน เมื่อเห็นเป็นวิญญาณบาป ก็จะทุบตีอย่างไม่ปรานี และยังมีพวกเจ้ากรรมนายเวรพากันมาทวงหนี้เวลานั้น

ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงด่านประตูผี จะได้รับการต้อนรับและสามารถผ่านด่านนี้ไปโดยปลอดภัย

เจ็ดวันรอบที่ สาม

เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงยมโลก ถ้าเป็นวิญญาณบาปก็จะถูกโซ่ตรวนไว้ และถูกบังคับนำไปอยู่ตรงหน้าหอกระจกส่องกรรม ยามมีชีวิตทำชั่วอะไร ภาพก็จะปรากฏขึ้นเองอย่างอัตโนมัติ เสร็จแล้วก็จะถูกคุมตัวไปรับการพิจารณาโทษ ถึงวิญญาณบาปจะเริ่มสำนึกผิด ตอนนี้แต่ก็สายเสียแล้ว

ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึง จะได้รับการต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่พาไปท่องเที่ยวนรกขุมต่างๆ และพาไปดูสภาพของบรรดาญาติพี่น้องที่ ทำบาป กำลังรอคอยการพิจารณาตัดสินความผิด

เจ็ดวันรอบ ที่ สี่

เมื่อมาถึงด่านภูเขา กระดาษเงินกระดาษทอง การจะขึ้นไปบนภูเขาลูกนี้ยากลำบากมาก กระดาษเหล่านี้ได้มาจากลูกหลานญาติพี่น้องในเมืองมนุษย์หลงงมงายเผาส่งไปให้ ทับถมกันจนเป็นภูเขาเลากา ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วแม้ผู้ตายจะได้รับก็ไร้ประโยชน์

เจ็ดวันรอบที่ ห้า

วิญญาณผู้ตายมาถึงหอดูบ้านเดิม ได้เห็นลูกหลาน คนในครอบครัวต่างไว้ทุกข์ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับการตายของตน ถึงตอนนี้จึงได้รู้ว่าตนเองตายแล้ว ไม่อาจกลับบ้านได้อีก ได้แต่เสียใจอาลัยอาวรณ์

เจ็ดวันรอบที่ หก

เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านคุมบัญชี ยมบาลจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูบาปบุญที่ผู้ตายได้สร้างสมตอนมีชีวิต หลังจากหักลบกันแล้ว ถ้าบุญมีมากกว่าบาปก็จะให??ไปเกิดยังสุคติภูมิ ถ้าบาปมีมากกว่าบุญ จะส่งไปยังนรกภูมิ รับทุกข์อย่างน่าเวทนา

เจ็ดวันรอบที่ เจ็ด

เมื่อวิญญาณ ผู้ตายไปถึงด่านตรวจสอบ ยมบาลก็จะสั่งเลขาให้ตรวจสอบดูว่า ผู้ตายตอนมีชีวิตอยู่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือไม่ ถ้าได้ถือศีลกิเจ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ก็จักลหุโทษ ถ้ามัวหลงผิดฆ่าสัตว์เพื่อความสุขของปากท้องก็จะเพิ่มโทษเป็นเท่าตัว.

ที่กล่าวมา ทั้งหมดนี้ ก็ขอให้ทุกคนในขณะมีชีวิตอยู่นั้น เร่งสะสมความดีกันให้มากๆ นรก-สวรรค์นั้น ไม่ใช่สิ่งลวงโลก ตอนนี้ท่านอาจยังไม่เห็น แต่สักวันท่านก็ต้องเห็น กฏแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องจริง ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ...

10 เมษายน 2553

"สงกรานต์เลือด คราบคาว เรื่องราววีรชน"

"สงกรานต์เลือด"

.....เสียงปัง ปัง ดังอยู่ จนหูดับ

คำสั่งลับ สั่งมา จากห่าเหว

ฆ่าคนไทย ด้วยกัน มันแสนเลว

มันจุดเปลว ประกายไฟ บนปลายปืน


.....เดินหน้า เรียกหา อย่างสันติ

ปฏิสนธิ ภราดร อารยขัดขืน

คนไม่เห็น น้ำลายกู กูก็กลืน

ไม่ทันตื่น มีคนตาย วอดวายกัน


.....ศพ ศพ ศพ ศพใคร คนใดหนอ

นั่นก็พ่อ นั่นก็เพื่อน นั่นลูกฉัน

เพื่ออำนาจ เพื่อเงินตรา แสนจาบัลย์

เพื่อใครกัน ถึงเข่นฆ่า ไม่ปราณี


.....ใครรักใคร ชอบใคร เราไม่รู้

แต่เรานั้น เชิดชู ในศักดิ์ศรี

รับเงินมา ปลุกปั่น แสนอัปปรีย์

หยุดเสียที อีกกี่ศพ จึงครบเงิน

09 เมษายน 2553

แม่ของฉัน กับเจ้านายของฉัน

แม่ของฉัน กับเจ้านายของฉัน .........
ใคร เคยทำกับแม่แบบนี้บ้าง ?


ทุกวัน ฉันต้องตื่นเช้า เข้างานแปดโมง
วันนี้..ก็เหมือน เคย แต่เมื่อคืนฉันทำงานจนดึก
ตื่นสาย.. อารมณ์ตอนนั้น
โมโหตัวเองมาก ที่ลืมตั้งนาฟิกาปลุก
(โดนเจ้านายด่าแน่ๆ )
แม่มาเคาะประตูห้อง .... “ ตื่นหรือยังลูก หกโมงแล้ว “
ฉันหงุดหงิดมาก ...........
โธ่ !! แล้วทำไมแม่ไม่ปลุกหนูให้เร็วกว่านี้
เนี่ย..หนูไปทำงานไม่ทันแล้ว วันนี้..มีประชุมด้วย
“ แม่ทำข้าวต้มให้หนูอยู่ เมื่อคืนเห็นนอนดึก อยากให้กินอะไรร้อนๆหน่อย “ .........
แม่ไม่ต้องมาพูดเลย ไม่กง ไม่กินมันแล้ว
.....แม่จับแขนฉันเบาๆก่อนเดินออกจากห้อง
อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ ลงมาข้างล่าง แม่นั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว
“ กินข้าวต้มกับแม่ก่อนนะลูกนะ แม่รอหนูอยู่ “
หนูไม่กิน พูดโดยไม่มองหน้าแม่ เดินออกมาจากบ้านทันที
ถึงที่ทำงาน
“ไม่รู้หรืองัย ว่าวันนี้มีประชุม แล้วรายงานอยู่ไหน “
ยกมือไหว้ ..
ขอโทษค่ะพี่ ....รีบส่งรายงานให้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
“ พี่เลื่อนประชุมไปเป็น 10 โมงนะ
เดี๋ยวช่วยไปหาอะไร ให้พี่กินหน่อยสิ “
... ได้ค่ะพี่ ...
วิ่งเข้า ห้องครัว หยิบโจ๊กกึ่งสำเร็จรูป รีบ รีบ รีบ เติมน้ำร้อน ...
ว๊า !! น้ำร้อนลวกมือ ...
มาแล้วค่ะพี่ โจ๊กร้อนๆเลยค่ะ....
ออกจากห้อง ประชุมเกือบเที่ยง แม่โทรมาจากบ้าน
“ เมื่อเช้า.. หนูวางผ้าเช็ดหน้าไว้ตรงไหนลูก แม่หาในตะกร้าไม่เจอ จะเอาไปซักน่ะ “
หา ไม่เจอก็ไม่ต้องซักหรอก หนูจำไม่ได้
คงโยนไว้ที่ไหนน่ะ แหละ เมื่อเช้าหนูรีบ .......
“ ไม่เป็นไรลูก แล้วเย็นนี้..กลับกี่โมง มากินข้าวกับแม่นะ”
ยังไม่รู้หรอกแม่ ว่างานเสร็จเมื่อไหร่
ยัง งัย..แม่กินไปก่อนเลยแล้วกัน ไม่ต้องรอ .....
วางหูโทรศัพท์ ก้มหน้า ก้มตาทำงาน เอาใจเจ้านาย ....
“เอ!! พี่วางบัญชีรายชื่อลูกค้าทิ้งไว้แถวนี้มั่งรึเปล่า
ไม่รู้ไปลืมไว้ที่ ไหน หาไม่เจอ..
ไม่เป็นไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูช่วยหา
พี่ลงไปทานข้าว เถอะค่ะเที่ยงกว่าแล้วนะคะ
.... หา หา หา หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
โธ่..พี่ ขา ก็พี่มาทำหล่นไว้ใต้เก้าอี้ในห้องประชุมนี่นา
โอย !! เที่ยงครึ่งแล้ว ลงไปกินข้าวไม่ทันแน่ๆ
ไม่เป็นไร...บะหมี่ซักห่อพออิ่ม ก็แล้วกัน
....พี่คะ เจอแล้วนะคะ พี่ทำหล่นไว้ที่ห้องประชุมค่ะ
“ อ้าว..เหรอ “ รับเอกสารคืน ไม่มีแม้แต่ขอบใจสักคำ
แต่ฉันกลับปลื้ม ที่ทำให้เจ้านายพอใจได้ ใกล้เลิกงานแล้ว.. รีบกลับบ้านไปนอนดีกว่า
“ ช่วยแก้งานตรงนี้ให้พี่หน่อยนะ เสร็จแล้ววางไว้บนโต๊ะพี่เลย พี่กลับก่อนล่ะ
ว่าแต่ว่า เราน่ะมีธุระอะไรรึเปล่า คงต้องกลับช้านิดนึงนะวันนี้ “
... ยิ้มรับ.. ไม่มีธุระอะไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูพิมพ์ให้เลยค่ะ
โทรหาเจ้านายตอนเกือบทุ่ม ..
พี่ ขา หนูแก้ไข และตรวจทานเรียบร้อยแล้วค่ะ หนูวางไว้บนโต๊ะนะคะ

“กลับดึกจังลูก จะอาบน้ำก่อน หรือ กินข้าวก่อนล่ะ ?? “
.....เงียบไม่มีเสียงตอบ ไม่มีรอยยิ้ม ...
“ มา มา แม่ช่วย “ แม่รวบของจากมือฉันไปวางบนโต๊ะ ....
หนูเหนื่อยมากเลยแม่ หนูอยากพักผ่อน
กำลังจะเดิน ขึ้นห้อง ...

ฮัลโหล..สวัสดี ค่ะ..เจ้านายเหรอคะมีอะไรรึเปล่าคะ ... อ๋อ !! ไม่ยุ่งค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการให้เลยค่ะ
กุลี กุจอ เปิดคอมพิวเตอร์ ... เจ้านายคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ
แม่..หายไปไหน ในครัวไม่มี ห้องนอนไม่มี
. . . แม่นั่งอยู่หลังบ้านเหงา ๆ คนเดียว . . .

แม่แอบร้องไห้ ... เพราะฉันสินะ ฉันทำให้แม่ต้องร้องไห้
แม่..ดูแลฉันมาทั้งชีวิต
เป็นห่วงฉัน รักฉันมากกว่าใครๆ
แต่..ฉันตอบแทนได้สาสมเหลือเกิน
ฉันเริ่ม ทบทวน...
เจ้านายคนที่ให้เงิน เดือนฉัน กับ แม่คนที่ให้ความเป็นคนแก่ฉัน
เพื่อประจบสอพลอเจ้านาย
ฉันทำร้ายผู้ให้กำเนิด ได้เพียงนี้เลยหรือ..
แม่ ...
หนูขอโทษ
ใคร??? เคยเป็นแบบฉันบ้าง .......
...............................................................................

ใน ชั่วชีวิตของคุณ คุณอาจจะเปลี่ยนงานหลายๆ ครั้ง
คุณอาจจะมีเจ้านาย นับไม่ถ้วน
แต่ตลอดชีวิตของคุณ.....
คุณมีแม่มีเพียงคน เดียวครับ คนเดียวจริงๆ
ทำดีกับท่านไว้เถอะครับ
อย่าทำให้ท่านต้อง ร้องไห้เพราะการกระทำของคุณเลย....
คุณอาจจะรักท่านน้อยลง ทุกๆ วัน
แต่ ท่านไม่เคยรักคุณลดลงเลย ตรงกันข้าม
ท่านกลับรักและเป็น ห่วงคุณมากขึ้นทุกๆ วัน....


ขอ ให้คนที่ยังมีแม่อยู่ โปรดรู้ไว้ว่า
คุณน่ะ โชคดีที่ได้ดูแลแม่ตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่
ซึ่งบางคน อยากดูแลแม่มาก แต่ท่านได้จากไปแล้ว
แม่คือ...พ ร ะ ใ น บ้ า น

03 เมษายน 2553

เดินสายหลายแห่ง

วันนี้เดินสายตั้งแต่เช้าเลย
ทั้งเรื่อง joomla
ทั้งเรื่องถ่ายเอกสาร
ทั้งไปเลี่ยมไหลดำ ไหลเขียว (ป้าเล็กฝากมา)
ทั้งเรื่องหลวงพ่อขวัญดี วัดท่ามะปราง

เหนื่อยจริงๆ และร้อนมากๆ
แต่เหนื่อยแบบนี้ ดีกว่าเหนื่อยใจกับข่าวการเมือง

เฮ้อ ประชาธิปไตย (แต่ใส่เสื้อนักการเมือง)

02 เมษายน 2553

ข่าวสำนัก อ.หนู กันภัย

วันนี้ได้รับข่าวความคืบหน้าของการเตรียมงานไหว้ครู ประจำปี 2553 ของสำนักสักยันต์ อ.หนู กันภัย

ซึ่งเหล่าลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดได้ร่วมเตรียมงานกันด้วยความกตัญญูต่อ "พ่อ" และ "ครูบาอาจารย์" ... มาชมภาพกันนะครับ

[caption id="attachment_320" align="aligncenter" width="350" caption="โครงหลังคาที่สำนักเริ่มขึ้นโครงก่อนวันไหว้ครู"]โครงหลังคาที่สำนักเริ่มขึ้นโครงก่อนวันไหว้ครู[/caption]



[caption id="attachment_321" align="aligncenter" width="350" caption="โครงหลังคาที่สำนักเริ่มขึ้นโครงก่อนวันไหว้ครู"]โครงหลังคาที่สำนักเริ่มขึ้นโครงก่อนวันไหว้ครู[/caption]

[caption id="attachment_322" align="aligncenter" width="350" caption="แท่นที่นั้งสวดของพระเริ่มฉาบปูนแล้วให้ทันวันไหว้ครู"]โครงหลังคาที่สำนักเริ่มขึ้นโครงก่อนวันไหว้ครู[/caption]

[caption id="attachment_323" align="aligncenter" width="350" caption="โครงหลังคาที่สำนักเริ่มขึ้นโครงก่อนวันไหว้ครู"]โครงหลังคาที่สำนักเริ่มขึ้นโครงก่อนวันไหว้ครู[/caption]

[caption id="attachment_324" align="aligncenter" width="350" caption="เริ่มติดธงแล้วหลังงานคงมีผ้ายันต์ดีให้ลูกศิษย์อีกเยอะ"]เริ่มติดธงแล้วหลังงานคงมีผ้ายันต์ดีให้ลูกศิษย์อีกเยอะ[/caption]

[caption id="attachment_326" align="aligncenter" width="350" caption="เริ่มติดธงแล้วหลังงานคงมีผ้ายันต์ดีให้ลูกศิษย์อีกเยอะ"]เริ่มติดธงแล้วหลังงานคงมีผ้ายันต์ดีให้ลูกศิษย์อีกเยอะ[/caption]

[caption id="attachment_325" align="aligncenter" width="178" caption="หนู กันภัย ศึกมหายันต์ ยิงกันสนั่นจอ"]หนู กันภัย ศึกมหายันต์ ยิงกันสนั่นจอ[/caption]

[caption id="attachment_319" align="aligncenter" width="350" caption="เสี่ยพูลร้องเพลงให้พ่อและพวกลูกศิษย์ฟังก่อนทานข้าวกับพ่อ น่าจะดังแน่ๆเพราะเสียงดีและเนื้อเพลงทำนองดีมาก"]เสี่ยพูลร้องเพลงให้พ่อและพวกลูกศิษย์ฟังก่อนทานข้าวกับพ่อ น่าจะดังแน่ๆเพราะเสียงดีและเนื้อเพลงทำนองดีมาก[/caption]

01 เมษายน 2553

เย้ๆๆๆ ปิดเทอมซะที

หลังจากที่รอคอยมานาน
และเมื่อวานก็ขี่รอจักรยานยนต์กลับมาจากไทรงาม กำแพงเพชร มาพิษณุโลก เหนื่อยมาก ขนาด บ่ายสามกว่ายังร้อนมากๆเลย

และแล้ว วันนี้ก็ได้นอนเต็มอิ่ม
หลับเต็มตื่น

โอยยยย สุดยอดดดดด

ตอนเปิดเทอมต้องไปโรงเรียนแต่เช้า
ตื่นมาเตรียมตัว
แต่พอไปถึงโรงเรียน
ไหนจะนักเรียนไม่ตั้งใจเรียน
ไหนจะการทำงานห่วยๆของใครบางคน (ที่พยายามมองหาข้อดีของเค้าแล้วยากเย็นเสียจริงๆๆๆๆๆๆ เฮ้อ)

เอาเถอะ วันนี้ก็หายเหนื่อยแล้ว
ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ