25 มกราคม 2555

วิทยากร เตรียมความพร้อมสู่อาชีพ Job fairs

   วันนี้ ได้ไปรับใช้สถาบันอันเป็นที่รักอีกครั้งหนึ่ง (ตามหนังสือที่ ศธ 0538/ว 47 ลงวันที่ 11 มกราคม 2555 มหาวิทยาัลัยราชภัฏพิบูลสงคราม)
 
   วันนี้หัวข้อเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมสู่อาชีพของนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ซึ่งต้องเตรียมตัวก่อนออกไปฝึกประสบการณ์ (ฝึกงาน) โดยทางคณะผู้จัดงาน ได้เชิญฝ่ายบุคลากรของบริษัท topland และเชิญรุ่นพี่มาพูดคุยให้น้องๆฟัง

   มาชมภาพบรรยากาศวันนี้กันนะครับ

น้องเอิ๊บ จนท.สำนักวิจัย ช่างภาพ

จับกลุ่มคุยกันใหญ่เลย

ท่าน ผอ. กองกิจการนักศึกษา กับ พี่จรัญ ช่างภาพมือหนึ่งของพิบูลสงคราม

ท่านอธิการบดี จุดธูปเทียน

ทุกคนร่วมร้องเพลงสรรเสริญบารมี


ท่าน ผอ. กล่าวรายงาน

ท่านอธิการให้โอวาท "เรื่องอิฐ"


น้องๆที่มาร่วมกิจกรรม

ประธานในพิธีตัดริบบิ้นเปิดงาน

พี่น้อง คนสวย แม่งานในกิจกรรมนี้

ฝ่ายบุคลากร ของ บ. topland

แต่ละคน...

ถึงคิ้วขึ้นโม้ เอ้ย !! พูดคุยประสบการณ์


จากเด็กกิจกรรม สู่หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น

อ่านสคริปที่เตรียมมาละจ้า

สองสาวคนสวย เจ้าของธุรกิจส่วนตัว และสื่อสารมวลชนชื่อดังของพิษณุโลก

เจ้าเนี่ย.. ครูบ้านนอก

เพิ่มคำอธิบายภาพ

ต่างคน ต่างสาขาอาชีพ ต่างมุมมอง แต่ก็รักสถาบันเหมือนกัน

   ส่วนตัวผมเชื่อว่า ความรักที่มีต่อสถาบันอันเป็นที่รัก ย่อมทำให้เรามีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และอย่างที่ผมเคยพูดทุกครั้ง หากมีอะไรที่ทางพิบูลสงครามต้องการให้ผมรับใช้ ขอให้บอก หากทำได้ ก็ยินดี และจะทำจนสุดกำลัง ...
   ... ไม่มีพิบูลสงคราม ไม่มีเรา

   กราบขอบพระคุณท่านอธิการบดี ที่ยังจำลูกศิษย์คนนี้ได้ทุกครั้ง
   กราบขอบพระคุณ ทางรองอธิการบดี ที่ให้โอกาสบอกเล่าประสบการณ์ให้รุ่นน้อง
   กราบขอบพระคุณ พี่น้อง พี่อาร์ม พี่เจี๊ยบ พี่กิ๊ก และพี่ๆ น้องๆ ทุกคนของกองกิจฯ ที่ดูแลประหนึ่งดาราค่าตัวแพง 555
   กราบขอบพระคุณพี่จรัญ พี่ไก่ งานประชาสัมพันธ์ ที่แนะนำความรู้ดีๆเพิ่มเติม
   ขอบคุณน้องๆปี 3 พิบูลสงครามทุกคน ที่ทำตัวน่ารัก

   ความก้าวหน้าเป็นของทุกคน วางแผนดี อนาคตดี







...............................

23 มกราคม 2555

ทดสอบ pre o-net

   วันนี้ ทางโรงเรียนวัดยางแขวนอู่ได้ทำการทดสอบ Pre o-Net ซึ่งเป็นการทดสอบให้นักเรียนคุ้นเคยกับลักษณะของการสอบ และการระบายลงบนข้อสอบ

   วันนี้ มีข้อผิดพลาดมากมาย

   ซึ่งตามวิสัยเรา ก็เป็นข้อผิดพลาดของตัวเราเอง

   อย่าได้ไปโทษคนอื่นๆ เพราะถ้ามัวเพ่งโทษคนอื่นๆ ก็จะเท่ากับว่า เราดูถูกตัวเราเอา ในเมื่อเราไม่ได้ยืนจุดนั้นเหมือนเขา ไม่ได้ทำงานเหมือนเค้า ไม่ได้มีภาระหน้าที่เท่าเค้า ก็อย่าได้ตัดสินและคิดว่าเค้าทำผิด จงมองว่า "เราหละ ทำได้เท่าเค้าหรือเปล่า"

   เหนื่อย...

   เหนื่อยมากๆ กับภาระงานที่ครอบคลุมทุกงาน

   เพื่อชาติ และราชบังลังค์ รวมถึงเด็กๆของเรา





...............................

22 มกราคม 2555

เตรียมสื่อวิทยากรการสร้าง blog และ sites สำหรับนักศึกษา

   หลังจากที่วันเสาร์ต้องไปสอนชดเชยน้ำท่วม

   วันอาทิตย์วันนี้ ก็ต้องมานั่งทำงานเตรียมสื่อ เนื้อหาสำหรับหลักสูตรอบรมนักศึกษาโปรแกรมวิชาบรรณารักษ์ ที่วางไว้ว่า ต้องอบรมช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้

   สำหรับการอบรมครั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายเป็นนักศึกษา ที่น่าจะใช้เครือข่ายได้ไวกว่า และสามารถไปได้เร็วกว่ากลุ่มอื่นๆที่ผ่านมา

   เนื้อหาอาจจะไม่ยากมาก แต่เน้นจากประสบการณ์ที่ผ่านมา และการนำไปประยุกตให้มากกว่า

   ติดตาม และให้กำลังใจครูแชมป์ ด้วยนะครับ






...............................

16 มกราคม 2555

กิจกรรมวันครู สพป.พิษณุโลก เขต 1 และหนึ่งแสนครูดี

   วันที่ 16 มกราคม ใครๆก็ทราบดีว่าเป็นวันครู

   วันนี้ หลายคนย่อมระลึกถึงครู ทั้งที่เคยได้รับความโอบอุ้ม ดูแล สั่งสอน และการถูกกำหลาบปราบพยศจากครู

   ผมเองได้ดีทุกวันนี้เพราะมีครู...

   คุณเชื่อไหม ก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยคิดที่จะทำอาชีพครู ถ้าจะให้ถูกต้องพูดว่า "รังเกียจ"

   ทำไมผมถึงใช้คำนี้...  พ่อกับแม่ของผมเป็นครูทั้งคู่ ท่านเริ่มต้นด้วยเงินเิดือนพันกว่าบาท ผมยังจำความรู้สึกของการที่ต้องซื้อข้าวทีละลิตรมาแบ่งหุงกินได้ดี นอกจากเงินเดือนจะน้อยแล้ว ยังต้องเอางานมาทำที่บ้าน ต้องมานั่งเขียนแผน ทำแผ่นใส ทำสื่อการสอน ทำกระดาษสำหรับโรเนียว ถ้าโชคไม่ดี ก็มีปัญหากับผู้บริหารอีก

   รู้สึกเซ็งจริงๆ  นี่หรือ อาชีพที่มีเกียรติ

ยังไม่จบ อ่านต่อฉบับสมบูรณ์ได้ที่นี่
http://www.seal2thai.org/sara/sara241.htm









...............................

15 มกราคม 2555

ครูคือใคร

   เมื่อพูดถึงคำนี้แล้ว หลายๆคนอาจจะนึกถึงบทกวีของอาจารย์เนาวรัตน์  พงษ์ไพบูลย์ ซึ่งได้กล่าวถึงพระคุณครูได้อย่างลึกซึ้ง

   หลายคนอาจกำลังางแผนเดินทางไปไหว้ครูในวันพรุ่งนี้ บางคนอาจใช้วิธีโทรศัพท์ หรือส่งข้อความไปให้ท่านรับทราบว่า ก็มีลูกศิษย์ระลึกถึงอยู่

   หลายคนตอนที่เรียนอาจตะไม่เข้าใจว่า ทำไม ครูถึงได้ลงโทษ

   จะมารู้เอาเมื่อโตแล้ว และบางคน มีลูกมีหลานั่นแหละ ถึงได้นึกถึงพ่อแม่ นึกถึงครู

    มารำลึกถึงพระคุณครูกันนะครับ

10 มกราคม 2555

เอกสารหลักฐานการศึกษา (ปพ.)

   เอกสารหลักฐานการศึกษา (ปพ.) เป็นหลักฐานที่ใช้บันทึกผลการเรียน ผลสัมฤทธิ์ ฯลฯ ของนักเรียนในด้านต่างๆ โดยมีผู้รู้แนะนำว่า "เป็นเช่นเดียวกับหลักสูตร 44"

     ตามที่เคยได้นำมาลงไว้ที่ http://seal2thai.blogspot.com/2009/06/blog-post_13.html แล้วนั้น ครูแชมป์ขอเพิ่มเติมนะครับ ว่าแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

     1 เอกสารหลักฐานที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด
        1.1 ปพ. 1 ระเบียนแสดงผลการเรียน (ประเมินผลการเรียน การอ่านคิดวิเคราะห์เขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์) โดยออกให้ระดับประถมศึกษา ภาคบังคับ และขั้นพื้นฐาน (มี 3 แบบ)
        1.2 ปพ.2 ประกาศนียบัตร (มี 2 แบบ)
        1.3 ปพ. 3 แบบรายงานผู้สำเร็จทางการศึกษา (มี 3 แบบ)

     2. เอกสารหลักฐานที่สถานศึกษากำหนด (ปพ. 4 - 8) จัดทำขึ้นตามวัตถุประสงค์ บางแห่ง ก็ใช้ชื่อย่อของโรงเรียน มาแทนคำว่า ปพ. เช่น ยย. 5 เป็นต้น

07 มกราคม 2555

ภาวะเลือดกำเดาไหล

พอเช็คเมล์เสร็จ ก็ได้อ่านข้อความดีๆ ผ่านเว็บ MSN เลยเอามาฝากครับ

ภาวะเลือดกำเดาไหล

จำได้ว่าเมื่อสมัยยังเป็นเด็กนั้น หากวันไหนไปซุกซนในวันที่แสงแดดแผดเผาแรงกล้าล่ะก็ เป็นได้เลือดออกจมูกทุกครั้งไป

ภาวะเลือดกำเดาไหล

และเมื่อเห็นอย่างนี้ทีไรก็อดไม่ได้ที่จะเกิดอาการกลัว พาลจะอาเจียนวิงเวียนเอาได้ง่ายๆ ด้วยความที่เรายังเด็ก แต่ผู้ใหญ่ก็มักจะบอกว่าไม่ต้องตกใจไป ให้เงยหน้าขึ้นสูงๆ สักพักเลือดที่กำลังไหลพลั่กๆ เหล่านั้นก็หยุดไหลไปซะดื้อๆ

เลือดกำเดาคืออะไร?

ตาม ที่เราเข้าใจและรับรู้มานั้นนั้น เลือดกำเดาคือเลือดที่ไหลออกมาจากโพรงจมูก หรือบริเวณหลังจมูก แต่รายละเอียดที่มากกว่านั้นแต่เราอาจทราบไม่หมดก็คือ เลือดที่ไหลออกมา 95 เปอร์เซ็นต์ ตำแหน่งที่เลือดไหลออกมาจะอยู่ที่เยื่อบุจมูกส่วนหน้าของผนังกั้นกลางจมูก ทั้งสองข้างที่อยู่ใกล้ๆ ปลายจมูก โดยส่วนมากเลือดกำเดาเกิดจากการแตกของเส้นเลือดฝอยเล็กๆ ในเยื่อบุจมูก ซึ่งพบมากในเด็กเล็กและไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด แต่ในขณะเดียวกัน สำหรับผู้ใหญ่แล้ว เลือดกำเดาที่เกิดจากสาเหตุบางประการอย่างเส้นเลือดใหญ่แตก เป็นเนื้องอก หรือมะเร็งในจมูก เหล่านี้ล้วนเป็นอันตรายทั้งสิ้น

ความเข้าใจทั่วไปเกี่ยวกับเลือดกำเดา

สำหรับ อาการของเลือดกำเดาไหลนั้น เรามักจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นได้เฉพาะกับเด็กๆ หรือผู้ที่กำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่นเท่านั้น เนื่องจากเด็กๆ จะมีผนังเยื่อบุจมูกที่บางกว่าผู้ใหญ่ ดังนั้นเมื่ออยู่กลางแจ้งท่ามกลางแดดที่ร้อนเปรี้ยงนานๆ อุณหภูมิที่ร่างกายก็จะสูงขึ้น ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยเล็กๆ ที่อยู่ในโพรงจมูกเกิดการฉีกขาดและเกิดอาการเลือดกำเดาไหล และอีกสาเหตุคือเด็กๆ มักจะซุกซน ถ้าไม่วิ่งชนนู่นนี่ก็หกล้ม หรือบางทีก็ชอบงัดแงะแกะเกาในจมูกของตัวเอง ซึ่งก็ทำให้เลือดกำเดาไหลได้เช่นกัน แต่นั่นคือความเข้าใจที่ถูกเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะภาวะเลือดกำเดาไหลนั้นเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ใหญ่หรือคนชรา

สาเหตุหลักของที่มาแห่งการเกิดเลือดกำเดา

นอกจากอาการที่เกิดขึ้นกับเด็กๆ ดังที่ได้กล่าวไปในข้างต้นแล้ว เลือดกำเดายังสามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุต่างๆ ดังต่อไป

- อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยตรงบริเวณศีรษะและใบหน้าจนทำให้เกิดการกระทบ กระเทือนต่อเยื่อโพรงจมูก รวมทั้งการผ่าตัดบริเวณโพรงจมูกและไซนัส เหล่านี้ล้วนส่งผลให้เส้นเลือดฉีกขาดจนทำให้เลือดกำเดาไหลได้ทั้งสิ้น

- ผู้ป่วยที่มีอาการหวัดเรื้อรัง หรือเป็นโรคภูมิแพ้ทางจมูกที่อาจไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม

- เกิดอาการอักเสบและติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นโพรงจมูกอักเสบ หรือไซนัสอักเสบ ซึ่งหากเป็นประการหลังผู้ป่วยจะมีอาการคัดจมูกจนหายใจไม่สะดวก มีเสมหะไหลลงคอ จนถึงมีอาการไข้ปวดศีรษะ และปวดบริเวณที่ไซนัสอักเสบ

- มีอาการของโรคริดสีดวงจมูก ซึ่งจะมีเลือดกำเดาไหลแบบเป็นๆ หายๆ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศยังเป็นตัวกระตุ้นให้เลือดกำเดาไหลมาก หรือน้อยอีกด้วย

- เป็นมะเร็งที่โพรงจมูก มะเร็งที่ไซนัส และมะเร็งที่บริเวณกระโหลกศีรษะ

- ผู้ป่วยที่มักจะรับประทานยาบางประเภทอยู่เป็นประจำ เช่น ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน หรือยาละลายลิ่มเลือด ซึ่งยาเหล่านี้มักจะทำให้เลือดไหลง่ายกว่าปกติ

- ผู้ที่มีภาวะขาดวิตามินซี และวิตามินเค เป็นต้น

- ผู้ที่อยู่ในที่ที่มีอากาศที่เย็น แห้งและมีความชื้นต่ำเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้เยื่อจมูกแห้งและเปราะ

- ผู้ที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง จะพบได้บ่อยๆ ในวัยกลางคนหรือผู้สูงอายุ รวมทั้งครอบครัวที่มีกรรมพันธุ์เป็นโรคความดันโลหิตสูงซึ่งจะมีโอกาสเป็นโรค นี้สูงกว่าคนทั่วไป ซึ่งในกรณีนี้อาจเรียกได้ว่าภาวะกำเดาไหลนั้นเป็นสัญญาณบอกเหตุถึงโรคที่ อยู่เบื้องหลังนั่นเอง

- ผู้ที่มีเลือดออกง่าย หรือผู้ที่เป็นโรคเลือดไหลไม่ยอมหยุด ซึ่งแสดงถึงความผิดปกติของเกล็ดเลือด หรือกลไกการแข็งตัวของเลือด จึงทำให้เลือดกำเดาไหลได้ง่าย

ภาวะ เลือดกำเดาไหลนั้น ถึงแม้ว่าบางชนิดอาจจะไม่เป็นอันตรายร้ายแรง แต่ก็อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นภาวะซีดหรือความดันโลหิตต่ำ และหากพบว่าเลือดไหลออกมาไม่หยุดหรือมีมากกว่าปกติล่ะก็ ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดทันที เพราะไม่แน่ว่าสิ่งที่เราคิดว่าเป็นแค่เรื่องเล็กๆ อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญโดยไม่รู้ตัว

ลิขสิทธิ์บทความของ e-magazine.info

ติดตามบทความ สุขภาพ หรืออ่าน แมกกาซีน

ที่มาข้อมูล : www.e-magazine.info

ขอบคุณที่ติดตาม ปัญทึกของครูบ้านนอก นะครับ

06 มกราคม 2555

จัดของบริจาคให้เด็ก งานง่าย ที่เหนื่อยมาก

     ใครว่า การจัดของบริจาคให้เป็นชุดๆ เป็นเรื่องง่าย

     มันเป็นเรื่องที่เหนื่อย และต้องใช้เวลา แถมด้วย การบริหารจัดการที่เป็นระบบมากๆ

     วันนี้ ทางโรงเรียนได้รับการบริจาคของที่ทำบุญปีใหม่ของโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม โดยของที่ได้มามีจำนวน สิบกว่ากระสอบ และถุงเล็กๆที่บรรจุของมาแทบปริ

     ปัญหาก็คือ วันนี้ นักเรียนมัธยมต้นเกือบทั้งหมด ไปร่วมกิจกรรมที่วัดหนองพยอม เหลือมารอทำงานกับผมเพียง 3 คน

     ทั้งครู และนักเรียนมัธยม 3 คน และนักเรียนชั้น ป.4 อีก 5 คน ร่วมกับแม่ครัวของโรงเรียน ร่วมกันเท คัด แยก จัด แล้วนำมาทำเป็นชุดๆ แบ่งให้นักเรียนเท่าๆกัน

     แค่ร้อยกว่าชุด เล่นเอาทำตั้งแต่เก้าโมงเช้าหน่อยๆ ไปถึงบ่ายสาม ....

     ทั้งหมดแรง ทั้งหิวเลยหละครับ

     ต้องขออนุโมทนาบุญกับทางโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ที่ร่วมทำบุญแบ่งปันรอยยิ้มให้กับโรงเรียนบ้านนอกที่ชื่อ "วัดยางแขวนอู่นะครับ"

     ...สาธุ

05 มกราคม 2555

กลอนธรรม จาก facebook

     อย่าตัดสิน...กันเพียง...รูปภายนอก
มันบ่งบอก...นิสัย...กันไม่ได้
อันรูปชั่ว...ตัวดำ...อาจน้ำใจ
บริสุทธิ์...สดใส...ยิ่งกว่าทอง

     ... อย่าเชื่อคน...เขาบอก...ว่าควรคบ
จงทวนทบ...เหตุผล...ด้วยสมอง
มองด้วยตา...เพ่งด้วยใจ...ถึงครรลอง
ว่าสมควร...เกี่ยวดอง...หรือหมางเมิน

     อันคนเรา...มีหลากหลาย...ให้ค้นหา
ไม่มีใคร...เลิศค่า...หรือตื้นเขิน
คนเรานั้น...มีดีชั่ว...เป็นแนวเนิน
อย่าประเมิน...คิดหมิ่น...จงเมตตา.

04 มกราคม 2555

ปีแห่งความสุข (มั้ง) 555

     สวัสดี ปี พ.ศ. 2555

     ปีที่ใครๆก็ต่างพูดกันว่า ปีแห่งความสุข เพราะ พ.ศ. ลงท้ายด้วยเสียงหัวเราะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

     หลายคน มีความสุขกับการก้าวเข้าสู่ปีใหม่ด้วยการสังสรรค์ แต่อีกกลุ่ม ก็เลือกที่จะทำบุญ ไหว้พระ สวดมนต์ ซึ่งก็เป็นมุมของวัฒนธรรมที่หายไปหลายปีเลยที่เดียว (อ.แม่สุรีย์ บอก)

     ยังไง ก็ขอให้ทุกๆท่าน มีความสุข และร่วมกันสร้างความดีไปเรื่อยๆนะครับ

03 มกราคม 2555

สุดท้าย.. ก็ต้องไป "ทะเล" ความหลังฝังใจของสายกลาง

     หลายคน ย่อมมีความหลังไม่เหมือนกัน

     ... แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ เมื่อต้องการจะลืม มันกลับจำ (และจำมากขึ้นด้วย)

     เพราะอาการย้ำคิดย้ำทำ มักเกิดกับคนที่ผิดหวังจากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และเค้าพยายามหลอกตัวเองให้พยายามลืม ..โดยเฉพาะ คนที่เคยรัก

     บางครั้ง เราอาจมีรักครั้งใหม่ แต่น่าแปลก ที่เรายังลืมรักครั้งก่อนไม่ได้

     ภาพความทรงจำที่ดียังคงมีต่อกันตลอดเวลา


     เวลาเราต้องการลืมความทุกข์... เราอาจนำไปทิ้งที่ทะเล
     ... แต่เราคงลืมไปว่า แม้จะโยนอดีตไปไกลแค่ไหน คลื่นของทะเลก็ตีความทรงจำเหล่านั้นกลับมาหาเราอยู่ดี

     ขอบคุณสายกลาง และค่ายเมคอินเชียงใหม่ ที่ผลิต MV สวยๆ เพลงเพราะๆ โดยเฉพาะนางเอกที่เป็นน้องนักศึกษาเทคโนตีนดอย (สายกลางชอบนักแล นักศึกษาเนี่ย!!!) ที่ทำให้ภาพแห่งความทรงจำของใครโดดเด่นขึ้นมาอีกครั้ง (ข่าวว่า งานนี้สายกลางขอเล่น MV เอง ทังทีที่เห็นน้องเค้า บ๊ระ อาการออก)

     ลืมบอกไป ใน MV มีพฤติกรรมที่แก้ไม่หายของสายกลางด้วย ลองดูกันเอาเองนะครับ ว่าเป็นพฤติกรรมอะไร

    ขอบคุณสายกลางล่วงหน้า สำหรับ CD แผ่นที่ 8 พร้อมลายเซ็นต์ และเครา 3 เส้น ที่ลงทุนถอนให้ด้วยน้ำตา...

   .... ขอบคุณ เพื่อนรัก

01 มกราคม 2555

สวัสดีปีใหม่ 2555

วันเดินหน้า เดือนเดินหน้า ปีเดินหน้า
จึงกล่าวว่า สวัสดี ขึ้นปีใหม่
ขอให้ท่าน ทุกคน จงสุขใจ
เพื่อก้าวรับ วันใหม่ สุขใจเอย...


...........สุขสันต์วันขึ้นปีใหม่นะครับ /ครูแชมป์ www.seal2thai.org

31 ธันวาคม 2554

หน้าที่ครู หนึ่งปีที่ผ่านมา...

หน้าที่ของครู กับหนึ่งปีที่ผ่านไป
    
 ผมคงเป็นมนุษย์ที่แปลกอีกคนหนึ่ง ที่ยังมีเวลาเขียนเว็บในวันหยุดขึ้นปีใหม่อย่างนี้ ในขณะที่หลายคนต่างก็กลับบ้าน หรือไปพักผ่อนกับครอบครัว จริงๆแล้ว มันไม่มีอะไรมากมายในวันที่ 31 ธันวาคม 2554 ซึ่งผมก็ได้มองว่ามันเป็นวันธรรมดาอีกวันหนึ่ง จนกระทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ได้ทำให้ผมได้มองมันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่แตกต่างไปจากเดิม

     ผมไม่ได้กลับบ้านที่แพร่ ที่ไม่ได้กลับเพราะมันมีสาเหตุ ก่อนหน้านี้ตอนที่บรรจุรับราชการอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชร ทางโรงเรียนมักจะจัดกิจกรรมในวันที่ 31 ธ.ค. หรือไม่ก็วันที่ ม.ค. ของทุกปี เพื่อหารายได้มาพัฒนาโรงเรียน ช่วงนั้นไม่เคยได้กลับบ้านเกิดเลย จนกระทั้งในปี 54 ผมได้มีโอกาสกลับไปกราบพระอาจารย์ ไหว้พ่อแม่ ได้พบปะเพื่อนฝูงสมัยมัธยมที่ไม่ได้เจอกันมาร่วมสิบปี

     แต่ปีนี้ ผมกลับไม่ได้กลับบ้าน เพราะแผนการณ์ชีวิตทีได้วางไว้เป็นตัวกำหนด บีบให้ผมอยู่ทำงานคนเดียวที่พิษณุโลก

     ผมวางแผนที่จะส่งประกวดผลงานครูดีเด่น

    ที่ต้องการประกวดนั้น ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายว่า ต้องการอวดตัวว่าเหนือคนอื่นๆ เพียงแต่ต้องการให้เด็กนักเรียนได้เห็นถึงผลของการที่ตั้งใจทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ผลของมันมักหอมหวานเสมอ...
    ...แต่ปีนี้ไม่ใช่

อ่านต่อฉบับสมบูรณ์ที่ http://www.seal2thai.org/sara/sara240.htm 

30 ธันวาคม 2554

กิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ของโรงเรียนบ้านนอก

     ในที่สุด วันสุดท้ายของปีก็มาถึง
     ... และผม ก็ต้องทำงานถึงนาทีสุดท้าย

     วันนี้ ไปถึงโรงเรียนสายหน่อย และต้องรีบรวบรวมข้อมูลแบบบันทึการเยี่ยมบ้านของคณะครู เพื่อสรุปเป็นรายงานส่งเขตฯ

      ... ในขณะที่นักเรียนนั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย เราต้องนั่งรวมข้อมูล โดยมีพนักงานปิ้งลูกชิ้นป้อน (ต้องขอบคุณพี่ตา พี่ปอ และนักเรียนชั้น ป.6 ที่นั่งดูหนังเรื่องเหลือแหล่ และปิ้งลูกชิ้นป้อนเข้าโรงงาน 555)

     กว่าจะได้ไปถ่ายรูป นักเรียนก็ล้างหม้อ ล้างกระทะ กันแล้ว



ล้างกันละ ... ครูยังไม่ได้กินเลย !!!

อันนี้เพิ่งเริ่มรอบสอง (หลังจากไฟดับ) ม.1

ม.2 ทำลายหลักฐาน

หลักฐานชิ้นใหญ่

หม้อไหม้

ป้าสุกรี

ของขวัญที่ นร. นำมาจับฉลาก

ครูแชมป์ทำเนียน ขโมยโดราเอม่อน

ครูสุกรี กำลังบอกกติกาก่อนจับสลาก

ได้ไปแล้ว รายแรก

เริ่มลุ้น และวุ่นวาย...


มีคนบอก ในรูป มีหมี 2 ตัว... *0*

พี่สองคน เค้าร้องเพราะครับ  เพราะ....จริงๆ

นักเรียนร่วมร้องเพลงสวัสดีปีใหม่


มอบรางวัล ให้นักเรียนที่เหยียบลูกโป่งชนะ


พบกันปีหน้า 2555

ของดีจากคนไกล (ขอบพระคุณ พี่ กฤติวัชร สาริวาท)
ได้มาสดๆร้อนๆ เมื่อครูเลยครับ พระกริ่ง ส.ว. ปี 34




...............................

29 ธันวาคม 2554

ประชุมผู้ปกครองนักเรียน และเยี่ยมบ้านนักเรียน 2/54

     วันนี้ ทางโรงเรียนวัดยางแขวนอู่ ได้จัดกิจกรรมการประชุมผู้ปกครองนักเรียน ประจำภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 โดยมีผู้ปกครองเข้าร่วมประชุมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

     วันนี้เป็นวันที่ทั้งผู้ปกครอง และนักเรียนมีสีหน้าที่คล้ายกัน แต่จะต่างกันตรงที่ นักเรียนดูซีดกว่า

     หลายคนพอรู้ว่าจะประชุมผู้ปกครอง ก็เร่งทำงานกันใหญ่ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ด่าก็แล้ว ตีก็แล้ว ใช้จิตวิทยาก็แล้ว สุดท้าย เอาไปให้ผู้ปกครองดูนี่แหละ สุดๆละครับ

     แถม ยังก่อนวันปีใหม่ด้วย... (เด็กๆจะได้ไม่ต้องไปฉลองที่ไหน เพราะอันตรายมาก รถเยอะ)

     ช่วงบ่าย มีการเยี่ยมบ้านนักเรียน และเตรียมการสอบ o-net

     เหนื่อยจังครับ ชีวิตครู...





...............................

25 ธันวาคม 2554

พูดไม่จริง...เพื่อพ่อ

     วันนี้ ผมได้ยินเรื่องสนุกๆและมีข้อคิดจากเพื่อน ว่าอาจารย์ท่านหนึ่งที่ผมเคารพนับถือ ท่านได้เล่าให้เขาฟังว่า พ่อของท่านเป็นโรคอัลไซเมอร์ ไม่ชอบที่จะอาบน้ำ

     เพราะอาการของโรคนี้แหละ ที่เป็นสาเหตุที่อาจารย์ ต้องพูดไม่จริง

     คือคุณพ่อของอาจารย์ท่านเคยเป็นครูใหญ่ สุขภาพท่านยังแข็งแรงอยู่ แต่สมองส่วนความจำได้เสียหายไป แพทย์สันนิษฐานว่า คงมีความเครียดความกดดันอะไรบ้างอย่างที่มากตั้งแต่ตอนที่ยังทำงานอยู่ เลยส่งผลเสียให้ตอนแก่ตัว

     ยิ่งอากาศหนาวๆแบบนี้ คุณพ่อของอาจารย์ ยิ่งไม่อาบใหญ่

     ขนาดให้หมอขู่ หมอหลอก ก็ยังไม่กลัว

     สุดท้าย อาจารย์ท่านต้องเลยใช้แผนสุดท้าย ท่านเล่าให้ฟังว่า
     "ครูนะ ต้องบอกพ่อว่า เมื่อกี้เค้าประกาศให้ข้าราชการบำนาญ อาบน้ำ เตรียมการตรวจจากท่านนายอำเภอ" (สมัยก่อน ครูอยู่ใต้การปกครองของกรมการปกครอง) เท่านั้นแหละ คุณพ่อของอาจารย์ ท่านก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัว

     "ครูไม่รู้ว่าจะบาปหรือเปล่านะ แต่ก็ใช้ได้ผลทุกครั้ง"

     ตอนแก่ไป ผมจะเป็นอัลไซเมอร์เหมือนคุณพ่อของอาจารย์ไหมเนี่ย.......




...............................

24 ธันวาคม 2554

ปิดกิจกรรมค่ายธรรมะร้อยดวงใจ

     วันนี้ เป็นวันสุดท้ายของการเข้าค่ายกิจกรรมธรรมะร้อยดวงใจ ผมลงไปปลุกเด็กๆตั้งแต่ตีสามครึ่ง ทั้งหมดนอนกอดกัน ทั้งๆที่ตอนสามทุ่มยังแยกย้ายกันนอน เป็นเพราะอากาศหนาว จึงทำให้เกิดความสามัคคีขึ้น (กอดกันกลมเลย)

     ส่วนห้องนักเรียนหญิง ครูสว่าง กับครูนรัตน์ ยังไม่มีวี่แววว่าจะเปิดไฟ (สงสัยนักเรียนหญิงคงเพลียมาก เพราะได้ยินเสียงนอนคุยกันจนดึก)

    ในตอนเข้าของวันนี้ มีผู้ปกครองมาร่วมทำบุญวันพระ และร่วมกันสวดมนต์กับเด็ก เมื่อรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว จึงได้จัดเตรียมกิจกรรมลาศีล 8 และลากรรมฐาน จากนั้นก็รับวุฒิบัติการอบรม ซึ่งหลายคนก็อิจฉาครูแชมป์ซึ่งได้แบบพิเศษ (มากๆ) จากท่านพระครู

     อิ่มบุญ อิ่มใจ ครับ ที่ได้ทำอีกหนึ่งหน้าที่ึีครู




...............................

23 ธันวาคม 2554

เมื่อความรับผิดชอบ ต้องทำให้จับปลาสองมือ

     ใครๆก็บอกว่า การจับปลาสองมือไม่ดี
     แต่(ผม) คิดว่า ถ้าจับมือเดียว ปลาก็หลุดนะสิ 555

     จริงแล้ว วันนี้ มีเรื่องที่เราได้มีโอกาสสอนเด็กให้เห็นสัจธรรม ซึ่งก็เป็นโอกาสที่เด็กได้เรียนรู้ธรรมะนอกค่ายอีกด้วย (โครงการธรรมะร้อยดวงใจ)

     เด็กๆที่ได้จับปลาสองมือวันนี้  มีหน้าที่เป็นตัวแทนของกลุ่มโรงเรียนบางระกำ - ท่านางงาม ไปแข่งขันเปตองหญิง อายุไม่เกิน 15 ปี

    ทั้งสี่คน ซ้อมเล่นที่หน้าอาคารรอท่านผู้อำนวยการไปส่งที่สนามแข่งขันด้วยอาการที่อ่อนเพลีย เพราะนอนดึกและต้องตื่นตั้งแต่ตีสามกว่าเพื่อไปทำวัตรเช้า...  แถมอาหารเช้าคือข้าวต้มอีก

     ผมการแข่งขัน ได้รองชนะเลิศอันดับสอง แพ้แบบอ่อนเพลีย เพราะมีอาการเบลอๆ แถมตัวสำรองยังนอนหลับข้างสนามเลย (เสียดาย ถ่ายรูปไม่ทัน)

    ท่าน ผอ. ปลอบใจด้วยการพาไปเลี้ยงข้าวกลางวัน (ไม่รู้เลยเพลหรือเปล่า) แล้วก็กลับเขา้มาสู่โหมดของการเข้าค่ายปฏิบัติธรรม

    ทางพระอาจารย์วิทยากรได้ดำเนินการตามหลักสูตร และได้จุดดวงเทียนเพื่อรวมดวงจิตอธิษฐานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วก็ดำเนินกิจกรรมเจริญสติต่อ


    ครูแชมป์ได้เตรียมรหัสลับสามชุด และได้นำไปวางหน้าเมรุ เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ในการจัดการนักเรียนที่ไม่ยอมหลับยอมนอน แต่ปรากฎว่า ทุกคนหมดแรง ไปหมด (อดใช้เลย)




...............................

22 ธันวาคม 2554

กิจกรรมค่ายธรรมร้อยดวงใจ

     วันนี้ โรงเรียนวัดยางแขวนอู่ได้จัดกิจกรรมเข้าค่ายธรรมะร้อยดวงใจ เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ซึ่งเป็นโครงการที่นำนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนมาเข้าค่ายฝึกการปฏิบัติ

     ทางโรงเรียนได้รับความเมตตาจากท่านพระครูประโชติวราคม เจ้าอาวาสวัดคุยพยอม (ยางแขวนอู่) ที่วางกำหนดการปฏิบัติต่างๆ และการใช้งานสถานที่ ซึ่งทางวัดกำลังอยู่ระหว่างสร้างศาลา จึงได้จัดกิจกรรมกลางแจ้ง

     ในช่วงกลางวัน โชคดีที่เทวดาเห็นใจ บันดาลเมฆมาปกบังแสงอาทิตย์บ้าง หากร้อนมากก็เข้าไปทำกิจกรรมที่ศาลาธรรมสังเวส หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า ศาลาสวดศพ

    แต่ในช่วงกลางคืน เรามีเพื่อนมาจากเกาหลีมากมาย คือ ยุงชุมจัง เพราะเมื่ออยู่กลางแจ้ง ย่อมเป็นเป้าหมายของบรรดายุงๆทั้งหลาย

    ติดตามวันที่สองนะครับ




...............................

21 ธันวาคม 2554

สงสารเด็กจัง พลาดกีฬาอำเภอ อีกแล้ว

     วันนี้ ท่าน ผอ. ได้พานักเรียนไปแข่งกีฬาระดับอำเภอ ซึ่งตามกำหนดการที่ได้มา พบว่าเด็กแข่ง 10 โมง ท่านผอ. ได้พาเด็กนักเรียนไปยังสนามแข่ง ก็ต้องพบกับเรื่องน่าประทับใจ

     เรื่องแรก กรีฑา แข่งเสร็จจนมอบเหรียญ
     เรื่องที่สอง เปตอง แข่งวันศุกร์ (ในตารางที่ให้ไป บอกว่าแข่งสามวัน)

     ก็เลยถือว่า พาเด็กๆ ไปเที่ยวในอำเภอตามประสาครูบ้านนอก กับเด็กบ้านนอกก็แล้วกันเนาะ




...............................

19 ธันวาคม 2554

ฟ้าทลายโจรแก้ไขหวัด

ฟ้าทลายโจรแก้ไขหวัด
    
ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการหวัด และเสริมภูมิต้านทานดีกว่าการใช้ ยาปฏิชีวนะในคนที่เป็นหวัดบ่อยๆ ร้อนในบ่อยๆ เนื่องจากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ภูมิต้านทานอ่อนลง


่อ่านต่อฉบับสมบูรณ์ได้ที่ ฟ้าทลายโจรแก้ไขหวัด 




16 ธันวาคม 2554

กราบพ่อแม่ครูอาจารย์ วัดแพร่ธรรมาราม

     วันนี้ ได้กลับบ้านที่แพร่ เพราะต้องไปร่วมงานสวด และฟังเทศน์ พ่อใหญ่ผจญ วงศ์วรรณ ผู้หลักผู้ใหญ่ผู้เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านสบสาย ด้วยความเคารพท่าน จึงได้ลาโรงเรียนวันศุกร์เพื่อไปร่วมงาน

     เมื่อไปถึง ก็ทานก๋วยเตี๋ยวร้านอร่อยที่เด่นชัย เป็นอาหารมื้อกลางวัน และเป็นการฆ่าเวลาระหว่างรอพ่อมารับ

     ด้วยความตั้งใจที่จะไปวัดแพร่ธรรมารามอยู่แล้ว จึงได้ชวนพ่อแวะไปที่วัดก่อนจะเข้าบ้าน ทันที่ที่เข้าไปเขตของวัดแพร่ธรรมาราม พระรูปแรกที่กำลังเดินออกมาเพื่อทำความสะอาดบริเวณหน้าวัดก็คือ พ่อแม่ครูอาจารย์ พระอาจารย์เอกราช เขมมานันโท




     ... ด้วยความดีใจ ผมรีบเปิดประตูรถแล้ววิ่งไปกราบท่านบนถนนหน้าวัดนั่นเอง (คิดถึงพระอาจารย์มากครับ ก่อนหน้านี้มีโอกาสไปที่วัดสองครั้งก็ไม่ได้กราบท่าน เพราะครั้งแรก ท่านไปธุดงค์ ครั้งที่สองไปร่วมงานกฐินของวัดสาขา)

     โดยปกติ จะต้องไปที่กุฏิของท่าน แต่ด้วยความเป็นศิษย์วัดป่า และความเมตตาของท่าน (และท่านกำลังจะมาตรวจหน้างานทำประตูที่หน้าวัดพอดี) ท่านจึงนั่งใต้ร่มไม้

     คนที่ไปด้วยได้ถวายหมวกไหมพรม ที่ได้ตั้งใจถักจนถึงตีหนึ่งครึ่งเมื่อวันก่อน เพราะเข้าสู่หน้าหนาวพอดี


     พระอาจารย์เอกราช พูดคุยเรื่องต่างๆ ด้วยความสนุก และไม่ได้กราบพระอาจารย์ตั้งนาน เลยคุยเพลินเลย จากนั้น ท่านก็ได้ให้พระรูปหนึ่งที่อยู่บริเวณนั้น นำหนังสือสวดมนต์ฉบับพิมพ์ปรับปรุงแก้ไข ที่มีบทสวดพิเศษเพิ่มขึ้นอีก และมีแนวคิดว่า น่าจะนำขึ้นบนโลกออนไลน์เพื่อให้ผู้ที่สนใจ โหลดไปสวดเองที่บ้าน

     และท่านยังได้นำ CD ทำวัตรเช้า - เย็น มาให้อีก เผื่อจะได้นำไปฝากครูๆที่โรงเรียน ที่สำคัญ ยังได้นม และน้ำส้ม ซึ่งเป็นของแจกผู้มาวัดอีกชุดหนึ่ง







     ก่อนกลับ พระอาจารย์ได้ให้ผมเดินตามท่านไปที่กุฏิ เพราะจะให้นำเครื่องดื่มมาให้พี่ๆคนงานที่กำลังทำประตูวัดอยู่ และท่านก็ไปเห็นแหวนที่จัดเตรียมไว้อยู่ ท่านจึงเิดินมาที่พ่อผมนั่งรออยู่ (เดินกลับมาที่หน้าวัดอีกครั้ง ช่างสุดยอดของความเมตตาจริงๆ) และได้มอบแหวนให้คนละ 1 วง

    ... ท่านสวมให้ โดยเพื่อนผมถ่ายรูปให้ ท่านบอกว่า "แหวนมั่น" นะเนี่ย

    ... "มั่นในสัจธรรม"



     แหวนนี้ สลักคำว่า "แล้วสิ่งนั้นจะผ่านไป" (ตอนที่อยู่ที่ กุฏิ ท่านได้เล่าที่มาของแหวนนี้ให้ฟัง เดี๋ยวเอาไว้เล่าให้ฟังวันหลังนะครับ โปรดติดตามตอนต่อไป...)

     ความเมตตาของพระอาจารย์เอกราชที่มีต่อผมและครอบครัวช่างมากมายเสียจริงๆ และยิ่งเป็นความเมตตาที่สืบสานจากพ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงปู่มั่น หลวงปู่ชา หลวงตามหาบัว และท่านพระอาจารย์ใหญ่

     ...เราคือศิษย์มีครู ลูกวัดแพร่ธรรมาราม

09 ธันวาคม 2554

ทำการทดสอบ pre-onet

วันนี้ ทางโรงเรียนได้จัดทำการทดสอบ pre-onet ระดับชั้น ป.6 และ ม.3
วิชาภาษาไทย และคณิตศาสตร์ โยทำการทดสอบเป็นเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง

ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งที่  โดยเป็นกรรมการกลางและตรวจข้อสอบนักเรียน

เสร็จแล้วทำการกรอกข้อมูลลงในตารางเพื่อรายงานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา พิษณุโลก เขต 1

รีบๆทำให้เสร็จ เพราะเวลาที่กำลังจะมาถึง มีแต่งานๆๆๆๆๆๆ นะจ๊ะ





...............................
วัตถุมงคล อ.หนู กันภัย     สอนพิเศษพิษณุโลก

07 ธันวาคม 2554

ท่าน อ.ถาวร พงษ์พานิช

วันนี้ในช่วงค่ำ ได้ไปร่วมงานของท่าน ดร.ถาวร  พงษ์พานิช

     ท่านเป็นอาจารย์ที่มีลูกศิษย์ลูกหารักมาก ขนาดวันนี้ พี่ที่นั่งข้างๆยังเล่าเรื่องสมัยที่ได้ทำงานกับท่าน ตอนที่ท่านเป็นครู ท่านขี่รถผ่านหน้าบ้านแต่เช้ามืด แล้วตะโกนเรียก "ตื่นได้แล้ว ไปสอนเด้กได้แล้ว" เล่นเอาพี่คนนั้นไม่กล้าไปดื่มเหล้า เพราะกลัวตื่นมาสอนหนังสือไม่ทัน

     ผมได้ข้อคิดจากวันนี้อีกเรื่องหนึ่ง

     คนดี ย่อมมีคนรัก และมีคนพูดถึง เราถึงวีรกรรมที่ผ่านมาด้วยความสุข

     แม้แต่ผมเอง ที่ได้มีโอกาสทำงานกับท่านเพียงสองครั้ง แต่ก็มีความรู้สึกว่า ท่านเป็นดังครู ผู้มากล้นด้วยความเมตตาอีกท่านหนึ่ง

     ท่านเป็น ผอ. สำนักวิจัยที่ผู้ร่วมงานทุกคนรักมาก รวมไปถึงอีกหลายท่าน เพราะผมสังเกตจากจำนวนพวงหลีก และผู้เข้ามาร่วมงาน ที่เป็นทั้งผู้มีเกียรติในสังคม ครูบาอาจารย์ ด๊อกเตอร์ ผศ. รศ. ฯลฯ ทั้งนั้น นี่แหละ ผลของการกระทำของท่านที่ผ่านมา

     ในระหว่างที่นั่งรอพระนั้น ผมก็หยิบปากกามาเขียนกลอนความในใจที่มีต่อท่านขึ้นมาบทหนึ่ง



กราบอาลัย ดร.ถาวร พงษ์พานิช

     อีกหนึ่งเสียง ข่าวคราว ที่แสนเศร้า                               
ของปวงเรา ชาวพิบูลฯ หวั่นใจยิ่ง
แต่ก็คือ สัจธรรม ของความจริง                                                      
ว่าทุกสิ่ง ย่อมพราก และจากไป
     ท่านเป็นครู เป็นแบบอย่าง ของชีวิต                             
เหล่าปวงศิษย์ ต่างเชิดชู ผู้ยิ่งใหญ่
ท่านเป็นแม่ คนที่สอง ปกครองใจ                                                
เหนืออื่นใด มากล้น ด้วยเมตตา
     ท่าน ดร. ถาวร พงษ์พานิช                                             
คือผู้ที่ปวงศิษย์คิดครวญหา
ได้ความรู้ ได้ความรัก แต่ก่อนมา                                                    
ต้องจากลา พรากไป ไวเกินนัก
     วันที่ห้า ธันวาคม ขื่นขมยิ่ง                                             
สูญทุกสิ่ง สูญคนดี ที่รู้จัก
สูญกำลัง สูญดวงใจ ที่เรารัก                                                          
ยากจะหัก ห้ามจิตไว้ ไม่หม่นหมอง
      ไม่มีท่าน ถาวรแล้ว ในวันนี้                                           
คุณความดี ของท่าน ยังกึกก้อง
ขอดวงจิต ท่านสู่สุดขอบฟ้าทอง                                                    
ศิษย์ทั้งผอง ขอรำลึก สำนึกคุณ


                                                                                                             ด้วยจิตคารวะ
                                                                                                    นายพิริยะ ตระกูลสว่าง
                                                                                                        ธันวาคม 2554

กีฬากลุ่มโรงเรียนบางระกำ - ท่านางงาม

วันนี้ทางโรงเรียนวัดยางแขวนอู่ ได้เข้าร่วมกิจกรรมกีฬากลุ่มโรงเรียนบางระกำ - ท่านางงาม เด็กๆมีความตื่นเต้นมากมายที่ได้เล่นกีฬา (และไม่ต้องไปโรงเรียน 555)

ขบวนกองทัพวัดยางแขวนอู่

ประธานนักเรียน

วันนี้ตื่นเช้ากว่าปกติกันเหรอ... นักเรียน

ท่าน ผอ. กับ โค้ช ใหญ่ของทีม

พิธีเปิด

แหม มากันใหญ่

เจ๊ เค้ามาแข่งกีฬากันนะ

หลักฐานคามือ.. (โครงการดีๆ ใครอยากรู้ว่าเป็นอะไร ติดต่อพี่ปอเอาเอง โครงการดีที่ไม่น่าพลาด)

ฟุตซอล

โค้ชเล็ก พาอบอุ่นร่างกาย

ถ้าแพ้ จะโดนแบบนี้ (พับกางเกงเข้าชายเสื้อซะเหมือนเลยนะ)



ติดตามต่อ อีกสองวันนะครับ

06 ธันวาคม 2554

ก็แค่อีกวันหนึ่ง (ที่ต้องเสี่ยงตาย) ของครูบ้านนอก

     วันนี้ ถ้าผมออกมาเร็วไปสิบนาที...

     ... ผมคงไม่ได้มีโอกาสมานั่งเขียนเล่าให้คุณอ่านเหมือนตอนนี้

     หลายท่านที่ติดตามอ่านบันทึกของครูบ้านนอก ก็คงพอทราบบ้างแล้วว่า ผมต้องขี่จักรยานยนต์มาปฏิบัติราชการ ซึ่งต้องเสี่ยงกับรถน้ำมัน รถบรรทุก รถเมล์ และรถอื่นๆอีกมากมาย

    ข้อดีก็คือ ผมต้องตั้งนะโมสามจบ ท่องชินบัญชร และคาถาอีกหลายบทกว่าจะถึงโรงเรียน รวมไปถึงตอนกลับบ้านด้วย (มันทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกของพี่น้องครูที่อยู่สามจังหวัดชายแดนฯ ว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อมีลมหายใจกลับบ้าน) และความรู้สึกของผมคงเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆเท่านั้นเองเมื่อเทียบกันกับพวกเขา

     ด้วยความเป็นข้าราชการครูที่เงินเดือนน้อย เพราะเป็นช่วงเริ่มต้นของชีวิต ผมก็ต้องเดินทางไปทำงานด้วยวิธีนี้ หลายคนอาจมองว่า ทำไมถึงไม่ซื้อรถขับ ผมก็ตอบทุกๆคนด้วยคำตอบเดียวกันว่า "ไม่มีเงินซื้อ" และถ้าซื้อ ก็คงไม่มีเงินเติมน้ำมัน

     แม้ว่า ช่วงทีผ่านมา อาจมีบางโอกาสที่ผมได้เงินจากการเป็นวิทยากร แต่เงินเหล่านั้นก็กลับกลายเป็นหนังสือเล่มใหม่ๆ ที่เข้ามาประดับความรู้ และใช้ประโยชน์กับวงการศึกษา 

     บางครั้ง ผมก็คิดว่า ถ้าเราเก็บเงินซื้อรถ เราก็ขนเพียงสังขารของเราไป - กลับ 
     ... แต่ถ้าเราเอาเงินไปซื้อหนังสือ เอาเงินไปทำสื่อ สร้างสื่อมาสอนเด็ก เราสามารถขนเด็กๆ ไปสู่ฝั่งฝันได้อีกหลายคน

     ตอนนี้ ผมยังไม่มีภาระอะไรมาก จึงขอคิดแบบนี้ก่อน และก็คงจะคิดต่อไป ถ้ายังไม่เป็นอะไรไป...

     เล่ามาเสียนาน ยังไม่ได้บอกเลยว่า วันนี้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ... ไปชมภาพกันดีกว่าครับ




     สำหรับผม การเสี่ยงตายเพราะรถอ้อยนี้มีหลายครั้ง ตั้งแต่เทียวอยู่ที่ อ.ไทรงามแล้ว (เดี๋ยวจะลองไปค้นคลิปเก่าๆมาให้ดูนะครับ) ส่วนครั้งนี้ วันนี้ เป็นการเตือนสติได้อย่างดีว่า "เราต้องดำเนินชีวิตทุกย่างก้าวอย่างมีสติ"

     เพราะยังไม่ได้เป็นปลัดกระทรวงเลย... (ฮาาา)

     ถ้าวันนี้ ผมออกมาถ่ายเอกสารข้อสอบ Pre - onet ของชั้น ป.6 และ ม.3 เร็วกว่านี้สักสอบนาที ผมคงได้ไปชิมน้ำอ้อยอย่างใกล้ชิดแน่ๆ


     มันเป็นความเสี่ยงที่ต้องทำทุกวัน

     ผมเคยคิดได้ว่า ทำไมเราถึงต้องสวมเครื่องแบบข้าราชการในวันจันทร์ คำตอบที่ได้เกิดขึ้นตอนที่ต้องลุยลูกรังเข้าโรงเรียน "อ๋อ สีมันกลมกลืนกับฝุ่นนั้นเอง" เราคือคนของพระราชา ทำงานที่พระราชาทรงมอบให้

     หลายครั้งหลายครา ที่ข้อคิดดีๆมักเกิดหลังจากได้รู้ได้เห็นอะไรมา

     ...รวมถึงประสบการณ์เฉียดตายด้วย 

    (นึกถึงตอนที่ถนนเส้นเข้าโรงเรียนกำลังจะราดยาง ผมอยู่ห่างล้อรถสิบล้อไม่ถึงฟุต ไม่รู้เค้าจะรีบไปไหนนักหนา นั่นแหละ ถึงเป็นที่มาของครูวิทย์ ที่ห้อยพระ ห้อยตะกรุดเต็มตัว)

    ผมเชื่อว่า ใครๆก็กลัวตาย
    เว้นแต่ผู้ฝึกสติมา เค้าก็จะไม่กลัว และกล้าเผชิญหน้ากับความตายอย่างมีสติ

     ไอ้ผมมันก็คนธรรมดา ยังฝึกไม่มากพอ มันก็กลัวบ้าง (จะเห็นได้ว่า เขียนไปหลายบทความแล้ว) 

     จริงๆแล้ว ผมกลัวในสิ่งที่ผมอยากจะทำ แต่ยังไม่ได้ทำต่างหาก

     ... ผมอยากเป็นปลัดกระทรวง จะได้มีอำนาจกระจายครูให้ครบทุกที่จริงๆ ไม่ใช่ไปกระจุกตัวช่วยราชการกันที่โรงเรียนใหญ่ ส่วนโรงเรียนบ้านนอก ครูขาดแล้วขาดอีก รวมไปถึงกระจายอุปกรณ์ทางการศึกษาให้เท่าเทียม ไม่ใช่แจกแต่โรงเรียนใหญ่ ไล่เรียงลงมา โรงเรียนเล็กๆ ก็ขาดแล้วขาดอีก

      ... ผมอยากเผยแพร่งานเขียนของผมเอง 

      มีหลายเรื่องที่เขียนขึ้นมา แต่ยังไม่ได้พิมพ์ อาจเป็นเพราะมือไม่ถึง หรือไม่ตรงกับความต้องการของตลาด เค้าเลยไม่สนใจกัน
     มีเรื่องนึงนะครับ ที่อยากให้พิมพ์เผยแพร่ เป็นนวนิยายขนาดสั้น ไม่ถึงร้อยหน้า เป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ขาดความอบอุ่นมาตั้งแต่เด็กๆ จนเธอโตมา เธอจึงแสวงหาความรัก และเอาร่างกายเข้าแรก จริงๆแล้วมันเป็นเค้าโครงเรื่องจริงเลยหละครับ ผมสัญญากับเจ้าของเรื่องว่าจะเขียน และก็เขียนจนจบ น่าเสียดายที่ไม่มีสำนักพิมพ์ไหนสนใจ  (ผมอยากเอาไปนำเสนอเขตพื้นที่ฯ เพราะทางเขตฯ มีนโยบายให้นักเรียนหญิงรักนวลสงวนตัว แต่มันจะคุ้มกับเวลาที่เค้าเสียไปหรือเปล่าก็ไม่รู้) แต่ถ้าต้องการจะให้นักเรียนรักตัวเอง ไม่มี sex ก่อนเวลาอันควร ผมว่า มันก็เป็นสื่ออีกรูปแบบหนึ่งนะครับ

     ผมอยากทำอีกหลายๆอย่าง

     ที่สำคัญ อยากบอกเล่าเรื่องราวของวงการครู ความสุข ความภูมิใจ และความทุกข์ยากที่คนในวงการศึกษาเค้าพอเจอกัน

      อย่าลืมติดตามอ่านบันทึกของครูบ้านนอกนะครับ แล้วคุณอาจได้มองเห็นอีกมุมนึงของคนเป็นครูครับ

05 ธันวาคม 2554

มีทุกอย่างเพราะในหลวง เหตุผลที่อธิบายได้ไม่จบสิ้น

     ผมมีชีวิตเพราะพ่อแม่
     ผมได้เรียนรู้หลักธรรมจาก พ่อแม่ครูอาจารย์ พระอุปัชชาย์ พระอาจารย์ต่างๆ
     ผมได้เรียนหนังสือ เพราะมีคนเขียนตำรับตำรา
     ผมมีเงินเลี้ยงชีพ เพราะเป็นข้าราชการครู
     ผมมีถนน ให้ขี่มอเตอร์ไซต์ ไปเรียนได้ เพราะมีถนน
     ผมมีข้าวกิน เพราะชาวนา
     ผมปัญญา เพราะทำตามแนวพระราชดำริ
     ผมมีความรักชาติ เพราะเป็นทหารของพระราชา แม้จะเป็นกองหนุน ก็ตาม
     ผมเป็นคนดี ไม่ทุจริต เพราะเกรงกลัวต่อบาป ที่บังอาจทำต่อหน้าพระพักตร์ (พระบรมฉายาลักษณ์บนเงินตรา)
     ผมอดทนทำงานที่ยากลำบาก เพราะพระองค์ ทรงงานที่หนักและลำบากยิ่งกว่าเป็นแบบอย่าง
    และอีกหลายๆอย่าง ที่ผมมี

     ผมนายพิริยะ  ตระกูลสว่าง มีทุกอย่าง... เพราะพระเจ้าแผ่นดิน

     ผมรักในหลวงครับ

29 พฤศจิกายน 2554

เป็นครูนี่ ยากจริงๆ

กว่าจะเรียนจบครู ก็ว่าลำบากแล้ว

กว่าจะสอบเข้าได้ ก็ว่ายากแล้ว

กว่าจะดำเนินชีวิต ให้เป็นวิชาีชีพครู ก็ใช้เวลามากแล้ว

นี่ต้องมาทำหน้าที่ปรับปรุงนิสัย "มาร" ให้ลดน้อยถอยไป ก็นับว่ายากยิ่ง

ไปเจอกรณีพ่อแม่รังแกฉัน ก็ต้องถือว่า เป็นกรรมของเด็กมัน คงต้องเตรียมแผนที่และเบอร์โทรของสถานพินิจ และเรือนจำกลางไว้ให้ผู้ปกครองล่วงหน้า

ขนาดมันเป็นเด็ก ยังกล้าเลวขนาดนี้ ... แล้วถ้าไม่รีบจัดการ จะเติบโตเป็นเศษสังคมขนาดไหน คิดเอาเอง...

เด็กชกต่อย ทะเลาะวิวาท สูบบุหรี่ ทำร้ายผู้หญิง ไม่ตั้งใจเรียน... ครูมีสิทธิลงโทษได้เพียง ว่ากล่าวตักเตือน และให้ไปเก็บเศษกระดาษ ... บัดซบจริงๆ  หรือจะรอให้ฆ่าคนตายก่อน แล้วค่อยลงโทษรุนแรง

(รัฐมนตรีคนไหนเอาไม้เรียวออกจากระบบ เพราะดันไปคิดว่า ขอให้มีส่วนรับเวรกรรมนี้ สืบไปยังลูกหลานอีก 7 ชั่วโครตเทอญ)

28 พฤศจิกายน 2554

วันนี้ของขึ้น

สวดมนต์เสร็จแล้ว...


หลังจากที่เครียดกับพฤติกรรมของนักเรียนในวันนี้

หากเชื่อในเรื่องของกฎแห่งกรรม เราอาจเชื่อได้ว่า... น้ำลืมอดีต ไม่ได้ทำให้นิสัยที่ติดมาจากขุมนรก หมดไปเลยซะทีเดียว เป็นหน้าที่ของครู ที่ต้องขัดเกลา และทำให้สิ่งเหล่านี้เจือจางไป
ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ