ท่านเป็นอาจารย์ที่มีลูกศิษย์ลูกหารักมาก ขนาดวันนี้ พี่ที่นั่งข้างๆยังเล่าเรื่องสมัยที่ได้ทำงานกับท่าน ตอนที่ท่านเป็นครู ท่านขี่รถผ่านหน้าบ้านแต่เช้ามืด แล้วตะโกนเรียก "ตื่นได้แล้ว ไปสอนเด้กได้แล้ว" เล่นเอาพี่คนนั้นไม่กล้าไปดื่มเหล้า เพราะกลัวตื่นมาสอนหนังสือไม่ทัน
ผมได้ข้อคิดจากวันนี้อีกเรื่องหนึ่ง
คนดี ย่อมมีคนรัก และมีคนพูดถึง เราถึงวีรกรรมที่ผ่านมาด้วยความสุข
แม้แต่ผมเอง ที่ได้มีโอกาสทำงานกับท่านเพียงสองครั้ง แต่ก็มีความรู้สึกว่า ท่านเป็นดังครู ผู้มากล้นด้วยความเมตตาอีกท่านหนึ่ง
ท่านเป็น ผอ. สำนักวิจัยที่ผู้ร่วมงานทุกคนรักมาก รวมไปถึงอีกหลายท่าน เพราะผมสังเกตจากจำนวนพวงหลีก และผู้เข้ามาร่วมงาน ที่เป็นทั้งผู้มีเกียรติในสังคม ครูบาอาจารย์ ด๊อกเตอร์ ผศ. รศ. ฯลฯ ทั้งนั้น นี่แหละ ผลของการกระทำของท่านที่ผ่านมา
ในระหว่างที่นั่งรอพระนั้น ผมก็หยิบปากกามาเขียนกลอนความในใจที่มีต่อท่านขึ้นมาบทหนึ่ง
กราบอาลัย ดร.ถาวร พงษ์พานิช
อีกหนึ่งเสียง ข่าวคราว ที่แสนเศร้า
ของปวงเรา ชาวพิบูลฯ หวั่นใจยิ่ง
ของปวงเรา ชาวพิบูลฯ หวั่นใจยิ่ง
แต่ก็คือ สัจธรรม ของความจริง
ว่าทุกสิ่ง ย่อมพราก และจากไป
ว่าทุกสิ่ง ย่อมพราก และจากไป
ท่านเป็นครู เป็นแบบอย่าง ของชีวิต
เหล่าปวงศิษย์ ต่างเชิดชู ผู้ยิ่งใหญ่
เหล่าปวงศิษย์ ต่างเชิดชู ผู้ยิ่งใหญ่
ท่านเป็นแม่ คนที่สอง ปกครองใจ
เหนืออื่นใด มากล้น ด้วยเมตตา
เหนืออื่นใด มากล้น ด้วยเมตตา
ท่าน ดร. ถาวร พงษ์พานิช
คือผู้ที่ปวงศิษย์คิดครวญหา
คือผู้ที่ปวงศิษย์คิดครวญหา
ได้ความรู้ ได้ความรัก แต่ก่อนมา
ต้องจากลา พรากไป ไวเกินนัก
ต้องจากลา พรากไป ไวเกินนัก
วันที่ห้า ธันวาคม ขื่นขมยิ่ง
สูญทุกสิ่ง สูญคนดี ที่รู้จัก
สูญทุกสิ่ง สูญคนดี ที่รู้จัก
สูญกำลัง สูญดวงใจ ที่เรารัก
ยากจะหัก ห้ามจิตไว้ ไม่หม่นหมอง
ยากจะหัก ห้ามจิตไว้ ไม่หม่นหมอง
ไม่มีท่าน ถาวรแล้ว ในวันนี้
คุณความดี ของท่าน ยังกึกก้อง
คุณ
ขอดวงจิต ท่านสู่สุดขอบฟ้าทอง
ศิษย์ทั้งผอง ขอรำลึก สำนึกคุณ
ศิษย์ทั้งผอง ขอรำลึก สำนึกคุณ
ด้วยจิตคารวะ
7 ธันวาคม 2554
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็นครับ