13 เมษายน 2553

เพลงไทยสามัคคี

ไทยสามัคคี
คำร้อง บทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖ / ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน

อย่าเห็นแก่ตัวมัวพะวง ลุ่มหลงริษยาไม่ควรที่
อย่าต่างคนต่างแข่งกันแย่งดี อย่าให้ช่องไพรีที่มุ่งร้าย
แม้เราริษยากันและกัน ไม่ช้าพลันจะพากันฉิบหาย
ระวังการยุยงส่งร้าย นั่นแหละเครื่องทำลายสามัคคี
คณะใดศัตรูผู้ฉลาด หมายมาดทำลายให้เร็วรี่
ก็ยุแยกให้แตกสามัคคี เช่นกษัตริย์ลิจฉวีวงศ์โบราณ
พราหมณ์ผู้เดียวรับใช้ไปยุแหย่ สาระแนยุญาติให้แตกสาน
จนเวลาศัตรูจู่ไปราญ มัวเกี่ยงกันเสียการ เสียนคร
ฉะนั้นไซร้ขอไทยจงร่วมรัก จงร่วมสมัครสโมสร
เอาไว้เผื่อเมื่อมีไพรีรอน จะได้สู้ดัสกรด้วยเต็มแรง

12 เมษายน 2553

รู้ไว้ใช่ว่า : ฉลากบนผลไม้ (ยังไม่ได้มีการยืนยันว่าจริงเท็จแค่ไหน โปรดใชวิจารณญาน)


Conventional Fruit Labels - Four digits starting with
4

ฉลากผลไม้ทั่วไป - มีตัวเลขสี่หลัก ขึ้นต้นด้วย
4
เช่น
4xxx



Organic Fruit Labels - Five digits and starts with number

9


ฉลากผลไม้
Organic (ผลไม้ที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี) -
มีตัวเลขห้าหลัก ขึ้นต้นด้วย 9
เช่น
9xxxx




Genetically Modified Fruits (GMO) -Start with the digit
8


ฉลากผลไม้ GMO (ผลไม้ที่ปลูกโดยใช้พันธ์ที่ผ่านการดัดแปลงทางพันธุกรรม)

-
มีตัวเลขห้าหลัก ขึ้นต้นด้วย 8
เช่น
8xxxx



So next time you go shopping, remember these critical numbers and know how to avoid purchasing inorganic and GMO fruits. Shop Safe :


This is good to know because stores aren't obligated to tell you if a fruit has been genetically modified .

ดังนั้นครั้งต่อไปที่คุณจะเลือกซื้อผลไม้ จำไว้ว่าตัวเลขสำคัญที่คุณควรรู้ เพื่อจะหลีกเลี่ยงการซื้อผลไม้ที่มีสารเคมีและผลไม้
GMO




So if you come across an apple in the store and it's label is 4922, it's a conventional apple grown with herbicides and harmful fertilizers.




ดังนั้น ถ้าคุณเห็นแอปเปิ้ล ที่มีรหัส
4922
แปลว่า แอปเปิ้ลนี้เป็นแอปเปิ้ลทั่วๆไป ที่ปลูกด้วยการใส่ปุ๋ยปกติ




If it has a sticker 99222, it's organic and safe to eat.

ถ้าแอปเปิ้ลติดสติ๊กเกอร์ มีรหัส
99222
แสดงว่าเป็นแอปเปิ้ลที่ปลูกโดยวิธีปลอดสารเคมี และปลอดภัย




If it says 89222, then do not buy!!!! It has been
genetically modified
(GMO).

ถ้าแอปเปิ้ลติดสติ๊กเกอร์ มีรหัส
89222
อย่าซื้อ!!!


แสดงว่าเป็นแอปเปิ้ลที่ผ่านการดัดแปลงทางพันธุกรรม(GMO)

11 เมษายน 2553

ไขปริศนา 49 วัน ชีวิตหลังความตาย

ไขปริศนา 49 วัน ชีวิตหลังความตาย

มนุษย์และ สัตว์มิได้สิ้นสุดที่ความตาย เพราะการ "ตาย" หมายถึง สภาพร่างกายที่ไม่สามารถให้บริการแก่จิตวิญญาณใช้งานต่อไปได้อีก วิญญาณยังคงอยู่ ถึงแม้ร่างกายจะหมดอายุขัยไปแล้ว ทั้งนี้สภาพการตายจะบ่งบอกให้รู้ว่าจิตวิญญาณนั้นไปสุคติหรือลงสู่นรกภูมิ


1. ตอนตายใหม่ ถ้าหากสีหน้าปกติ ร่างกายอ่อนนิ่ม สีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่ เนื่องจากได้บรรลุธรรม ดวงวิญญาณจะไปสู่สุคติ

2. ตอนตายใหม่ๆ หน้าตาซีดผาด เหมือนคนตกใจ แสดงว่าวิญญาณได้ตกสู่นรกแล้ว

3. ตอนตายใหม่ๆ ร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาน่ากลัว เพราะความตกใจ บางคนจะกรีดร้องเสียงคล้ายสัตว์ คนเหล่านี้จะไปเกิดเป็นสัตว์ 4 ชนิด สังเกตได้จากตา หู จมูก ปาก ตาจะมีน้ำตาออก หูจะมีขี้หู จมูกจะมีน้ำมูก ปากจะมีน้ำลายฟูมปาก เป็นทวารที่ไม่สะอาด 4 ช่องทาง เมื่อจิตวิญญาณออกทางนี้ จะเกิดเป็นสัตว์ 4 ประเภท



- ตา ชอบดูสิ่งเหลวไหล ลุ่มหลงในรูปต่างๆ คนเหล่านี้เวลาใกล้ตาย ดวงตาจะเบิกกว้าง จะไปเกิดเป็นสัตว์ปีก (เกิดออกจากไข่)

- หู ชอบฟังเรื่องเหลวไหล เรื่องซุบซิบนินทา คนเหล่านี้เวลาตาย หูจะชันขึ้น จะไปเกิดเป็นสัตว์ที่เกิดจากครรภ์ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย

- จมูก ชื่นชมกลิ่นคาวโลกีย์ เช่น เงินทอง สุรา นารี การพนัน ชื่อเสียงลาภยศ และค่านิยมที่ผิดศีลธรรม ฯลฯ จะไปเกิดเป็นแมลง มด ยุง แมลงวัน ฯลฯ บาปหนักมาก วิญญาณจึงถูกตีเป็นเศษวิญญาณ

- ปาก ชอบพูดเรื่องเหลวไหล พูดนินทา พูดวิจารณ์ พูดกล่าวร้ายป้ายสี ด่าคำหยาบคาย คนเหล่านี้เวลาตาย ปากจะอ้าค้างอยู่ตลอด จะเกิดเป็นสัตว์น้ำ ไปอยู่กับรสชาติที่โสโครกและสกปรก


เมื่อออกจากร่าง วิญญาณจะไปที่ไหน?

ดวงวิญญาณที่ออกจากร่างในตอนแรก จะวนเวียนอยู่บริเวณนั้น พอได้สติก็จะมีท่านมัจจุราชทำหน้าที่มานำเอาวิญญาณของมนุษย์หรือสัตว์ที่ ชะตาถึงฆาต พาไปยังยมโลก เพื่อตรวจสอบบาปบุญความดีความชั่ว ในขณะที่มีชีวิตอยู่


วิญญาณบาปจะถูกนำตัวส่งไปนรก 8 ขุมใหญ่ แต่ละขุมแบ่งย่อยขุมละ 36 แห่ง แต่ละแห่งมีการลงทัณฑ์และทรมานอีก 800 ด่าน แต่ละด่านมีเครื่องทรมานนับไม่ถ้วน วิญญาณบางดวงอาจตกนรกทั้ง 8 ขุมเลยก็มี โดยเฉพาะคนที่ทำกรรมชั่วมหันต์ หรือเรียกว่า "อนันตริยกรรม" มีอยู่ 5 อย่าง คือ 1.ฆ่าพ่อ 2. ฆ่าแม่ 3. ฆ่าพระ อรหันต์ 4. ยุยงสงฆ์ให้แตกแยก 5. ทำร้ายพระพทุธเจ้าห้อเลือด

หลังจากที่คน เราตายประมาณ 1-2 วัน ปกติแล้ว เขาจะไม่รู้ว่าตัวเองตาย 7 วัน ให้หลังเขาจึงรู้ว่าตนเองตายแล้ว วิญญาณจะถูกกักบริเวณไว้ 49 วันเพื่อรอพิจารณาคดี ในระหว่างนั้นผู้ตายก็กำลังรอบุญกุศลจากลูกหลานทางโลกที่กำลังง่วนอยู่กับ งานศพ

เรามาดู ปรากฏการณ์ 49 วัน ชีวิตหลังความตาย ขณะที่วิญญาณของผู้ตายออกจากร่าง ชีวิตหลังความตายก็เริ่มต้นเปิดฉากขึ้นในโลกที่ผู้ตายต้องเข้าไปเพียงลำพัง เท่านั้น ไม่มีสิ่งใดเลยที่สามารถเอาติดตัวจากโลกมนุษย์ได้ เว้นเสียแต่บาปกับบุญเท่านั้น

เจ็ดวันรอบ แรก

วิญญาณผู้ ตายต้องเดินผ่านดงหมาป่า ซึ่งมีฝูงหมาป่าดุร้ายเหมือนเสือขวางทาง เมื่อวิญญาณบาปไปถึง ก็เกิดหวาดกลัวไม่กล้าเดินต่อไป ฝูงหมาป่าเห็นดังนั้น ก็กระโจนเข้าขย้ำขบกัดวิญญาณบาปจนเลือดท่วมตัว กรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทุกขเวทนา

ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงดงหมาป่า ก็จะมีหมู่เทวทูตคอยพิทักษ์คุ้มครอง พวกหมาป่าได้แต่นิ่งเฉย ไม่กล้าทำอะไร จึงผ่านไปได้โดยปลอดภัย

เจ็ดวันรอบ ที่ สอง

เมื่อวิญญาณ ผู้ตายมาถึงด่านประตูผี เจ้าหน้าที่ผู้รักษาด่าน เมื่อเห็นเป็นวิญญาณบาป ก็จะทุบตีอย่างไม่ปรานี และยังมีพวกเจ้ากรรมนายเวรพากันมาทวงหนี้เวลานั้น

ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงด่านประตูผี จะได้รับการต้อนรับและสามารถผ่านด่านนี้ไปโดยปลอดภัย

เจ็ดวันรอบที่ สาม

เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงยมโลก ถ้าเป็นวิญญาณบาปก็จะถูกโซ่ตรวนไว้ และถูกบังคับนำไปอยู่ตรงหน้าหอกระจกส่องกรรม ยามมีชีวิตทำชั่วอะไร ภาพก็จะปรากฏขึ้นเองอย่างอัตโนมัติ เสร็จแล้วก็จะถูกคุมตัวไปรับการพิจารณาโทษ ถึงวิญญาณบาปจะเริ่มสำนึกผิด ตอนนี้แต่ก็สายเสียแล้ว

ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึง จะได้รับการต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่พาไปท่องเที่ยวนรกขุมต่างๆ และพาไปดูสภาพของบรรดาญาติพี่น้องที่ ทำบาป กำลังรอคอยการพิจารณาตัดสินความผิด

เจ็ดวันรอบ ที่ สี่

เมื่อมาถึงด่านภูเขา กระดาษเงินกระดาษทอง การจะขึ้นไปบนภูเขาลูกนี้ยากลำบากมาก กระดาษเหล่านี้ได้มาจากลูกหลานญาติพี่น้องในเมืองมนุษย์หลงงมงายเผาส่งไปให้ ทับถมกันจนเป็นภูเขาเลากา ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วแม้ผู้ตายจะได้รับก็ไร้ประโยชน์

เจ็ดวันรอบที่ ห้า

วิญญาณผู้ตายมาถึงหอดูบ้านเดิม ได้เห็นลูกหลาน คนในครอบครัวต่างไว้ทุกข์ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับการตายของตน ถึงตอนนี้จึงได้รู้ว่าตนเองตายแล้ว ไม่อาจกลับบ้านได้อีก ได้แต่เสียใจอาลัยอาวรณ์

เจ็ดวันรอบที่ หก

เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านคุมบัญชี ยมบาลจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูบาปบุญที่ผู้ตายได้สร้างสมตอนมีชีวิต หลังจากหักลบกันแล้ว ถ้าบุญมีมากกว่าบาปก็จะให??ไปเกิดยังสุคติภูมิ ถ้าบาปมีมากกว่าบุญ จะส่งไปยังนรกภูมิ รับทุกข์อย่างน่าเวทนา

เจ็ดวันรอบที่ เจ็ด

เมื่อวิญญาณ ผู้ตายไปถึงด่านตรวจสอบ ยมบาลก็จะสั่งเลขาให้ตรวจสอบดูว่า ผู้ตายตอนมีชีวิตอยู่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือไม่ ถ้าได้ถือศีลกิเจ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ก็จักลหุโทษ ถ้ามัวหลงผิดฆ่าสัตว์เพื่อความสุขของปากท้องก็จะเพิ่มโทษเป็นเท่าตัว.

ที่กล่าวมา ทั้งหมดนี้ ก็ขอให้ทุกคนในขณะมีชีวิตอยู่นั้น เร่งสะสมความดีกันให้มากๆ นรก-สวรรค์นั้น ไม่ใช่สิ่งลวงโลก ตอนนี้ท่านอาจยังไม่เห็น แต่สักวันท่านก็ต้องเห็น กฏแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องจริง ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ...

10 เมษายน 2553

"สงกรานต์เลือด คราบคาว เรื่องราววีรชน"

"สงกรานต์เลือด"

.....เสียงปัง ปัง ดังอยู่ จนหูดับ

คำสั่งลับ สั่งมา จากห่าเหว

ฆ่าคนไทย ด้วยกัน มันแสนเลว

มันจุดเปลว ประกายไฟ บนปลายปืน


.....เดินหน้า เรียกหา อย่างสันติ

ปฏิสนธิ ภราดร อารยขัดขืน

คนไม่เห็น น้ำลายกู กูก็กลืน

ไม่ทันตื่น มีคนตาย วอดวายกัน


.....ศพ ศพ ศพ ศพใคร คนใดหนอ

นั่นก็พ่อ นั่นก็เพื่อน นั่นลูกฉัน

เพื่ออำนาจ เพื่อเงินตรา แสนจาบัลย์

เพื่อใครกัน ถึงเข่นฆ่า ไม่ปราณี


.....ใครรักใคร ชอบใคร เราไม่รู้

แต่เรานั้น เชิดชู ในศักดิ์ศรี

รับเงินมา ปลุกปั่น แสนอัปปรีย์

หยุดเสียที อีกกี่ศพ จึงครบเงิน

09 เมษายน 2553

แม่ของฉัน กับเจ้านายของฉัน

แม่ของฉัน กับเจ้านายของฉัน .........
ใคร เคยทำกับแม่แบบนี้บ้าง ?


ทุกวัน ฉันต้องตื่นเช้า เข้างานแปดโมง
วันนี้..ก็เหมือน เคย แต่เมื่อคืนฉันทำงานจนดึก
ตื่นสาย.. อารมณ์ตอนนั้น
โมโหตัวเองมาก ที่ลืมตั้งนาฟิกาปลุก
(โดนเจ้านายด่าแน่ๆ )
แม่มาเคาะประตูห้อง .... “ ตื่นหรือยังลูก หกโมงแล้ว “
ฉันหงุดหงิดมาก ...........
โธ่ !! แล้วทำไมแม่ไม่ปลุกหนูให้เร็วกว่านี้
เนี่ย..หนูไปทำงานไม่ทันแล้ว วันนี้..มีประชุมด้วย
“ แม่ทำข้าวต้มให้หนูอยู่ เมื่อคืนเห็นนอนดึก อยากให้กินอะไรร้อนๆหน่อย “ .........
แม่ไม่ต้องมาพูดเลย ไม่กง ไม่กินมันแล้ว
.....แม่จับแขนฉันเบาๆก่อนเดินออกจากห้อง
อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ ลงมาข้างล่าง แม่นั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว
“ กินข้าวต้มกับแม่ก่อนนะลูกนะ แม่รอหนูอยู่ “
หนูไม่กิน พูดโดยไม่มองหน้าแม่ เดินออกมาจากบ้านทันที
ถึงที่ทำงาน
“ไม่รู้หรืองัย ว่าวันนี้มีประชุม แล้วรายงานอยู่ไหน “
ยกมือไหว้ ..
ขอโทษค่ะพี่ ....รีบส่งรายงานให้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
“ พี่เลื่อนประชุมไปเป็น 10 โมงนะ
เดี๋ยวช่วยไปหาอะไร ให้พี่กินหน่อยสิ “
... ได้ค่ะพี่ ...
วิ่งเข้า ห้องครัว หยิบโจ๊กกึ่งสำเร็จรูป รีบ รีบ รีบ เติมน้ำร้อน ...
ว๊า !! น้ำร้อนลวกมือ ...
มาแล้วค่ะพี่ โจ๊กร้อนๆเลยค่ะ....
ออกจากห้อง ประชุมเกือบเที่ยง แม่โทรมาจากบ้าน
“ เมื่อเช้า.. หนูวางผ้าเช็ดหน้าไว้ตรงไหนลูก แม่หาในตะกร้าไม่เจอ จะเอาไปซักน่ะ “
หา ไม่เจอก็ไม่ต้องซักหรอก หนูจำไม่ได้
คงโยนไว้ที่ไหนน่ะ แหละ เมื่อเช้าหนูรีบ .......
“ ไม่เป็นไรลูก แล้วเย็นนี้..กลับกี่โมง มากินข้าวกับแม่นะ”
ยังไม่รู้หรอกแม่ ว่างานเสร็จเมื่อไหร่
ยัง งัย..แม่กินไปก่อนเลยแล้วกัน ไม่ต้องรอ .....
วางหูโทรศัพท์ ก้มหน้า ก้มตาทำงาน เอาใจเจ้านาย ....
“เอ!! พี่วางบัญชีรายชื่อลูกค้าทิ้งไว้แถวนี้มั่งรึเปล่า
ไม่รู้ไปลืมไว้ที่ ไหน หาไม่เจอ..
ไม่เป็นไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูช่วยหา
พี่ลงไปทานข้าว เถอะค่ะเที่ยงกว่าแล้วนะคะ
.... หา หา หา หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
โธ่..พี่ ขา ก็พี่มาทำหล่นไว้ใต้เก้าอี้ในห้องประชุมนี่นา
โอย !! เที่ยงครึ่งแล้ว ลงไปกินข้าวไม่ทันแน่ๆ
ไม่เป็นไร...บะหมี่ซักห่อพออิ่ม ก็แล้วกัน
....พี่คะ เจอแล้วนะคะ พี่ทำหล่นไว้ที่ห้องประชุมค่ะ
“ อ้าว..เหรอ “ รับเอกสารคืน ไม่มีแม้แต่ขอบใจสักคำ
แต่ฉันกลับปลื้ม ที่ทำให้เจ้านายพอใจได้ ใกล้เลิกงานแล้ว.. รีบกลับบ้านไปนอนดีกว่า
“ ช่วยแก้งานตรงนี้ให้พี่หน่อยนะ เสร็จแล้ววางไว้บนโต๊ะพี่เลย พี่กลับก่อนล่ะ
ว่าแต่ว่า เราน่ะมีธุระอะไรรึเปล่า คงต้องกลับช้านิดนึงนะวันนี้ “
... ยิ้มรับ.. ไม่มีธุระอะไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูพิมพ์ให้เลยค่ะ
โทรหาเจ้านายตอนเกือบทุ่ม ..
พี่ ขา หนูแก้ไข และตรวจทานเรียบร้อยแล้วค่ะ หนูวางไว้บนโต๊ะนะคะ

“กลับดึกจังลูก จะอาบน้ำก่อน หรือ กินข้าวก่อนล่ะ ?? “
.....เงียบไม่มีเสียงตอบ ไม่มีรอยยิ้ม ...
“ มา มา แม่ช่วย “ แม่รวบของจากมือฉันไปวางบนโต๊ะ ....
หนูเหนื่อยมากเลยแม่ หนูอยากพักผ่อน
กำลังจะเดิน ขึ้นห้อง ...

ฮัลโหล..สวัสดี ค่ะ..เจ้านายเหรอคะมีอะไรรึเปล่าคะ ... อ๋อ !! ไม่ยุ่งค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการให้เลยค่ะ
กุลี กุจอ เปิดคอมพิวเตอร์ ... เจ้านายคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ
แม่..หายไปไหน ในครัวไม่มี ห้องนอนไม่มี
. . . แม่นั่งอยู่หลังบ้านเหงา ๆ คนเดียว . . .

แม่แอบร้องไห้ ... เพราะฉันสินะ ฉันทำให้แม่ต้องร้องไห้
แม่..ดูแลฉันมาทั้งชีวิต
เป็นห่วงฉัน รักฉันมากกว่าใครๆ
แต่..ฉันตอบแทนได้สาสมเหลือเกิน
ฉันเริ่ม ทบทวน...
เจ้านายคนที่ให้เงิน เดือนฉัน กับ แม่คนที่ให้ความเป็นคนแก่ฉัน
เพื่อประจบสอพลอเจ้านาย
ฉันทำร้ายผู้ให้กำเนิด ได้เพียงนี้เลยหรือ..
แม่ ...
หนูขอโทษ
ใคร??? เคยเป็นแบบฉันบ้าง .......
...............................................................................

ใน ชั่วชีวิตของคุณ คุณอาจจะเปลี่ยนงานหลายๆ ครั้ง
คุณอาจจะมีเจ้านาย นับไม่ถ้วน
แต่ตลอดชีวิตของคุณ.....
คุณมีแม่มีเพียงคน เดียวครับ คนเดียวจริงๆ
ทำดีกับท่านไว้เถอะครับ
อย่าทำให้ท่านต้อง ร้องไห้เพราะการกระทำของคุณเลย....
คุณอาจจะรักท่านน้อยลง ทุกๆ วัน
แต่ ท่านไม่เคยรักคุณลดลงเลย ตรงกันข้าม
ท่านกลับรักและเป็น ห่วงคุณมากขึ้นทุกๆ วัน....


ขอ ให้คนที่ยังมีแม่อยู่ โปรดรู้ไว้ว่า
คุณน่ะ โชคดีที่ได้ดูแลแม่ตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่
ซึ่งบางคน อยากดูแลแม่มาก แต่ท่านได้จากไปแล้ว
แม่คือ...พ ร ะ ใ น บ้ า น

03 เมษายน 2553

เดินสายหลายแห่ง

วันนี้เดินสายตั้งแต่เช้าเลย
ทั้งเรื่อง joomla
ทั้งเรื่องถ่ายเอกสาร
ทั้งไปเลี่ยมไหลดำ ไหลเขียว (ป้าเล็กฝากมา)
ทั้งเรื่องหลวงพ่อขวัญดี วัดท่ามะปราง

เหนื่อยจริงๆ และร้อนมากๆ
แต่เหนื่อยแบบนี้ ดีกว่าเหนื่อยใจกับข่าวการเมือง

เฮ้อ ประชาธิปไตย (แต่ใส่เสื้อนักการเมือง)

02 เมษายน 2553

ข่าวสำนัก อ.หนู กันภัย

วันนี้ได้รับข่าวความคืบหน้าของการเตรียมงานไหว้ครู ประจำปี 2553 ของสำนักสักยันต์ อ.หนู กันภัย

ซึ่งเหล่าลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดได้ร่วมเตรียมงานกันด้วยความกตัญญูต่อ "พ่อ" และ "ครูบาอาจารย์" ... มาชมภาพกันนะครับ

[caption id="attachment_320" align="aligncenter" width="350" caption="โครงหลังคาที่สำนักเริ่มขึ้นโครงก่อนวันไหว้ครู"]โครงหลังคาที่สำนักเริ่มขึ้นโครงก่อนวันไหว้ครู[/caption]



[caption id="attachment_321" align="aligncenter" width="350" caption="โครงหลังคาที่สำนักเริ่มขึ้นโครงก่อนวันไหว้ครู"]โครงหลังคาที่สำนักเริ่มขึ้นโครงก่อนวันไหว้ครู[/caption]

[caption id="attachment_322" align="aligncenter" width="350" caption="แท่นที่นั้งสวดของพระเริ่มฉาบปูนแล้วให้ทันวันไหว้ครู"]โครงหลังคาที่สำนักเริ่มขึ้นโครงก่อนวันไหว้ครู[/caption]

[caption id="attachment_323" align="aligncenter" width="350" caption="โครงหลังคาที่สำนักเริ่มขึ้นโครงก่อนวันไหว้ครู"]โครงหลังคาที่สำนักเริ่มขึ้นโครงก่อนวันไหว้ครู[/caption]

[caption id="attachment_324" align="aligncenter" width="350" caption="เริ่มติดธงแล้วหลังงานคงมีผ้ายันต์ดีให้ลูกศิษย์อีกเยอะ"]เริ่มติดธงแล้วหลังงานคงมีผ้ายันต์ดีให้ลูกศิษย์อีกเยอะ[/caption]

[caption id="attachment_326" align="aligncenter" width="350" caption="เริ่มติดธงแล้วหลังงานคงมีผ้ายันต์ดีให้ลูกศิษย์อีกเยอะ"]เริ่มติดธงแล้วหลังงานคงมีผ้ายันต์ดีให้ลูกศิษย์อีกเยอะ[/caption]

[caption id="attachment_325" align="aligncenter" width="178" caption="หนู กันภัย ศึกมหายันต์ ยิงกันสนั่นจอ"]หนู กันภัย ศึกมหายันต์ ยิงกันสนั่นจอ[/caption]

[caption id="attachment_319" align="aligncenter" width="350" caption="เสี่ยพูลร้องเพลงให้พ่อและพวกลูกศิษย์ฟังก่อนทานข้าวกับพ่อ น่าจะดังแน่ๆเพราะเสียงดีและเนื้อเพลงทำนองดีมาก"]เสี่ยพูลร้องเพลงให้พ่อและพวกลูกศิษย์ฟังก่อนทานข้าวกับพ่อ น่าจะดังแน่ๆเพราะเสียงดีและเนื้อเพลงทำนองดีมาก[/caption]

01 เมษายน 2553

เย้ๆๆๆ ปิดเทอมซะที

หลังจากที่รอคอยมานาน
และเมื่อวานก็ขี่รอจักรยานยนต์กลับมาจากไทรงาม กำแพงเพชร มาพิษณุโลก เหนื่อยมาก ขนาด บ่ายสามกว่ายังร้อนมากๆเลย

และแล้ว วันนี้ก็ได้นอนเต็มอิ่ม
หลับเต็มตื่น

โอยยยย สุดยอดดดดด

ตอนเปิดเทอมต้องไปโรงเรียนแต่เช้า
ตื่นมาเตรียมตัว
แต่พอไปถึงโรงเรียน
ไหนจะนักเรียนไม่ตั้งใจเรียน
ไหนจะการทำงานห่วยๆของใครบางคน (ที่พยายามมองหาข้อดีของเค้าแล้วยากเย็นเสียจริงๆๆๆๆๆๆ เฮ้อ)

เอาเถอะ วันนี้ก็หายเหนื่อยแล้ว

31 มีนาคม 2553

เมื่อสองวันก่อนได้รับบทความ ดีท็อกซ์ใจ เขียนโดย คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย ในเรื่อง หัวใจสีขาว

การ ดีท็อกซ์ ก็คือการชำระล้างของเสียหรือพิษออกจากร่างกาย ซึ่งการ ดีท็อกซ์ใจ ก็คือการชำระล้างจิตใจที่ขุ่นมัว เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ไม่เป็นที่พอใจ ไม่พึงประสงค์ ไม่เป็นที่สบอารมณ์ ซึ่งเกิดจากตัวเราเองหรือคนรอบข้างและสั่งสมจนเป็น ตะกอน เป็น ก้อนกรวด หรือเป็น สนิม ในใจเรา จนคิดไปว่าสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของจิตใจเรา
การดีท็อกซ์ หรือล้างของเสียหรือพิษเหล่านี้ออกจากจิตใจเราก็มีหลายระดับได้แก่
ระดับที่หนึ่ง ล้าง ตะกอนใจ ซึ่งได้แก่ อาการจู้จี้ ขี้บ่น ขี้โมโห ขี้หงุดหงิด เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่ก็เป็นง่ายหายเร็ว วิธีการล้างก็คือ
- อย่าไปซีเรียสหรือจริงจังกับชีวิตนัก
- อย่ามัวคอยมองหาแต่ความผิดของผู้อื่น ให้มองข้อดีของเขาบ้าง
- ทำอะไรก็ได้ที่ทำให้จิตใจเบิกบาน จะได้บรรเทาอารมณ์โกรธลงได้
- ปลอบใจตัวเองว่าปัญหาทั้งหลายจิ๊บจ๊อบ มีทางแก้ไขได้ทั้งนั้น
- ท่องไว้ว่า โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ถ้าทั้งโกรธและโมโห ก็คือทั้งโง่และบ้า
- คิดไว้เสมอว่า ถ้าโกรธเมื่อไร เราก็กลายจากมนุษย์เป็นยักษ์ กลายจากผู้ดีเป็นไพร่ กลายจากนางเอกเป็นนางร้าย ทันที
- จำไว้ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า ตายไประหว่างที่โกรธ เวลาเกิดใหม่ก็จะรูปชั่วตัวดำ

ดีท็อกซ์ระดับที่สอง ล้าง ก้อนกรวดแห่งความคับแค้นใจ ซึ่งถ้าเราไม่แก้ไข ล้างตะกอน ออกให้หมดก็จะตกผลึกสะสมพอกพูนเป็น ก้อนกรวด แห่งความคับแค้นใจและแสดงออกมาทางสีหน้าแววตา โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ แต่คนอื่นๆเขารู้กันทั่ว หากไม่ ดีท็อกซ์ ออกซะบ้าง หน้าตาก็มีแต่จะเหี่ยวเฉาร่วงโรย อาการที่แสดงออกมาก็คือไม่ไว้ใจใคร หากมีใครหรือเหตุการณ์ใดมาสะกิดปมแห่งความคับแค้นใจนี้แล้ว ก็พร้อมที่จะระเบิดได้ทันที วิธีการล้างก้อนกรวดนี้ก็คือ
- แผ่เมตตา รู้จักชื่นชม รักในสิ่งดีๆ ของตัวเอง มิฉะนั้นแล้วเราก็จะไม่สามารถไปรักหรือรู้จักชื่นชมคนอื่นได้
- เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น โดยเฉพาะในทางลบ
- เปลี่ยนความคิดร้ายๆ ที่เป็นหอกคอยทิ่มแทงให้เป็นความคิดดีหรือเป็นดอกไม้ให้คนอื่นแทน
- คิดเสียว่าหัวใจไม่ใช่ถังขยะ จะได้เอาแต่ของเหม็นของเน่า หรือเรื่องร้ายๆ มาใส่อยู่อยู่ตลอด โปรดเลือกเก็บแต่สิ่งดีไว้ในใจดีกว่า
- คิดเสียว่าทุกคนล้วนเป็นพี่น้องเป็นญาติกันทั้งนั้น อย่ามัวแยกพวกเขา พวกเรา พวกมัน
- แผ่เมตตา "ขอให้สัตว์ทั้งหลายจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวร อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย" ทุกครั้งที่จิตใจไม่สบาย

ดีท็อกซ์ระดับที่สาม ขัด สนิมใจ ซึ่งเป็นอาการของคนที่ฝังตนเองอยู่กับอดีตโดยเฉพาะเรื่องร้ายๆ ไม่ยอมยกโทษให้ใคร และคิดแต่ว่าโลกนี้ไม่มีความยุติธรรม ซึ่งคนประเภทนี้ก็มีแต่ความเคียดแค้น พยาบาทชิงชังเกาะลึกในจิตใจเหมือนสนิมที่ยากจะขัดออก มักอยู่ในโลกส่วนตัว ฝังใจอยู่กับอดีตและไฟแห่งความพยาบาท ไม่เข้าสังคม แม้จะไม่โกรธถี่เหมือนกลุ่ม ตะกอน แต่ถ้าโกรธแล้วก็ไม่ต่างกับระเบิดปรมาณู ที่ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า ดังนั้น การดีท็อกซ์ กลุ่มนี้จึงต้องทำบ่อยๆ ซ้ำๆ จนกว่า สนิม เหล่านี้จะค่อยๆ ถูกขัดออกไป โดยวิธีดังนี้
- ดึงตัวเองออกจากอดีตมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงในปัจจุบัน
- เชื่อในกฏแห่งกรรม โดยยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกล้าหาญ และไม่สร้างกรรมใหม่ในชาตินี้ให้ผูกพันกันต่อไป
- หยุดหาเหตุว่าทำไมเราจึงโชคร้ายกับชีวิตที่ผ่านมา แต่จงเลือกที่จะมีความสุขกับชีวิตที่เหลือ
- วางใจเป็นกลาง ไม่ให้ความสำคัญทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดทำร้ายจิตใจเรา
- หัดสวดมนต์ ทำสมาธิ จะได้ลดทอนความเห็นผิด ผูกพยาบาท
- ไถ่ชีวิตสัตว์เป็นอภัยทาน การให้ชีวิตผู้อื่นจะทำให้เราเห็นคุณค่าของชีวิตตัวเอง
- ระลึกมรณานุสติว่า อีกไม่ช้าเราก็จะตายไปจากโลกใบนี้แล้ว คนที่เราโกรธก็เช่นกัน จะได้ให้อภัยกันได้ง่ายขึ้น
- ประกาศให้อภัย อโหสิกรรมต่อตัวเองและคนรอบข้างโดยทำใจให้บริสุทธิ โดยเขียนชื่อ สาเหตุที่ไม่ชอบ ประกาศให้อภัยแล้วก็ฉีกกระดาษทิ้งไป
- เขียนชื่อคนเดิมที่เราแค้นเคือง แต่คราวนี้เขียนถึงสิ่งดีๆ ของเขาแล้วก็ขอโทษในสิ่งที่เราเคยล่วงเกินเขา แล้วจะส่งจดหมายนี้หรือไม่ส่ง จะบอกหรือไม่บอกให้เขารู้ก็แล้วไป แต่ก็ตั้งใจกับตัวเองแล้วกันว่าจะให้อภัยเขาและประกาศอโหสิกรรม
- แต่หากใครที่ส่งจดหมายแจ้งเขาไปแล้วเขาไม่ตอบกลับก็อย่าไปคาดหวัง ทุกอย่างอยู่ที่ใจเรา
- สุดท้ายคือหมั่นสำรวจว่าเรายังเก็บใครไว้ในหลุมดำบ้าง ถ้ายังมีหลงเหลือก็ค่อยๆ กลับไปทำตามขั้นตอนข้างต้นใหม่จนกว่าสนิมจะถูกขัดจนหมดเกลี้ยงจากใจเรา

การให้อภัยทาน การอโหสิกรรม ถือเป็นการทำทานขั้นสูงสุดและทำได้ยากกว่า การบริจาควัตถุทาน และสูงกว่า การสร้างวิหารทาน หรือสิ่งก่อสร้างที่เป็นสาธารณประโยชน์ และสูงกว่า การให้วิทยาทานและธรรมทาน ดังนั้น การให้อภัยและให้อโหสิกรรม จึงเป็น การชำระล้างตะกอน ก้อนกรวด และสนิมในใจของเรา เพื่อทำให้ชีวิตจิตใจปลอดโปร่ง เบา สะอาดและมีพลัง พร้อมที่จะก้าวไปสู่หัวใจสีขาวต่อไป

ก็ลองมาเริ่ม ดีท็อกซ์ใจ ไปพร้อมกัน

30 มีนาคม 2553

วิธีสวดคาถาบุญฤทธิ์หนุนดวง (คาถายันต์ห้าแถว)

ท่านอาจารย์หนู กันภัย เมตตาแนะนำให้สวดคาถาบุญฤทธิ์ตลอดเวลา
โดยให้สวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิ แผ่เมตตา และสวดคาถาบุญฤทธิ์

มีพี่น้องหลายท่านบนเว็บบอร์ดของครูพี รวมไปถึงครูพีเอง ก็แนะเคล็ดว่า "ถ้าจะให้ได้ผลดี ได้ผลเร็ว ก็ให้สวดก่อนนอน 109 จบ"

ใครอยากมีความสำเร็จ ลองปฏิบัติตามคำแนะนำดูนะครับ

.....................................
บูชาวัตถุมงคล อ.หนู กันภัย
เหรียญห้าแถวอ.หนู

29 มีนาคม 2553

ถอนหญ้า

" ก๊อกๆๆๆๆ"

เสียงเคาะประตูที่ดังผ่านแผ่นไม้ มา พร้อมๆ กับเสียงที่ดูเหมือนกับเป็นคำสั่งว่า

" ตื่น นอนได้แล้วจะได้ช่วยกันทำงาน"

เด็กน้อยคนหนึ่งตื่นขึ้นมา ท่าทางงัวเงียสลึมสลือ มือจับผ้าห่มที่อยู่ปลายเตียงมาพับและตอบรับเสียงปลุกนั้น

" อืม..... ตื่นแล้ว ได้ยินแล้ว" "นี่วันหยุดนะเนี่ย" เด็กน้อยบ่นกับตัวเอง

" เดี๋ยว กินข้าวเสร็จ ไปถอนหญ้าที่ไร่นะ" พ่อสั่งขณะที่ใช้ตะเกียบคีบเนื้อปลาให้ลูกชาย

เด็กน้อยพยักหน้าตอบ และลงมือทานอาหารมื้อแรกของวัน



หลังจากทานอาหารเสร็จ เด็กน้อยเดินไปหยิบหมวกและเสื้อแขนยาวมาสวมเพื่อกันแดด แล้ววิ่งออกไปหน้าบ้าน
กระโดดขึ้นซ้อนท้ายจักรยานโบราณสภาพเก่าโทรม บ่งบอกถึงอายุการใช้งานซึ่งมีพ่อเป็นผู้ขี่

ในระหว่างทาง เด็กน้อยคุยกับพ่อตลอด เขาป้อนคำถามที่อยากรู้

ซึ่งบางครั้งดู เหมือนกับว่าผู้เป็นพ่อจะพยายามสอดแทรกให้แง่คิดตลอด

โดยที่เด็ก น้อยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่นานนักก็ถึงไร่ที่เขามีภารกิจที่จะต้องทำ

" ถอน หญ้า" ภาระกิจที่ได้รับมอบหมาย ..หญ้าเปรียบเสมือน "ศัตรูตัวฉกาจของชาวไร่"

" เดี๋ยวเจ้าถอนแปลงนี้นะ" พ่อสั่งพร้อมกับชี้นิ้วไปที่แปลงผัก

เด็กน้อยรับคำและลงมือถอนหญ้า ออกจากแปลงผัก ทีละต้น ทีละต้น จนกระทั่งศัตรูตัวฉกาจของชาวไร่หายไปจากแปลงผักจนหมดสิ้น

" ไป พักกินน้ำที่ใต้ต้นมะม่วงก่อน....ไป" เด็กน้อยรับคำพ่อแล้วเดินไปพัก

" กลับ มาเร็วๆ นะ ยังมีอีกแปลงหนึ่ง" เสียงพ่อสั่งตามหลังเด็กน้อย




หลังจากได้พักกินน้ำ พ่อได้ส่งจอบให้เด็กน้อย พร้อมกับพูดว่า "เอ้า...เอาไปถากหญ้า"

เด็ก น้อยรับจอบและตรงไปยังแปลงผักเพื่อทำภารกิจต่อ

ดูเหมือนว่าเด็กน้อย จะพึงพอใจกับการใช้จอบถากหญ้ามากกว่าการใช้มือถอน

เหตุผลก็คือ มันทำให้เขาสามารถทำงานได้รวดเร็ว ซึ่งไม่นานนักเขาก็จัดการกับศัตรูตัวฉกาจของชาวไร่อย่างราบคาบ




หลังจากที่ภารกิจเสร็จสิ้นลง พ่อลูกก็พากันกลับบ้าน

ระหว่างทางเด็กน้อยถาม "ทำไมไม่ให้ผมใช้จอบตั้งแต่แรกล่ะ ทั้งๆ ที่ทำงานได้เร็วกว่า"

พ่อ ไม่ตอบ ได้แต่อมยิ้ม เก็บซ่อนคำตอบไว้เพียงผู้เดียว



ผ่านไป 1 สัปดาห์

พ่อได้พา เด็กน้อยกลับไปที่ไร่อีก สิ่งที่เด็กน้อยเห็นก็คือ

แปลงที่ใช้มือ ถอน บัดนี้ไม่มีหญ้าให้เขาถอนเลย แม้แต่ต้นเดียว

แต่... แปลงที่ใช้จอบถาก กลับมีต้นหญ้าปกคลุมเหมือนเดิม



" ทำไม มันเป็นอย่างนั้นล่ะ" เด็กน้อยถามด้วยความสงสัย ทั้งๆ ที่เขาได้จัดการมันหมดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

พ่อตอบ "แปลงที่เจ้าใช้มือถอนน่ะ เจ้าได้ถอนมันถึงรากถึงโคน ส่วนแปลงที่เจ้าใช้จอบถากน่ะ
เจ้าเพียงแต่ตัดเอาส่วนปลายของมันออกเท่า นั้น มันยังคงมีส่วนที่ฝังลึกอยู่ในดินอีก ”

“ มันก็เหมือนกับปัญหาต่างๆ ที่เราพบเจอนั่นแหละ ถ้าเราแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ โดยปล่อยสาเหตุของปัญหาไว้ ไม่นานนักปัญหานั้นก็จะกลับมาสร้างความเดือดร้อนให้เจ้าอีก แต่ถ้าเราแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แม้มันจะยากสักนิด แต่มันก็ทำให้ปัญหานั้นหมดไปได้"

เด็กน้อยยิ้มรับด้วยความ เข้าใจ

" จงหันหน้าสู้กับปัญหา..... จัดการกับสาเหตุ.....และอย่าท้อถอย"




ธรรมสวัสดี http://seal2thai.blogspot.com





............................................................

" เงินและอาหารเป็นเสบียงอันประเสริฐใน โลกนี้ฉันใด

บุญกุศลก็เป็นเสบียงในทางปรโลกฉันนั้น

ใช้ ชีวิตนี้ให้มีคุณค่า สะสมเสบียงให้เพียงพอ

เรียกว่า สั่งสมบุญบารมี "

หลวงปู่จันทร์ศรี ...

28 มีนาคม 2553

พักแบบสุดๆๆๆ

วันนี้เหนื่อยมาก
นอนพักกลางวันหลายชั่วโมงเลย

ตืนมาก็อัพเว็บ ตรวจสอบข้อมูล ทำหลายๆอย่าง

เหนื่อยครับ เหนื่อยเพราะทำงาน ดีกว่า เหนื่อยเพราะหางาน ใช่ไหมครับ

27 มีนาคม 2553

ส่งเล่มเขียวแล้วววว

วันนี้เดินทางไปส่งเล่มเขียนแล้ว
ดีใจมากๆ
หมดไปพันกว่าบาทเลย

เสร็จแล้วก็เอาไปส่ง
ทำเรื่องจบ
ไปถ่ายรูป
ไปแผงพระ
เฮ้อ
เหนื่อยแต่คุ้มจริงๆครับ พี่น้อง (ว่าแต่แผงพระ มันเกี่ยวไหมเนี่ย)

ป.ล. ชุดปกติขาวใส่ไม่ได้ ติดพุง

26 มีนาคม 2553

ยายๆ ทำไมหัวล้าน

ยายๆ ทำไมต้องโกนหัว

"แหม พอดีหมากฝรั่งติดผมหนะ"

แล้วไปกินทำไมละยาย

ยิ่งเคียวยิ่งมัน

ไม่มีฟันแล้วเนี่ยนะ

เออ แบบนี้แหละ ชอบ

คุ้มไหมยาย กินหมากฝรั่งแล้วโกนหัว

คุ้มดิ หมากฝรั่ง ก็มาจากเมืองนอก อร่อยดี

25 มีนาคม 2553

ผู้มีอุดมการณ์เอาธงทุบผู้หญิง

วันนี้ดูคลิป
เป็นคลิปของู้มีอุดมการณ์เข้าไปรุมผู้หญิง เอาธงไปทุบผู้หญิง

หลายคนคงบอกว่า ของปลอม คนปลอม

สุดยอดเลย เพราะลงทุนทั้งเสื้อ หมวก ธง เพื่อทำคลิปเนี่ยนะ

เรียกร้องได้ พึงทำ แต่ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง เพราะมันจะทำให้คนอื่นเค้าไม่เชื่อถือ

ป.ล. เรียกร้องประชาธิปไตย แต่ใส่หน้าการนักการเมือง งง จริงๆ

24 มีนาคม 2553

อหิงสา แบบเลือดๆ

วันนี้ดูหนังเรื่องหนึ่งทางเคเบิล
เป็นการเรียกร้องเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่างของกลุ่มสีผิว

มีการเอาเลือดมาสาด เท ทำหลายอย่าง เพื่อเรียกร้อง

ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอหิงสาแบบไหน

เมื่อก่อนเคยมีที่ว่า อดข้าวประท้วง แต่เจาะน้ำเกลือแทน 5555

23 มีนาคม 2553

คุมสอบปลายภาควันที่ 2

วันนี้นั่งคุมสอบไป
ตรวจข้อสอบของเมื่อวานไปด้วย

ลำบากใจ

คิดดูครับ 40 ข้อ ได้ 0.5 คะแนน

ตอนแรกผมคิดว่า ผมคงเป็นครูที่ห่วยมากๆ แต่บางคนก็ทำได้ 20 บ้างก็ 36 เออ แปลกเนาะ

เหนื่อยใจจริงๆ

22 มีนาคม 2553

คุมสอบปลายภาควันแรก

วันนี้คุมสอบปลายภาควันแรก

เหนื่อยใจ
ขนาดยังไม่ตรวจ คะแนนออกมาก็แย่

บางคนไม่รู้ตัว คิดว่าส่งงานครบแล้วจะผ่าน เฮ้อ สังคมไทย

ถ้าปล่อยให้พวกนี้ออกไปสู่สังคม คือการสนับสนุนให้คนไม่รู้ ออกไปสู่โลกที่อันตราย

เป็นครูนี่เหนื่อยจริงๆๆๆ ชีวิตครูบ้านนอก

21 มีนาคม 2553

ร้อนๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เมืองไทยเป็นอะไรไป
ร้อนไปหมดทุกหย่อมหญ้า

ร้อนจนมีคนเกือบตาย

โลกจะแตกใช่ไหมครับ เฮ้อ

20 มีนาคม 2553

เสาร์ห้า วันแรง

วันนี้มีแต่เสียงสวด สเยงท่องมนต์คาถา
มีการแย่งชิงพระเกจิมาปลุกเสกวัตถุมงคล แม่มาเพียง 15 นาที ก็เอา
น่าสงสารบรรดาพระเกจิเหล่านั้นครับ ท่านคงเหนื่อยน่าดู

วันนี้ที่สำนัก อ.หนู กันภัย ก็คราครั่งไปด้วยบรรดาลูกศิษย์ที่ไปรอเพิ่มของดี ส่วนใหญ่จะเน้นของแรงมากกว่าเมตตา มีของขึ้นเป็นพักๆ (ฟังเค้าเล่ามา) เมื่อหัวค่ำ แขกเริ่มน้อย ท่านอ.หนู กันภัย ก็ให้ลูกศิษย์กลับแล้วปลุกเสกวัตถุมงคล โดยเฉพาะวัวธนู เน้นเฉพาะเสาร์ห้านี้เท่านั้น เท่าที่ทราบมีเพียงไม่กี่ตัว สุดยอดครับ

19 มีนาคม 2553

คาถาครูบ้านนอก บทที่ 2

ต้องมีวินัย
...เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา
ไม่ว่าจะสั่งให้ไปไหน
ไม่ให้ไปไหน
ให้โกงอย่างไร
เอาเงินมาแล้ว ไปหาใบล้างหนี้ให้ด้วย
เขียนโครงการหน่อย จะเอาเงินไปใช้
ทำโครงการหน่อย จะไปเที่ยว...

18 มีนาคม 2553

คาถาครูบ้านนอก บทที่ 1

เป็นครูบ้านนอกต้องอดทน
อดทนต่อความยากลำบาก
อดทนต่อความไม่เท่าเทียม
อดทนต่อเจ้านายที่ไม่เน้นวิชาการ
อดทนต่องานหนัก ทั้งๆที่มีธุรการ
อดทนต่อผลกระทบที่เป็นเครื่องมือต่างๆ
อดทนต่อ.......(เขียนวันนี้ก็ไม่จบ)

17 มีนาคม 2553

เราจะไม่ยอมให้วีรบุรุษหายไป เพราะไอ้คนสร้างภาพ

วันนี้เป็นวันที่มีพิธีพระราชทานเพลิงศพของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา
บล๊อกของ "บันทึกครูบ้านนอก" ไม่ได้ตามกระแส
ไม่ได้ต้องการเป็นเว็บข่าว แต่ต้องการบันทึกไว้ว่า แผ่นดินไทยได้สูญเสียวีรชน สูญเสียผู้กล้า ผู้ที่เดินหน้าเข้าป่า ปราบปรามผู้ก่อการร้ายโดยไม่หวังถ่ายรูปลงหนังสือพิมพ์ ออกโทรทัศน์เวลาที่มีคดีแม่ขโมยนมกระป๋อง

...ผมไม่ได้ว่าใครทั้งนั้น

ผมเปรียบเปรยว่า ในสังคมนี้ หาคนดีๆได้ยาก แต่ก็ยังมีอยู่

หลายคนเคยบอกว่า ไม่มีนายสิบ (ทหาร) หรือ พลตำรวจ คนไหนก้าวถึง พันเอก พันตำรวจเอก ได้ก่อนเกษียณอายุราชการ (ขนาด ร.ด. ยังมีถึงแค่ ว่าที่พันโท)พูดง่ายๆ เป็นพันโทจนเกษียณ พอเกษียณได้พันเอก

...แต่ท่านสมเพียร กับได้ พันตำรวจเอก ก่อนเกษียณ แสดงให้เห็นถึงผลงานที่เด่นชัด แม้จะไม่ยิ่งใหญ่ในสายตาของใครๆก็ตาม "ผมว่าคนแบบนี้แหละ สุดยอด" seal2thai ขอนับถือจากใจจริง

ผมได้รับฟอร์เวิร์ดเมล์ฉบับหนึ่ง ไม่ทราบที่มาของต้นฉบับ ยังไงผมก็ขอขอบพระคุณ และขออนุญาตต้นฉบับในที่นี้เลยนะครับ


วันศุกร์ ที่ 12 มีนาคม 2553

...ผมไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และจะไม่ขอตายในชุดนักรบ !! คำสุดท้าย พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.บันนังสตา...



..." ผมจะไม่ขอตายในชุดนักรบ " พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.บันนังสตา...

... ข่าว....
...วันที่ 12มีนาคม2553 เวลาประมาณ 13.30น.พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.บันนังสตา จ.ยะลา ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดขณะเข้าพิสูจน์ทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่ สงบในพื้นที่บ้านทับช้าง ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา เป็นเหตุให้ พ.ต.อ.สมเพียร ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่ รพ.ศูนย์ยะลาในเวลาต่อมา ส่วนตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับบาดเจ็บ 4 นาย.....
.. รายละเอียด คงทราบกันมากกว่านี้แล้วนะครับ.


......" ผมไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และ จะไม่ขอยอมตายในชุดนักรบ " ....
นี่คือบทสัมภาษณ์สุดท้าย (1มีค.ที่ต.บาเจาะ อ.บับนังสตา ) ของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.บันนังสตา ก่อนปิดตำนานมือปราบ " จ่าเพียร " กระดูกเหล็กชายแดนใต้....


...ในวัย 59 ปีของพันตำรวจเอกสมเพียร เอกสมญา ผกก.บังนังสตา จังหวัดยะลา วันนี้เต็มไปด้วยแผลรอบตัว เพราะร่อยรอยจากเหตุระเบิด และถูกยิงกว่า 10 ครั้ง ระหว่างการปะทะกว่า 70 ครั้ง ในช่วง 30 ปีที่ทำงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหลายครั้งแทบเอาชีวิตไม่รอด แม้ตลอดอายุราชการนายตำรวจผู้นี้จะได้รับรางวัลชื่นชมจากหน่วยงานต่างๆนับ ไม่ถ้วน แต่ดูเหมือนว่าผลงานที่เขาทำร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชาและเพื่อนผู้ร่วม อุดมการณ์ซึ่งเป็นกำลังภาคประชาชนกลับดูไร้ค่าในสายตาของผู้บังคับบัญชา แม้แต่การขอย้ายตนเองไปอยู่ที่ สภ.กันตัง จังหวัดตรังก่อนเกษียณอายุราชการในปีนี้ กลับถูกปฎิเสธ ทำให้เขาต้องตัดสินใจ เดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆทั้งสิ้นจากบังคับบัญชาระดับสูงจะมีก็เพียง แต่ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา สบ 10 ที่เคยทำงานคลุกคลีอยู่กับตำรวจในในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าใจและทราบปัญหาดังกล่าว แม้ พล.ต.ท.อดุลย์ จะเคยให้การยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า โผการโยกย้ายล่าสุด พ.ต.อ.สมเพียร จะได้ย้ายออกนอกพื้นที่ เพื่อพักผ่อนในบั้นปลายของอายุราชการ หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบในพื้นที่จังหวัดชายแดน ภาคใต้ กว่า 40 ปี อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้ดั่งที่หวังไว้ ...
... วันนี้เขาได้เดินทางกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติที่บันนังสตา แม้จะมีความรู้สึกผิดหวังลึกๆจากโผการแต่งตั้งโยกย้าย แต่ด้วยความเป็น ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ชาวบ้านในพื้นที่ฝากความหวังเอาไว้ ทำให้ผู้กำกับสมเพียร ต้องกลับมาสวมบทบาทนายตำรวจมืออาชีพอีกครั้งเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ ประชาชน ทิ้งความเจ็บปวดส่วนตัวไว้เบื้องหลัง ...
...นับตั้งปี 2550 เป็นต้นมาหลังจาก พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา เดินทางกลับ มารับตำแหน่งผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา ท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงที่กำลังลุกเป็นไฟ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ถูกลอบยิง วางระเบิด ฆ่าตัดคอ ล้มตายเป็นใบไม้ร่วง นับเป็นงานที่หนักและท้าทายอย่างมาก สำหรับตำรวจนายหนึ่งที่เพิ่งติดยศ " พันตำรวจเอก" ในวัย 57 ปี ตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจที่ถือว่าดูแลพื้นที่สี"แดงเข้มสุดๆ"ในช่วง เวลานั้น จากประสบการณ์ที่เคยทำงานวนเวียนอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มานาน อาศัยความคุ้นเคยกับแกนนำชาวบ้านในพื้นที่ ที่เคยทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตั้งแต่ เขามียศแค่ชั้นประทวน คอยแจ้งเบาะแสความเคลื่อนไหวของคนร้าย ประกอบกับความร่วมมืออย่างแข็งขันของผู้ใต้บังคับบัญชาที่เห็นความมุ่งมั่น ตั้งใจจริงในการทำงาน ทำให้ในแต่ละครั้งที่สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ทำได้อย่างถูกต้องแม่นยำ หลายครั้งที่มีการปะทะเกิดขึ้น ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งสามารถวิสามัญฆาตกรรมกลุ่มแนวร่วมฯได้ถึง22คน เป็นที่น่าสังเกตุว่าไม่มีญาติผู้เสียชีวิตคนใดที่เป็นแนวร่วมฯ ออกมาร้องเรียนว่ายิงผิดตัวแม้แต่รายเดียวเนื่องจาก มีเป้าหมายชัดเจน ทำให้ปัจจุบัน พื้นที่อำเภอบันนังสตา ได้ลดระดับความรุนแรงรายวันลงไปมาก...



..."เป็นเรื่องยากมากหากใครสักคนคิดว่าตัวเองมีอำนาจ มีปืนมีกฏหมายและกำลังรบใต้บังคับบัญชาอยู่ในมือ เข้ามาทำงานในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งสูงอย่างบันนังสตา ไม่มีทางหรอกที่จะประสบความสำเร็จลงได้ หากไม่อาศัยแนวร่วมภาคประชาชนซึ่งเป็นคนในพื้นที่เข้ามาช่วยเหลือ และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะโน้วเน้าจิตใจ ดึงคนที่เคยเป็นปฏิปักษ์กับเรา เคยต่อต้านอำนาจรัฐทุกรุปแบบมาเป็นพวก บางครั้งต้องอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัว ที่มีมาอย่างยาวนาน ผมอาจจะได้เปรียบคนอื่นในเรื่องของการข่าวและความชำนาญพื้นที่ เพราะอยู่ที่นี่มานาน เมื่อกลับเข้าพื้นที่อีกครั้งผมมีพวกเขาคอยช่วยเหลือซึ่งในความคิดเห็นส่วน ตัวผมเห็นว่ากองกำลังภาคประชาชน มีความสำคัญกว่ากองกำลังใด ๆ อยู่ที่ว่าทำอย่างไรถึงจะเข้าไปนั่งในใจของเขาให้ได้แค่นั้นเอง " พ.ต.อ.สมเพียร กล่าว....


... อย่างเช่นนายดอเลาะ เซ็งมะสู ในวัยใกล้จะ 60 ซึ่งคนในพื้นที่รู้จักกันในนาม " เลาะ ตะโล๊ะเว" ซึ่งอดีตเคยเป็นแกนนำกลุ่มขบวนการโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน(พูโล) เมื่อเกือบ 30ปี ที่แล้ว เคยนำกำลังเข้าปะทะ กับ"จ่าเพียรมือปราบ" หรือ ผู้กำกับสมเพียรในปัจจุบัน อยู่เป็นประจำ ปัจจุบันหลังออกจากป่า เขา ได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา เป็นหนึ่งในอดีตแกนนำฯ ที่ประกาศตัวอยู่ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐอย่างชัดเจน หลายครั้งเขาถูกลอบยิงถล่มได้รับบาดเจ็บสาหัส จนทำให้เสียดวงตาข้างขวาไปหนึ่งข้าง แต่นั่นก็ไม่ได้สร้างความหวาดกลัว ทำลายความตั้งใจ เดยที่เคยให้ปฏิญานไว้กับตัวเอง ทุกวันนี้เขายังเข้าร่วมภารกิจเสี่ยงตายกับผู้กำกับเพียร อยู่เสมอหากมีโอกาส
" ไม่ชอบโจรยุคปัจจุบัน จะกวาดล้างให้สิ้น " ภาษาไทยกระท่อนกระแท่น ที่พอจับใจความได้ จากปากของล่ามชาวไทยมุสลิม อีกคน แสดงถึงเจตนาและความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวของ ผู้ใหญ่บ้าน เลาะ ตะโล๊ะเว คนนี้ .....
... หรือแม้แต่ นายดอเลาะ กะจะลากิ ที่อายุย่าง 82ปี ชาวบ้านบียอ ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ในชุดโสร่งสวมหมวกกะปิเยาะห์ แบบชาวไทยมุสลิมพื้นบ้านทั่วไป ขณะแววตายังมั่นคงเด็ดเดี่ยวเป็นประกายของชายชราคนนี้ มือกระชับอาวุธปืน M16 อยู่ไม่ห่างกาย ซึ่งผู้เฒ่าดอเลาะคนนี้ เคยทำงานร่วมกับผู้กำกับสมเพียรมานานเกือบ 40 ปีแล้ว ตั้งแต่เริ่มบรรจุเป็นตำรวจชั้นประทวนที่ สภอ.บันนังสตา เขากล่าวผ่านล่ามว่า หลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อปี 2547 ได้เดินทางไปอยู่ที่เมกกะ ประเทศซาอุดิอารเบีย พักหนึ่งก่อนกลับมาอยู่บ้านเมื่อสองสามปีที่ผ่านมาและเมื่อ "จ่าเพียร"กลับมาเป็นผู้กำกับที่บันนังสตา ผู้เฒ่าเลยพกความมั่นใจเต็มร้อยสมัครเป็นชุดอาสารักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.)ที่อายุมากที่สุด โดยชาวบ้านบียอได้ ยกให้เป็นหัวหน้าชุด ชรบ.ที่นี่ เพราะความเป็นผู้อาวุโสผ่านประสบการณ์มากเป็นที่ นับถือของคนที่นี่ ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้จากเดิมที่อำนาจรัฐเข้าไม่ถึง กลายเป็นชุมชนที่น่าอยู่ประชาชนกลับมาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มากขึ้น ...
... ผลจากการทำงานถึงลูกถึงคน อาศัยความจริงใจที่มีให้แก่คนที่นี่ ของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ทำให้นายมะรอนิง โดยมะตู อายุ 26 ปี ชาวต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งเป็นนักรบอาร์เค(RKK)รุ่นใหม่ ที่เคยร่วมก่อเหตุร้ายหลายครั้งในพื้นที่ ยอมกลับใจมาทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง โดยเป็นเจ้าหน้าที่ ชรบ.หมู่บ้านที่มี ผู้เฒ่าดอเลาะเป็นหัวหน้าชุด แม้จะเกิดเรื่องเศร้าสลดหลังจากเขากลับใจมาอยู่ฝ่ายรัฐ พ่อของอนิง ถูกฝ่ายตรงข้ามยิงเสียชีวิต แต่ก็ยังพร้อมที่จะต่อสู้ เพราะที่นี่คือบ้านเกิดของตนเอง ...
... ขณะที่ร้อยตำรวจโทธาม ลอยสะเทื้อน รองสว.สภ.บังนังสตา จ.ยะลา นายตำรวจหนุ่มไฟแรง ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นมือขวาของผู้กำกับสมเพียร บอกว่า ร่วมสู้กับผู้กำกับสมเพียรมาเกือบสี่ปีแล้ว ก่อนหน้านี้เคยได้ยินแต่ชื่อ " จ่าเพียร " ที่ปราบโจรใต้มาก่อน และเมื่อได้ทำงานร่วมกันก็เห็นถึงความทุ่มเท และความรักลูกน้องของผู้กำกับสมเพียร แนวทางการการทำงานของผู้กำกับสมเพียรส่วนใหญ่เป็นลูกบู๊ แต่ก็ไม่ประมาท จะมีการประเมินสถานการณ์ก่อนทุกครั้ง เราทำงานร่วมกันปะทะกับผู้ก่อความไม่สงบหลายครั้งและก็ภูมิใจที่สามารถตอบ โต้แนวร่วมได้บ่อยครั้ง มันเหมือนเราได้ทำหน้าที่ของพวกเราอย่างสมบูรณ์แล้ว แม้ว่าวันนี้จะไม่มีใครมองเห็นก็ตาม ...
... ด้านผู้กำกับสมเพียร ได้กล่าวเสริมว่า การร่วมมือร่วมใจของกำลังภาคประชาชนมีทั้งเด็ก และ คนแก่ ที่ลุกขึ้นมาจับปืนร่วมกันสู้กับกลุ่มก่อความไม่สงบ ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจมาก และ ก็เกินความคาดหมาย ซึ่งตลอดเวลาที่ทำงานในพื้นที่ แม้จะได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐน้อยมาก ทำให้ต้องหางบประมาณเพื่อจัดซื้อปืนเอง โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นที่รับมาเป็น ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ที่ทำงานด้วยกันก็ต้องเอามาฝึก และซื้อปืนให้ ทุกคนทำงานอย่างเสียสละ แต่ไม่เคยได้รับการดูแลพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาให้ดีขึ้น ...



...แม้แต่ตำรวจ บางคนมีอายุมากแล้วก็ยังเป็นแค่นายดาบ ไม่ใช่ต้องรู้จักนาย หรือเป็นลูกหลานแล้วถึงจะได้รับการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง คนบางคนถึงจะไม่มีความรู้แต่มีผลงานก็ต้องบรรจุ อย่างทีมงานของตนหลายคนก็ไม่มีเงินเดือนไม่มีค่าจ้าง ไม่มีค่าตอบแทน ทำงานกันด้วยใจจริง ๆ สู้เพื่อแผ่นดินตรงนี้ ที่เดินทางไปโวยวายกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ไม่ได้ไปโวยวายเพื่อให้ตัวเองได้ดิบได้ดี แต่อยากให้ผู้บังคับบัญชาในระดับสูงรับรู้ ว่าพวกเราทำงานกันยังไง ทำงานท่ามกลางความขาดแคลน แต่ไม่เคยเอาอุปสรรคตรงนี้ไปอ้างเพื่อสร้างปัญหา ส่วนที่ตนเองไปที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่ได้ไปเพราะความผิดหวังที่ไม่ได้โยกย้ายไปที่อื่น แต่มันเหลือเวลาแค่หนึ่งปีก็คิดว่าน่าจะทำอะไรเพื่อเป็นแบบอย่างให้น้องๆ บ้าง วันนี้เราต้องมาพูดความจริงว่าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมไม่ตอบแทนคนเหล่านี้ขณะที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่ให้เขาอยู่ใน หลุมฝั่งศพแล้วค่อยบอกว่าเขาเป็นวีระบุรุษ บางคนยังไม่ได้รบเลยแต่ถูกยิงเสียชีวิตขณะลาดตะเวนแล้วได้รับการสดุดีว่า เป็นวีระบุรุษ แล้วคนที่ทำงานอย่างหนักเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ทุกวันทำไมไม่ให้กำลังใจเขา ซึ่งหลังจากตนเองได้ไปยื่นหนังสือตรงนี้ มีกระแสการตอบรับที่ดี แต่สำหรับนายก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดใด ขนาดวันที่ไปหาก็ยังไม่ได้เข้าพบ ก็ไม่หวังอะไร หวังแค่ว่าหลังเกษียณราชการแล้ว ตนเองอยากกินน้ำชา นั่งนินทาเพื่อน แล้วก็กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว เพราะตนเองไม่ได้อยู่กับครอบครัวมานาน 40 ปี เวลาที่อยู่กับครอบครัวมีน้อยมาก โดดเดี่ยวอยู่คนเดียวมาโดยตลอด...

...ผู้ กำกับสมเพียร หรือ "จ่าเพียร"ของคนบันนังสตากล่าวทิ้งท้าย.....

...ส่วน นางพิมพ์ชนา ภรรยาคนข้างกายของผู้กำกับสมเพียร ที่คอยเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่มาโดยตลอด บอกว่า “ภูมิใจในความเสียสละของสามี แม้จะรู้ดีว่า ตลอดการทำงานจะเสี่ยงต่อชีวิต และบางครั้งที่เดินเท้าลาดตะเวนในป่า ก็จะหายหน้าไปหลายวัน และกลับมาด้วยสภาพที่อิดโรย เนื้อตัวเต็มไปด้วยทาก แต่ก็ไม่เคยกดดันให้เขาลาออกเพราะเป็นงานที่เขารัก แต่ก็มีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่รู้สึกว่าน้อยใจ เพราะถูกคนถามว่าผู้กำกับสมเพียรเลี้ยงโจรเหรอ เราก็เสียใจเลยมาถามเขาว่าพ่อเลี้ยงโจรเหรอ แต่สามี (ผู้กำกับสมเพียร)กลับตอบว่า " เลี้ยงโจรดี กว่าให้ โจรมันเลี้ยง " เพราะถ้าโจรเลี้ยงเราคงไม่อยู่แบบนี้หรอก คำพูดนี้มันทำให้เราคิดว่า เราควรจะภูมิใจในตัวเขา แม้วันนี้เราไม่ได้อะไร ไม่ร่ำรวยเหมือนคนอื่น แต่พี่ก็ภูมิใจ ....
................................................................

... ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ ขอสู้ศึกทุกเมื่อไม่หวั่นไหว

ถึงทนทุกข์ รุกโรมโหมกายใจ ขอฝ่าฟันผองภัยด้วยใจทนง ...


บทเพลงพระราชนิพนธ์ที่ดังก้องในใจของผู้กำกับสมเพียร ตลอดเวลาเสมือนหนึ่งปณิธานอันแรงกล้าที่นักรบชายแดนใต้คนนี้ยึดถือเป็นแนว ทางปฏิบัติในชีวิตการทำงาน ความภาคภูมิใจในอาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของเขาใช่ดาวที่ประดับบนบ่า หรือความโก้หรูของเครื่องแบบ แต่กลับเป็นความสุขสงบของบ้านเมือง ความปลอดภัยและความผาสุกของประชาชน ทุกคนในบันนังสตาต่างทราบดีว่า ที่ใดลุกเป็นไฟ จ่าเพียรของเขาจะไปดับให้ทันที แม้ที่นั่นจะต้องฟันฝ่าด้วยอุปสรรคนานัปการ หรือความทุกข์ยากลำบากแสนสาหัสก็ตาม คำพูดที่ "ว่าผมไม่ อยากเป็นวีรบุรุษและจะไม่ขอตายในชุดนักรบ "
....ประโยคสุด ท้ายก่อนอำลาจากกันเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2553..ยังคงดังก้องในโสตประสาท อนิจจา..จ่าเพียรไม่ได้ดั่งหวัง เพราะ ณ วันนี้.....เลือดของชายชาตินักรบไหลนองปฐพี ก่อนที่จะสิ้นลมหายใจขณะที่ร่างยังสวม "ชุดนักรบ" และทุกคนที่อยู่ข้างหลังต่างสดุดีให้เขาเป็น "วีรบุรุษของแผ่นดิน" แม้นว่าดวงวิญญาณของเขาจะรับรู้หรือไม่ก็ตาม ...

บ่ายวันที่ 12 มีนาคม ฝนตกลงมาปรอยๆ เหนือฟ้ายะลา....ดั่งสวรรค์เบื้องบนรับรู้การจากไปของนักรบผู้กล้าแห่งชาย แดนใต้
ดั่งน้ำตาที่ไหลท่วมใจชาวยะลา
หลับให้สบายเถิดวีรบุรุษในดวงใจ......
ขอดวงวิญญาณ ท่านผู้กำกับสมเพียร จงสุขสงบ อยู่สรวงสวรรค์
และปิดตำนาน" จ่าเพียรกระดูกเหล็ก " ...ไปชั่วนิจนิรันดร์


.... ขอสดุดี และ แสดงความไว้อาลัยอย่างสุดซึ้ง ต่อการจากไปของ " พี่เนี๊ยบ หรือพี่เพียร " .....
พี่คนที่มี แต่ให้ " แม้แต่วินาทีสุดท้ายของชีวิต " ...

.... ยอมรับว่า ช็อค !! มาก เขียนอะไรไม่ออก.....

..สม เป็นยอดนักรบผู้ทรนง
...เพียร บุกป่าฝ่าดงดับไฟใต้
....เอก อุโฆษณ์นามระบือเลื่องลือไกล
.....สม ญาให้ " วีรบุรุษของแผ่นดิน " ............







วันพุธ ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2553

.อีกครั้งกับ กับ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา "จ่าเพียรกระดูกเหล็ก" แห่งบันนังสตา......


...ผู้สร้างความเป็นธรรมให้สังคม ที่ต้องมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้แก่ตนเอง ...

...วันนี้ !!! มีข่าวหนึ่งที่น่าสนใจแทรกเข้ามาเป็นยาดำ นอกเหนือจากข่าวศาลฏีกา จะพิพากษาคดียึดทรัพย์ของอดีตนายกทักษิณ ในวันที่ 26กพ.คือข่าวโผการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจที่กลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่ในวงการสี กากี ทำให้ตำรวจน้ำดีหลายนายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง หลายคนต้องทนน้ำตาตกในเก็บความขมขื่นอัดอั้นตันใจ ปิดปากเงียบ !! เพราะกลัวจะไปกระทบกับชีวิตราชการที่อาจจะเลวร้ายมากไปกว่านี้ แต่หลายคนกลับออกมาสู้ ดับเครื่องชนเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้บังคับบัญชา ...

... โดยเฉพาะกรณี พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ลงทุนหอบเอกสารผลงาน โล่รางวัล พร้อมหนังสือร้องเรียน เดินทางเข้ากรุงเทพ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายกฯ(อภิสิทธิ์)และรักษาการ ผบตร.(ปทีป)ถึงทำเนียบรัฐบาล ...

...ชื่อของ " ผู้กำกับเพียร " หรือ " จ่าเพียรมือปราบ" อาจไม่เป็นที่รู้จักมากนักในแวดวงไฮซง ไฮซ้อ หรือ บุคคลมีระดับชั้นนำของประเทศ แต่ในวงการตำรวจแล้ว โดยเฉพาะชายแดนใต้ น้อยคนนัก ที่ไม่รู้จักนายตำรวจผู้นี้ โดยเฉพาะ พวกมิจฉาชีพ โจรก่อการร้าย ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ แค่ได้ยินชื่อ ก็อกสั่นขวัญแขวน..

...จากเกียรติประวัติทำงานคลุกคลี อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มานานเกือบ40 ปี ในเครื่องแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ คอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน ตั้งแต่ยศชั้นประทวน จนถึง พันตำรวจเอกในปัจจุบัน ผ่านการปะทะกับผู้ก่อการร้ายมานับครังไม่ถ้วน และ หลายครั้งแทบเอาชีวิตไม่รอด...
...แทบไม่น่าเชื่อว่า!!!วันนี้เขาต้องมา เรียกร้องขอความเป็นธรรมให้แก่ตนเอง...


...น้ำตาของนายตำรวจเหล็ก ผู้ไม่เคยยอมสยบต่อสิ่งชั่วร้าย ต้องมาร่วงด้วยความคับแค้นใจต่อการกระทำของผู้บังคับบัญชา นี่หรือคือผลตอบแทนคุณงามความดี ที่มีต่อนายตำรวจน้ำดีคนนี้ ที่ ตั้งปณิธานให้แก่ตนเองในการปกป้องผืนแผ่นดินแม่ มาตลอดชีวิตราชการ...

...จากเดิมที่มีชื่อแปะไว้ในโผแล้ว ว่าจะได้ย้ายไปดำรงตำแหน่ง ผกก.กันตัง จ.ตรัง แต่กลับโผหลุด ชื่อหายไปเสียเฉยๆ ทั้งที่นายก็รับปาก เป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าในวัยใกล้เกษียณอีกแค่ปีเศษ จะพิจารณาปูนบำเหน็จ ความดีความชอบให้ได้เลื่อนชั้นในตำแหน่งที่สูงขึ้นเพื่อเป็นขวัญกำลังใจและ ที่สำคัญจะได้พักผ่อนได้ตั้งสติวางแผนการดำเนินชีวิตให้กับตนเอง หลังจากตรากตรำทำงานหนักมาตลอดชีวิตหลัง แม้ใจยังสู้อยู่เกินร้อย แต่อายุราชการเขามีให้เพียงแค่นั้น กลับถูกแป๊กให้ย่ำอยู่กับที่ เพราะโดนนักวิ่งแรงแซงทางโค้งเสียบเข้าเป้่าแทนไปเสียฉิบ ...

...เป็นใครก็ต้องน้อยใจเป็นธรรมดา ไม่เกิดขึ้นกับตัวเองไม่รู้หรอก ...
...และไม่ ว่าผลจะออกมาเช่นไร หลังปฏิบัติการกามิกาเช่ ของผู้กำกับเพียรในครั้งนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่คิดว่าประชาชนได้รับ คือการได้รับรู้ ปฏิกิริยา ความรู้สึกของนายตำรวจชั้นผู้น้อย ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม แม้ผู้กำกับเพียรจะเป็นนายตำรวจมือปราบ แต่เขาก็ยังคงเป็นปุถุชนคนธรรมดา ยังคงมีความรัก โลภ โกรธ หลง เช่นเดียวกับเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ ...

16 มีนาคม 2553

หลักสูตรสถานศึกษา ปัญหาที่แก้ไม่ตก

วันนี้ไปอบรมวันที่ 2
มีการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบแนวคิด เป้าหมาย และวิธีประเมินผล

เอาอันนี้มาใส่อันนี้
เอาอันนี้มาใส่ตรงนั้น

เอาเข้าไป

เวลาเด็กย้ายโรงเรียน ก็ต้องมานั่งดูว่า อันนี้ตรง อันนั้นไม่ตรง เหนื่อยมากๆๆๆๆๆๆ

เมื่อไร ทุกโรงเรียนจะเหมือนกันหมดหนอ เหมือนกันในแง่ความเท่าเทียม เฮ้อ

15 มีนาคม 2553

อบรมทำหลักสูตรสถานศึกษา

วันนี้ไปร่วมอบรมหลักสูตรสถานศึกษา

ปรับแล้วปรับอีก

อันเก่าก็กำลังเข้าใจ พอมาเจออันนี้ งงแตกเลยครับ พี่น้องงงงงงง

วันนี้เจอแต่คำถามว่ามีที่ไหนบ้าง
...แจกหลักสูตรฟรี
...ขอ copy หน่อย
...อะไรนักหนา
...เปลี่ยนวิธีอีกละ
...อะไรของเค้าเนี่ย

14 มีนาคม 2553

รายงานการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

รายงานการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญครั้งนี้มีความมุ่งหมาย (1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนที่เรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (4) เพื่อศึกษาเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอ่อนวิมลราษฎร์วิทยา อำเภอไทรงาม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำแพงเพชร เขต 1 ประจำปีการศึกษา 2552 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 14 คน

อ่านต่อฉบับเต็มที่ http://www.seal2thai.org/kru/kru029.htm

13 มีนาคม 2553

รายงานการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2552 โรงเรียนบางระกำวิทยศึกษา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 40 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ทดสอบก่อนเรียนด้วยแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้เวลา 60 นาที และประเมินความสามารถพิเศษด้านทัศนศิลป์โดยใช้เวลา 10 นาที ทดลองสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์ ใช้เวลา 20 ชั่วโมง และทดสอบหลังเรียนด้วยแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและประเมินความสามารถพิเศษด้านทัศนศิลป์ โดยใช้ทั้งหมดรวม 70 นาที เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและประเมินความสามารถพิเศษทางทัศนศิลป์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติ t – test (One Sample test)

อ่านต่อฉบับเต็มที่ http://www.seal2thai.org/kru/kru030.htm

12 มีนาคม 2553

ประชาธิปไตย เด็กยังรู้เลย ว่ามันเป็นอย่างไร

เอออ....

คุณครับ

คุณที่เคยบอกว่า "มีอะไรไปสู้ในสภาฯ"
ทำไมวันนี้คุณออกมาซะเองละครับ ทีนี้คงเค้าใจแล้วว่า "ทำไม ต้องมีการเมืองข้างถนน"

(ว่าเค้าไว้อย่างไร ตัวเองทำโม๊ดดดดดด 55+)

มาดูว่า ประชาธิปไตยแบบเด็กๆ เป็นอย่างไร

11 มีนาคม 2553

การทำมาธิก่อนนอน

ผมสังเกตมาหลายครั้ง
ว่าระหว่างที่ทำสมาธิก่อนนอนกับไม่ทำ มันแตกต่างกัน

เมื่อทำสมาธิ หลับลึกขึ้น หายใจสะดวก ไม่ตกใจ
เมื่อทำนานๆเข้า อยากจะนอน 10 นาที เมื่อครบกำหนด ก็ตื่นตามนั้น
หรือจะให้ตื่นตอน 6 โมง ก็เปะ

แปลกนะครับ

สรุปว่า ทำให้ชีวิต ร่างกาย และจิต ดีขึ้นครับ
ท่าน อ.หนู กันภัย และพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกท่านจึงให้สวดมนต์ทำสมาธิทุกวันครับ

10 มีนาคม 2553

โครตแมน!! เรื่องเล่า มีอารมณ์บนรถเมล์


อะไรวะ
รถเมล์สายนี้เสียไป 2 คัน ทำให้ไม่มีรถเพียงพอ หลายคนที่ขึ้นกลางทาง ขึ้นประจำ ก็ต้องยืน
เป็นพื้นฐานอยู่แล้วว่า การขึ้นบนรถเมล์ควรมีน้ำใจลุกขึ้นให้พระ ชี เณร คนแก่ ผู้หญิง และเด็ก นั่ง
ผมเห็นหลายครั้งแล้ว และเข้าใจเองว่า "มหาวิทยาลัยคงไม่ได้สอนเรื่องนี้" เพราะเด็กมหาวิทยาลัยชื่อดัง(มากๆ) ไม่เคยมีคนไหนลุกให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวนั่งเลย
แต่ว่าวันนี้ ก็มีอารมณ์บนรถเมล์
เพราะสิ่งที่เห็นคือ ชายหนุ่ม สวมเสื้อสี (สีอะไรไม่รู้ เห็นประกาศกล้าว่าเป็นคนดี รักประชาธิปไตย) อีกคนใส่เสื้อลายพรางของทหาร แต่ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ เสียหายนะเนี่ย ทำไมเค้าขายเสื้อลายพรางกันง่ายๆเนาะ ยอมรับเลยว่าเอ็ง...
โครตแมน

ไม่ลุกให้นั่ง แถมแกล้งหลับ พอสักพักมีโทรศัพท์มาก็คุย...จนถึงศูนย์

นับถือว่ะ ว่าเอ็งทำให้คนทั้งโลกเชื่อว่า "คนที่มีความเชื่ออย่างเอ็ง....โครตดี มีน้ำใจ ประชาธิปไตยนำหน้า"



ครูผู้หญิงเค้ายืนเต็มรถเลย
แต่ไอ้ 2 คนนี่นั่งสบายใจ

เพิ่งหลับ โทรศัพท์มาก็รีบรับ

โลโก้อะไร ก็ดูเอาเองครับ แมนวะ พวกนี้

09 มีนาคม 2553

คะแนนสอบที่น่าใจหาย

ไม่อยากหายใจ
เมื่อเห็นคะแนนสอบที่น่าใจหาย

สอนแล้ว
ทดสอบเก็บคะแนนไปแล้ว

อะไรก็แล้ว

ก็ยังทำข้อสอบกันไม่ได้ สงสัยคงเป็นผลจากการไม่ให้เด็กตกแน่นอน เพราะเด็กบอกว่า "มึงเรียนไปเถอะไอ้คนนั้นโง่กว่ามึงมันยังเรียนจบเลย เดี๋ยวครูก็ให้มึงจบ"

เซ็ง

.........................
วัตถุมงคล อ.หนู กันภัย

08 มีนาคม 2553

คาถามหาเสน่ห์

คาถามหาเสน่ห์

ไม่ได้ให้ท่อง แต่ให้ปฏิบัติครับ
1. มีเมตตา
2. ช่วยเหลือผู้อื่น
3. ยิ้ม
4. พูดไพเราะ
5. ไม่เห็นแก่ตัว

นี่คือคาถามหาเสน่ห์ครับ

...........................
แต่ถ้าต้องการเป็นวัตถุเทื่อความอุ่นใจ หรือไว้เพื่อเตือนสติ ลองหาพระมาแขวน (ได้ทั้งพระเครื่องพระเกจิ) หรือ วัตถุมงคล อ.หนู กันภัย ก็ได้นะครับ

07 มีนาคม 2553

คอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนติดไว้รัสซะแล้ววววว

แหมๆๆๆๆๆๆ

ได้สบายใจอยูพักเดียวว่านำเครื่องไป format เครื่องโรงเรียนกลับมาติดไวรัสอีกละ เฮ้อ
เลยนำประสบการณ์มาบอกเล่าเพื่อนครูทุกท่านนะครับ ว่าทำอย่างไรจึงจะปลอดภัยจากไวรัส

วิธีป้องกันภัยจากไวรัส
ดินแดนปัญญาชนขอนำเสนอวิธีการป้องกันไวรัส โทรจัน มัลแวร์ และอื่นๆที่เข้ามาบุกรุกทำลายเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ (ของราษฎร์) หรือของโรงเรียน (ของหลวง)
ข้อแรกเลย ต้องมีสำนึก รักคอมพ์ของที่ทำงาน หรือของคนอื่น เหมือนเป็นคอมพ์เรา

หา antivirus ดีๆ ของแท้มีลิขสิทธิ์มาใช้ (ของแท้มัก scan virus เจอ แล้วทำการกำจัดได้ ของที่ขโมยเค้ามามักจะเจอ แต่ไม่ฆ่า) ที่สำคัญ ของแท้ถ้าต่อ internet แล้วจะอัพเดทข้อมูลไวรัสให้ (ส่วนตัวผมใช้ kaspersky เร็วดี อัพเดททุกชั่วโมง ชอบมากๆ...ไม่ได้ค่าโฆษณานะครับ ชอบจริงๆ)

ก่อนใช้ handy drive ต้องสั่งสแกนก่อนทุกครั้ง



อ่านฉบับเต็มๆ ได้ที่ คอมพิวเตอร์ติดไวรัส http://www.seal2thai.org/sara/sara205.htm

05 มีนาคม 2553

ไม่ได้ใช้งาน พอจะใช้หัวมาตันซะนี่

โอย กำลังรีบๆ ปริ้นเตอร์เป็นอะไรละครับ พี่น้อง

อ้าว epson r230x ไฟกระพริบสลับไปมา
หาวิธีแก้ อ๋อ เคาท์เตอร์เต็ม

อ้าว t11 ก็สีน้ำเงินไม่ออก สงสัยต้องยกไปล้างหัว

พอยกไปล้าง กะว่าคงไม่เกิน 20 นาที ช่างก็ลองดู.....

....สรุปว่า หัวตัน เปลี่ยนตลับหมึกไม่ได้ เพราะเปลี่ยนไปก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ถ้าเป็นหัวก็ราคาใกล้เคียงกับซื้อใหม่ ลองปรินท์ไปนานๆดีกว่า เผื่อดีขึ้น เฮ้อ

ขนาดหมึกไม่ได้ใช่นาน หัวยังตัน
แล้วสมองคนเรา ถ้าไม่ใช้ มันจะตันไหมครับ
ความดีคนเรา ถ้าไม่สร้าง จะมีดีไว้อวดไหมครับ

อาการแปรปรวน คนก็รวนเร

วันนี้เขตบอกว่าจะเข้ามาประเมินจุดเน้น
ทางโรงเรียนก็เตรียมพร้อมทั้งอาหาร ทั้งคน

จนแล้วจนรอด ไม่มาอีกละ ไม่บอกด้วยว่าจะมาหรือไม่ เฮ้อ

อากาศก็ร้อนๆหนาวๆ

คนนะสิ ทำเอาหนาวสันหลังไปตามกัน เสียของ เสียคน เสียเวลาจริงๆ เฮ้อ

วันนี้เด็กนักเรียนมาเล่าเรื่องผีที่ราชประชานุเคราะห์ด้วย คงจะเชื่อจริงๆ แต่ไม่รู้ที่เล่าว่าหนูเห็น นั่นจะจริงหรือไม่ เพราะกลัวว่าหลอนจนเอามาจินตนาการ แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ลองเป็นเรา ไปพูด ใครเค้าคงไม่เชื่อเหมือนกัน ดังนั้น ละไว้ในฐานที่เข้าใจแล้วกัน

(แบบนี้ต้องพก วัตถุมงคล อ.หนู กันภัยซะแล้ว)

04 มีนาคม 2553

การสอบ LAS ที่ถูกแฉ

วันนี้ได้ไปคุมสอบ LAS
มีเรื่องที่ได้รับรู้ ได้เห็น ได้ยินมาจากแหล่งข่าว

เอาไว้เดี๋ยวมาเล่านะครับ

เฮ้ย!! หมอก ตอนหน้าร้อนเนี่ยนะ

ไม่ต้องรอถึง 2012
ไม่ต้องรอแผ่นดินไหว

แต่วันนี้ มีหมอกระหว่างเส้นทางที่เดินทางไปคุมสอบ LAS
โอ ไม่น่าเชื่อ
เป็นไปได้อย่างไรเนี่ย พี่น้อง



วัตถุมงคล อ.หนู กันภัย

03 มีนาคม 2553

สอบ LAS วันแรก

ข้อสอบ LAS คือแบบทดสอบที่ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และส่วนกลางนำมาออก โดยวัดตามผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง (เดิม) หรือมาตรฐาน

ไม่สำคัญว่าใครออก

สำคัญว่าใครสอบ
ใครคุมสอบ
ใครสุจริต
ใครทุจริต

ใครทำทุเรศ ไม่เหมาะสมกับความเป็นครู เนาะ

02 มีนาคม 2553

วัตถุมงคล อ.หนู กันภัย ไม่ได้มีเพียงเหรียญห้าแถว แต่มีตะกรุดและผ้ายันต์ด้วย

กระแสความนิยมในตัวของท่าน อ.หนู กันภัย กำลังมาแรง
ส่วนหนึ่งเชื่อมั่นในลายยันต์ห้าแถว และคาถาบุญฤทธิ์ที่ใช้กำกับยันต์ 5 แถว และยันต์อื่นๆของสำนัก
บางส่วนประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
บางส่วนได้รับโชคลาภอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
บางส่วนก็ได้พบกับความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การเรียน และความรัก
จากการบอกเล่าประสบการณ์ของคนใกล้ชิด ทำให้บรรดาญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงของผู้ที่ได้รับการสักแล้วมาเข้าคิวสักกันอย่างล้นหลาม
ส่วนตัวผม ศรัทธาในตัว อ.หนู กันภัย เพราะคุณงามความดี การสืบทอดพระศาสนา และมีเมตตาช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้อยากอย่างทั่วหน้า (ส่วนมากจะไม่มีใครรู้ นอกจากคนใกล้ชิด หรือคนที่เข้าไปสำนักบ่อยๆ อีกทั้งพ่อหนูเอง ไม่ต้องการประกาศว่า ตนได้ทำอะไร ... ไอ้เราก็ลูกศิษย์ที่อยากประกาศให้คนรู้ว่า คนดี ทำดี ต้องได้รับการเชิดชู)

จริงๆแล้ว คนที่ไม่ได้สัก หรืออายุยังไม่ถึง สักไม่ได้ คุณสามารถบูชาวัตถุมงคล อ.หนู กันภัย ไปติดตัวได้
ไม่ว่าจะเป็นเหรียญห้าแถว
เหรียญหลวงปู่ทวดหลังยันต์ห้าแถว
เหรียญเจ้าสัวหลังยันต์ห้าแถว

เหรียญห้าแถว - นะมหาสำเร็จกินไม่รู้สิ้น (เหรียญนี้ผมคล้องติดตัวตลอด)
พระผงแปดอรหันต์หลังจิ้งจกพรหมเก้าตัว (กระเบื้องเคลือบ)
แหวน อ.หนู ต่างๆ

ตะกรุดอ.หนู ต่างๆ

รู้ไหมครับ นอกจากวิชาอาคม พลังจิตที่เข้มขลัง

สิ่งที่ทำให้คนที่สัก หรือนำวัตถุมงคล อ.หนู กันภัย ติดตัว ประสบแต่ความสำเร็จ แคล้วคลาดปลอดภัย โชคดี นั้นเพราะเงินจากการสัก จากวัตถุมงคลส่วนใหญ่ (มากกว่า 60%) อ.หนู นำไปร่วมทำบุญ ส่งเคราะห์คน ส่งเคราะห์ศาสนา สงเคราะห์ศพ ฯลฯ ผลบุญนั้นก็ส่งกลับมายังลูกศิษย์ที่ได้สัก ได้แขวง ได้คาด ได้คล้องวัตถุมงคลสำนัก อ.หนู กันภัย

ใครอยากบูชาเพื่อหนุนดวง เพื่อสร้างความสำเร็จ คุณลองดูก่อนสักอันหนึ่ง องค์หนึ่ง คุณอาจได้พบกับพลังที่มีอยู่ในวิชาอาคมที่ประจุในเหรียญห้าแถวรูปแบบต่างๆ

ลองดูนะครับ สั่งจองวัตถุมงคล อ.หนู กันภัย

01 มีนาคม 2553

1054 - Unknown column 'p.products_id' in 'on clause' ใน oscommerce

เกิดปัญหา

1054 - Unknown column 'p.products_id' in 'on clause'

select count(p.products_id) as total from products_description pd, products p left join manufacturers m on p.manufacturers_id = m.manufacturers_id, products_to_categories p2c left join specials s on p.products_id = s.products_id where p.products_status = '1' and p.products_id = p2c.products_id and pd.products_id = p2c.products_id and pd.language_id = '4' and p2c.categories_id = '21'

[TEP STOP]


ไปหาในเน็ต เค้าว่าอย่างนี้ครับ
OSC ที่ทำจาก PHP4 แล้วมาใช้ใน PHP5
ให้ทำการแก้ไขไฟล์ตามนี้นะครับ!!

1. ไฟล์ index.php

หาข้อความนี้
------------------------------------------------------------------
// show the products of a specified manufacturer
if (isset($HTTP_GET_VARS['manufacturers_id'])) {
if (isset($HTTP_GET_VARS['filter_id']) && tep_not_null($HTTP_GET_VARS['filter_id'])) {
// We are asked to show only a specific category
$listing_sql = "select " . $select_column_list . " p.products_id, p.manufacturers_id, p.products_price, p.products_tax_class_id, IF(s.status, s.specials_new_products_price, NULL) as specials_new_products_price, IF(s.status, s.specials_new_products_price, p.products_price) as final_price from " . TABLE_PRODUCTS . " p, " . TABLE_PRODUCTS_DESCRIPTION . " pd, " . TABLE_MANUFACTURERS . " m, " . TABLE_PRODUCTS_TO_CATEGORIES . " p2c left join " . TABLE_SPECIALS . " s on p.products_id = s.products_id where p.products_status = '1' and p.manufacturers_id = m.manufacturers_id and m.manufacturers_id = '" . (int)$HTTP_GET_VARS['manufacturers_id'] . "' and p.products_id = p2c.products_id and pd.products_id = p2c.products_id and pd.language_id = '" . (int)$languages_id . "' and p2c.categories_id = '" . (int)$HTTP_GET_VARS['filter_id'] . "'";
} else {
// We show them all
$listing_sql = "select " . $select_column_list . " p.products_id, p.manufacturers_id, p.products_price, p.products_tax_class_id, IF(s.status, s.specials_new_products_price, NULL) as specials_new_products_price, IF(s.status, s.specials_new_products_price, p.products_price) as final_price from " . TABLE_PRODUCTS . " p, " . TABLE_PRODUCTS_DESCRIPTION . " pd, " . TABLE_MANUFACTURERS . " m left join " . TABLE_SPECIALS . " s on p.products_id = s.products_id where p.products_status = '1' and pd.products_id = p.products_id and pd.language_id = '" . (int)$languages_id . "' and p.manufacturers_id = m.manufacturers_id and m.manufacturers_id = '" . (int)$HTTP_GET_VARS['manufacturers_id'] . "'";
}
} else {
// show the products in a given categorie
if (isset($HTTP_GET_VARS['filter_id']) && tep_not_null($HTTP_GET_VARS['filter_id'])) {
// We are asked to show only specific catgeory
$listing_sql = "select " . $select_column_list . " p.products_id, p.manufacturers_id, p.products_price, p.products_tax_class_id, IF(s.status, s.specials_new_products_price, NULL) as specials_new_products_price, IF(s.status, s.specials_new_products_price, p.products_price) as final_price from " . TABLE_PRODUCTS . " p, " . TABLE_PRODUCTS_DESCRIPTION . " pd, " . TABLE_MANUFACTURERS . " m, " . TABLE_PRODUCTS_TO_CATEGORIES . " p2c left join " . TABLE_SPECIALS . " s on p.products_id = s.products_id where p.products_status = '1' and p.manufacturers_id = m.manufacturers_id and m.manufacturers_id = '" . (int)$HTTP_GET_VARS['filter_id'] . "' and p.products_id = p2c.products_id and pd.products_id = p2c.products_id and pd.language_id = '" . (int)$languages_id . "' and p2c.categories_id = '" . (int)$current_category_id . "'";
} else {
// We show them all
$listing_sql = "select " . $select_column_list . " p.products_id, p.manufacturers_id, p.products_price, p.products_tax_class_id, IF(s.status, s.specials_new_products_price, NULL) as specials_new_products_price, IF(s.status, s.specials_new_products_price, p.products_price) as final_price from " . TABLE_PRODUCTS_DESCRIPTION . " pd, " . TABLE_PRODUCTS . " p left join " . TABLE_MANUFACTURERS . " m on p.manufacturers_id = m.manufacturers_id, " . TABLE_PRODUCTS_TO_CATEGORIES . " p2c left join " . TABLE_SPECIALS . " s on p.products_id = s.products_id where p.products_status = '1' and p.products_id = p2c.products_id and pd.products_id = p2c.products_id and pd.language_id = '" . (int)$languages_id . "' and p2c.categories_id = '" . (int)$current_category_id . "'";
}
}
-------------------------------------------------------------------
แล้วให้แทนที่ของเดิมด้วย ตามนี้
-------------------------------------------------------------------
// show the products of a specified manufacturer
if (isset($HTTP_GET_VARS['manufacturers_id'])) {
if (isset($HTTP_GET_VARS['filter_id']) && tep_not_null($HTTP_GET_VARS['filter_id'])) {
// We are asked to show only a specific category
$listing_sql = "select " . $select_column_list . " p.products_id, p.manufacturers_id, p.products_price, p.products_tax_class_id, IF(s.status, s.specials_new_products_price, NULL) as specials_new_products_price, IF(s.status, s.specials_new_products_price, p.products_price) as final_price from (" . TABLE_PRODUCTS . " p, " . TABLE_PRODUCTS_DESCRIPTION . " pd, " . TABLE_MANUFACTURERS . " m, " . TABLE_PRODUCTS_TO_CATEGORIES . " p2c ) left join " . TABLE_SPECIALS . " s on p.products_id = s.products_id where p.products_status = '1' and p.manufacturers_id = m.manufacturers_id and m.manufacturers_id = '" . (int)$HTTP_GET_VARS['manufacturers_id'] . "' and p.products_id = p2c.products_id and pd.products_id = p2c.products_id and pd.language_id = '" . (int)$languages_id . "' and p2c.categories_id = '" . (int)$HTTP_GET_VARS['filter_id'] . "'";
} else {
// We show them all
$listing_sql = "select " . $select_column_list . " p.products_id, p.manufacturers_id, p.products_price, p.products_tax_class_id, IF(s.status, s.specials_new_products_price, NULL) as specials_new_products_price, IF(s.status, s.specials_new_products_price, p.products_price) as final_price from (" . TABLE_PRODUCTS . " p, " . TABLE_PRODUCTS_DESCRIPTION . " pd, " . TABLE_MANUFACTURERS . " m) left join " . TABLE_SPECIALS . " s on p.products_id = s.products_id where p.products_status = '1' and pd.products_id = p.products_id and pd.language_id = '" . (int)$languages_id . "' and p.manufacturers_id = m.manufacturers_id and m.manufacturers_id = '" . (int)$HTTP_GET_VARS['manufacturers_id'] . "'";
}
} else {
// show the products in a given categorie
if (isset($HTTP_GET_VARS['filter_id']) && tep_not_null($HTTP_GET_VARS['filter_id'])) {
// We are asked to show only specific catgeory
$listing_sql = "select " . $select_column_list . " p.products_id, p.manufacturers_id, p.products_price, p.products_tax_class_id, IF(s.status, s.specials_new_products_price, NULL) as specials_new_products_price, IF(s.status, s.specials_new_products_price, p.products_price) as final_price from (" . TABLE_PRODUCTS . " p, " . TABLE_PRODUCTS_DESCRIPTION . " pd, " . TABLE_MANUFACTURERS . " m, " . TABLE_PRODUCTS_TO_CATEGORIES . " p2c) left join " . TABLE_SPECIALS . " s on p.products_id = s.products_id where p.products_status = '1' and p.manufacturers_id = m.manufacturers_id and m.manufacturers_id = '" . (int)$HTTP_GET_VARS['filter_id'] . "' and p.products_id = p2c.products_id and pd.products_id = p2c.products_id and pd.language_id = '" . (int)$languages_id . "' and p2c.categories_id = '" . (int)$current_category_id . "'";
} else {
// We show them all
$listing_sql = "select " . $select_column_list . " p.products_id, p.manufacturers_id, p.products_price, p.products_tax_class_id, IF(s.status, s.specials_new_products_price, NULL) as specials_new_products_price, IF(s.status, s.specials_new_products_price, p.products_price) as final_price from ((" . TABLE_PRODUCTS_DESCRIPTION . " pd, " . TABLE_PRODUCTS . " p) left join " . TABLE_MANUFACTURERS . " m on p.manufacturers_id = m.manufacturers_id, " . TABLE_PRODUCTS_TO_CATEGORIES . " p2c) left join " . TABLE_SPECIALS . " s on p.products_id = s.products_id where p.products_status = '1' and p.products_id = p2c.products_id and pd.products_id = p2c.products_id and pd.language_id = '" . (int)$languages_id . "' and p2c.categories_id = '" . (int)$current_category_id . "'";
}
}

-------------------------------------------------------------------

และอีกไฟล์คือ advanced_search_result.php

หาข้อความนี้

-------------------------------------------------------------------
$from_str = "from " . TABLE_PRODUCTS . " p left join " . TABLE_MANUFACTURERS . " m using(manufacturers_id), " . TABLE_PRODUCTS_DESCRIPTION . " pd left join " . TABLE_SPECIALS . " s on p.products_id = s.products_id, " . TABLE_CATEGORIES . " c, " . TABLE_PRODUCTS_TO_CATEGORIES . " p2c";
-------------------------------------------------------------------

แล้วแทนที่ด้วย

-------------------------------------------------------------------
$from_str = "from ((" . TABLE_PRODUCTS . " p) left join " . TABLE_MANUFACTURERS . " m using(manufacturers_id), " . TABLE_PRODUCTS_DESCRIPTION . " pd) left join " . TABLE_SPECIALS . " s on p.products_id = s.products_id, " . TABLE_CATEGORIES . " c, " . TABLE_PRODUCTS_TO_CATEGORIES . " p2c";
-------------------------------------------------------------------

28 กุมภาพันธ์ 2553

ทำบุญมาฆบูชา ร่วมงานออกนิโรธสมาบัติ

วันนี้วันมาฆบูชา
ได้ทำบุญไหว้พระที่บ้าน และตั้งใจจะไปร่วมงาน ออกนิโรธสมาบัติ ของท่านพระอาจารย์อุบาลี วัดจันทร์ตะวันตก

คนเยอะมากๆ เบียดเสียดเยียดยัด

แย่งกันทำบุญ

เฮ้อ
พระอาจารย์ครับ ลูกขอบูชาด้วยพวงมาลัย หน้ากุฏิของพระอาจารย์ ขอให้เสมือนได้บูชากับตัวท่านนะครับ สาธุ

27 กุมภาพันธ์ 2553

ทำไมห้องสมุด มีแต่หนังสือ แล้วม้าลายมันดำพาดขาว หรือขาวพาดดำ

กำลังนั่งทำเว็บอยู่ ก็เปิดไปเจอรายการบางอ้อ ช่อง 9 บ่ายโมงครึ่ง
ซึ่งมีคำถามที่ดาราถามเข้ามา
คำถามแรกคือ ทำไมเราเรียกห้องที่เก็บหนังสือว่า "ห้องสมุด" ทั้งๆที่มีหนังสือเต็มห้อง
ผมเองก็ลองเดาคำตอบดู พอทางรายการเฉลยก็รู้ว่า ผมคิดถูก
เพราะสมัยก่อน มักเขียนตำราต่างๆด้วยลายมือบนสมุด เพราะการ์ตูนดีๆอย่างอิคคิวซัง ยังให้พวกเณรคัดลอกคำภีร์กันเลยครับ
นี้ถ้าเป็นเมืองจีนสมัยก่อน คงเรียกห้องไม่ไผ่ เพราะเขี้ยนอักษรลงในไม่ไผ่ ว้าวววววว

ส่วนม้าลายมันตัวขาวพาดดำ หรือตัวดำพาดขาวกันแน่
สีของม้าลายตอนที่เป็นตัวอ่อนเป็นสีดำ แสดงว่า ม้าลายตัวดำ ลายขาวนะครับ

ไปดีกว่า

26 กุมภาพันธ์ 2553

ตรวจข้อสอบ o-net

วันนี้มีครูที่โรงเรียนไปตรวจข้อสอบ o-net
ไม่เข้าใจครับ ไหนว่าคืนครูให้โรงเรียน ทำไมยังให้ครูไปตรวจ

หรือว่างานคุณภาพก็ต้องใช้คนคุณภาพ ผมไม่ได้ว่าใครไม่มใครภาพนะครับ

เพียงแต่อยากเรียกร้องให้เพิ่มค่าตอบแทนให้กับครูบ้าง บางทีเดินทางก็ไม่ได้ค่าเดินทางเลยนะครับ

ไหนจะเสียค่าเดินทาง ไหนจะทิ้งการสอน ทิ้งเด็ก มันคุ้มไหมเนี่ย เฮ้อออออออออ

25 กุมภาพันธ์ 2553

ยางรั่ว อีกแล้ว

โอยๆๆๆๆ
อะไรกันเนี่ย

วันนี้จะรีบกลับไปร่วมงานศพพ่อครูแป้น ออกมาเร็วกว่าเดิมเล็กน้อย เมื่อมาถึงกลางทางก็พบว่า ยางหลังค่อยๆแฟ๊บลง เมื่อจอดดูก็พบว่า มันเกือบจะแบบแล้ว ตัดสินใจจอดที่หน้าบ้านของชาวบ้าน แล้วขอลองสูปมือมาลองสูบดู พบว่า มันแฟ๊บลงเร็วมาก
ตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากเพื่อนครูให้นำรถกระบะมารับไปปะยางหน่อย

เอาขึ้นหลังรถ โดยผมอาสานั่งข้างหลังจับรถไว้
เสียเงินอีกแล้ว แถมยังร้อนจนเหงื่อโชกเลย

เหนื่อยจริงๆๆๆๆๆ

24 กุมภาพันธ์ 2553

ยางรั่ว

วันนี้ไปโรงเรียนตามปกติ
แต่ยางรั่ว ลองเอาสูบลม (สูบด้วยมือ) ลองสูบดู ปรากฎว่ามันไม่ค่อยแฟ๊บ (ลักษณะเหมือนค่อยซึมออก)

เมื่อไปถึงร้าน ก็ทำการเปลี่ยนยาง พบว่ายางหน้า ไปเหยียบเอาเศษขวดเข้า
ชิ้นประมาณปลอกปากกา

ดีนะครับ ที่ไม่เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้น

หลัวมากเลยครับ เพราะช่วงนี้ทำถนน อยู่ด้วย

เหอะๆ ลำบากจริงๆ ครูบ้านนอก เนี่ย

23 กุมภาพันธ์ 2553

กลอนงานศพ สำหรับคนใกล้ตัว

วันนี้ลากิจ 1 วัน
ไปร่วมงานศพที่ จ. แพร่ งานศพของลุงตัวเอง

มีเวลาไม่มาก ไม่ได้อยู่วันเผา เลยทำประวัติ และแต่งกลอนให้
เป็นกลอนงานศพสำหรับคนใกล้ตัว

ตอนนี้ มีคนมาขอให้แต่งกลอนงานศพบ้างแล้ว

ใครต้องการความช่วยเหลือ อยากให้แต่งกลอนงานศพให้ ผมยินดีแต่งให้ฟรี เข้าไปที่ สัปเหร่อออนไลน์ นะครับ

22 กุมภาพันธ์ 2553

อยากเป็นครู ต้องมีอุดมการณ์

หลายคนอยากเป็นครู
อยากมีอาชีพครู
อยากโดยอุดมการณ์ อยากเป็นครูบ้านนอก เป็นครูอาสา

แต่ใครจะรู้ว่า เมื่อมาเป็นจริงๆแล้ว ปัญหาต่างๆก็จะเกิดขึ้นตามมา

แม้ว่าปัญหาเหล่านั้นจะเกิดขึ้นกับทุกสังคม แต่สำหรับสังคมครู สิ่งที่ต้องพึงระวังคือมีนักเรียนเข้ามาด้วย หลายคนรักเด็กของตนเองมากเกินไป หลายคนก็ทอดทิ้งเด็กของตน ประมาณว่า "ไม่ใช่ลูกกู" แต่พอถึงเวลาดูแลลูกตัวเองแทบจะประคบประหงม....

เมื่อคุณไม่มีอุดมการณ์ และจรรยาบรรณแล้ว

คุณจะเป็นครูที่ดีได้อย่างไร (เหอะๆ บางคนที่ผมรู้จัก อายุมากแล้ว 40 กว่าแล้ว ยังไม่ได้เป็นครูจริงๆเลย)

21 กุมภาพันธ์ 2553

เรื่องที่ไม่คาดฝัน มักมาเร็วเสมอ

เมื่อเราไม่มีความพร้อม
เรามักจะตกใจเมื่อเจอเรื่องไม่คาดฝัน

ทำไมในแต่ละวัน เราไม่ลองสละเวลาสนุกสักนิด ลองวางแผนว่า
"ถ้า" เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เราจะทำอย่างไร

ไม่ได้สอนให้คิดมาก แต่ถ้าเราลองวางแผนไว้ เมื่อวันนั้นมาถึง เราจะสามารถปรับตัว และปรับสถานการณ์ให้อยู่ในระดับที่รับได้ และแก้ไขได้อย่างผู้ชนะ

หลายคนบอกว่า การคิดมากไม่ดี
แต่การคิดวางแผนอนาคต เป็นสิ่งที่ดี

ผมเคยทำเรื่องกระบวนการคิดที่โรงเรียน
โดยส่วนตัวและผลงานวิจัยในชั้นเรียนเรื่องการคิด ออกมาว่า อยู่ในระดับดี

แสดงว่า ครู จะต้องเป็นผู้มีกระบวนการคิดที่ดีก่อน จะได้สอนเด็กได้... แต่อย่าลืมแทรกคุณธรรมด้วยนะครับ

ไม่งั้น โตไป เก่ง แต่โกง... สังคมไทยไม่รอด ครับ

20 กุมภาพันธ์ 2553

เล่นเน็ตเริ่มช้า หาวิธีแก้ IE ให้เร็วขึ้น

วันนี้เปิดเว็บช้า
จริงๆแล้วเว็บไม่ได้ช้า แต่เป็นระบบของ IE ช้านั้นเอง

จริงๆแล้วเคยอ่านเจอในวารสาร computer today
ว่าวิธีการปรับแต่ง internet Explorer ว่าให้ลบไฟล์บางไฟล์ออก

อย่างนี้ครับ
ไปที่ Stare\Run พิมพ์ว่า regedit กด oK
HKEY_LOCAL_MACHINE
\Software
\Microsoft
\Windows
\CurrentVersion
\Explorer
\RemoteComputer
\NameSpace
คลิกขวาแล้ว Deleteที่ D6277990-4C6A-11CF-8D87-00AA0060F5BF แล้วกด yes

ขอบพระคุณสำหรับคนนำเสนอข้อมูลนี้นะครับ เพราะคิดว่าเป็นหลายๆคนเลยละครับ บางคนไม่อยากปรับ เล่นเปลี่ยน browser ไปเลย (ช่วงนี้ฮิต firefox กับ google chrome)

ที่นี้ลองไปหาในเน็ตเพิ่มเติม
ว้าววววว มีอีกวิธีหนึ่ง ขอบคุณตรงนี้นะครับ
1.คลิกปุ่ม Start 2.เลือกคำสั่ง Run3. ที่ช่อง Open พิมพ์คำว่า regedit แล้วคลิก OK4. จะแสดงหน้าต่างของการปรับแต่ง Registry EditorสำหรับWindows XP และ 2000-HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Services\Tcpip\ServiceProvider
สำหรับ 98, 98SE และ ME-HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\VxDMSTCP\ServiceProvider

ด้านขวามือให้เราแก้ไขค่าของตัวแปรข้างล่างนี้ โดยค่าทั้งหมดที่แก้ให้ใช้ชนิดข้อมูลเป็น HEXADECIMALClass: 1 DnsPriority: 1 HostsPriority: 1 LocalPriority: 1 NetbtPriority: 1

ลองทำดูกันเด้อ
แล้วจะเร็วขึ้นหลายๆครับ

19 กุมภาพันธ์ 2553

วันนี้แคล้วคลาดอีกแล้ว (เส้นทางทุกข์ของครูบ้านนอก)

วันนี้มีอุปสรรคในการเดินทางมาก
ฝนตกมาตลอดทาง พอเข้าจอที่ปั๊ม ก็เทลงมาห่าใหญ่

"เสียงดังซู่ๆ ประหนึ่งเสียงหัวเราะเยาะจากใครคนหนึ่ง"

เมื่อเติมน้ำมัน ก็ขอหลบฝนในปั๊ม นั่งกินกล้วยปิ้งไป คุยกันไป สายตาก็เหลือบไปเห็นว่า "สายรัดของ" หลุดเข้าไปพันกับประกบกงล้อ ถ้าหลุดเข้าไปในกงล้อ ก็คงต้องมีเจ็บกันบ้าง เพราะฝนตกถนนลื่น และก็ขี่ 70 - 80 กม./ชม. ตลอดทาง

เมื่อเห็นแล้วก็เชื่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรานับถือ คงคุ้มครองเรา

เมื่อฝนเริ่มซา จึงเข้าใจคำว่า ฝนตกไม่ทั่วฟ้า เพราะขนาดแค่คนละฟากหลังคาปั๊ม ก็ยังตกแรง - เบา ไม่เท่ากัน
และเมื่อตัดสินใจขี่ต่อ ก็พบว่า บริเวณถัดไม่ไม่ถึงกิโลเมตร ถนนแทบจะไม่เปียกฝนเลย (เรียกว่า เกือบไม่มีฝนด้วยซ้ำ)

และเมื่อเดินทางไปถึงทางเข้าดงกระทิง ก็พบว่า มีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มขวางทางอยู่ จึงหาทางลัดเลาะไปด้านข้าง และกว่าจะไปถึงโรงเรียนก็ทุลักทุเลพอสมควร

วันนี้ไม่ได้คุยกับพี่ๆหลายคน เพราะเค้าติดธุระกัน
แค่อยากบอกว่า
"น้องคนนี้คิดถึงนะเจ๊"
(แอบไปดูดวงกันอะดิ อิอิ)
ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ