เมื่อสองวันก่อนได้รับบทความ ดีท็อกซ์ใจ เขียนโดย คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย ในเรื่อง หัวใจสีขาว
การ ดีท็อกซ์ ก็คือการชำระล้างของเสียหรือพิษออกจากร่างกาย ซึ่งการ ดีท็อกซ์ใจ ก็คือการชำระล้างจิตใจที่ขุ่นมัว เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ไม่เป็นที่พอใจ ไม่พึงประสงค์ ไม่เป็นที่สบอารมณ์ ซึ่งเกิดจากตัวเราเองหรือคนรอบข้างและสั่งสมจนเป็น ตะกอน เป็น ก้อนกรวด หรือเป็น สนิม ในใจเรา จนคิดไปว่าสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของจิตใจเรา
การดีท็อกซ์ หรือล้างของเสียหรือพิษเหล่านี้ออกจากจิตใจเราก็มีหลายระดับได้แก่
ระดับที่หนึ่ง ล้าง ตะกอนใจ ซึ่งได้แก่ อาการจู้จี้ ขี้บ่น ขี้โมโห ขี้หงุดหงิด เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่ก็เป็นง่ายหายเร็ว วิธีการล้างก็คือ
- อย่าไปซีเรียสหรือจริงจังกับชีวิตนัก
- อย่ามัวคอยมองหาแต่ความผิดของผู้อื่น ให้มองข้อดีของเขาบ้าง
- ทำอะไรก็ได้ที่ทำให้จิตใจเบิกบาน จะได้บรรเทาอารมณ์โกรธลงได้
- ปลอบใจตัวเองว่าปัญหาทั้งหลายจิ๊บจ๊อบ มีทางแก้ไขได้ทั้งนั้น
- ท่องไว้ว่า โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ถ้าทั้งโกรธและโมโห ก็คือทั้งโง่และบ้า
- คิดไว้เสมอว่า ถ้าโกรธเมื่อไร เราก็กลายจากมนุษย์เป็นยักษ์ กลายจากผู้ดีเป็นไพร่ กลายจากนางเอกเป็นนางร้าย ทันที
- จำไว้ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า ตายไประหว่างที่โกรธ เวลาเกิดใหม่ก็จะรูปชั่วตัวดำ
ดีท็อกซ์ระดับที่สอง ล้าง ก้อนกรวดแห่งความคับแค้นใจ ซึ่งถ้าเราไม่แก้ไข ล้างตะกอน ออกให้หมดก็จะตกผลึกสะสมพอกพูนเป็น ก้อนกรวด แห่งความคับแค้นใจและแสดงออกมาทางสีหน้าแววตา โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ แต่คนอื่นๆเขารู้กันทั่ว หากไม่ ดีท็อกซ์ ออกซะบ้าง หน้าตาก็มีแต่จะเหี่ยวเฉาร่วงโรย อาการที่แสดงออกมาก็คือไม่ไว้ใจใคร หากมีใครหรือเหตุการณ์ใดมาสะกิดปมแห่งความคับแค้นใจนี้แล้ว ก็พร้อมที่จะระเบิดได้ทันที วิธีการล้างก้อนกรวดนี้ก็คือ
- แผ่เมตตา รู้จักชื่นชม รักในสิ่งดีๆ ของตัวเอง มิฉะนั้นแล้วเราก็จะไม่สามารถไปรักหรือรู้จักชื่นชมคนอื่นได้
- เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น โดยเฉพาะในทางลบ
- เปลี่ยนความคิดร้ายๆ ที่เป็นหอกคอยทิ่มแทงให้เป็นความคิดดีหรือเป็นดอกไม้ให้คนอื่นแทน
- คิดเสียว่าหัวใจไม่ใช่ถังขยะ จะได้เอาแต่ของเหม็นของเน่า หรือเรื่องร้ายๆ มาใส่อยู่อยู่ตลอด โปรดเลือกเก็บแต่สิ่งดีไว้ในใจดีกว่า
- คิดเสียว่าทุกคนล้วนเป็นพี่น้องเป็นญาติกันทั้งนั้น อย่ามัวแยกพวกเขา พวกเรา พวกมัน
- แผ่เมตตา "ขอให้สัตว์ทั้งหลายจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวร อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย" ทุกครั้งที่จิตใจไม่สบาย
ดีท็อกซ์ระดับที่สาม ขัด สนิมใจ ซึ่งเป็นอาการของคนที่ฝังตนเองอยู่กับอดีตโดยเฉพาะเรื่องร้ายๆ ไม่ยอมยกโทษให้ใคร และคิดแต่ว่าโลกนี้ไม่มีความยุติธรรม ซึ่งคนประเภทนี้ก็มีแต่ความเคียดแค้น พยาบาทชิงชังเกาะลึกในจิตใจเหมือนสนิมที่ยากจะขัดออก มักอยู่ในโลกส่วนตัว ฝังใจอยู่กับอดีตและไฟแห่งความพยาบาท ไม่เข้าสังคม แม้จะไม่โกรธถี่เหมือนกลุ่ม ตะกอน แต่ถ้าโกรธแล้วก็ไม่ต่างกับระเบิดปรมาณู ที่ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า ดังนั้น การดีท็อกซ์ กลุ่มนี้จึงต้องทำบ่อยๆ ซ้ำๆ จนกว่า สนิม เหล่านี้จะค่อยๆ ถูกขัดออกไป โดยวิธีดังนี้
- ดึงตัวเองออกจากอดีตมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงในปัจจุบัน
- เชื่อในกฏแห่งกรรม โดยยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกล้าหาญ และไม่สร้างกรรมใหม่ในชาตินี้ให้ผูกพันกันต่อไป
- หยุดหาเหตุว่าทำไมเราจึงโชคร้ายกับชีวิตที่ผ่านมา แต่จงเลือกที่จะมีความสุขกับชีวิตที่เหลือ
- วางใจเป็นกลาง ไม่ให้ความสำคัญทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดทำร้ายจิตใจเรา
- หัดสวดมนต์ ทำสมาธิ จะได้ลดทอนความเห็นผิด ผูกพยาบาท
- ไถ่ชีวิตสัตว์เป็นอภัยทาน การให้ชีวิตผู้อื่นจะทำให้เราเห็นคุณค่าของชีวิตตัวเอง
- ระลึกมรณานุสติว่า อีกไม่ช้าเราก็จะตายไปจากโลกใบนี้แล้ว คนที่เราโกรธก็เช่นกัน จะได้ให้อภัยกันได้ง่ายขึ้น
- ประกาศให้อภัย อโหสิกรรมต่อตัวเองและคนรอบข้างโดยทำใจให้บริสุทธิ โดยเขียนชื่อ สาเหตุที่ไม่ชอบ ประกาศให้อภัยแล้วก็ฉีกกระดาษทิ้งไป
- เขียนชื่อคนเดิมที่เราแค้นเคือง แต่คราวนี้เขียนถึงสิ่งดีๆ ของเขาแล้วก็ขอโทษในสิ่งที่เราเคยล่วงเกินเขา แล้วจะส่งจดหมายนี้หรือไม่ส่ง จะบอกหรือไม่บอกให้เขารู้ก็แล้วไป แต่ก็ตั้งใจกับตัวเองแล้วกันว่าจะให้อภัยเขาและประกาศอโหสิกรรม
- แต่หากใครที่ส่งจดหมายแจ้งเขาไปแล้วเขาไม่ตอบกลับก็อย่าไปคาดหวัง ทุกอย่างอยู่ที่ใจเรา
- สุดท้ายคือหมั่นสำรวจว่าเรายังเก็บใครไว้ในหลุมดำบ้าง ถ้ายังมีหลงเหลือก็ค่อยๆ กลับไปทำตามขั้นตอนข้างต้นใหม่จนกว่าสนิมจะถูกขัดจนหมดเกลี้ยงจากใจเรา
การให้อภัยทาน การอโหสิกรรม ถือเป็นการทำทานขั้นสูงสุดและทำได้ยากกว่า การบริจาควัตถุทาน และสูงกว่า การสร้างวิหารทาน หรือสิ่งก่อสร้างที่เป็นสาธารณประโยชน์ และสูงกว่า การให้วิทยาทานและธรรมทาน ดังนั้น การให้อภัยและให้อโหสิกรรม จึงเป็น การชำระล้างตะกอน ก้อนกรวด และสนิมในใจของเรา เพื่อทำให้ชีวิตจิตใจปลอดโปร่ง เบา สะอาดและมีพลัง พร้อมที่จะก้าวไปสู่หัวใจสีขาวต่อไป
ก็ลองมาเริ่ม ดีท็อกซ์ใจ ไปพร้อมกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็นครับ