05 กันยายน 2552

แพ้สีทาเล็บ

แพ้สีทาเล็บ
การแพ้ยาทาเล็บในบางรายอาจพบรอยผื่นแดงในบริเวณรอบเล็บ

แพ้สีทาเล็บ

ปัจจุบัน สาว ๆหลายคนนิยมทำเล็บ ตกแต่งเล็บ ต่อเล็บ หรือเพนท์เล็บ ให้มีสีสันสวยงาม ซึ่งส่วนใหญ่ทำแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็มีบางคนที่ทำเล็บแล้วอาจมีผลข้างเคียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดขึ้นตามมาได้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ.พญ.พรทิพย์ ภูวบัณฑิตสิน สาขาตจวิทยา (ผิวหนัง) ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า เล็บ คือ สารเคอราติน อัดเป็นแผ่นเรียบคลุมปลายนิ้ว มีพื้นที่แต่ละเล็บประมาณ 1-1.5 ตารางเซนติเมตร แผ่นเล็บจะโปร่งแสงจึงมองเห็นเม็ดเลือดแดงเป็นสีชมพูใต้เล็บ ในภาวะวิกฤติแพทย์ใช้สีเล็บประเมินระบบไหลเวียนของโลหิต จึงแนะนำให้ผู้ป่วยล้างยาทาเล็บออกเมื่อรับไว้เป็นผู้ป่วยภายใน

ปัจจุบัน ธุรกิจความงามบนแผ่นเล็บของสหรัฐมีมูลค่าสูงถึงปีละ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ ประเทศไทยก็กำลังเข้าสู่กระแสตามผู้นำของโลกเช่นกัน จึงพบศูนย์บริการแต่งเล็บเกิดขึ้นหลายแห่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

แต่เดิมการตกแต่งเล็บจะใช้ยา ทาเล็บแต่งสี จากเคยนิยมสีชมพูเลียนแบบสีธรรมชาติเพื่อแสดงว่าสุขภาพสมบูรณ์ ปัจจุบันสียาทาเล็บเปลี่ยนเป็นสีเข้มคล้ายสีเล็บของผู้เจ็บป่วยใกล้ตาย เช่น สีฟ้า สีม่วง การตัดแต่งเล็บก็เปลี่ยนไปตามกระแสนิยม ปลายเล็บรูปรีแหลมก็เปลี่ยนเป็น ตัดตรงเหลี่ยม การตัดหนังรอบเล็บเพื่อให้ผิวเล็บเพิ่มมากขึ้น ในระยะโรคเอดส์เริ่มระบาดหลายคนเลิกทำเล็บเพราะเกรงว่าเครื่องมือไม่สะอาดพอ แต่ความกลัวได้จางหายไป การตกแต่งเล็บจึงกลับมานิยม อีกครั้ง

ขั้น ตอนการทาเล็บจะต้องทำความสะอาดเล็บด้วยสารอะซีโตน ซึ่งสารนี้เมื่อใช้ติดต่อกันนาน ๆ อาจทำให้เล็บขาดความเงางาม เนื้อเล็บจะขุ่นและเปราะบางหลังทำความสะอาดจึงใช้น้ำยาทาเล็บทาทับหลายชั้น เพื่อให้ผิวเล็บเรียบ ยาทาเล็บประกอบด้วยสารหลายชนิดที่สำคัญ คือ ไนโตรเซลลูโลส โทลูอีน ซัลโฟนามายด์ ฟอร์มาลดีไฮด์ เรซิน หรือ ทีเอสเอฟ อาร์ (toluene sulfonamide-formaldehyde resin : TSFR) และพลาสติไซเซอร์ ซึ่งเมื่อแห้งจะเป็นแผ่นฟิล์มใสวาวเรียบเคลือบเล็บ

สีที่ผสมในยาทา เล็บจะต้องใช้ชนิดไม่ละลายเข้าในเนื้อเล็บ ในยาทาเล็บมักมีสารฟอร์มาลิน เจืออยู่ เพื่อเพิ่มความแข็งของเล็บ สารเหล่านี้ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้ได้ สำหรับยาทาเล็บแบบสีมุก จะผสมด้วยผงกวานีน ซึ่งได้จากเกล็ดปลา อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ในบางราย

แต่ส่วนใหญ่การแพ้ยาทาเล็บจะไม่มีผื่นบริเวณรอบเล็บเพราะในขณะทาเล็บผู้ทา ต้องระมัดระวังไม่ให้ยาทาเล็บโดนผิวหนัง ดังนั้นรอยผื่นแพ้ยาทาเล็บมีลักษณะรอยแดงเป็นทางยาวพบในบริเวณใบหน้า หนังตา แก้ม รอบปาก ด้านข้างของคอ หรือบริเวณหน้าอก เพราะในขณะรอให้ยาทาเล็บแห้งเจ้าของมืออาจขยับทำกิจกรรมต่าง ๆ น้ำยาทาเล็บที่ยังไม่แห้งสนิทจึงสัมผัสผิวหนังในบริเวณดังกล่าว ยาทาเล็บเมื่อแห้งสนิทจะไม่ทำให้เกิดการแพ้ สารที่แพ้คือสารเคลือบเล็บ

การ ตกแต่งเล็บกำลังพัฒนาเป็นการสร้างประติมากรรมขนาดย่อม มีการใช้แผ่นเล็บสังเคราะห์มาเชื่อมแปะทับเพื่อเพิ่มพื้นที่และมีการใช้ผงอะ คริลิกผสมน้ำยาทาทับบนแผ่นเล็บให้หนาขึ้นพอที่จะแกะสลักลวดลายให้พิสดาร ประดับด้วย ทอง เพชร พลอย การตกแต่งเล็บมักนิยมขูดแผ่นเล็บจริงให้เรียบ จำเป็นต้องใช้กาวพิเศษกลุ่มอะคริลิกโพลิเมอร์เพื่อให้การยึดสิ่งซึ่งจะมา ประดับแน่นหนาเพิ่มขึ้น วัสดุซึ่งปิดทับเล็บจะขัดขวางการระเหยของน้ำของแผ่นเล็บ ทำให้แผ่นเล็บนิ่มและน้ำที่ขังในแผ่นเล็บยังละลายกาวให้ดูดซึมเข้าใต้แผ่น เล็บได้ กาวจะทำลายเนื้อเล็บแบบถาวรได้ ซึ่งหมอเจอคนไข้รายหนึ่งมาพบด้วยสาเหตุนี้ จนเล็บหลุดไป อย่างไรก็ตามมีความพยายามที่จะเปลี่ยนชนิดของกาวที่ใช้ให้ปลอดภัยขึ้น แต่ก็มีรายงานการแพ้แบบรุนแรงอยู่เช่นเดิมในคนไข้บางคน

ท้ายนี้คง ต้องบอกว่า การดูแลเล็บแบบถูกต้องก็คงเพียงแค่ตัดเล็บให้สั้น เพื่อสะดวกในการทำความสะอาด อาจใช้แปรงนุ่ม ๆ ขัดผิวเล็บที่สกปรก ไม่ควรตัดหรือขัดถูผิวหนังรอบเล็บเพราะจะกระตุ้นให้หนังหนาแข็งได้ แผ่นเล็บอาจแสดงถึงสุขภาพทั่วไปซึ่งจะเสื่อมไปตามวัย แผ่นเล็บอาจขุ่น ผิวเล็บอาจขรุขระก็ต้องทำใจรับธรรมชาติ ส่วนการตกแต่งเล็บก็ควรทำแค่พองาม เพราะถ้าเกินงามอาจสูญเสียเล็บแบบถาวรได้.

นวพรรษ บุญชาญ : รายงาน

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ