13 พฤษภาคม 2552

เปิดเตรียมการวันแรก และวธีขจัดคราบเขียวของพระเครื่อง

วันนี้เปิดเตรียมการวันแรก ที่ห้องเรีนยสกปรกมาก ฝุ่นเยอะ

วันนี้มีประชุมครู พบว่า ปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ ปัญหาที่เกิดจากนโยบายเรียนปรี 15 ปี เพราะทำใหสั่งซื้อหนังสือลำบาก ได้เฉพาะแบบเรียนเท่านั้น อีกทั้งยังสั่งซื้อแบบฝึกหัดไม่ได้ (กลัวผู้ปกครองโวย เพราะเค้าเน้นว่าฟรี ที่แท้ก็ยืมเรียนนั่นแหละครับ พี่น้อง)

ok ท่านเดินทางถูกทาง เพียงแต่ผู้ปฏิบัติบางระดับ ทำให้เกิดช่องโหว่ในเรื่องของ เปอร์เซ็นต์ เฮ้อ สังคมไทย

ตอนเย็นกลับเอาพระมาเลี่ยมกรอบใหม่ องค์กรมหลวงชุมพร เนื้อเงินที่เลี่ยมหุ้มองค์พระหลุดร่อน ทำให้กลัวว่า ท่านจะร่วงลงวันไหนก็ไม่รู้ครับ เลยอาราธนาพระไพรีพินาศ รุ่นชัยชนะศึกที่เคยคล้องกลับมาคล้องใหม่ครับ แต่ต้องไปเปลี่ยนตลับใหม่ เพราะอันเก่ามีรอยร้าว และแตก พอแกะออกมากก็ตกใจ เพราะมีคราบเขียวอยู่ในส่วนที่อยู่ในซอกลึกๆครับ กำลังหาวิธีขจัดคราบเขียวอยู่ครับ

อ๋อ เจอแล้ว
1. วิธีล้างทำความสะอาดพระเครื่องนั้น ต้องดูที่ว่าเราต้องการทำความสะอาดอะไร และพระนั้นๆมีเนื้อวัสดุเป็นอะไร เพราะการทำความสะอาดจะไม่เหมือนกันครับ การทำความสะอาดก็ต้องประณีต พอสมควรไม่เช่นนั้นจะทำให้พระเก่าๆ นั้น เสียหายได้ครับ เอาละผมจะพูดถึงการทำความสะอาดทั่วๆ ไปก่อน ถ้าพระเครื่องของคุณสกปรกอาจจะมาจากคราบ เหงื่อไคลหรือผงฝุ่นละอองต่างๆ ก็ให้นำเตรียมน้ำอุ่นแล้วผสมกับสบู่เหลวใส่ถ้วยไว้ หาพู่กันระบายสี เอาชนิดดีๆ หน่อย จะเป็นของสง่ามะยุระก็ได้เอาประเภทขนแปรงอ่อนๆ ก็แล้วกัน จากนั้น ให้ตัดปลายพู่กันให้สั้นลงสักเกือบครึ่งหนึ่งเพื่อให้ขนแปรงมีสปริง จากนั้นก็นำพระที่จะล้างลงแช่ในน้ำอุ่นที่เตรียมไว้ ค่อยๆ ใช้พู่กันปัดเบาๆ หลายๆ ครั้ง จะเห็นว่าคราบสกปรกจะค่อยหลุดออกเองครับ ทำอย่างนั้นจนกว่าจะพอใจ แล้วก็นำน้ำสะอาดมาใส่ถ้วยแล้วนำพระมาล้างอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็นำพระไปผึ่งลมจนแห้ง หรือผึ่งลมไว้สัก 24 ช.ม. ก็เป็นอันเสร็จพิธีครับ ข้อสำคัญอย่าล้างแบบรีบร้อนเพื่อต้องการเอาสิ่งสกปรกออกเร็วๆ ต้องค่อยๆ ล้างออกทีละนิดทีละนิดนะครับ ส่วนวิธีล้างรักออกจากองค์พระนั้น เป็นกรรมวิธีที่ต้องใช้ความประณีตมาก ขั้นแรกให้ไปซื้อนำยาลอกสีจากร้านวัสดุก่อสร้างมาหนึ่งกระป๋อง เอากระป๋องเล็กก็พอไม่กี่บาทหรอก จากนั้นก็หาพู่กันขนแข็งจากร้านวัสดุก่อสร้างนั่นแหละมาหนึ่งอัน แต่ไม่ต้องตัดปลายอีก หาไม้ไผ่ หรือไม้เสียบลูกชิ้นก็ได้มาหนึ่งอัน จากนั้นก็หาภาชนะใส่น้ำไว้ 2 อัน อันแรกให้ใส่น้ำผสมสบู่เหลว อันที่สองให้ใส่น้ำสะอาดเตรียมไว้ จากนั้นก็นำน้ำยาลอกสีมาใส่ภาชนะที่เป็นกระเบื้องหรือแก้วก็ได้ ตักออกมาเล็กน้อยจากนั้นก็เอาไม้ไผ่แตะน้ำยานำมาแต้มที่บริเวณรักที่ต้องการจะลอก ให้ทำทีละจุดเล็กๆ ก่อน ทิ้งไว้สักครู่ก็จะเห็นว่ารักจะเริ่มพองและเริ่มล่อนออกมา ก็ให้ใช้พู่กันปัดเอารักออก ทำไปเรื่อยๆ จนหมด จากนั้นก็นำพระไปล้างที่น้ำผสมสบู่เหลว ปัดด้วยพู่กันขนอ่อน ล้างให้สะอาดแล้วล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาดอีกที แล้วจึงนำไปผึ่ง เป็นอันเสร็จพิธีครับ อย่าลืมว่า การทำทั้งสองอย่างที่บอกมานี้ต้องค่อยๆ ทำทีละน้อยทีละจุด อย่างประณีต ไม่เช่นนั้นจะทำให้องค์พระเสียหายได้ครับ อ้อน้ำยาลอกสีนี้เวลาใช้ต้องระวังให้มากครับ อย่าให้กระเด็นโดนผิวหรือตาเป็นอันขาด เพราะมีส่วนผสมของโซดาไฟครับ ถ้าโดนผิวจะแสบจี๊ดเลยครับ ถ้ากระเด็นโดนก็ให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดมากๆ และถ้าโดนตาละก็ไม่ต้องพูดแหละครับรีบล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วรีบหาหมอลูกเดียว

2. วิธีขจัดสนิมเขียวออกจากพระบูชา ก็ทำคล้ายๆ กับการล้างคราบสนิมเขียวจากเหรียญถ้าเป็นไม่มากนักก็ใช้ครีมทาผิว ยี่ห้อนีเวีย หรือซิตร้าไวท์ก็ได้ พอกไว้บริเวณที่เป็นสนิมเขียว ทิ้งไว้ประมาณ 24 ช.ม. แล้วจึงล้างออก ถ้ายังออกไม่หมดก็พอกใหม่ทิ้งเวลาให้นานขึ้นๆ ทำไปเรื่อยๆ จะค่อยๆ ออกจนหมดครับ ยังมีวิธีที่ล้างสนิมเขียวให้เร็วขึ้น แต่เสี่ยงกับการเสียผิวพระครับ ผู้ล้างต้องมีความรูความชำนาญมากจึงจะทำได้ครับ

3. การเก็บรักษาพระเครื่อง-พระบูชา ก็ไม่มีอะไรมากครับ พระเครื่องที่เราใส่ห้อยคอ ถ้าไม่คิดอะไรมากก็เลี่ยมพลาสติกหุ้มแล้วไปจับกรอบทองหรืออะไรก็แล้วแต่อีกที ไอเหงื่อจะไม่ไปโดนองค์พระครับ แต่ถ้าใส่กรอบแบบตลับ ไอเหงื่อจะซึมเข้าได้ ก็คอยสังเกตดู ถ้ามีสิ่งสกปรกเข้าไป นานๆ ก็นำมาล้างตามที่บอกไปแล้วซักที ก็พอครับส่วนพระที่เก็บไว้ที่บ้านก็ให้หากล่องใส่พระที่เป็นกล่องสแตนเลสที่มีฟองน้ำสองด้าน (ด้านบนและด้านล่าง) สำหรับใส่พระเขามีขายทั่วไปตามร้านขายอุปกรณ์ใส่พระ นำพระเก็บไว้ให้ห่างกันพอสมควร ไม่ควรใส่จนแน่นเกินไปจะทำให้พระเสียหายได้ และควรใส่พระประเภทเนื้อแบบเดียวกันในกล่องเดียวกันเช่นเนื้อผงก็ใส่กับเนื้อผง เนื้อดินก็ใส่กับเนื้อดิน เนื้อโลหะก็ใส่กับเนื้อโลหะ เหรียญก็ใส่กับเหรียญ และไม่ควรใส่พระในกล่องโดยซ้อนกันสองชั้นจะทำให้พระเสียหายได้
.....................................................
ไปเจอมาอีกครับ

สำหรับผู้ประสงค์ทำความสะอาด สามารถทำได้ดังนี้
1.เนื้อโลหะ ทำความสะอาดได้โดยทาครีมนีเวียหมักทิ้งไว้แล้วเช็ดออกเบาๆป้องกันสนิมโดยอย่าให้โดนน้ำโดดแดด และทาเคลือบด้วยวาสลีนแต่อย่าใช้น้ำมันสุมสี่สุมห้า เพราะหลายชนิดทำลายกัดกร่อนเนื้อโลหะ

2.เนื้อผง เนื้อดินปกติไม่ต้องทำความสะอาด นอกจากปีละครั้งช่วงสงกรานต์ นำออกมาถวายสรงน้ำด้วยน้ำขมิ้นส้มป่อย น้ำอบ น้ำปรุง ถ้าต้องการทำความสะอาดจริงๆ เช่น พระเปื้อนดิน ให้แช่น้ำอุ่น 15 นาที - 1/2 ชม แต่อย่านานกว่านั้น เพราะบางเนื้อไม่แกร่ง แช่น้ำนาน อาจเปื่อยยุ่ย หลังเอาขึ้นให้ซับน้ำอย่างเบามือ และผึ่งให้แห้งหลายๆวัน ไม่ต้องถึงกับตากแดด ใส่ตู้ไว้ก่อนก็ได้ ถ้าตู้ใหญ่หรืออากาศพอถ่ายเทได้ รอให้แห้งสนิทจริงๆ จึงค่อยเลี่ยมแขวน

ในการเลี่ยมแขวน ของผู้ออกกำลังกายกระโดดโลดเต้นเสมอ มีการเคลื่อนไหวรุนแรง เช่น นักกีฬา หรือทหาร ตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามโดยตรงควรเลือกใช้แต่พระเนื้อโลหะ และเลี่ยมพลาสติกปิดผนึกกันน้ำ ชอบสวยก็ยังสามารถจับขอบเงิน หรือทองได้

ส่วนเนื้อผง และเนื้อดิน การเลี่ยมพลาสติกมีข้อเสีย คือ
1.เมื่อต้องการรื้อแกะ มีความเสี่ยงเนื้อพระชำรุด
2.หากเคลื่อนไหวรุนแรง องค์พระยังสมารถสึกกร่อน ชำรุดแตกหักได้

การเลี่ยมทองแบบใช้ขี้ผึ้งปิดหลัง บางร้านอ้างว่ากันน้ำได้ แต่ไม่จริง เพียง 2-3ปีเหงื่อก็สามารถซึมเข้าไปกัดกร่อนทำลายผิวโลหะได้แล้ว
ส่วนการเข้ากรอบแบบเปิดได้ เหมาะสำหรับพวกกะขายพระและพวกชอบอวดพระเพราะสามารถแกะเพื่อส่องดูเนื้อได้ง่าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ