31 พฤษภาคม 2552

จากครู สู่เด็กเลี้ยงวัว

วันนี้อยู่ดีๆก็ฉุกคิกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา
เรื่องของแรงงานประเทศเพื่อนบ้านของเรา ที่รูปลักษณ์ภายนอกเป็นผู้หญิงชาวบ้านธรรมดา ผิวดำ ดูไม่สะอาด

แต่เมื่อได้รับทราบว่า แท้จริงแล้ว ในขณะที่เธออยู่ประเทศของเธอ เธอมีอาชีพเป็นครู
แต่รัฐบาลของเธอไม่ต้องการให้ใครฉลาดเกินไป และไม่ต้องการให้ประชาชนรับทราบ รับรู้ถึงข้อมูลบางอย่างอันเป็นการนำมาสู่ความกระด้างกระเดื่องต่อรัฐบาล เธอจึงแอบหลบหนีเข้ามาอยู่ในเมืองไทย

จากอาชีพครู มาสู่การเป็นเด็กเลี้ยงวัว แม้จะเป็นงานที่คนที่เคยเป็นครูไม่อยากทำ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกมากนัก

เสียอย่างเดียวที่กฎหมายไม่ได้ออกมาว่า ให้สามารถแจ้งแรงงานต่างด้าวได้ตลอด
สามารถแจ้งได้เป็นช่วงๆ และทางผู้ให้ที่พักพิงก็สงสาร เพราะการออกไปเลี้ยงวัว อาจถูกคนไทยเลวทรามบางคน ข่มขืน ปลุกปล้ำ

เพราะถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแรงงานต่างด้าว... แต่เธอก็เป็นคน

เธอมีโอกาสอยู่ที่นั่นเพียงไม่กี่เดือน และต้องจากไป
...คงกลับไปเลี้ยงวัวอย่างเดิม

ผู้อุปการะกำลังถูกเพ่งเล็งจากศัตรู กลัวว่าเรื่องนี้จะเป็นจุดอ่อนให้เขาโจมตี
แม่ว่าจะสงสารอย่างไร ก็ต้องเอาตัวเองไว้ก่อน

สำหรับคนที่ก้าวเข้าสู่อาชีพครู และอาชีพอื่นๆ พึงจำไว้
หากเดินตามการเมืองมากเกินไป สักวัน เราจะเป็นอย่างเธอ

วันที่ไม่มีกษัตริย์ และต้องทำตามนักการเมืองบ้าๆ (ทุกวันนี้ก็ปกป้องนักการเมือง โดยลืมว่า ตัวเองเป็นข้าราชการ)

ข้าราชการประเภทนั้น อาจถูกจัดอยู่ในกลุ่ม... ดี น้อย

30 พฤษภาคม 2552

สอบบรรจุครู รอบที่ 2

วันนี้มีการสอบสัมภาษณ์ การสอบบรรจุเพื่อคัดเลือกเข้าเป็นข้าราชการครู

หวนนึกไปถึงวันนั้น วันที่ผมต้องหอบกระเป๋า 3 ใบ เป็นกระเป๋าเสื้อผ้า 2 ใบ และเป็นกระเป๋าผลงาน 1 ใบ เดินทางไปสอบสัมภาษณ์อย่างทุลักทุเล

การสอบในครั้งนั้น ทำให้ผมภาคภูมิใจ เพราะเป็นการสอบครั้งเดียวติด

เคล็ดลับการสอบบรรจุครูของผมคือ
1. ต้องสร้างบุญ สร้างบารมีมามากก่อน คือต้องเสียสละให้ส่วนรวม แล้วสิ่งตอบแทนดีๆจะมีมา
2. ต้องสร้างฝีมือ สร้างศักยภาพของตนเองในเรื่องของความสามารถพิเศษ
3. สร้างตนเองให้เป็นคนรักการอ่าน อ่านหมดทุกอย่าง
4. ต้องกล้านำเสนอ และกล้าสนทนากับผู้ใหญ่

จะว่าไปแล้ว น่าจะเขียนสักเล่มนะเนี่ย เอาไว้ติดตามได้ที่ http://www.seal2thai.org/sobbunju

การกำจัดไฟล์ Thumbs.db

ผม backup ข้อมูลลง maxtor ปรากฎว่าสถานะไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะไฟล์ Thumbs.db จึงลองหาวิธีลบดูครับ ต้องขอบคุณผู้เขียนบทความคนแรกที่ผมนำมาด้วยนะครับ พอดีลืมไปว่าเอามาจากไป ต้องขออภัยด้วยนะครับ

ไฟล์ Thumbs.db จะถูกสร้างขึ้นเมื่อเปิดข้อมูลใช้งานบ่อย ๆ เป็นไฟล์สำหรับเรียกซ้ำข้อมูลเดิม ประโยชน์ของมันคือ ทำให้การเรียกใช้งานไฟล์นั้น ๆ ทำได้รวดเร็ว แต่ก็มีข้อเสียคือ มันจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเปิดใช้งานบ่อย ๆ เพราะฉะนั้นถ้าเราลบไฟล์นี้ออกไปก็จะทำให้มีพื้นที่ว่างของฮาร์ดดิสก์เพิ่มขึ้นยังไงล่ะ มีด้วยกันอยู่ 2 วิธีนะ ใครจะทำวิธีไหนก็ได้นะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า
วิธีที่ 1
1. ดับเบิลคลิกที่ My Computer แล้วเลือกคำสั่ง Tools > Folder Options แล้วคลิกที่แท็บ View2. จากนั้นคลิกเครื่องหมายถูกหน้าช่อง Do not cache thumbnails 3. ที่ Hidden files and folders ให้คลิกที่ตัวเลือก Show hidden files and folders แล้วคลิก OK4. ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนการลบไฟล์ Thumbs.db กัน ให้คุณคลิกที่ Start > Search > for Files or Folders..5. แล้วคลิกที่ All file and folders ( จะอยู่ฝั่งขวามือ) จากนั้นพิมพ์ Thumbs.db ลงไปที่ All or part of the name: แล้วคลิก Search
6. เมื่อเจอไฟล์เหล่านี้แล้วก็คิ๊กเลือกทั้งหมดแล้วจัดการลบได้เลยค่ะ

วิธีที่ 2
1. คลิ๊ก Start > Run > พิมพ์ว่า GPEDIT.MSC เพื่อเรียกโปรแกรม Group Policy ขึ้นมา จากนั้นให้ไปที่ User Configuration > Administrative Templates > Windows Components > Windows Explorer
2. มาดูที่ช่องด้านขวาให้หาคลิ๊กคำว่า Turn off caching of thumbnail pictures จากนั้นคลิ๊กขวาแล้วเลือก Properties แล้วเลือก Enabled แล้วกดปุ่ม OK

28 พฤษภาคม 2552

เมื่อครูบ้านนอก รอเช็คจาก google adsense

ในที่สุด ก็ได้ครบ 100 เหรียญสักที

หลังจากที่ลองผิดลองถูก ทำ adsense มาตั้งนาน เริ่มตั้งแต่ พย. 51 จึงถึงวันนี้ก็ร่วม 5 เดือนแล้ว สรุปยอดเดือน เมษายนคือ 106 เหรียญกว่า

อาจจะดูน้อยครับ แต่ก็ภูมิใจ เพราะค่อยๆทำ ค่อยคิด ค่อยลอง เอาไปติดเว็บโน้น เว็บนี้ และเมื่อลองสืบค้นดู พบว่าบางท่านทำมาเกือนปี ยังไม่ถึง 100 เหรียญเลย นั่นก็แสดงว่า เราก็ทำสำเร็จแล้ว



เป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ทำนะครับ

เพราะหาดกคิดเล่นๆว่า ทำเพื่อสร้างรายได้เสริมเพื่อหาเงินมาเช่าพื้นที่ทำเว็บ ก็สบายใจดีครับ... ไม่รีบร้อน ไม่เดือดร้อน

(แต่ถ้าได้เยอะๆ ก็ดีนะครับ)



อย่างไรก็ตาม เคล็ดลับของ adsense คือ "อย่าโกง"

เพราะการกินน้อยๆ แต่นานๆ จะช่วยได้ครับ



โลกนี้ มีที่ให้คนซื่อสัตย์ยืนเสมอครับ ที่สำคัญ ไม่ต้องหนีคดีด้วยนะครับ อิอิ

................................

Thailand Travel Memo

27 พฤษภาคม 2552

เรียนฟรี 15 ปี !!

นโยบายรัฐบาลต้องการจัดการเรียนการศึกษาอย่างมีคุณภาพตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมปลาย และปวช.โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และต้องการรับฟังความคิดเห็นเพื่อช่วยหาแนวทางทำให้การจัดสรรตำราและอุปกรณ์การเรียน และชุดนักเรียน รวมทั้งกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เพื่อนำแนวทางไปประกอบการพิจารณา นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสนอให้จัดทำเป็นคูปองเพื่อการศึกษา เป็นการคืนอำนาจให้ผู้ปกครองและนักเรียนเป็นผู้บอกว่าต้องการอะไร ไม่ใช่จัดสรรไปจากส่วนกลาง โดยนักเรียนทุกคนมีสิทธิ์ได้รับคูปองเพื่อนำไปแลกอุปกรณ์การเรียน อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้แจกหนังสือครบทั้ง 8 กลุ่มสาระ เพราะจะเป็นการดึงเด็กเข้าห้องเรียน ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องเรียนในห้องเรียน อีกทั้งไม่ควรพิมพ์หนังสือที่จะเปลี่ยนหลักสูตรใหม่ในอีก 1-2 ปี เพราะจะทำให้เสียงบประมาณถึง 100 ล้านบาท พร้อมกันนี้ขอเสนอให้มีคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติอุปกรณ์การเรียนให้ดี เพื่อป้องกันการทุจริต นายวรากรณ์ สามโกเศศ อดีตรมช.ศึกษาฯ กล่าวว่า ขอให้มีการทำความเข้าใจกับสังคมในการใช้จ่ายด้านต่างๆ และให้พิจารณาการกระจายงบประมาณเท่ากันทั่วประเทศ เพราะคุณภาพการศึกษาของพื้นที่ต่างๆ จะไม่เท่ากัน ให้แบ่งงบประมาณในเมืองให้ชนบทมากกว่า ทั้งนี้ไม่อยากเห็นการทุจริตซ้ำซากเหมือนกรณีโครงการดื่มนมฟรี อีกทั้งรัฐบาลควรดูแลครอบคลุมถึงโรงเรียนสงเคราะห์ และโรงเรียนพระสงฆ์ด้วย นายสุขุม เฉลยทรัพย์ รองอธิการบดีฝ่ายศูนย์การศึกษา ม.ราชภัฏสวนดุสิต กล่าวว่า ควรส่งเสริมให้เกิดการแสดงน้ำใจของคนที่มีอยู่แล้วสละสิทธิ์ให้คนที่ด้อยกว่า ทั้งนี้เห็นด้วยกับการใช้คูปอง แต่ควรระวังว่าจะเกิดตลาดมืด และการตกเขียว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ซึ่งสพฐ.จะสรุปความคิดเห็นเสนอรมว.ศึกษาฯ เพื่อพิจารณาในวันที่ 2 ก.พ.นี้

ที่มา สยามรัฐ วันที่ 30 มกราคม 2552

ในที่สุดก็โกงจนได้

26 พฤษภาคม 2552

ความทุจริตย่อมนำความเสียหายมาสู่องค์กร

ช่วงนี้มีการสอบแข่งขันหลายอย่าง
ทั้งการสอบเข้ารับราชการ
การสอบเป็นพนักงานราชการ
การสอบเป็นสายสนับสนุน

หลายต่อหลายอย่างต้องมีการตั้งกฎเกณฑ์ กติกา และคณะกรรมการ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า หน่วยงานการศึกษาจะไม่มี...
- การทุจริตในการสอบบรรจุ
- การใช้เส้นสายดึงเอาลูกหลานมาทำงาน
- การใช้เงินซื้อตำแหน่ง
- การยอมพลีกายแลกกับความก้าวหน้า
- การย้ายเอาคนของตนเองมาทำงานใกล้ชิด เพื่อทำให้การโกวทำได้ง่ายๆ
- การตั้งโครงการจ้างชั่วคราว เพื่อเปิดช่องให้สอบบรรจุได้
- การขายข้อสอบ ข้อสอบรั่ว
- การตรวจเฉพาะชื่อคนสอบ (ไม่ดูคะแนน)

เหล่านี้ถือว่าเป็นเรื่องทุจริต และสังคมองค์กรก็จะล่มสลาย
ลองคิดดูว่า ไม่สนใจคุณสมบัติของผู้สอบ ดูเพียงแต่ชื่อ - นามสกุล ว่าตรวงกันกับที่รับเงินไว้หรือไม่ ใช่ญาติเราหรือไม่ คนเหล่านี้ก็จะทไงนไม่เป็น หรือถ้าจะบอกว่าเรียนรู้งานได้ ถึงเวลาจริงๆก็ไม่สนใจ เพราะถึอว่า "ฉันเป็นเด็กนาย"

ระบบการคัดเลือกที่โปร่งใส ย่อมนำคนดีมีฝีมือมาสู่องค์กร

จำไว้นะครับ ถ้าองค์กรยังอยู่ได้ แสดงว่ายังมีคนดี ไม่เน้นเส้นสายอยู่
และบาปกรรมของคนที่ โกง สักวันหนึ่ง เขาจะไม่มีบ้านอยู่ยามเกษียณ และข้อความช่วยเหลือใครไม่ได้ เนื่องจากใช้อำนาจในทางที่ผิด

25 พฤษภาคม 2552

เดินทางไกล

ฉันเดินไกลมาหายวัน
ฉันเดินไกล มาหลายปี
มาวันนี้จึงภูมิใจ

ฉันสอนเด็กมาหลายคน
ฉันสอนเด็กมาหลายดี
มาวันนี้จึงภูมิใจ

แม้จะเดินไปอีกไกลแค่ไหน ฉันขอเพียงเด็กๆของฉัน เดินไกลต่อไป ไกลจนกว่าประเทศไทย จะมีระบบการศึกษาที่ดี
...........................................................
Thailand

24 พฤษภาคม 2552

อย่าหวังเป็นครู เพราะความมั่นคง

สวัสดีครับ
มีหลายคนอยากเป็นครูเพราะรักเด็ก บางคนอยากให้เด็กๆได้รับความรู้ บางคนอยากพัฒนาชาติ และบางคนอยากมีอาชีพที่มั่นคง

คงต้องยอมรับว่า แม้จะมีการยุบโรงงาน ยุบบริษัท ข้าราชการครูย่อมไม่มีวันถูกไล่ออก
...แต่รู้ไหมว่า
- ครู ต้องเสียสละตั้งแต่ฝึกสอน
- ครู เริ่มต้นด้วยเงินเดือนอันน้อยนิด
- ครู ไม่แสวงหาผลประโยชน์จากผู้เรียน
- ครู ต้องไปเข้าร่วมกิจกรรมที่ทางผู้บังคับบัญชาบังคับ ออกคำสั่งให้ไป เพราะได้งบประมาณตอบแทน
- ครู ต้องซื้ออุปกรณ์ประกอบการสอนเอง ทั้งๆที่เงินซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ก็ไม่มี
- ครู แอบนอนกลางวันก็โดนด่า ที่ง่วงเพราะต้องเอางานของโรงเรียนกลับไปทำจนสว่าง
- ครู ต้องรับรู้การนินทา แม้ว่าไม่อยากจะฟัง (จากปากครูคนอื่น)
- ครู ต้องเสี่ยงกับคมกระสุน และการฆ่าตัดคอ
- ครู ต้องทำงานตามนโยบายของคนที่คิด ในห้องแอร์
- ครู ต้องเดินทางไกล เพียงไปสอน เพราะบ้านพักครูไม่พอ
- ครู ต้องทำผลงานวิชาการ เพื่อแลกกับเงินที่ได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- ครู ไม่มีโบนัส (ยกเว้นรัฐบาลไทยรักไทย)
- ครู ห้ามยุ่งกับการเมือง แต่ต้องไปเลือกตั้ง ใครไม่ไป ตาย
- ครู ต้องเดินทางไปอบรมด้วยเงินของตนเอง เบิกไม่ได้ (เบิกได้ก็ 100 เดียว)
- ครู (บางคน) ต้องใส่ทองปลอม เพราะเวลาไปร่วมงานชาวบ้าน เค้าชอบมองคอครู
- ครู ต้องผ่อนรถ เพราะไม่มีปัญญาซื้อสด พอเวลามีปัญหา ก็โดนเค้าด่าว่า ไม่รู้จักพอเพียง ลองอ่าน "อาชีพครู ผู้รับใช้ที่ถูกประนาม" (อ่านเลยนะ)

นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง
ส่วนเดียวเท่านั้น

ใครที่มา copy ไป กรุณาแจ้งว่า นำมาจาก http://seal2thai.blogspot.com เพื่อจะได้ให้คนอยากเป็นครู กลับเข้ามาอ่าน กลับมาแสดงความเห็น กลับมาตอบหัวใจตัวเองว่า ...
... ยังอยากเป็นครูอีกหรือไม่

23 พฤษภาคม 2552

ความผูกพันธ์ ของครูและลูกศิษย์

เมื่อหลายวันก่อน ผมมีโอกาสได้คุยกับลูกศิษย์คนหนึ่งทาง MSN

ลูกศิษย์คนนี้เป็นผู้หญิง และอายุห่างจากผมเพียง 5 ปี ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นพี่ - น้อง กันได้
แต่สิ่งที่น้องๆที่เรียนครู และกำลังจะไปเป็นครูจงจำไว้ "อย่าเผลอใช้คำว่าพี่ ขณะฝึกสอน / เวลาสอน" เด็ดขาด
เพราะเมื่อมีการใช้ครั้งแรกแล้ว นักเรียนจะเรียกอย่างนั้นตลอด ส่งผลให้เราดูไม่ดีในสายตาของครูรุ่นเก๋าๆ

ดังนั้น ผมเลยไม่มีการใช้คำว่าพี่ กับนักเรียนคนใดใด

...หลังจากที่ไม่ได้คุยกับนักเรียนคนนี้มา 2 ปี (โห นานเนาะ)
บังเอิญว่า นักเรียนคนนี้กำลังเล่นเกมส์ และผมกำลังอัพเว็บอยู่ ก็มีโอกาสพูดคุยกันในหลายๆเรื่อง
ทั้งนี้เพราะการที่เป็นครู จะต้องเป็นทั้งพ่อแม่ เป็นทั้งคนสั่งสอนอบรม และเป็นพี่ให้ได้

ครูหลายคนวางตัวดี มีนักเรียนเกรง แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาของเด็กได้ทัน เพราะเด็กไม่กล้าเล่าความจริงให้ฟัง
ครูจะต้องเป็นบุคคลที่กล้ารับฟัง แซวเด็กบ้างในบางเรื่อง หัดให้คำว่าขอบคุณ เวลาใช้งานเด็ก ลองนึกดูว่า ถ้าไม่มีเด็กทำงานในบางอย่างให้ เราก็อาจจะทำไม่เสร็จอย่างรวดเร็วได้

การที่จะทำให้เด็กยอมรับได้นั้น ต้องไม่เปิดเผยข้อมูลที่พูดคุยกับเด็ก ไม่ใช่ว่าเด็กมาปรึกษาเรื่องอะไร พอถึงวงข้าวครู ก็จับกลุ่มนินทาสนุกสนาน แบบนี้เป็นเพียงแค่คนมีอาชีพครู ไม่ใช่คนที่มีวิญญาณครู

ย้อนกลับมาเรื่องที่พูดคุยกันคืนนั้น
เราก็คุยกันในเรื่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียน และเรื่องทั่วไปของวัยรุ่น
สิ่งที่ต้องเตือน สิ่งที่ต้องสอน ก็ต้องบอกไป เพราะเราต้องถือว่า เราผ่านประสบการณ์อะไรต่างๆมามาก และเรามีความจริงใจกับเขา
เพราะถ้าไม่จริงใจ... ก็ไม่มีความจำเป็นต้องตักเตือน

ผมเชื่อว่า ครูหลายๆคนต้องมีความรู้สึกแบบผม
คือ ดีใจ เมื่อลูกศิษย์ได้ดี ประสบความสำเร็จ และเป็นคนดี
ทุกครั้งที่ได้คุยกับศิษย์คนอื่นๆ ผมก็จะถามว่า "เรียนหนักไหม"
ทั้งนี้เพราะผมได้ผ่านจุดนั้นมาแล้ว

แม้ว่าผมจะได้สินลูกศิษย์กลุ่มนั้นเพียง 5 เดือน (1 เทอม)
แต่ผมยอมรับว่า ผมรักลูกศิษย์กลุ่มนั้นจริงๆ

หากวันนี้เค้าเรียกผมว่าพี่ ผมก็จะบอกว่า "ไอ้น้องรัก พยายามเข้า ชาติรอเราอยู่"

21 พฤษภาคม 2552

เมื่อครูบ้านนอก งมหาข้อผิดพลาดของ OsCommerce

จากการที่เว็บ Hosting ได้ย้ายการขอใช้บริการ บริษัทแห่งหนึ่ง เพราะถูกโจมตีฐานข้มูล SQL ซึ่งลักษณะดังกล่าวไม่ได้ถูกขโมยข้อมูล ผู้ประสงค์ร้ายก็เลยใช้วิธีส่งข้อมูลเข้า Mysql ของเว็บใด เว็บหนึ่ง
ส่งผลให้เว็บอื่นๆในเครือข่ายของผู้ให้บริการ ล่มเหมือนกันหมด

สร้างความเสียหายมาก (ยอมรับว่า คนที่ทำ เลวจริงๆ รู้ไหมว่า มีคนเดือนร้อนมากมายขนาดไหน)

ทีนี้เมื่อมีการย้ายฐานข้อมูลมา ทำให้บางเว็บมีข้อมูลสูญหาย บางเว็บต้อง setup ใหม่หมดเลย

ในตอนนี้แหละ ทำให้ผมเรียนรู้ว่า
1. การทำเว็บด้วยโค๊ด HTML ดีที่สุด sql ล่ม ก็ยังใช้ได้ ข้อมูลเสียหาย ก็อัพ ได้
2. ต้องสำรองฐานข้อมูลบ่อยๆ และเน้นที่ฐานข้อมูลของระบบ CMS
3. เรียนรู้ในการป้องกัน ไม่เปิดช่องว่างให้ถูกโจมตี
4. คนที่ทำเลว แล้วสะใจ อย่าไปโกรธเคือง เพราะเขาคนนั้นมีวุฒิภาวะต่ำ อีกทั้งยังอาจขาดการเลี้ยงดูสั่งสอนที่ดี

ทีนี้เมื่อมาหาข้อผิดพลาดของ OsCommerce พบว่า พาทของฐานข้อมูลอันเก่าของเว็บไม่เหมือนกัน
และเวอร์ชั่นของ server ก็มี พาทการเรียกข้อมูลไม่เหมือนกัน

เอาเถอะ เรียนรู้เพื่อสร้างสิ่งใหม่ๆ
อนาคต รวยแน่นอน โดยเฉพาะ Adsense

20 พฤษภาคม 2552

ครูบ้านนอก กับปัญหา OsCommerce

เมื่อวานมีการย้าย host ทำให้ระบบที่ MySQL ต้อง setup ใหม่ทั้งหมด
และเมื่อดำเนินการแล้ว ก็พบปัญหาของ OsCommerce ดังนี้

1. ลง oscommerce แล้วพอกด "เครื่องมือดูแลระบบ(administration tool)" มันก็ขึ้นว่า
Fatal error: Cannot re-assign $this in C:\AppServ\www\oscommerce-2.2ms2 Thai Edition\catalog\admin\includes\classes\upload.php on line 31

วิธีแก้ไข
เข้าไปที่ part C:\AppServ\www\oscommerce-2.2ms2 Thai Edition\catalog\admin\includes\classes\upload.php
คลิ๊กขวา edit file upload.php ตรงบรรทัดที่ 31 เพิ่ม $this = null; แก้เป็น // $this = null;

19 พฤษภาคม 2552

พระองค์ ทรงคือครูของข้าพเจ้า

วันนี้วันที่ 19 พฤษภาคม
เป็นวันที่ใครๆก็เรียกว่า "วันอาภากร"
ซึ่งได้กำหนดขึ้นจากเนื่องด้วยการสิ้นพระชนม์ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือที่ใครๆเรียกว่า "เสด็จเตี่ย"

พระองค์ท่านทรงเป็นพระบิดาแห่งทหารเรือ ทรงเป็นครูสอนศิษย์ด้วยตนเอง ไม่ถือพระองค์ สามารถล้วงคอห่านได้โดยไม่รังเกียจ
พระองค์ทรงดุดัน เฆี่ยนตี นักเรียนที่ชักช้า แต่เมื่อมีใครทำไม่ถูกพรทัย ก็ทรงทำให้ดูเป็นแบบอย่าง

พระองค์ทรงรักชาติยิ่งชีพ
รักในสถาบันกษัตริย์ ทรงปลอมพระองค์เข้าไปสืบข่าวจีนกบฎในโรงฝิ่น

แบบอย่างอีกประการหนึ่งคือ พระองค์ทรงเสาะแสวงหาครูอาจารย์ทั้งด้านเวทมนต์ คาถา ด้านอาวุธ และด้านยาแผนโบราณ ไทย - จีน

สิ่งสำคัญที่พระองค์ทรงสั่งสอนคือ "จะทำสิ่งใด ควรทำจริง"

แม้ว่าพระองค์จะไม่เกี่ยวข้องกับการศึกษาโดยตรง
แต่ก็ทรงเป็นแบบอย่างว่า "การเป็นครูที่ดี" ควรปฏิบัติอย่างไร

18 พฤษภาคม 2552

เมื่อโรงเรียน ถูกจับได้ว่าโกง

ในที่สุด โรงเรียน ก็ถูกจับได้ว่าโกง
เพียงแต่ว่า โรงเรียนที่ว่านั้น ไม่ใช่โรงเรียนของผม

มีผู้ปกครองคนหนึ่ง เข้ามาพูดคุยเล่นในตอนบ่าย
เขาเล่าให้ฟังว่า ทางโรงเรียนที่ลูกชายของเขาไปเข้าเรียนนั้น มีการร้องขอแกมบังคับให้ให้บริจาคเงินในการสร้างรั้วกั้นรถจักรยานยนต์

ไม่ได้บังคับโดยตรง... แต่ต้องจ่าย

ผู้ปกครองคนนั้นก็หัวหมอ หัวกฎหมาย บอกวาจะแจ้งศาลปกครอง จะแจ้งท่านนายก 1111

เอาเข้าไป เหอะ

ก็อยากจะเตือนว่า เดี๋ยวนี้ผู้ปกครองเขาไม่ได้โง่ หัวหมอก็เยอะ ทำอะไรที่ผิดๆก็ระวัง เพราะเขาก็รู้

แต่คนที่ทำความดีไว้อยู่แล้วก็ไม่ต้องกลัว เพราะความดีนั้นแหละจะเป็นเกราะป้องกันตนเอง

17 พฤษภาคม 2552

สอบบรรจุครู วันที่ 2

สวัสดีครับ
ขอเป็นกำลังใจอีกวันให้กับผู้ที่กำลังเข้าสอบบรรจุเป็นข้าราชการครู ในวันที่ 2 วันนี้

สำหรับการสอบวันนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1. วิชาการศึกษา
2. วิชาความรู้ความสามารถสำหรับตำแหน่ง หรือที่เรียกกันว่า วิชาเอกนั่นแหละครับ

การที่เราจะทำข้อสอบบรรจุได้นั้น จะต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่า "วิญญาณครู" เพราะเรื่องเหล่านี้ แม้จะมีการสอนในมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่สามารถสอนได้ครบถ้วน 100 % เพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดจากการปฏิบัติ

ผมขอเอาใจช่วยทุกคนที่ตั้งใจปฏิบัติราชการนะครับ
...ถึงแม้จะมีข่าวลือว่า จะมีการงดเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการ ก็ตาม

เอาเถอะ ข้าราชการ ไม่ใช่พ่อค้า ที่จะมุ่งหวังเอาแต่ผลกำไร

วันหนึ่ง จะต้องเป็นใหญ่ให้ได้ครับ จะได้แก้ปัญหาสักที
......................................
Welcome to Thailand

16 พฤษภาคม 2552

วันนี้ มีการสอบบรรจุครู

วันนี้ 16 พ.ค. 2552
หลายเขตพื้นที่การศึกษามีการสอบบรรจุครูผู้ช่วยขึ้น ซึ่งทางเขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ได้จัดสอบ และใช้สนามสอบของ สพท. พิษณุโลก เขต 1 อาจเป็นเหตุผลเพราะ ผู้เข้าสอบบรรจุครูจะได้เดินทางได้ง่ายๆ

มีผู้เข้าสมัครสอบหลายพันคน

แต่คงมีไม่กี่คนที่จะเป็นผู้ชนะในหนทางนี้ อย่างไรก็ตาม ผมเป็นกำลังใจให้ครับ

ผมเองจัดว่าโชคดีที่สอบบรรจุครั้งแรกแล้วติดเลย โชคดีมากๆ เพราะแม้ว่าเราจะไม่รู้จักใครที่ฝากฝังได้ ไม่มีใครให้ไปแนะนำตัวให้รู้จัก แต่ก็สามารถยืนบนขาของตนเอง และเดินก้าวเข้าสู่อาชีพครูได้สำเร็จ

ยังไงจะพยายามนำข้อมูลข่าวสาร การสอบบรรจุครูมาฝากอยู่เสมอนะครับ
................................
Welcome to Thailand

15 พฤษภาคม 2552

My boss ความรักที่เจ้านายมีต่อลูกน้อง


(ช่วงแรกเริ่มต้น) begining..... Boss: Be good, you will be fine.



(ผ่านไป 1 อาทิตย์) After a week...
Must Work Hard man

(ผ่านไป 1 เดือน) After a month...
Must Work Hard during recession you know!


(ผ่านไป 3 เดือน) After a Quarter....
Can you hear me, you must work hard!!!

Welcome to Thailand

14 พฤษภาคม 2552

เคล็ดลับภาษาอังกฤษ

เคล็ดลับ การ เรียนภาษาอังกฤษ ให้ เก่ง

วันนี้ครูบ้านนอกอยากเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งๆ เผื่อจะได้เอาข้อมูลที่มีแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วก็เอาลงเว็บเพื่อเพิ่มค่า Adsense ครับ
ไปลองค้นๆมา เห็นว่ามีประโยชน์เลยเอามาโพสต์ไว้ครับ

การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เราจะต้องมี Passion หรือ ความรู้สึกที่ดีกับสิ่งนี้ หากคุณไม่ทราบว่าอะไรคือ Passion หรือ ความรู้สึกที่ดี คืออะไร ลองย้อนกลับไปมองสิ่งต่างๆ ที่คุณเคยอยากได้ อยากมีสิครับ ยกตัวอย่างเช่น คุณอยากได้เสื้อผ้าดีๆ สวยๆ กระเป๋ายี่ห้อดังๆ หรือ แม้แต่ตอนที่คุณจีบแฟนคุณ เหล่านี้เกิดขึ้นเพราะคุณมี Passion ซึ่งทำให้คุณทุ่มเทพละกำลัง ความตั้งใจ ความพยายามให้ได้มันมา เพราะรู้ว่า มันมีค่ากับคุณแน่นอน

ภาษาอังกฤษก็เช่นเดียวกัน สิ่งแรกที่คุณต้องมีคือ Passion หรือ ความรู้สึกที่ดีต่อภาษาอังกฤษ ซึ่งเราต้องคิดต่อว่า แล้วเราจำเป็นต้องรู้ หรือ มีภาษาอังกฤษไว้ทำไม คำตอบคิอ ต้องมีครับ (Must have) เพราะในปัจจุบันนี้ทุกอย่างในชีวิตประจำวันเราคือ ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนและการ ทำงาน อันจะนำมาซึ่งความก้าวหน้าในทุกๆ ด้าน

ในปัจจุบันนี้ การรู้ภาษาอังกฤษไม่ใช่เป็นเรื่องของความสามารถพิเศษแล้ว ลองจินตนาการการสอบสัมภาษณ์เข้าทำงานของบริษัท เมื่อคุณตอบคำถามว่า คุณทราบภาษาอังกฤษ ผู้ที่สัมภาษณ์คุณไม่ได้มองว่าคุณมีความสามารถที่โดดเด่นไปจากคนอื่นเลย บางบริษัทที่มีชื่อเสียง ยังบังคับให้คุณไปสอบภาษาอังกฤษกับการสอบที่มาตรฐาน เช่น TOEIC, TOELF, IELS ตลอดจน CU-TEP, TU-GET แล้วนำคะแนนสอบที่ผ่านตามเกณฑ์มาร่วมพิจารณากับคุณสมบัติอื่นๆ ส่วนการสอบเข้าเรียนในระดับต่างๆ แทบไม่ต้องกล่าวถึง ต้องใช้คะแนนภาษาอังกฤษมาเป็นเกณฑ์ หรือ แทบจะเป็นตัววัดตัวสุดท้ายในการตัดสินในการเข้าศึกษา

ยิ่งกล่าวไปทำให้เครียด จนมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อภาษาอังกฤษ เราลองย้อนกลับมาพิจารณา แล้วจะทำอย่างไรให้เก่งภาษาอังกฤษ ผมคิดว่าคงไม่มีกฎเกณฑ์ใดตายตัว หากแต่จะเป็นเรื่องของการแนะนำส่วนตัว แต่ท้ายที่สุดต้องขึ้นกับผู้ที่ศึกษาเองว่ามี Passion แล้วทุ่มเทกับภาษาอังกฤษ แค่ไหน ดังนั้นผมขอแนะนำวิธีการเรียนรู้ที่สามารถนำเอาไปใช้ นะครับ

หากแยกประเภทการเรียนภาษาอังกฤษ ผมขอแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก คือ
1. ไวยากรณ์ (Grammar)
2. ศัพท์ (Vocabulary)
3. การอ่าน (Reading)
4. การเขียน (Writing)
5. การฟัง (Listening)
6. การพูด (Speaking)

1. ไวยากรณ์ (Grammar)ไวยากรณ์ หรือ ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Grammar ถือว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากับคนไทยเรามาเป็นเวลาหลายสิบปี การเรียนรู้ภาษาอังกฤษขึ้นต้นของผู้เรียน ก็เริ่มจากการเรียนไวยากรณ์ ซึ่งใช้เวลาเกือบสิบปี เรียนกันตั้งแต่เด็กไปถึงผู้ใหญ่ ก็ยังไม่จบ เลยทำให้มีคำถามตามมาว่า ทำไมต้องเรียน เรียนแล้วก็ยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้

จริงแล้วการเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะทำให้ทราบถึงรูปแบบของภาษาในการเรียงถ้อยร้อยคำที่ถูกต้อง เพื่อนำไปใช้ในการสื่อสารให้เข้าใจระหว่างกัน การเรียนไวยากรณ์ต้องใช้ความอดทนในการทำความเข้าใจและจดจำ กฎ และข้อยกเว้นต่างๆ (ซึ่งข้อยกเว้นต่างๆ มักจะนำไปออกข้อสอบ) อีกทั้งต้องคอยสังเกตรูปแบบการเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ แทบจะไม่มีอะไรมาก นอกเสียจากลองไปหาหนังสือไวยากรณ์ดีๆ สักเล่ม ลองเลือกเล่มที่ไม่ต้องหนามาก เอาขนาดกลางๆ ก็พอ แล้วค่อยๆ ศึกษา ทบทวน กอปรนึกถึงตอนเคยได้รับการเรียนรู้มาแล้ว จากนั้นทำแบบฝึกหัด หากคุณไม่สามารถบังคับตัวคุณให้ทำอย่างนี้ได้ ลองเดินไปเรียนพิเศษ หรือติวหลักไวยากรณ์ เพื่อจะได้เรียนรู้หลักการจำ การทำความเข้าใจภาษาอังกฤษ ซึ่งอาจจะทำให้คุณเข้าใจไวยกรณ์ภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้น แต่เมื่อเรียนจบแล้ว คุณต้องกลับมาทบทวน ทำความเข้าใจเรื่อยๆ นะครับ มิฉะนั้นแล้ว ทุกอย่างจะกลับไปคืนผู้สอนหมด ทำให้คุณเสียเงินและยังเสียเวลา แล้วไม่ได้อะไรอีกด้วย
ที่มา http://www.interscholarship.com

เดี๋ยวต้องไปทบทวนความรู้ภาษาอังกฤษบ้างดีกว่าครับ เฮ้อ เหนื่อยใจ

13 พฤษภาคม 2552

เปิดเตรียมการวันแรก และวธีขจัดคราบเขียวของพระเครื่อง

วันนี้เปิดเตรียมการวันแรก ที่ห้องเรีนยสกปรกมาก ฝุ่นเยอะ

วันนี้มีประชุมครู พบว่า ปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ ปัญหาที่เกิดจากนโยบายเรียนปรี 15 ปี เพราะทำใหสั่งซื้อหนังสือลำบาก ได้เฉพาะแบบเรียนเท่านั้น อีกทั้งยังสั่งซื้อแบบฝึกหัดไม่ได้ (กลัวผู้ปกครองโวย เพราะเค้าเน้นว่าฟรี ที่แท้ก็ยืมเรียนนั่นแหละครับ พี่น้อง)

ok ท่านเดินทางถูกทาง เพียงแต่ผู้ปฏิบัติบางระดับ ทำให้เกิดช่องโหว่ในเรื่องของ เปอร์เซ็นต์ เฮ้อ สังคมไทย

ตอนเย็นกลับเอาพระมาเลี่ยมกรอบใหม่ องค์กรมหลวงชุมพร เนื้อเงินที่เลี่ยมหุ้มองค์พระหลุดร่อน ทำให้กลัวว่า ท่านจะร่วงลงวันไหนก็ไม่รู้ครับ เลยอาราธนาพระไพรีพินาศ รุ่นชัยชนะศึกที่เคยคล้องกลับมาคล้องใหม่ครับ แต่ต้องไปเปลี่ยนตลับใหม่ เพราะอันเก่ามีรอยร้าว และแตก พอแกะออกมากก็ตกใจ เพราะมีคราบเขียวอยู่ในส่วนที่อยู่ในซอกลึกๆครับ กำลังหาวิธีขจัดคราบเขียวอยู่ครับ

อ๋อ เจอแล้ว
1. วิธีล้างทำความสะอาดพระเครื่องนั้น ต้องดูที่ว่าเราต้องการทำความสะอาดอะไร และพระนั้นๆมีเนื้อวัสดุเป็นอะไร เพราะการทำความสะอาดจะไม่เหมือนกันครับ การทำความสะอาดก็ต้องประณีต พอสมควรไม่เช่นนั้นจะทำให้พระเก่าๆ นั้น เสียหายได้ครับ เอาละผมจะพูดถึงการทำความสะอาดทั่วๆ ไปก่อน ถ้าพระเครื่องของคุณสกปรกอาจจะมาจากคราบ เหงื่อไคลหรือผงฝุ่นละอองต่างๆ ก็ให้นำเตรียมน้ำอุ่นแล้วผสมกับสบู่เหลวใส่ถ้วยไว้ หาพู่กันระบายสี เอาชนิดดีๆ หน่อย จะเป็นของสง่ามะยุระก็ได้เอาประเภทขนแปรงอ่อนๆ ก็แล้วกัน จากนั้น ให้ตัดปลายพู่กันให้สั้นลงสักเกือบครึ่งหนึ่งเพื่อให้ขนแปรงมีสปริง จากนั้นก็นำพระที่จะล้างลงแช่ในน้ำอุ่นที่เตรียมไว้ ค่อยๆ ใช้พู่กันปัดเบาๆ หลายๆ ครั้ง จะเห็นว่าคราบสกปรกจะค่อยหลุดออกเองครับ ทำอย่างนั้นจนกว่าจะพอใจ แล้วก็นำน้ำสะอาดมาใส่ถ้วยแล้วนำพระมาล้างอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็นำพระไปผึ่งลมจนแห้ง หรือผึ่งลมไว้สัก 24 ช.ม. ก็เป็นอันเสร็จพิธีครับ ข้อสำคัญอย่าล้างแบบรีบร้อนเพื่อต้องการเอาสิ่งสกปรกออกเร็วๆ ต้องค่อยๆ ล้างออกทีละนิดทีละนิดนะครับ ส่วนวิธีล้างรักออกจากองค์พระนั้น เป็นกรรมวิธีที่ต้องใช้ความประณีตมาก ขั้นแรกให้ไปซื้อนำยาลอกสีจากร้านวัสดุก่อสร้างมาหนึ่งกระป๋อง เอากระป๋องเล็กก็พอไม่กี่บาทหรอก จากนั้นก็หาพู่กันขนแข็งจากร้านวัสดุก่อสร้างนั่นแหละมาหนึ่งอัน แต่ไม่ต้องตัดปลายอีก หาไม้ไผ่ หรือไม้เสียบลูกชิ้นก็ได้มาหนึ่งอัน จากนั้นก็หาภาชนะใส่น้ำไว้ 2 อัน อันแรกให้ใส่น้ำผสมสบู่เหลว อันที่สองให้ใส่น้ำสะอาดเตรียมไว้ จากนั้นก็นำน้ำยาลอกสีมาใส่ภาชนะที่เป็นกระเบื้องหรือแก้วก็ได้ ตักออกมาเล็กน้อยจากนั้นก็เอาไม้ไผ่แตะน้ำยานำมาแต้มที่บริเวณรักที่ต้องการจะลอก ให้ทำทีละจุดเล็กๆ ก่อน ทิ้งไว้สักครู่ก็จะเห็นว่ารักจะเริ่มพองและเริ่มล่อนออกมา ก็ให้ใช้พู่กันปัดเอารักออก ทำไปเรื่อยๆ จนหมด จากนั้นก็นำพระไปล้างที่น้ำผสมสบู่เหลว ปัดด้วยพู่กันขนอ่อน ล้างให้สะอาดแล้วล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาดอีกที แล้วจึงนำไปผึ่ง เป็นอันเสร็จพิธีครับ อย่าลืมว่า การทำทั้งสองอย่างที่บอกมานี้ต้องค่อยๆ ทำทีละน้อยทีละจุด อย่างประณีต ไม่เช่นนั้นจะทำให้องค์พระเสียหายได้ครับ อ้อน้ำยาลอกสีนี้เวลาใช้ต้องระวังให้มากครับ อย่าให้กระเด็นโดนผิวหรือตาเป็นอันขาด เพราะมีส่วนผสมของโซดาไฟครับ ถ้าโดนผิวจะแสบจี๊ดเลยครับ ถ้ากระเด็นโดนก็ให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดมากๆ และถ้าโดนตาละก็ไม่ต้องพูดแหละครับรีบล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วรีบหาหมอลูกเดียว

2. วิธีขจัดสนิมเขียวออกจากพระบูชา ก็ทำคล้ายๆ กับการล้างคราบสนิมเขียวจากเหรียญถ้าเป็นไม่มากนักก็ใช้ครีมทาผิว ยี่ห้อนีเวีย หรือซิตร้าไวท์ก็ได้ พอกไว้บริเวณที่เป็นสนิมเขียว ทิ้งไว้ประมาณ 24 ช.ม. แล้วจึงล้างออก ถ้ายังออกไม่หมดก็พอกใหม่ทิ้งเวลาให้นานขึ้นๆ ทำไปเรื่อยๆ จะค่อยๆ ออกจนหมดครับ ยังมีวิธีที่ล้างสนิมเขียวให้เร็วขึ้น แต่เสี่ยงกับการเสียผิวพระครับ ผู้ล้างต้องมีความรูความชำนาญมากจึงจะทำได้ครับ

3. การเก็บรักษาพระเครื่อง-พระบูชา ก็ไม่มีอะไรมากครับ พระเครื่องที่เราใส่ห้อยคอ ถ้าไม่คิดอะไรมากก็เลี่ยมพลาสติกหุ้มแล้วไปจับกรอบทองหรืออะไรก็แล้วแต่อีกที ไอเหงื่อจะไม่ไปโดนองค์พระครับ แต่ถ้าใส่กรอบแบบตลับ ไอเหงื่อจะซึมเข้าได้ ก็คอยสังเกตดู ถ้ามีสิ่งสกปรกเข้าไป นานๆ ก็นำมาล้างตามที่บอกไปแล้วซักที ก็พอครับส่วนพระที่เก็บไว้ที่บ้านก็ให้หากล่องใส่พระที่เป็นกล่องสแตนเลสที่มีฟองน้ำสองด้าน (ด้านบนและด้านล่าง) สำหรับใส่พระเขามีขายทั่วไปตามร้านขายอุปกรณ์ใส่พระ นำพระเก็บไว้ให้ห่างกันพอสมควร ไม่ควรใส่จนแน่นเกินไปจะทำให้พระเสียหายได้ และควรใส่พระประเภทเนื้อแบบเดียวกันในกล่องเดียวกันเช่นเนื้อผงก็ใส่กับเนื้อผง เนื้อดินก็ใส่กับเนื้อดิน เนื้อโลหะก็ใส่กับเนื้อโลหะ เหรียญก็ใส่กับเหรียญ และไม่ควรใส่พระในกล่องโดยซ้อนกันสองชั้นจะทำให้พระเสียหายได้
.....................................................
ไปเจอมาอีกครับ

สำหรับผู้ประสงค์ทำความสะอาด สามารถทำได้ดังนี้
1.เนื้อโลหะ ทำความสะอาดได้โดยทาครีมนีเวียหมักทิ้งไว้แล้วเช็ดออกเบาๆป้องกันสนิมโดยอย่าให้โดนน้ำโดดแดด และทาเคลือบด้วยวาสลีนแต่อย่าใช้น้ำมันสุมสี่สุมห้า เพราะหลายชนิดทำลายกัดกร่อนเนื้อโลหะ

2.เนื้อผง เนื้อดินปกติไม่ต้องทำความสะอาด นอกจากปีละครั้งช่วงสงกรานต์ นำออกมาถวายสรงน้ำด้วยน้ำขมิ้นส้มป่อย น้ำอบ น้ำปรุง ถ้าต้องการทำความสะอาดจริงๆ เช่น พระเปื้อนดิน ให้แช่น้ำอุ่น 15 นาที - 1/2 ชม แต่อย่านานกว่านั้น เพราะบางเนื้อไม่แกร่ง แช่น้ำนาน อาจเปื่อยยุ่ย หลังเอาขึ้นให้ซับน้ำอย่างเบามือ และผึ่งให้แห้งหลายๆวัน ไม่ต้องถึงกับตากแดด ใส่ตู้ไว้ก่อนก็ได้ ถ้าตู้ใหญ่หรืออากาศพอถ่ายเทได้ รอให้แห้งสนิทจริงๆ จึงค่อยเลี่ยมแขวน

ในการเลี่ยมแขวน ของผู้ออกกำลังกายกระโดดโลดเต้นเสมอ มีการเคลื่อนไหวรุนแรง เช่น นักกีฬา หรือทหาร ตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามโดยตรงควรเลือกใช้แต่พระเนื้อโลหะ และเลี่ยมพลาสติกปิดผนึกกันน้ำ ชอบสวยก็ยังสามารถจับขอบเงิน หรือทองได้

ส่วนเนื้อผง และเนื้อดิน การเลี่ยมพลาสติกมีข้อเสีย คือ
1.เมื่อต้องการรื้อแกะ มีความเสี่ยงเนื้อพระชำรุด
2.หากเคลื่อนไหวรุนแรง องค์พระยังสมารถสึกกร่อน ชำรุดแตกหักได้

การเลี่ยมทองแบบใช้ขี้ผึ้งปิดหลัง บางร้านอ้างว่ากันน้ำได้ แต่ไม่จริง เพียง 2-3ปีเหงื่อก็สามารถซึมเข้าไปกัดกร่อนทำลายผิวโลหะได้แล้ว
ส่วนการเข้ากรอบแบบเปิดได้ เหมาะสำหรับพวกกะขายพระและพวกชอบอวดพระเพราะสามารถแกะเพื่อส่องดูเนื้อได้ง่าย

12 พฤษภาคม 2552

เล่าเรื่องเก่าๆ ครั้งเมื่อเที่ยวชุมพร

วันนี้ขอเล่าเรื่องเก่า เมื่อครั้งได้ไปเที่ยวเมืองชุมพร เมื่อประมาณ ตุลาคม 2550


ด้วยความตั้งใจ ประกอบกับที่แม่ของผมได้ทูลขอชีวิตจาก เสด็จเตี่ย หรือพระนามของพระองค์ท่านคือ พลเรือเอก พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เมื่อครั้งที่ยังรักษามะเร็งปี 2543เป็นต้นมา

แม้จะหายแล้ว แต่ก็ยังไม่มีโอกาสไปสักที เพราะผมกำลังเรียนปริญญาโทอยู่ ดังนั้น ปิดเทอมเดือนตุลาคม จึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะเดินทางไปกราบพระองคืท่านถึงที่ชุมพร (ปกติจะมีโอกาสกราบที่บ้าน(ห้องพระ) ที่สวรรคโลก และที่นครสวรรค์ เท่านั้น)

มาชมภาพกันดีกว่าครับ




มณฑบหลวงปู่ศุข ณ หาดทรายรี

สารวัตรทหารเรือ ผู้อยู่ในท่าตามระเบียบพักนานที่สุดในโลก


ปืนใหญ่หน้าศาล (เหมือนรูปตะแคงนะเนี่ย เง้อ)



อุโบสถ อาภากร วัดเขตอุดมศักดิ์วนาราม จ.ชุมพร

พระอาจารย์นพดล ผู้มอบข้อมูลให้กับเว็บ ดินแดนปัญญาชน

ปูลม ณ หาดทรายรี (จับแล้วปล่อยนะครับ ไม่ได้รังแกสัตว์)

ยามเช้ามืด ณ หาดทรายรี


แสงแรกของวัดที่สดใส ณ หาดทรายรี

มาชมให้เต็มๆครับ

ใครจะถ่ายรูปปูทันเท่าผมปะ อิอิ วิ่งตับแลบ
แสงสวยๆยามสายๆ
ณ ประภาคาร สถานที่จุดประทัดและยิงปืนถวาย
ศาลด้านล่างครับ
ตัดภาพมาที่สวัดพระขาว อยุทธยาครับ (ขอกลับ)
ตอนที่ไปตอนนั้นน้ำกำลังขึ้น นี่ฝูงปลาหลังวัดครับ

พิพิธภัณฑ์เรซิ่นจากกระดูกครับ

ศิลปะจากความตายครับ

สวนที่ชวนปลงมากเลยครับ

จากนั้นก็ไปเยี่ยมน้องๆที่โครงการธรรมรักษ์นิเวศครับ สงสารมาก เขาเกิดมาแล้วต้องตาย ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนก่อนะครับ

ขอบคุณครับ

11 พฤษภาคม 2552

หากครูคือ ธนาคาร

ผู้ที่เป็นครู เปรียบเสมือนธนาคาร

เพียงแต่เป็นธนาคารที่เก็บเอาแต่ความสุขที่ได้เห็นลูกศิษย์ประสบความสำเร็จ และมีดอกเบี้ยคือการกราบ การไหว้ทักทายจากบรรดาศิษย์แต่ละรุ่นไป

สำหรับบางคน อาจไม่มีความรู้สึกว่า การไหว้จากคนอื่นจะมีผลอย่างไร

แต่สำหรับครู ดีใจทุกครั้งที่ศิษย์ยังจำ และระลึกถึงครูได้

.................
วันนี้ได้ดูละครช่อง 3 เรื่อง น้องใหม่ฯฮอลิเดย์
เป็นเรื่องเกี่ยวกับครูโรงเรียนบ้านนอกเล็กๆไม่กี่คน และโรงเรียนนั้นขาดแคลนทั้งครู ทั้งอุปกรณ์ และงบประมาณ ขาดทุกอย่าง (เหมือนโรงเรียนผมเลยแฮะ) และโรงเรียนในเรื่องกำลังถูกประเมินโดยคณะกรรมการ (ในเรื่องคือ อ.พอใจ)

ผู้ประเมินอยากให้ผลออกมาตามจริง
แต่ผู้ถูกประเมิน ต้องการให้ผ่าน

เอ้อ
มันจะผ่านได้อย่างไร นักเรียนร้อยกว่า มีครู 2 คน

ผมว่านะ น่าจะทำละครแบบนี้ออกมาเยอะๆ ให้ครู ผู้บริหาร ส.ส. อบจ. อบต. ดูกันบ้าง แล้วจะได้รู้ว่า
วันที่คุณเอางบไปสร้างถนน คุณจะได้ถนนมีอายุ 2 ปี
แต่ถ้าเอางบนั้นซื้ออุปการเรียนดีๆ มีคุณภาพ ไม่คอรัปชั่น คุณก็จะได้บุคลกรของชาติที่มีคุณภาพหลายสิบ หลายร้อยคน

พูดไปก็แค่นั้น เพราะพวกเขาชอบขุดคลอง ทำบ่อ สร้างถนน ซ่องคลอง ซ่อมบ่อ ซ่อมถนน เป็นอย่างเนี่ยไปเรื่อยๆ

สาธุ
ใครมันโกงชาติ ขอให้มันเป็นไปตามคำสาปแช่งของเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพร ด้วยเถิด สาธุ

10 พฤษภาคม 2552

พายุฝน

พายุ มันมากับก้อนเมฆและสายลม
มันมาพร้อมกับเสียงฟ้าร้อง และแสงของฟ้าผ่า

มันมาพร้อมกับความพินาศ
มาพร้อมกับรอยขีดข่วน

เหมือนกับนักการเมืองทุกระดับ ที่เห็นครู เห็นโรงเรียน และเห็นเด็กนักเรียนเพียงแค่ผลประโยชน์ทางการเมืองและเงิน

สอนให้รู้ว่า ลูกหลานกูต้องสอบผ่าน ห้ามตก ถึงแม้ว่ามันจะเขียนชื่อเป็นอย่างเดียวก็ตาม

เมื่อไรจะมีพายุพัดเอาการเมืองเลวๆออกไปจากสังคมไทย

พูดไปก็เท่านั้น ก็ในเมื่อใครๆก็มองเห็นว่า ครู เป็นเพียงอาชีพหนึ่งเท่านั้น และเมื่อมองกันนานไป ครูมืออาชีพเลยไฟมอด การศึกษาเลยแย่ (ขออะไรไปไม่เคยได้รับเลย)

เบื่อแล้ว ไปกินขนมจีนเส้นสดดีกว่า อร่อยด้วย
เสร็จแล้วก็ไปกราบ เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรของพวกเราดีกว่า

... เผื่อจะมีพายุซักลูกใหญ่ๆ เหอะๆๆๆ

09 พฤษภาคม 2552

ใกล้เปิดเทอมแล้ว

ตอนนี้ใกล้เปิดเทอมแล้ว
คงมีงานที่ต้องสะสางอีกเยอะ เพราะขาดการวางแผนที่ดี ทั้งตัวผมเอง และผู้บริหารเอง (อิอิ)

ตอนนี้กำลังอนุโมนทกับเพื่อนของผมคนหนึ่ง ซึ่งกำลังไปปฏิบัติธรรม ณ วัดอัมพวัน เพราะเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยจัดโครงการนี้ขึ้น ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ ดีกว่าพาไปกินเหล้าเมายา ฮาเฮ

การศึกษา ควรศึกษาทั้งวิชาความรู้ และคุณธรรม

เพราะบางคนมีความรู้แต่ไม่มีคุณธรรม ก็อาจนำความรู้ไปใช้ในทางที่ผิด ใช้โกงเพื่อน หรือโกงชาติได้เลย เหมือนนักการเมืองบางคน

เอาละ เหลือเวลาไม่กี่วัน ที่จะเตรียมตัวให้พร้อมกับการตะลุยลูกรัง เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ (ดีใจไปงั้นแหละ เงินเดือนน้อย ค่าเดินทางเยอะ)

08 พฤษภาคม 2552

เข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ไม่ใช้เรื่องที่ผิด

วันนี้
น้องๆนักเรียนหลายคนคงทราบผล แอดมิสชั่น แล้ว ก้ต้องขอแสดงความยินดีกับน้องๆที่สอบเข้าได้ (จริงๆแล้ว มีหลายคนที่สอบตรงได้ก่อนหน้านี้แล้ว)

สำหรับน้องๆอีกหลายคนอาจพลาดหวังในครั้งนี้ ก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะมีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้สอบไม่ได้ ทั้งนี้ก็ต้องกลับไปสำรวจตัวเองก่อนว่า ตนเองกระทำสิ่งใดไว้ เช่น
  • ไม่อ่านหนังสือ
  • เล่นมาก
  • ทำกิจกรรมมากเกินไป
  • แชทมาก
  • โทรหาแฟนมาก (อิอิ)
  • เลือกคณะที่สูงเกินไป
  • เลือกคณะที่คะแนนต่ำ (คนแห่เลือก)
  • มีเวลาอ่านหนังสือน้อย
  • โรงเรียนไม่ติว ไม่สนใจ (อ้าว)
  • หนีติว (ทั้งฟรี และเสียเงิน)
  • ...ประเภท เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยตั้งใจเรียน

เอาเป็นว่า ไปหาเหตุปัจจัยมาก่อนนะครับ

ทีนี้ น้องๆที่พลาดหวังอาจเกิดจากที่เลือกคณะที่สูงเกินไป ผมเชื่อว่าเป็นข้อดี เพราะนั้นแสดงให้เห็นว่า น้องรู้จักตัวเองว่าอยากเรียนอะไรจริงๆ หลายคนดีใจว่าตนเองมีที่เรียนแล้ว แต่อาจไม่รู้ว่านั้นคือสิ่งที่ชอบหรือไม่ ประมาณว่า สักแต่ว่ามีชื่อติด มีที่เรียน แบบนี้จะมีผลเสียตอนสมัครงาน เพราะถ้าติดในสิ่งที่รัก หรือพอที่จะทำใจให้รัก เกรดออกมาก็จะไม่ดี เวลาไปสมัครงานก็จะแย่

ผมเองก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้นะครับ

แต่ผมสามารถสอบบรรจุรับราชการได้ตอนอายุ 23 ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีโรงเรียนรับเข้าทำงานตั้งแต่ยังไม่ได้รับใบจบเลย และรู้หรือไม่ คนที่สอบไม่ติดอย่างผมเรียนที่ราชภัฏ เรียนมหาวิทยาลัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานนามว่า ราชภัฏ แปลว่า คนของพระราชา ทั้งนี้เพราะเมื่อก่อนเป็นวิทยาลัยครู (ว.ค.) โดยหลายคนดูถูกคนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ว่า ว.ค. วัว ควาย เออ เด็ก ว.ค. นี่แหละ มีโอกาสสวมชุดปกติขาวเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร มาแล้ว (ชุดที่มีสิทธิใส่ จากการสอบเข้ารับราชการได้ ไม่ใช่มาจากการเลือกตั้ง 55)

ภูมิใจครับ ที่สอบไม่ติดเพราะเลือก นิติศาสตร์ + รัฐศาสตร์ ทั้งๆที่รู้ว่า คะแนนไม่ถึง แต่เลือกเพราะรัก

สุดท้ายก็มาเรียนครูแก้ขัด แบบว่า กะสอบใหม่ เพราะไม่ได้อยากเป็นครูสักเท่าไร

แต่มีคำพูดหนึ่งเป็นใจผม "รู้หรือไม่ อาชีพครู เป็นอาชีพที่มีโอกาสโกงได้น้อยที่สุด" (อาชีพครูนะครับ ไม่ใช่ผู้บริหารที่ไปกินเหล้ากับ อบต. แล้วกลับมาเป็นหัวคะแนนให้ 55) ไปเยี่ยมผมที่เว็บ www.seal2thai.org (ดินแดนปัญญาชน) บ้างนะครับ เพราะกะว่าจะเขียนเล่าดดยละเอียดครับ ติดตามด้วยเด้อ

เอาละ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ อย่าเอาสิ่งนี้มาตัดสินตัวเราว่าโง่ เพราะคนโง่คือคนที่เรียนเก่งแต่เอาความรู้มากโกงชาติครับ

07 พฤษภาคม 2552

ไปรับเช็คช่วยชาติ (cheque) มา



หลังจากที่รัฐบาลได้นำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการให้เงิน 2,000 บ. มาให้คนที่มีรายได้น้อยกว่า 15,000 บ. ต่อเดือน ใช้จ่ายในช่วงสงกรานต์ ซึ่งก็เป็นไปตามเป้า เพราะเงินเหล่านั้นถูกหมุนเวียนจับจ่ายซื้อของ และสุรา เหล้าเบียร์ ในช่วงสงกรานต์เรียบร้อยแล้ว

สำหรับผม พึ่งไปรับวันนี้เอง

ไม่เห็นต้องรีบไปแย่งชิงเลย ในเมื่อมีเวลาตั้ง 90 วัน (นับตั้งแต่วันที่ 3) โดยใช้เวลาในการรับเพียง 2.15 นาที เท่านั้น

แม้จะใช้เวลาน้อยในการรับเช็ค แต่ก็ใช้เวลาเดินทางไป - กลับมาก (พิษณุโลก - กำแพงเพชร) เพราะต้องนั่งรถเมล์ 07.00 น. - 09.10 น. และขากลับ 10.20 น. - 12.05 น. เหนื่อยก็ตรงนี้แหละ ว่าไปแล้วนึกถึงเพื่อนของผม เขามีชื่อเป็นลูกจ้างของ บ. คอมพิวเตอร์ แห่งหนึ่ง แต่ได้มาทำงานที่ พิษณุโลก ปรากฎว่า ต้องไปรับที่ นนทบุรี (ค่าไป - กลับก็ 1,000 แล้ว เหอะๆ)

อยากให้รัฐคำนึงถึงจุดนี้สักเล็กน้อย ว่าบางคนก็ไม่สะดวกที่จะรับแบบนี้ หากต้องการช่วยชาติจริงๆ ก็น่าจะเปิดช่องทางให้บ้าง

ไม่ได้บ่นนะครับ

เพราะผมไม่ใช่ประเภทที่บ่น ด่ารัฐบาล ถึงเวลาก็เสนอหน้าไปคนแรก (ปากว่า ตาขยิบ) ด่าเค้า แต่เค้าให้อะไรก็เอามา แล้วก็กลับมาซื้อเหล้าแล้วก็ตั้งวงด่า ด่าไปด่ามา ก็แทงกันตาย

ผมพูดแค่นี้อย่าโกรธผมนะ

อย่าเอารถแก๊สมาจอดหน้าบ้านผมนะ เพราะผมไม่มีโอกาสไปพักที่บ้านแม่ทัพฯ อิอิ




จะทะเลาะกันทำไมกับนักการเมือง เดี๋ยวเขาก็จูบปากกัน เราคือคนไทย พวกนักการเมืองหลบภาษี รอดคุก พวกเราสิ โดนตรวจสอบ ดูอย่างแม่ค้าขาวหลามที่วังทอง โดนนับกระบอกข้าวหลาม แถมยังซวย เพราะเขามานับในวันที่ขายดี พวกนั่งนับเสร็จคำนวณเลยว่า 1 วันขายได้เท่านี้ 365 วันขายได้เท่าไร แต่ลืมนึกไปว่า วันที่ฝนตก เค้าขายไม่ได้เลย

ดังนั้น ดีแล้วหละที่ขึ้นภาษีเหล้า - บุหรี่ เพราะวันไหนๆ เทศกาลใด ฤดูอะไร ก็ขายดิบขายดี

สรุปว่า อย่าไปเอาใจช่วยนักการเมืองมาก เอาใจเราถวายในหลวงดีกว่า เพราะมีผู้ไม่หวังดีบ่อนทำลายชาติไทยอยู่

ผมถามจริงๆ ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน พร้อมที่จะจับอาวุธปกป้องในหลวงไหม


ใครรักในหลวง ลงชื่อในแสดงความเห็นด้านล่างเลยครับ

06 พฤษภาคม 2552

anti virus ถูกลิขสิทธิ์ ปลอดภัยกว่า

วันนี้ลองเข้าเว็บสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาดู และแล้ว anti virus ก็ฟ้องว่าเว็บที่เข้ามาโทรจัน
จะเห็นได้ว่า ผู้ดูแลเว็บยังไม่ทราบว่า ตนเองได้อัพไฟล์ที่มีไวรัสขึ้น host แล้วโรงเรียนหรือคนอื่นๆที่ไม่รู้ว่าเว็บมีไวรัส มีโทรจัน ก็เรียบร้อยครับ ไวรัสเข้าแน่ๆ

อย่างไรก็ซื้อของถูกลิขสิทธิ์มาใช้นะครับ เราต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราจะเผยแพร่ด้วย ว่าไม่เป็นภัยต่อคนอื่นครับ

......................................................................
เว็บเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพร ย้ายไปที่ http://www.seal2thai.org/etc/chumporn/ แล้วนะครับ
ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ