05 มิถุนายน 2555

5 มิถุนายน วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ


         เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2489 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล (รัชกาลที่ 8) เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ (รัชกาลที่ 9) ทอดพระเนตรการทำนาที่อำเภอบางเขน และทอดพระเนตรกิจการมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทั้งได้ทรงหว่านข้าวด้วยพระองค์เองในแปลงนา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานต่อชาวสยาม และข้าวไทย เป็นอย่างมาก

          ดังนั้น ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ รวมถึงคณะรัฐมนตรี จึงได้ให้ความเห็นชอบ ในการกำหนดให้วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ โดยให้แยกออกจากวันพระราชพิธีพืชมงคล ที่หมายรวมถึงอาชีพการทำไร่ การทำสวน และเพื่อไม่ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต้องจัดเตรียมงานดังกล่าวชนกับพระราชพิธีพืชมงคล

          โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ได้มอบให้กรมการข้าวจัดงาน “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” ครั้งแรก ภายใต้หัวข้อ "พระอัจฉริยภาพกว้างไกล ข้าวไทยก้าวหน้า ชาวนาไทยมั่งคั่ง" ในวันที่ 4-6 มิถุนายน 2553 ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 60 แห่งการบรมราชาภิเษก รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์กิจกรรมทางด้านวิชาการ และวัฒนธรรม เพื่อให้คนทั่วโลกได้รู้จักความก้าวหน้าทางวิชาการของข้าวไทย



...............................
วัตถุมงคล อ.หนู กันภัย     สอนพิเศษพิษณุโลก  เรียนพิเศษในพิษณุโลก

02 มิถุนายน 2555

วิทยากรกิจกรรมก้าวแรกสู่บัณฑิตพิบูลสงคราม รุ่น 2

   ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 และผู้อำนวยการโรงเรียนวัดยางแขวนอู่ ได้มอบหมายให้ครูพิริยะ  ตระกูลสว่าง ไปบริการทางวิชาการ ตามหนังสือที่ ศธ 0538 / ว909 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาบุคลิึกภาพ และเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมให้แก่นักศึกษาใหม่ ปีการศึกษา 2555 กิจกรรม "ก้าวแรกสู่...บัณฑิตพิบูลสงคราม" รุ่นที่ 2 วันที่ 1 - 2 มิถุนายน 2555 ณ หอประชุมศรีวชิรโชติ


น้องใหม่ที่เข้าร่วมกิจกรรม


ท่านรองอธิการบดี ประธานเปิดงาน


รองคณบดี ให้คำแนะนำนักศึกษาใหม่

ถึงคิวบอกเล่ากิจกรรมที่เคยทำเมื่อครั้งยังเรียน ป.ตรี


โชว์แฟ้มสมัยเรียน

น้องๆรับพรจาก อ.บอม


 ... ราชภัฏ... คนของพระราชา  ... ข้าของแผ่นดิน 

...............................
วัตถุมงคล อ.หนู กันภัย     สอนพิเศษพิษณุโลก  เรียนพิเศษในพิษณุโลก

31 พฤษภาคม 2555

วิทยากรกิจกรรมก้าวแรกสู่บัณฑิตพิบูลสงคราม รุ่น 1


   ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 และผู้อำนวยการโรงเรียนวัดยางแขวนอู่ ได้มอบหมายให้ครูพิริยะ  ตระกูลสว่าง ไปบริการทางวิชาการ ตามหนังสือที่ ศธ 0538 / ว909 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาบุคลิึกภาพ และเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมให้แก่นักศึกษาใหม่ ปีการศึกษา 2555 กิจกรรม "ก้าวแรกสู่...บัณฑิตพิบูลสงคราม" รุ่นที่ 1 วันที่ 31 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2555 ณ หอประชุมศรีวชิรโชติ













   ราชภัฏ... แปลว่าคนของพระราชา หรือที่ทางพระเค้าเรียกว่า คนพระราชาเลี้ยง 


   ผมมีวันนี้ เพราะผมมีราชภัฏพิบูลสงคราม มีครูบาอาจารย์ที่เมตตาอย่างสูงสุดอยู่ที่นี่ แม้ว่าจะเรียนจบมานานแล้ว ท่านยังคงเมตตาให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ คอยห่วงใยตลอดมา ผมไม่รู้ว่าที่อื่นจะเป็นอย่างไร แต่ที่พิบูลสงคราม แม้แต่ท่านอธิการบดี ท่าน ดร.สว่าง ภู่พัฒน์วิบูลย์ ทุกครั้งที่ผมเจอท่าน เช่นในร้านสะดวกซื้อ หรือที่ไปรษณีย์ ท่านยังเดินมาตบไหล่ผม แล้วพูดถามสารทุกข์สุกดิบ และเรียกผมว่า "ไอ้ทิด" ทุกครั้ง 


   หรือแม้แต่อาจารย์แม่ สุรีย์  ไวยกุฬา ท่านแนะนำทุกๆอย่างให้ผม ตอนสอบรรจุติดใหม่ๆ ท่านทราบว่าข้าราชการที่บรรจุใหม่เงินเดือนจะออกช้าหรือที่เรียกว่า ตกเบิก ท่านก็จะโทรมาถามทุกวันว่า "เป็นอย่างไรบ้าง มีเงินใช้ไหม เอาของครูไปก่อนไหม" และยังมีครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆอีกที่หากผมนำมาเขียน ก็คงต้องใช้เวลาทั้งคืน


   หลายคนดูถูกราชภัฏ... 


   ผมนำคำดูถูก ดูหมิ่นนั้นมาเป็นแรงผลักดันให้สู้เพื่อราชภัฏ วันหนึ่ง ถ้าผมก้าวหน้ามากกว่านี้ ผมก็จะบอกกับทุกคนว่า เป็นเป็นลูกราชภัฏ สถาบันที่ผลิตเพื่อพัฒนาท้องถิ่น 


   จริงๆแล้ว มีลูกราชภัฏหลายคน ที่ประสบความสำเร็จก้าวหน้าในชีวิต ผมเป็นเพียงส่วนหนึ่ง เป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆของคนราชภัฏที่ได้มีโอกาสมาบอกน้องๆว่า เราก็มีคุณค่าในตัวเรา เราก้าวเดินด้วยจังหวะของเรา และ... เราก็ไม่ได้ด้อยว่าใคร


   ตอนนี้ ความเป็นราชภัฏทำให้ผมได้รางวัลครูดีเด่นสาขาวิทยาศาสตร์ หลังจากบรรจุได้ปีกว่าๆ ได้รางวัลในวันครู ได้รางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ในปี 2555 และได้แต่งตั้งเป็นครู คศ.2 วิทยฐานะชำนาญการ ตอนอายุ 29 และผม ก็จะตอบแทนพระคุณของราชภัฏพิบูลสงคราม และครูบาอาจารย์ทุกท่าน ในทุกวิถีทาง


   ผมจะเดินหน้าต่อไป เดินเพื่อสร้างค่า สร้างศักดิ์ศรีของราชภัฏให้เกริกก้อง ให้สมกับที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานตราสัญลักษณ์ และนามของมหาวิทยาลัยมาให้


   ... ราชภัฏ... คนของพระราชา  ... ข้าของแผ่นดิน



...............................
วัตถุมงคล อ.หนู กันภัย     สอนพิเศษพิษณุโลก  เรียนพิเศษในพิษณุโลก

28 พฤษภาคม 2555

หจก. เสาเอกซีเมนต์ พิษณุโลก ให้ความเมตตา

   วันนี้ทางโรงเรียนวัดยางแขวนอู่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ได้รับความเมตตาจากห้างหุ้นส่วนจำกัด เสาเอกซีเมนต์ จังหวัดพิษณุโลก มอบอุปกรณ์ และวัสดุก่อสร้าง ในการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเอนกประสงค์ของโรงเรียน ซึ่งได้รับงบประมาณซ่อมแซมหลังจากเหตุการณ์อุทกภัยในปีที่ผ่านมา แต่ยังคงไม่เพียงพอ

   ทางผู้บริหาร หจก. เสาเอกซีเมนต์ ได้มีโอกาสเห็นสภาพดังกล่าวเมื่อครั้งได้มามอบทุนร่วมกับสี TOA เมื่อวันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา และได้กล่าวกับ ท่านผู้อำนวยการว่าจะมอบกระเบื้องปูพื้นพร้อมกับกาวสำเร็จผสมทากระเบื้อง แต่เมื่อทางผู้บริหารร้านเสาเอก ได้เพิ่มกระเบื้องมุงหลังคา (อาจเป็นเพราะคงเห็นหลังคาเป็นรูโบ๋ หากปูพื้นไป คงจะไร้ประโยชน์) สร้างความปลื้มใจให้กับคณะครูและนักเรียนโรงเรียนวัดยางแขวนอู่ยิ่งนัก

   ทางผู้บริหารร้านเสาเอก ได้กล่าวเล่าให้ฟังว่า ท่านเคยอยู่บางระกำมาก่อน อยู่โรงเรียนบ้านนอกมาก่อน และได้ต่อสู้จนมีกิจการอันดับต้นๆของภาคเหนือ ซึ่งในวันนี้ ก็ได้พาลูกๆมาดูสภาพของโรงเรียนด้วย



















   ทางโรงเรียนวัดยางแขวนอู่ ต้องกราบขอบพระคุณ หจก. เสาเอกซีเมนต์ มา ณ ที่นี้ครับ



...............................
วัตถุมงคล อ.หนู กันภัย     สอนพิเศษพิษณุโลก  เรียนพิเศษในพิษณุโลก 

ปฐมนิเทศนักเรียน ม.ต้น

   คณะครูโรงเรียนวัดยางแขวนอู่ ได้ดำเนินการปฐมนิเทศนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 เพื่อเป็นการปรับสภาพนักเรียนชั้น ม.1 และแนะแนวการเรียนให้กับนักเรียน

   สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 เป็นวัยที่กำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนต้น และด้วยสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ทางคณะครูจึงมีความจำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด










...............................

24 พฤษภาคม 2555

ครูวิทย์ ม.ต้น ผจญ ป.2

เหอะๆ เอาสิหนะ เด็ก ป.2

ครูแชมป์ : เอา นักเรียน ทักษะที่สำคัญของนักวิทยาศาสตร์ คือการสังเกต เอ้าาา ใครสังเกตอะไรบ้าง


ไอซ์ : ครูคะ หนูสังเกต เห็นพุงครูค่ะ


ครูแชมป์ : เออ รู้แล้ว... (อย่างอื่นมีตั้งเยอะ ไม่สังเกต)




...............................

18 พฤษภาคม 2555

ประชุมผู้บริหาร สพป.พล. เขต 1

   ด้วยความประจวบเหมาะของรูปร่าง หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ เช้าวันนี้ ได้รับโทรศัพท์จากท่าน ผอ. เฉลิม ว่า ไม่ต้องเข้ามาโรงเรียน ให้ไปประชุมที่โรงแรมเรือนแพ รอยัลปาร์ค แทน ผอ. เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่จาก TOA จะเข้ามาประสานงาน (ด่วน) เพราะวันพรุ่งนี้แล้วที่จะมาแจกทุน

   ...สงสัย เรื่องเตรียมงาน เตรียมสถานที่ คงไม่เหมาะกับคนรูปร่างบอบบางอย่างเรา ฮ่าๆๆๆ

   เมื่อไปถึงสถานที่ (ชั้น 6) ก็ทราบว่า เป็นเรืื่องเดียวกันกับการวัดและประเมินผล และผลคะแนน onet ที่ผ่านมา แหม เดินเข้าไปก็ต้องทำตัวลีบๆ ทำตัวบางๆ เพราะในนั้น มีแต่ผู้ใหญ่ ผู้บริหารทั้งนั้น

ดร.บุญรักษ์  ยอดเพชร ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พิษณุโลก เขต 1 ประธาน

เคร่งเครียดวิเคราะห์ O-net

ขอสักรูป นะครับ


หลังจากประชุมเสร็จ ก็มีการประชุมกลุ่มโรงเรียนขยายโอกาสฯ ต่ออีก ครึ่ง ชม.
   ก็เสร็จอีกวาระหนึ่ง ที่ได้ปฏิบัติราชการในหน้าที่ที่ใหญ่โตกว่าเดิม แต่ในนามของ "ผอ. เงา" 555

   อย่าคิดมากนะครับ ท่าน ผอ. ก็มีหน้าที่ที่สำคัญอีกที่หนึ่ง อะไรที่เราทำเพื่อประโยชน์ของโรงเรียนได้ เราก็ทำ ไม่ใช่สักแต่ว่าเอาสบายเข้าว่า งานราชการ คืองานที่รับงานของในหลวงมาทำต่อ หากมุ่งหวังแต่จะเอาสบาย เสียสละตนเองไม่ได้ งานก็จะเสียทั้งสองฝ่าย ที่สำคัญ เวลาที่ตนเองไม่ได้ทำ ก็อย่าไปว่าคนอื่นเขาครับ มันบาป...




...............................

17 พฤษภาคม 2555

คำถามข้อสอบผู้อำนวยการ

   มีผู้บริหารระดับสูงท่านหนึ่งได้กล่าวในที่ประชุมซึ่งผมมีโอกาสได้เข้าร่วมประชุมด้วย (ผมเป็นครูผู้น้อยคนเดียว ที่เหลือเป็น ผอ. หมด)
   ท่านถามว่า "ถ้าขับรถมาจากนครสวรรค์ แล้วน้ำมันใกล้จะหมด คุณจะทำอย่างไร ระหว่างไปข้างหน้า กับย้อนกลับไป"

   ผมตอบว่า "ถ้าเป็นผม ผมจะย้อนกลับไป" (มีผู้บริหารอีกท่านตอบเหมือนกับผม แต่ที่เหลือตอบว่าไปหาเติมข้างหน้า)

   ท่านผู้บริหารระดับสูงท่านนั้นได้บอกว่า นี่คือ ข้อสอบ ผอ. และเอาไว้แยกแยะว่า ใครควรเป็น ผอ. ใครจะเป็นเสมียน

   คนที่ตอบว่าไปข้างหน้าได้เป็น ผอ.
   คนที่ตอบว่า ย้อนกลับไป ได้เป็นแค่เสมียน....

   ผมว่า ผมเองไม่เท่าไร เพราะเราเป็นแค่ครูผู้น้อย แต่ท่าน ผอ. ที่ตอบเหมือนกับผมคงจะสะดุ้งเล็กน้อย ท่านคงกลัวคนอื่นๆที่นั่งข้างๆจะว่าให้ได้ว่า "สอบเป็น ผอ. ได้ไงวะ"

   ผมอยากจะอธิบายเหตุผลว่า "ทำไม ผมถึงตอบว่าย้อนกลับไป" แต่ท่านผู้บริหารก็อธิบายยาว และเลยไปเรื่องอื่น เรื่องนี้เลยติดอยู่ในหัวใจผมมา จนกระทั้งวันนี้ได้คุยกับพี่สาวคนสวย ก็ตกผลึกความคิดเอามาเขียนในบันทึกของครูบ้านนอก (หากผิกพลาดประการใด รบกวนชี้แนะด้วยนะครับ ถ้าเป็นไปได้ผมอยากได้คำชี้แนะจากรัฐมนตรีประจำกระทรวงเลยครับ <<< ฝันไปเถอะ ท่านไม่เข้ามาอ่านบันทึกของเอ็งหรอก ครูแชมป์ )

    ...นี่คือเหตุผลของผม

   การที่น้ำมันใกล้หมด แล้วมี ผอ. ท่านหนึ่งบอกว่า "มันยังขับไปอีกประมาณร้อยกว่าโล" มันเป็นการแสดงความเห็นเชิงบริหารความเสี่ยง (อันนี้ คนที่เค้าผ่านหลักสูตรอบรมผู้บริหาร เค้าได้ศึกษามา) เค้าต้องการให้คนกล้าได้กล้าเสีย ประมาณว่า จะเป็นผู้บริการได้ ต้องกล้าเสี่ยงหน่อย

   บางที ท่านอาจเข้าใจว่า ระหว่างทาง(จากนครสวรรค์มา ท่านคงประมาณถึงพิษณุโลก) ท่านคงเข้าใจจากประสบการณ์เดิมว่า มันมีปั้มน้ำมันมากมาย

   ...แต่คำถามไม่ได้บอกนี่นา ว่าท่ายเคยผ่าน หรือเคยอยู่แถวนี้

   ถ้าท่านไปหลงทางอยู่ในตำบลหนึ่ง สองข้างมีทุ่งนา ท่านจะใช้วิธีกลับไปเดินน้ำมันเมื่อครู่ หรือดันทุรังไปเดิมเอาข้างหน้า

   ผมเห็นด้วย กับการเป็นผู้บริหาร ต้องมีความเสี่ยง มีการกล้าได้กล้าเสีย
   ในขณะเดียวกัน มุมมองของผมอาจจะมองเห็นว่า เสี่ยงอย่างไร เจ็บตัวน้อยที่สุด

   ทหารจะเข้าตี ยังต้องมีการข่าว ต้องมีกำลังพลมากกว่า 3 เท่าของข้าศึก และต้องมีการสนับสนุนทางอากาศ หรือปืนใหญ่ยิงหนุน

   การที่เสี่ยงขับรถ โดยไม่วกรถกลับไปเติมที่ปั๊มที่เห็นครั้งล่าสุด เหมือนการบุกโจมตีเข้าค่ายโดยไม่มีการประเมินตัวเอง สมมุติว่า ถ้าข้างหน้า มีม๊อบข้าว ม๊อบมันสำปะหลัง ม๊อบอ้อย แล้วตำรวจโบกรถให้อ้อมภูเขา... ท่านจะรู้ได้อย่างไร ว่ามันจะมีปั๊ม ไอ้ร้อยกว่าโลที่ท่านกะว่าขับถึงแพร่ มันอาจจะจอดดับสนิทแถวภูเขาที่บ้านแยง ก็เป็นได้

   ผมเองก็ไม่รู้ทฤษฎีการบริหารอะไรหรอกครับ แต่ครูบาอาจารย์ของผมสอนว่า ให้คิดว่า การทำทุกอย่างต้องมี "แต่"  "ถ้า"  "แล้วถ้า"   เมื่อเราคิดแล้ว เราต้องมีแผนสำรอง

   เช่น สมมุติ เขตฯ มาตรวจโรงเรียน ครูแชมป์รายงาน ผอ.ว่า "ข้อมูลคะแนนเด็กอยู่ในคอมพ์หมดแล้วครับ" ถ้าเค้ามาตรวจ ก็เปิดให้ดูได้เลย

   แล้วถ้าใช้สิ่งที่ครูบาอาจารย์ผมสอนมาหละ
   แต่ถ้าไฟเกิดดับขึ้นมาหละ... จะเอาอะไรให้เค้าดู
   ถ้าคอมพ์เกิดพังขึ้นมาหละ... จะเอาอะไรให้เค้าดู
   แล้วถ้า เค้าจะเอาข้อมูลกลับไปที่เขตฯหละ... จะเอาอะไรให้เขา

   ...คิดได้ดังนั้น ก็ต้องพิมพ์ออกมาเป็นเอกสารสำรองสัก 2 ฉบับ

   เสียดาย ที่ครูที่สอนผม เค้าไม่ได้เป็น ผอ. แต่เค้าได้เป็นรองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยของผม

   ดังนั้น ท่านคงจะใช้คำว่า "ข้อสอบ ผอ." แยกแยะเสมียนออกจากกลุ่ม คงไม่ได้ทั้งหมด

   ประมาณว่า ซื้อล๊อตเตอรี่ กับสลากออมสิน อันแรกถูกแล้วรวยเลย แต่ก็เสี่ยงสูงที่จะถูกกิน แต่อันหลังโอกาสได้รางวัลน้อย แต่เงินได้คืนหมด แถมได้ดอกเบี้ย ผมเป็นคนคิดมาก เลยเลือกอย่างหลัง...

   เอาอีกตัวอย่างหนึ่งของการวกรถกลับไปเติมน้ำมันปั๊มล่าสุด

    ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา สมัยที่ท่านเรียนที่เมืองนอก ท่านได้เรียนวิชาทหาร (เหมือน นศท. หรือ รด. บ้านเรา ประมาณนั้นครับ) ท่านได้วางแผนสำรอง ให้คนสองคนทำเสียงเอะอะในค่ายพัก แล้วพากำลังทั้งหมดออกไปซุ่มอยู่ข้างนอก ปรากฎว่า อีกกองร้อยหนึ่ง ใช้วิธี "ขับไปเติมน้ำมันข้างหน้า" บุกตะลุยเข้าไป ผลการประเมินออกมาพบกว่า กองร้อยของท่าน ดร.อาจอง มีอัตราการศูนย์เสียเป็น 0 และฝ่ายตรงข้าม ศูนย์เสีย 100 % เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ได้รับยกย่อมประหนึ่งนายทหารจริงๆ แต่ก็ถูกจับตามองว่า "เฮ้ย คนไทยคนนี้เป็นคอมมิวนิสต์หรือเปล่า" จึงถูกติดตามจากหน่วยสืบราชการลับ (แหม ดูถูกคนไทยนะไอ้หรั่ง)

   ...บางที ผมอาจจะเล่นเกมส์สงคราม วางแผนการรบบ่อยไปก็ได้
   ...บางที ผมอาจอ่านหนังสือแนวซุนวู สามก๊ก บ่อยไปก็ได้ (ไม่ร่วมกลยุทธ์การรบในเมือง และป่าล้อมเมืองนะครับ )
   ...บางที ผมอาจเล่นหมากรุก บ่อยไปก็ได้

   ผมถึงต้องมีแผนสำรอง มีการคุ้มกัน และเลือกหนทางที่สูญเสียน้อยที่สุด

   บางคน อาจชนะในสนามรบ...
   ...แต่ผม เลือกที่จะชนะสงคราม

   ท่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการครับ ผมอาจคิดผิดก็ได้นะครับ ผมรบกวนขอความกรุราจากท่าน ชี้แนะในสิ่งที่ถูกต้องของการเป็นผู้บริหาร และคำตอบว่า "ควรวกรถกลับ หรือ เสี่ยงไปข้างหน้าดีครับ" ผมชื่อ พิริยะ  ตระกูลสว่างนะครับท่าน

   กราบขอบพระคุณทุกท่านครับ ที่เข้ามาอ่าน และแสดงความเห็นดั่งปัญญาชนนะครับ



...............................
ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ