04 มีนาคม 2555

ร่วมงานบุญ สถาบันวิจัยและพัฒนา ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม

     วันนี้ ได้ไปตอบแทนพระคุณครูบาอาจารย์ และรับใช้มหาวิทยาัลัยอันเป็นที่รักอีกครั้ง นั่นก็คือ การที่ได้ร่วมพิธีทำบุญของสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาัลัยราชภัฏพิบูลสงคราม 

     ที่ว่า ได้ตอบแทนพระคุณอาจารย์และสถาบันนั้น ก็คือ การได้นำสวดเป็นมัคนายก(น้อย) ในพิธี

     จริงๆแล้ว พี่ไก่ (คนสวย) ได้มอบหมายให้ผมประสานงานกับทางพระเลขาหลวงปู่แขก นิมนต์ท่านมาทำพิธีในวันนี้ เผอิญว่า ตรงกับวันอาทิตย์พอดี ก็เลยมาขอร่วมพิธีด้วย ปรากฎว่า จากคำพูดที่คิดว่าพี่ไก่ พูดเล่นๆว่าจะให้เป็นมัคนายก กลายเป็นเค้าเอาจริงๆ แถมยังไม่ได้เชิญเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาัลัยมาด้วย

    ... เอาวะ ศิษย์มีครู ถ้าทำดี ก็ขอยกเป็นพระคุณของครูบาอาจารย์
    แต่ถ้าพลาด... ข้อน้อยขอรับแต่เพียงผู้เดียว

ระหว่างรอท่านประธานในพิธี

ดร.นิวัตน์ ช่วยหลวงปู่แขกพันด้ายสายสิญย์

ท่าน ดร.สว่าง ภู่พัฒน์วิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จุดเทียนฯ

ไหว้พระพร้อมกัน...


ท่านผอ.สถาบันวิจัย, พี่ไก่ และคณาจารย์

ผศ.ชญานิษฐ์  ศศิวิมล 

ประธานจุดเทียนที่บาตรน้ำมนต์

หลวงปู่แขก ปภาโส ทำพิธีตามตำรับ

เทียนน้ำมนต์เป็นเศียรนาค... !!!

ภาพที่ใครๆ ล้วนตื่นเต้น

คณาจารย์ถวานปัจจัย ไทยธรรม

ถวายข้าวพระพุทธ

ท่าน ผอ. กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล

ท่านอธิการบดี

หลังจากนั้น หลวงปู่แขก แจกแบ๊งค์พันล้าน!!!!

ได้เป็นลูกช้าง อุ้มบาตรน้ำมนต์หลวงปู่ เดินประพรมทั่วตึก "เปียกหมดเลยครับ"

หลังจากหลวงปู่ฉันเสร็จ ผมได้ขอเมตตาหลวงปู่ จารธงชัยที่ปักเหนือฉัตรตอนปลุกเสกฯ ที่โบสถ์พระพุทธชินราช 

ก่อนหลวงปู่กลับ 

แมงปอ ที่มาเกาะบริเวณผ้าด้านหลังหลวงปู่ตลอดทั้งงาน

อวด สักกะนิดนะจ๊ะ

สุดยอดครับ "เรียกเงิน เรียกทอง เข้าบ้าน" สาธุๆๆๆๆ
   ก็ต้องกราบขอบพระคุณอาจารย์ และเจ้าหน้าที่ทุกท่านนะครับ สำหรับวันนี้ เพราะ ได้ทั้งตอบแทนพระคุณครูบาอาจารย์ และก็ยังได้ของดีกลับบ้านอีก อิอิ (เทียนในบาตรหลวงปู่ รับกับมือหลวงปู่ ใบเงินไปทอง เงินพันล้าน และธงชัยผืนนี้ ว้าวววววว)

     สาธุ....



...............................

29 กุมภาพันธ์ 2555

วันนี้สามบ้านค่ำ

   วันนี้ ไปสอนตอนเช้า และช่วยท่าน ผอ.ทำสัญญาเกี่ยวกับการจ้างกรณีพิเศษ เนื่องจากน้ำท่วม

   จากนั้น ช่วงบ่าย ก็รีบเอาหนังสือราชการของทางโรงเรียนไปส่งที่เขตฯ และไปขอข้อมูลจากพี่นา เจ้าหน้าที่คนสวยของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พิษณุโลก เขต 1 แต่เนื่องจากพี่นาติดธุระ จึงเข้ามาพบในช่วง บ่ายสามครึ่งอีกครั้งหนึ่ง

   ระหว่างที่รอ จึงไปที่ร้าน ฟอร์ดโฟโต้ (Ford Photo) เพื่อไปรับรูปตอนรับรางวัลหนึ่งแสนครูดี ซึ่งคนพิษณุโลกจะทราบว่าร้านนี้อยู่ซอยโรงพยาบาลตา (ุ691/70 ถ.พระองค์ดำ อ.เมือง จ.พิษณุโลก) หรือจะโทรไปสอบถามข้อมูลการบริการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอในงานพิธี งานต่างๆ 086-2009000 หรือ 086 - 2008000

รางวัลหนึ่งแสนครูดี
    แหม ไม่ค่อยเห่อ ถ่ายรูปโดยที่ยังไม่แกะกระดาษตรงมุมออกเลย 555

   ต้องขอบคุณคุณฟอร์ด ที่กรุณาส่งรูปให้ก่อนล่วงหน้า เพราะจะส่งไปลงข่าวเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ถือว่ามีน้ำใจมากเลยนะครับ เพราะบางแห่ง ขอไฟล์รูปไม่ได้ ถ้าจะเอาต้องเสียเงินเพิ่ม แต่ร้านนี้ ขอบ่ายได้เย็น ถือว่าเร็วมาก (เพราะรูปภาพคนเป็นร้อยๆรูป เค้าก็กรุณาเลือกมาให้)  

   แล้วถึงเวลานัด ก็มาที่เขตอีกครั้ง แล้วก็พบคำตอบที่รอคอยมานาน... สุดยอด

   แผนต่อไป เริ่มได้แล้ววววววว

...............................

28 กุมภาพันธ์ 2555

o-net ม.3 ปี 2555 จะขำออกไหม

   วันนี้ นักเรียนชั้น ม.3 ทั่วประเทศได้ทำการทดสอบระดับชาติ หรือ o-net ตามศูนย์สอบต่างๆทั่วประเทศ

   โรงเรียนวัดยางแขวนอู่ ได้ถูกกำหนดให้ใช้สนามสอบโรงเรียนบางระกำ โดยคละเป็น 3 ห้อง เรียงลำดับตามตัวอักษร

   ไม่รู้ว่าผลสอบจะเป็นอย่างไรนะครับ ติวก็ติวแล้วทุกเที่ยงวันพุธ แถมก่อนสอบก็ติวหลังเลิกเรียนอีกเป็นอาทิตย์

   ขนาดจะไปสอบ ยังรู้ข่าวว่่า
   ...บ้างก็ขยันอ่านหนังสือทบทวน
   ...บ้างก็ทำงานที่ค้าง
   ...บ้างก็ไปหาปลา หว่านแห จับสัตว์ตอนกลางคืนก่อนสอบ
   ...มีบางคน ไปชกมวยที่งานวัด เพื่อหาเงินมาให้พ่อแม่

   ทุกคนล้วนมีเหตุผลของตนเอง

   ...แต่น่าแปลก ที่ สทศ. และ สมศ. ไม่มองข้อแตกต่างของแต่ละคน มองแต่ภาพรวมอย่างเดียว แต่เวลาจะด่าครู ก็บอกว่า ครูวัดผลหลากหลายไหม ใช้แฟ้มสะสมงานประเมินตามจริงไหม ถึงเวลามา สมศ. ก็ใช้คะแนน o-net ตัดสินมาตรฐานของโรงเรียน

   ไม่ได้เครียดนะครับ แค่คิดอะไรขำๆเรื่อยเปื่อย

   โดยเฉพาะ ขำที่เมื่อก่อน บางโรงเรียนไม่ผ่านการประเมิน และโดนกักเป็นโรงเรียน i see u ผมการประเมินที่ถูกรายงาน ผิดทั้งจำนวนครู จำนวนเด็ก... ตอนแรก ผู้บริหารก็จะแย้งผลการประเมิน (ตามสิทธิ์แย้งได้) แต่เม็ดเงินของ โรงเรียน i see u มันสามารถนำมาพัฒนาโรงเรียนได้ ก็เลยกลายเป็นข้อดีไป

   โอ้วววว มาตรฐานระดับชาติจริงๆ ... ขำ นะครับ 555

   ใครๆ ก็พลาดกันได้ เพียงแต่จะเป็นฝ่ายถูกตัดสิน หรือฝ่ายตัดสิน เท่านั้นแหละครับ





...............................

27 กุมภาพันธ์ 2555

ผลสอบ o-net ป.6 ปี 2555

ผลสอบ o-net ป.6 ปี 2555 จะเป็นอย่างไรหนอ

วันนี้ เด็กปอหก ไปสอบ
เด็กหอบเอากระเป๋าใบใหญ่
ไม่รู้ว่าในนั้นมีอะไร
ที่แน่ๆ คือความหวังยิ่งใหญ่ของครู

น้ำก็ท่วม น้ำก็ท่วม
เรียนก็ไม่ทัน เรียนก็ขาดช่วง ขนาดสอนชดเชยกันซะอ่วมแล้ว

คุณครูท่านใด พานักเรียนไปสอบ รบกวนมาเล่าประสบการณ์กันหน่อยนะครับ พอดีปีนี้ผมไม่ได้ไปครับ เฮ้อออออออ




...............................

25 กุมภาพันธ์ 2555

เคปเลอร์ค้นพบดาวเคราะห์ขนาดเท่าโลกครั้งแรก

           กล้องโทรทรรศน์อวกาศเคปเลอร์ของนาซา ได้บรรลุเป้าหมายสำคัญของภารกิจด้วยการค้นพบดาวเคราะห์ขนาดเท่าโลกโคจรรอบดาวฤกษ์คล้ายดวงอาทิตย์เป็นครั้งแรก 
          ดาวเคราะห์ที่พบ มีชื่อว่า เคปเลอร์-20 อี (Kepler-20e) และ เคปเลอร์-20 เอฟ (Kepler-20f) แม้ดาวเคราะห์ทั้งสองดวงนี้อยู่ใกล้ดาวฤกษ์แม่มากเกินกว่าที่จะทำให้มีน้ำในสถานะของเหลวอยู่บนพื้นผิวได้ แต่ก็ถือว่าเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะอื่นที่โคจรรอบดาวฤกษ์คล้ายดวงอาทิตย์ที่เล็กที่สุดเท่าที่เคยพบมา 
          การค้นพบครั้งนี้เป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญของความพยายามค้นหาดาวเคราะห์คล้ายโลกในระบบสุริยะอื่น ดาวเคราะห์ที่พบในครั้งนี้คาดว่าเป็นดาวเคราะห์หิน เคปเลอร์-20 อี เล็กกว่าดาวศุกร์เล็กน้อย มีรัศมีประมาณ 0.87 เท่าของโลก ส่วนเคปเลอร์-20 เอฟ ใหญ่กว่าโลกเล็กน้อย มีรัศมีประมาณ 1.03 เท่าของโลก เป็นบริวารของดาว เคปเลอร์-20 (Kepler-20) ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1,000 ปีแสงในทิศทางของกลุ่มดาวพิณ
          ดาวเคปเลอร์-20 อี โคจรรอบดาวฤกษ์แม่ครบรอบทุก 6.1 วัน ส่วนเคปเลอร์-20 เอฟ โคจรรอบดาวฤกษ์แม่ครบรอบทุก 19.6 วัน คาบที่สั้นมากเช่นนี้แสดงว่าดาวฤกษ์จะต้องมีวงโคจรเล็กมาก ซึ่งทำให้ดาวร้อนมาก ดาวเคปเลอร์-20 เอฟ มีอุณหภูมิ 427 องศาเซลเซียส ซึ่งใกล้เคียงกับดาวพุธ ส่วนเคปเลอร์-20 อี อุณหภูมิทะลุถึง 760 องศาเซลเซียส ที่แม้แต่แก้วก็ยังละลาย นั่นหมายความว่าตัดประเด็นสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์สองดวงนี้ไปได้
          เป้าหมายหลักของภารกิจเคปเลอร์คือการค้นหาดาวเคราะห์ขนาดเท่าโลก ดังนั้นการค้นพบในครั้งนี้จึงเป็นการประกาศความสำเร็จ และเป็นการแสดงให้เห็นว่ากล้องเคปเลอร์มีศักยภาพสูงเพียงใด 
          นอกจากสองดวงนี้แล้ว ยังมีดาวเคราะห์อีกสามดวงที่อยู่ในครอบครัวดาวเคราะห์ของเคปเลอร์-20 อีกสามดวงที่เหลือมีขนาดใหญ่กว่ามาก แต่ยังเล็กกว่าดาวเนปจูน ดาวเคปเลอร์-20 บี อยู่ใกล้ดาวฤกษ์ที่สุด เคปเลอร์-20 ซี และ เคปเลอร์-20 ดี มีคาบการโคจร 3.7, 10.9 และ 77.6 วันตามลำดับ ทั้งห้าดวงนี้มีรัศมีวงโคจรเล็กกว่าของดาวพุธ ส่วนตัวดาวฤกษ์เป็นดาวชนิดสเปกตรัมจี เช่นเดียวกับดวงอาทิตย์ แต่เล็กกว่าและอุณหภูมิต่ำกว่าเล็กน้อย
          ความน่าสนใจอีกอย่างของระบบสุริยะแห่งนี้คือ การเรียงลำดับดาวเคราะห์ที่ดูค่อนข้างแปลกประหลาด ในระบบสุริยะของเรา ดาวเคราะห์หินขนาดเล็กจะอยู่วงใน ส่วนชั้นนอกจะเป็นที่อยู่ของดาวเคราะห์แก๊สขนาดใหญ่ แต่ระบบของเคปเลอร์-20 จะวางสลับกัน เป็นรูปแบบ ใหญ่-เล็ก-ใหญ่-เล็ก-ใหญ่ 
          นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจนักว่าระบบนี้มีวิวัฒนาการอย่างไร แต่คาดว่าตำแหน่งของแต่ละดวงที่ปรากฏอยู่นี้ไม่ใช่ตำแหน่งดั้งเดิม สันนิษฐานว่าเมื่อตอนเริ่มต้น ดาวเคราะห์กำเนิดขึ้นในตำแหน่งที่ไกลจากดาวฤกษ์มากกว่านี้ แต่ต่อมาได้ขยับเข้ามาใกล้ดาวฤกษ์ ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากอันตรกิริยากับวัตถุในจานกำเนิดดาวเคราะห์ที่มันเกิดขึ้นมา 

ที่มา:

23 กุมภาพันธ์ 2555

เพราะคำว่าเสียสละ จึงทำให้ได้พบโอกาสที่ดี

วันนี้ ต้องออกจากโรงเรียนเร็วกว่าปกติครึ่งชั่วโมง

   เพราะต้องนำข้อมูลที่ไปเก็บให้น้องๆ ม.นเรศวร ในตอนเช้า เอาไปให้น้องๆเค้า (ต้องขอบคุณพี่รัก พี่เป็นพลขับในการตระเวนหาคณะกรรมการสถานศึกษาจนเกือบครบทุกคน)

  นั่นคือภารกิจแรก... คิดถึงใจเค้าใจเราครับ เวลาต้องการข้อมูลอะไรซึ่งมันจำเป็นต้องใช้มากๆเนี่ย

   ภารกิจที่ 2 นัดหมายการนิมนต์ หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ เพื่อมาทำบุญสำนักวิจัยฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

   ภารกิจที่ 3 ไปถ่ายเอกสารแบบ ปพ. ต่างๆ เพื่อนำให้ครูผู้สอนในชั้นต่างๆ

   ภารกิจที่ 4 นำหนังสือเชิญ ไปส่งที่เขตฯ

   เหนื่อยนะครับ สำหรับครูบ้านนอกที่เงินเดือนยังน้อย และต้องขี่มอเตอร์ไซต์เนี่ย แต่ในวันนี้ ก็ได้รับโอกาสดีๆ เรียกว่าวิเศษเลยหละครับ

   ก็ตอนที่ไปนิมนต์หลวงปู่ ใครจะไปรู้ครับว่า จะไปพบหลวงปู่กำลังนั่งตรวจงานอยู่ที่ข้างกุฏิ ในอิริยาบทที่สบายๆ (บางคนก็อาจจะเคยได้เห็นภาพหลวงปู่แขก ทำกสินไฟ เวลาทำน้ำมนต์แล้วนะครับ) หลวงปู่บอกว่า เพิ่งกลับจากสุโขทัย ผมเข้าไปกราบท่าน แล้วรีบไปประสานงานกับพระเลขาของหลวงปู่
หลวงปู่แขก ในอิริยาบทสบายๆ

ลูกนิมิตที่เพิ่งถูกนำมาส่งแบบหมาดๆ

ตารางกิจนิมนต์ วัดสุนทรประดิษฐ์ (เดือนหน้า)


   หลังจากประสานงานนัดหมายเรียบร้อยแล้ว ผมก็กลับออกมา พบว่า หลวงปู่กำลังให้ลูกศิษย์ยกหินอ่อนสีชมพูที่ถูกกลึงอย่างเกลี้ยงเกลา เพื่อจัดเตรียมทำเป็นลูกนิมิต เรียกว่า ท่านควบคุมงานเองเลยทุกอย่าง ผมเข้าไปกราบท่าน ให้ท่านเข็กหัว (กะให้เคาะ 2 ที แต่หลวงปู่จัดชุดเล็ก คาถาเล็กๆ เกือบ 3 นาที เหอะๆ)

   ถือว่าโชคดีมากเลยนะครับ (โอกาสน้อยเลยนะเนี่ย ที่ได้ใกล้ชิดพระเกจิระดับนี่)

18 กุมภาพันธ์ 2555

บรรดาศักดิ์ชั้นยศ

ระดับ 1 เทียบได้กับบรรดาศักดิ์ชั้น "นาย"
ระดับ 2 เทียบได้กับบรรดาศักดิ์ชั้น "พัน" หรือ "หมื่น"
ระดับ 3-4 เทียบได้กับบรรดาศักดิ์ชั้น "ขุน" (เป็นข้าราชการสัญญาบัตร)
ระดับ 5-6 เทียบได้กับบรรดาศักดิ์ชั้น "หลวง"
ระดับ 7-8 เทียบได้กับบรรดาศักดิ์ชั้น "พระ"
ระดับ 9-10 เทียบได้กับบรรดาศักดิ์ชั้น "พระยา"
ระดับ 11 เทียบได้กับบรรดาศักดิ์ชั้น "เจ้าพระยา"
ส่วนบรรดาศักดิ์ "สมเด็จเจ้าพระยา" นั้น ต้องยกเป็นตำแหน่งพิเศษออกไป เพราะพระราชทานพิเศษเฉพาะตัวจำนวนไม่มาก จึงเป็นกรณีพิเศษ




...............................

17 กุมภาพันธ์ 2555

อย่าทำร้ายหัวใจครูอีกเลย

   คนที่เกิดมาเป็นครู หน้าที่หนึ่งที่พึงทำในทุกวัน คือการอบรมสั่งสอนให้ลูกศิษย์ทุกคนเป็นคนดี

   หลายต่อหลายครั้งที่เราต้องเสียใจกับพฤติกรรมของนักเรียน ที่เราพร่ำสอน พร่ำด่า แม้กระทั้งตีก็มี

   หลายคนบอกว่า เค้าห้ามตีนักเรียนแล้วนะ....

   .... แล้วไอ้คนที่ห้ามๆๆ เคยออกมาดูมั่งไหมว่า สภาพแวดล้อมที่แท้จริงเป็นอย่างไร

   ถ้าไม่ด่า ไม่ห้าม ไม่ปราม ไม่ตี (สำหรับนักเรียนบางคน) ก็จะเอาไม่อยู่

   คำว่าเอาไม่อยู่ สามารถตีความได้หลายประเภท บ้างก็แซวครู บ้างก็หลับในชั้น บ้างก็สูบบุหรี่ บ้างก็จะชกครู

   ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปชกไอ้คนที่ห้ามตีนักเรียน แล้วอย่ามาลงโทษผมนะ ต้องลงโทษแค่ ว่ากล่าวตักเตือน ให้ทำสะอาด ทำความดี เป็นการแก้ไขในสิ่งที่ผมไปชกหน้าคนที่ห้ามตีนักเรียน

   อยากให้นักจิตวิทยามาประจำอยู่ที่โรงเรียนสัก 1 เดือน เอาทุกๆโรงเรียนนะครับ จะได้รับข้อมูลสภาพจริงบ้าง

   บางคนก็อ้างนักจิตวิทยา คุณเอาส่วนไหนมาสรุปผล เอาส่วนใหญ่มาเป็นกลุ่มตัวอย่าง ไม่ต้องอะไรหรอก ศึกษานิเทศ ยังบอกเลยว่า เด็กนักเรียนที่ไม่เอาอะไรเลย มีทุกโรงเรียน โรงเรียนในเมืองก็ยังมี ครูเองก็ไม่ใช่ว่าจะลงโทษร้ายแรง เฆี่ยนตีจนเป็นแผล

   สำหรับตัวผมนะ ผมไล่ลำดับความรุนแรงด้วยการเสริมวินัยไปจากน้อยไปหามาก ดังนี้ เขียนเรียงความ 25 บรรทัด ลุกนั่ง 20 50 100 (ตามเหตุ) วิดพื้น กระโดดตบ นอนกางมุ้ง แล้วก็ตี ก่อนจะตีก็สอบสวนก่อน แล้วถามเค้าว่า "ผิดอะไร" "จะทำอีกไหม" นั่นก็แสดงให้เห็นว่า ยังตีด้วยเหตุผล (ไปถามนักเรียนผมได้เลยครับ ผมท้า ไม่ใช่ว่าเขียนเพื่อเอาดีเข้าตัว)

   ลูกๆเอ๋ย 


  ครูทุกคนล้วนหวังดีต่อพวกเจ้า อย่าทำร้ายหัวใจครูอีกเลย ที่ครูตี ไม่ใช่ครูจะไม่รู้สึกนะ ครูก็ยังห่วงว่าจะเขียวหรือเปล่า จะช้ำหรือเปล่า ถ้าครูไม่รัก ครูก็ไม่แคร์หรอกว่า พวกเจ้าจะสูบบุหรี่ จะเผาโรงเห็ด จะจับผู้หญิงมาเล่นพิเรนท์ จะขโมยของบริจาค สิ่งเหล่านี้ ถ้าครูไม่ปราบเจ้าก่อน เจ้าคงโตไปเป็นคนชั่วของสังคมอย่างแน่แท้

   ผมเชื่อว่า ครูที่สอนระดับมัธยม ก็คงปวดหัวกันกับพฤติกรรมของนักเรียนส่วนน้อย แต่ที่เราปวดหัว เพราะสามัญสำนึกของเรา ต้องการให้เด็ก"ทุกคน" เป็นคนดีไม่ใช่เหรอ

   ... ไม่ใช่คนบางพวกที่ซื้อเสียง หวังเพื่อแก้กฎหมาย หาผลประโยชน์

   จริงไหมครับ
ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ