ช่วงนี้ นักเรียนก็เตรียมสอบปลายภาค
ส่วนครู ก็รีบดำเนินการสอบ
ตัดเกรด จัดระดับผลการเรียน
สรุปผลงานในปีการศึกษาที่ผ่านมา และที่สำคัญ เตรียมรับมหกรรมอบรม ประชุม สัมมนา ฯลฯ
เหนื่อยๆ สู้ๆ คนเป็นครู สู้ไม่ถอย
28 กุมภาพันธ์ 2554
27 กุมภาพันธ์ 2554
สติ ควบคุมจิต
"โอ้ การฝึกจิตที่จะเอาจิตเข้าสู่ธรรมได้ตีกิเลสให้ห่างไกลจากตัวไปนี้ เพื่อความอยู่สบายนี้ยากนะ ไม่ใช่เล่น ลำบากมากอยู่ มันดิ้นของมันอยู่นั้นแหละ เป็นอยู่ในร่างกายกิริยามารยาทนุ่มนวลเหมือนคนทั้งหลาย พระทั้งหลายนั่นละ แต่ตัวจิตตัวมันดื้อมันดื้ออยู่ในนั้น
เพราะอย่างนั้นท่านจึงสอนให้มีสติ บังคับจิตให้ดี ถ้าสติดีแล้วจิตก็ไม่ดีดไม่ดิ้น ถ้าสติขาดเมื่อไหร่จิตนี้ดิ้น ให้พากันจำเอานะพระลูกพระหลาน สติเป็นสำคัญ ท่านก็บอกอยู่ตลอดเวลาว่า
สติ สพฺพตฺถ ปตฺถิยา สติจำต้องปรารถนาในที่ทั้งปวง
เผลอสติไม่ได้นะ สติต้องบังคับเจ้าของ ให้ตีกับกิเลสนั่นล่ะดี"
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนhttp://www.luangta.com/thamma/thamma_ta ... 66&CatID=0
เพราะอย่างนั้นท่านจึงสอนให้มีสติ บังคับจิตให้ดี ถ้าสติดีแล้วจิตก็ไม่ดีดไม่ดิ้น ถ้าสติขาดเมื่อไหร่จิตนี้ดิ้น ให้พากันจำเอานะพระลูกพระหลาน สติเป็นสำคัญ ท่านก็บอกอยู่ตลอดเวลาว่า
สติ สพฺพตฺถ ปตฺถิยา สติจำต้องปรารถนาในที่ทั้งปวง
เผลอสติไม่ได้นะ สติต้องบังคับเจ้าของ ให้ตีกับกิเลสนั่นล่ะดี"
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนhttp://www.luangta.com/thamma/thamma_ta ... 66&CatID=0
26 กุมภาพันธ์ 2554
งัด พ.ร.บ.ระเบียบครู 46 เอาผิดครูแอบกวดวิชา
งัด พ.ร.บ.ระเบียบครู 46 เอาผิดครูแอบกวดวิชา
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.)ครั้งที่ 2/2554 เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ที่ประชุมได้รับทราบแนวทางควบคุมโรงเรียนกวดวิชาไม่ให้มีการดำเนินการใน ลักษณะแสวงหากำไรจนเกินควร ซึ่งเห็นว่าโรงเรียนกวดวิชาที่ตั้งขึ้นก่อน พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 ให้เก็บค่าธรรมเนียมการเรียน ตามที่ได้รับอนุญาต หากมีการเปลี่ยนแปลงให้ยื่นขออนุญาต โดยจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับกิจการของโรงเรียนนอกระบบและกำหนดหลักเกณฑ์การ คิดค่าธรรมเนียมการศึกษาซึ่งให้กำหนดได้ไม่เกินร้อยละ 20 ส่วนโรงเรียนกวดวิชา ที่ตั้งตาม พ.ร.บ. โรงเรียนเอกชนพ.ศ.2550ในการอนุญาตหลักเกณฑ์การคิดค่าธรรมเนียมการศึกษา ให้กำหนดอัตราค่าตอบแทนได้ไม่เกินร้อยละ20ส่วนการเก็บค่าธรรมเนียมการศึกษา ในโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนโดยใช้ครูจะเก็บในอัตราที่สูงกว่าการเรียน การสอนโดยใช้สื่อผสม หากใช้สื่อเป็นเครื่องมือการสอนให้เก็บในราคาต่ำสุด ซึ่งโรงเรียนนอกระบบทุกขนาดทุกประเภท จะต้องเสนอรายงานแสดงกิจการงบประมาณการเงินต่อผู้อนุญาตเป็นประจำทุกปี และให้ติดประกาศใบอนุญาตการเก็บค่าธรรมเนียมการศึกษา/หลักเกณฑ์การกำหนดค่า ธรรม เนียมการศึกษา เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ นอกจากนี้สช.จะต้องตรวจติดตามการดำเนินกิจการของโรงเรียนกวดวิชาให้เป็นไป ตามระเบียบกฎหมายของทางราชการอย่างเคร่งครัด
ขณะเดียวกัน ก็ให้ สพฐ.และคุรุสภาตรวจสอบและดูแลครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาของรัฐให้ปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเรียน การสอนในชั้นเรียนให้เต็มตามหลักสูตร เพื่อนักเรียนจะได้ไม่ต้องไปเรียนเพิ่มเติมในโรงเรียนกวดวิชา หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือว่ามีความผิดทางวินัยตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 และผิดจรรยาบรรณ ตาม พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.)ครั้งที่ 2/2554 เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ที่ประชุมได้รับทราบแนวทางควบคุมโรงเรียนกวดวิชาไม่ให้มีการดำเนินการใน ลักษณะแสวงหากำไรจนเกินควร ซึ่งเห็นว่าโรงเรียนกวดวิชาที่ตั้งขึ้นก่อน พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 ให้เก็บค่าธรรมเนียมการเรียน ตามที่ได้รับอนุญาต หากมีการเปลี่ยนแปลงให้ยื่นขออนุญาต โดยจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับกิจการของโรงเรียนนอกระบบและกำหนดหลักเกณฑ์การ คิดค่าธรรมเนียมการศึกษาซึ่งให้กำหนดได้ไม่เกินร้อยละ 20 ส่วนโรงเรียนกวดวิชา ที่ตั้งตาม พ.ร.บ. โรงเรียนเอกชนพ.ศ.2550ในการอนุญาตหลักเกณฑ์การคิดค่าธรรมเนียมการศึกษา ให้กำหนดอัตราค่าตอบแทนได้ไม่เกินร้อยละ20ส่วนการเก็บค่าธรรมเนียมการศึกษา ในโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนโดยใช้ครูจะเก็บในอัตราที่สูงกว่าการเรียน การสอนโดยใช้สื่อผสม หากใช้สื่อเป็นเครื่องมือการสอนให้เก็บในราคาต่ำสุด ซึ่งโรงเรียนนอกระบบทุกขนาดทุกประเภท จะต้องเสนอรายงานแสดงกิจการงบประมาณการเงินต่อผู้อนุญาตเป็นประจำทุกปี และให้ติดประกาศใบอนุญาตการเก็บค่าธรรมเนียมการศึกษา/หลักเกณฑ์การกำหนดค่า ธรรม เนียมการศึกษา เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ นอกจากนี้สช.จะต้องตรวจติดตามการดำเนินกิจการของโรงเรียนกวดวิชาให้เป็นไป ตามระเบียบกฎหมายของทางราชการอย่างเคร่งครัด
ขณะเดียวกัน ก็ให้ สพฐ.และคุรุสภาตรวจสอบและดูแลครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาของรัฐให้ปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเรียน การสอนในชั้นเรียนให้เต็มตามหลักสูตร เพื่อนักเรียนจะได้ไม่ต้องไปเรียนเพิ่มเติมในโรงเรียนกวดวิชา หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือว่ามีความผิดทางวินัยตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 และผิดจรรยาบรรณ ตาม พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
25 กุมภาพันธ์ 2554
กรณีตัวอย่างการพิจารณาประสบการณ์ เพื่อขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ (2)
กรณีตัวอย่างการพิจารณาประสบการณ์ เพื่อขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ (2)
คอลัมน์: สถานี ก.ค.ศ. : โดย ศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการ ก.ค.ศ.
สัปดาห์ที่ผ่านมาได้นำเสนอการพิจารณานำ ประสบการณ์การดำรงตำแหน่งพนักงานส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีประสบการณ์การสอนมานับรวมกับตำแหน่งครูเพื่อเป็นคุณสมบัติด้าน ประสบการณ์ในการขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการไปแล้ว
สัปดาห์นี้จะนำเสนอกรณีไม่มีประสบการณ์ในการสอน แต่มีประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ซึ่ง ก.ค.ศ.ให้คำจำกัดความว่า ต้องเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดการเรียนการสอน การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา เช่น การจัดทำแผนการเรียนรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ การสร้างและพัฒนาสื่อการเรียนการสอน หรือช่วยปฏิบัติงานด้านการบริหารและจัดการสถานศึกษาเป็นต้น โดยกำหนดว่าหากมีประสบการณ์ตามที่กำหนดให้นับเวลาการดำรงตำแหน่งก่อนโอนได้ 1 ใน 4 หากไม่มีประสบการณ์ก็ไม่สามารถนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งก่อนโอนมานับรวมกับ การดำรงตำแหน่งครูได้ ซึ่งมีกรณีตัวอย่างดังต่อไปนี้
กรณีที่ 1 ผู้ขอเคยเป็นข้าราชการทหาร ไม่มีประสบการณ์การสอนแต่ได้ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา และดำรงตำแหน่งครูไม่น้อยกว่า 2 ปี
ตัวอย่างจ่าสิบเอก ส วุฒิปริญญาตรี เคยเป็นข้าราชการทหารมาแล้วเป็นเวลา 16 ปี ก่อนโอนมียศจ่าสิบเอก มีประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและได้โอนมาดำรง ตำแหน่งครูสังกัด สพฐ.ไม่น้อยกว่า 2 ปี โดยทำการสอนในระดับประถมศึกษาให้นำระยะเวลาการดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาก่อนโอนมานับได้ 1 ใน 4 คือ 4 ปี มานับรวมกับการดำรงตำแหน่งครู2 ปี จะนับรวมได้ 6 ปี ซึ่งไม่น้อยกว่า 6 ปีสำหรับผู้มีวุฒิปริญญาตรีและสามารถขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการได้
กรณีที่ 2 ผู้ขอเคยเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ และโอนหรือย้ายมาบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครู ไม่น้อยกว่า 2 ปี
ตัวอย่างนางสาว ร วุฒิปริญญาตรี เคยดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ ระดับชำนาญงาน (รับเงินเดือนระดับ 5 หรือ 6 เดิม) สังกัดกรมสรรพากร เป็นเวลา 12 ปี มีประสบการณ์และได้โอนมาดำรงตำแหน่งครูสังกัด สพฐ.มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี โดยทำการสอนในระดับประถมศึกษา ให้นำระยะเวลาการดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาก่อน โอนมานับได้ 1 ใน 4 คือ 3 ปี มานับรวมกับการดำรงตำแหน่งครู 2 ปี จะนับรวมได้ 5 ปี ซึ่งน้อยกว่า 6 ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาตรี จึงไม่สามารถขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการได้
ได้นำเสนอกรณีตัวอย่างติดต่อกันมา 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นกรณีที่แตกต่างกัน 4 กรณี หวังว่าข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้เกี่ยวข้องจะได้รับความรู้ความเข้าใจกันมากยิ่งขึ้นสำหรับการพิจารณา ประสบการณ์ในการขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ หากท่านใดต้องการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้จากเว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ www.moe.go.th/wtcs
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน
คอลัมน์: สถานี ก.ค.ศ. : โดย ศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการ ก.ค.ศ.
สัปดาห์ที่ผ่านมาได้นำเสนอการพิจารณานำ ประสบการณ์การดำรงตำแหน่งพนักงานส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีประสบการณ์การสอนมานับรวมกับตำแหน่งครูเพื่อเป็นคุณสมบัติด้าน ประสบการณ์ในการขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการไปแล้ว
สัปดาห์นี้จะนำเสนอกรณีไม่มีประสบการณ์ในการสอน แต่มีประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ซึ่ง ก.ค.ศ.ให้คำจำกัดความว่า ต้องเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดการเรียนการสอน การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา เช่น การจัดทำแผนการเรียนรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ การสร้างและพัฒนาสื่อการเรียนการสอน หรือช่วยปฏิบัติงานด้านการบริหารและจัดการสถานศึกษาเป็นต้น โดยกำหนดว่าหากมีประสบการณ์ตามที่กำหนดให้นับเวลาการดำรงตำแหน่งก่อนโอนได้ 1 ใน 4 หากไม่มีประสบการณ์ก็ไม่สามารถนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งก่อนโอนมานับรวมกับ การดำรงตำแหน่งครูได้ ซึ่งมีกรณีตัวอย่างดังต่อไปนี้
กรณีที่ 1 ผู้ขอเคยเป็นข้าราชการทหาร ไม่มีประสบการณ์การสอนแต่ได้ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา และดำรงตำแหน่งครูไม่น้อยกว่า 2 ปี
ตัวอย่างจ่าสิบเอก ส วุฒิปริญญาตรี เคยเป็นข้าราชการทหารมาแล้วเป็นเวลา 16 ปี ก่อนโอนมียศจ่าสิบเอก มีประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและได้โอนมาดำรง ตำแหน่งครูสังกัด สพฐ.ไม่น้อยกว่า 2 ปี โดยทำการสอนในระดับประถมศึกษาให้นำระยะเวลาการดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาก่อนโอนมานับได้ 1 ใน 4 คือ 4 ปี มานับรวมกับการดำรงตำแหน่งครู2 ปี จะนับรวมได้ 6 ปี ซึ่งไม่น้อยกว่า 6 ปีสำหรับผู้มีวุฒิปริญญาตรีและสามารถขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการได้
กรณีที่ 2 ผู้ขอเคยเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ และโอนหรือย้ายมาบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครู ไม่น้อยกว่า 2 ปี
ตัวอย่างนางสาว ร วุฒิปริญญาตรี เคยดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ ระดับชำนาญงาน (รับเงินเดือนระดับ 5 หรือ 6 เดิม) สังกัดกรมสรรพากร เป็นเวลา 12 ปี มีประสบการณ์และได้โอนมาดำรงตำแหน่งครูสังกัด สพฐ.มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี โดยทำการสอนในระดับประถมศึกษา ให้นำระยะเวลาการดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาก่อน โอนมานับได้ 1 ใน 4 คือ 3 ปี มานับรวมกับการดำรงตำแหน่งครู 2 ปี จะนับรวมได้ 5 ปี ซึ่งน้อยกว่า 6 ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาตรี จึงไม่สามารถขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการได้
ได้นำเสนอกรณีตัวอย่างติดต่อกันมา 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นกรณีที่แตกต่างกัน 4 กรณี หวังว่าข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้เกี่ยวข้องจะได้รับความรู้ความเข้าใจกันมากยิ่งขึ้นสำหรับการพิจารณา ประสบการณ์ในการขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ หากท่านใดต้องการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้จากเว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ www.moe.go.th/wtcs
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน
23 กุมภาพันธ์ 2554
ตรวจสุขภาพประจำปี
วันนี้ มีการตรวจสุขภาพประจำปี
เมื่อวานเลยต้องงดน้ำและอาหารตั้งแต่ 2 ทุ่ม
ตอนไปโรงเรียนคิดเลยว่า ถ้าหมอมาช้า คงมีอารมณ์โมโหหิวแน่ๆ เพราะปกติกินข้าวแต่เช้า แถมยังกินน้ำบ่อย เมื่อวานนี้กลัวว่าจะกินน้ำเยอะ เลยนอนแต่หัวค่ำ ปรากฎว่า หมอไปรอแล้ว
ความดันปกติ
การเต้นของหัวใจปกติ
....เหลือแต่ x-ray ปอดอย่างเดียว กิ้วๆ
เมื่อวานเลยต้องงดน้ำและอาหารตั้งแต่ 2 ทุ่ม
ตอนไปโรงเรียนคิดเลยว่า ถ้าหมอมาช้า คงมีอารมณ์โมโหหิวแน่ๆ เพราะปกติกินข้าวแต่เช้า แถมยังกินน้ำบ่อย เมื่อวานนี้กลัวว่าจะกินน้ำเยอะ เลยนอนแต่หัวค่ำ ปรากฎว่า หมอไปรอแล้ว
ความดันปกติ
การเต้นของหัวใจปกติ
....เหลือแต่ x-ray ปอดอย่างเดียว กิ้วๆ
21 กุมภาพันธ์ 2554
เตรียมสอบ nt ได้แล้วจ้า
ตอนนี้ มหกรรมการทดสอบระดับชาติ กำลังจะดำเนินต่อไป
คราวนี้ เป็นระดับรองลงมาจาก ป.6 ม.3
สู้ๆครับครูไทย
เหนื่อยก็ต้องทน
เพราะหน้าที่ของเรา กำอนาคตของชาติอยู่
ตอนนี้โรงเรียนก็จะสอบปลายภาคแล้ว โอย เหนื่อยจัง
คราวนี้ เป็นระดับรองลงมาจาก ป.6 ม.3
สู้ๆครับครูไทย
เหนื่อยก็ต้องทน
เพราะหน้าที่ของเรา กำอนาคตของชาติอยู่
ตอนนี้โรงเรียนก็จะสอบปลายภาคแล้ว โอย เหนื่อยจัง
18 กุมภาพันธ์ 2554
มหกรรมการสร้างโอกาสและอาชีพ ภาคเหนือ วันที่ 2
วันนี้ไปปฏิับัติหน้าที่วันที่ 2 วันนี้มีจำนวนผู้เข้าชมบางตา อาจเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด (มาฆะบูชา) แต่ก็มีนักเรียนในจังหวัดแต่ต่างจังหวัดเดินทางมาดู ในส่วนของเวทีส่วนกลาง มีการแสดงวงดนตรี และการแสดงของน้องๆอนุบาลน่ารักๆ ตอนขึ้นไปถ่ายวิดีโอ เห็นแล้วสงสารครู เหมือนจับปูใส่กระด้งอย่างไงอย่างนั้น
น้องๆนักเรียนสนใจการจัดแสดงของหุ่นยนต์เต้นB-Boy
บริการให้คำปรึกษาจาก มสธ.
ขึ้นไปการแสดงของน้องๆนักเรียน
นกยูงรำแพน สวยงามมากครับ วันนี้ไม่มีใครแย่งถ่าย เลยถ่ายซะ
จะว่าไป นกยูงก็เหมือนผู้หญิงที่น่ารัก มีศักดิ์ศรี และสง่างาม (ชอบครับ)
17 กุมภาพันธ์ 2554
มหกรรมสร้างโอกาสทางการศึกษาและอาชีพ ภาคเหนือ
วันนี้ ได้เข้าร่วมปฏิบัิติราชการกับทีมส่งเสริมการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พิษณุโลก เขต 1 โดยมีท่านรองธิดาพร พานิชพันธ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พิษณุโลก เขต 1 เป็นประธานฝ่าย และมี ศณ.ต๋อง สุดหล่อ (พี่พรประเสริฐ) เป็นหัวหน้าชุด
การปฏิบัติหน้าที่วันนี้ ได้รับมอบหมายให้บันทึกภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่ง เพื่อทำสื่อสรุปรายงาน ส่วนหน้าที่รองคือ การร่วมทีมถ่ายทอดสดพิธีเปิด
มาถึงปุ๊บ ก็เริ่มงานแรกเลยครับ (ถ่ายป้ายของงาน)
จากนั้น ลงไปเก็บบรรยากาศข้างล่าง ระหว่างการเตรียมตัวของหน่วยงานต่างๆ โชคดี ท่าน ผอ.เขตฯ ให้เกียรติถ่ายภาพด้วย เมื่อถ่ายเสร็จ ท่านบอกว่า "รูปคู่แฝด"
การปฏิบัติหน้าที่วันนี้ ได้รับมอบหมายให้บันทึกภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่ง เพื่อทำสื่อสรุปรายงาน ส่วนหน้าที่รองคือ การร่วมทีมถ่ายทอดสดพิธีเปิด
มาถึงปุ๊บ ก็เริ่มงานแรกเลยครับ (ถ่ายป้ายของงาน)
จากนั้น ลงไปเก็บบรรยากาศข้างล่าง ระหว่างการเตรียมตัวของหน่วยงานต่างๆ โชคดี ท่าน ผอ.เขตฯ ให้เกียรติถ่ายภาพด้วย เมื่อถ่ายเสร็จ ท่านบอกว่า "รูปคู่แฝด"
ท่าน ผอ. สพป. พิษณุโลกเขต 1 ใ้หเกียรติถ่ายภาพ
ป้ายงานมหกรรมสร้างโอกาสทางการศึกษาและอาชีพ ภาคเหนือ จ.พิษณุโลก
ส่วนกลางของงานฯ
สบโอกาส ท่านผู้ว่าฯให้เกียรติถ่ายภาพ
ท่านประธานในพิธีเดินเข้าสู่งาน โดยมีวงมังคละเดินนำ
การแสดงจากน้องๆจ่านกร้อง
ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกกล่าวรายงาน
ประธานจัดงานกล่าวรายงาน
ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประธานในพิธี
พิธีเปิดงานบนเวที
ประธานในพิธีตัดริบบิ้นเปิดงาน
น้องๆน่ารักมากเลยครับ
ขอความกรุณาอย่าเข้าใจผิด.... คิดกันเอาเองครับ
ช่างกล้า!! คณะผู้ช่วยรัฐมนตรีพึ่งผ่านไป 2 คนนี้ ก็เล่นกันซะแล้ว
คณะผู้บริหารชั้นเยี่ยมให้เกียรติร่วมถ่ายภาพด้วย
ท่านรองฯบุญรอด ให้เกียรติถ่ายภาพ (คนข้างๆ ขอร่วมทุกงาน)
ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ เยี่ยมชมส่วนจัดแสดง โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคเหนือ
ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ทักทายนักเรียนเตรียมอุดมศึกษา ภาคเหนือ
ท่าน รองฯ ธวัช รายงานท่านผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรงศึกษาธิการ
หลบร้อนที่ป้ายงานด้านนอก เหนื่อยทั้งครูทั้งศิษย์
ความรู้ด้านการเกษตร
กิจกรรมเพ้นท์ถนน เจ๋งดีครับ
ศิลปะ เกิดจากข้างใน
หุ่นยนต์เต้นระบำ
จิตสำนึกที่ยังเกิดกับนักเรียนบางกลุ่ม
สบายจังเลยนะครับ คุณครู พรุ่งนี้ผมจองคิวแรก
ใครว่าขยะ ไม่มีประโยชน์ ... เงินทั้งนั้น
"อู่ข้าว อู่น้ำ"
น้องๆลองทำงานประดิษฐ์ (ตั้งใจถ่ายวิทยากร...น่ารัก)
ครั้งนี้ การอ่านก็สำคัญนะ
"เอ้า ถ่ายรูปตัวเองกับนักเรียนนิดนึง"
กิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สัญลักษณ์ของกลุ่มแสดงทางวิทยาศาสตร์ น่ารักไหมครับ
ข้อมูลเคลื่อนที่
16 กุมภาพันธ์ 2554
เตรียมตัวลุยงาน แต่วันนี้เหนื่อยมาก
พรุ่งนี้จะมีมหกรรมขยายโอกาสทางการศึกษาและอาชีพ
จัดที่โรงแรมอมรินท์ลากูน จ.พิษณุโลก
ได้รับคำสั่งให้ไปร่วมปฏิบัติราชการ (ว่าแต่ อยู่ฝ่ายอะไรเนี่ย... อ๋อ ประชาสัมพันธ์ ช่างเข้ากับหน้าตาเสียจริง อิอิ)
เพิ่งได้ทราบว่า เป็นเรื่องของโรงเรียนขยายโอกาส 17 จังหวัดภาคเหนือ ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะเนี่ยที่จะจัดรวมกันได้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่มากๆๆๆ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ คงต้องไปแต่เช้า เพราะมีเรื่องราวหลายหลากรอให้เรียนรู้ และรอให้ทำ
ถ้าไม่เรียนรู้ ครูก็เหมือนปลาตายไม่ว่ายทวนน้ำ
จัดที่โรงแรมอมรินท์ลากูน จ.พิษณุโลก
ได้รับคำสั่งให้ไปร่วมปฏิบัติราชการ (ว่าแต่ อยู่ฝ่ายอะไรเนี่ย... อ๋อ ประชาสัมพันธ์ ช่างเข้ากับหน้าตาเสียจริง อิอิ)
เพิ่งได้ทราบว่า เป็นเรื่องของโรงเรียนขยายโอกาส 17 จังหวัดภาคเหนือ ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะเนี่ยที่จะจัดรวมกันได้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่มากๆๆๆ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ คงต้องไปแต่เช้า เพราะมีเรื่องราวหลายหลากรอให้เรียนรู้ และรอให้ทำ
ถ้าไม่เรียนรู้ ครูก็เหมือนปลาตายไม่ว่ายทวนน้ำ
15 กุมภาพันธ์ 2554
ประชุมปฏิบัติการการพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา
ประชุมปฏิบัติการการพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาเพื่อรองรับการประเมินจาก สมศ. รอบ 3
ณ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู พิษณุโลก
การประชุมครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.) และ สมาคมครูและผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อำเภอบางระกำ
วันนี้มีคนไปมากจริงๆ จนทำให้เกิดความโกลาหลเล็กน้อยตอนพักรับประทานอาหารกลางวัน หลายคนคาดหวังว่า อ.เอกรินทร์ จะมาเป็นวิทยากร เพราะท่านคุยสนุก เร้าใจดีตลอดการประชุม
งานหนักกำลังเริ่มขึ้น
เอาประจำที่ทำอยู่ ถ้ามาถูกทาง เราจะทำเพื่อเตรียมรับ สมศ. ไม่เหนื่อย แต่ถ้ายังไม่ได้ทำ ก็ยังไม่สายที่จะเริ่มครับ
14 กุมภาพันธ์ 2554
วันแห่งความรัก แล้วเรารักใคร
วันนี้ เป็นวันที่หลายๆคนเรียกว่า วันแห่งความรัก
หลายคนสมมุติวันนี้ขึ้นมา เพื่อแสดงความรักให้กับคนที่รัก
เมื่อเช้า เห็นเด็กนักเรียน 2 คน ออกบ้านแต่เช้าตรู่ (ปกติไม่ค่อยเห็น) ตอนแรก นึกว่าจะออกมาใส่บาตรกัน แต่ปรากฎว่า น้องสองคนนั้น ทำของขวัญที่เพิ่งซื้อมาร่วงบนถนน... สรุปว่า รีบออกมาซื้อของขวัญให้หนุ่ม
คนรักกัน ดีกว่าเกลียดกัน
ตะโกนเรียกร้องหาความรัก ดีกว่าตะโกน กูจะฆ่ามึง
วันนี้ สมควรจะบอกรักพ่อแม่ก่อนใคร เพราะไม่มีท่าน ก็ไม่มีเรา
ที่สำคัญ อย่าเอาร่างกาย แลกความรัก
ต้องระวัง และป้องกัน
มิเช่นนั้น เราจะมีแม่อายุน้อยวันละ 300 กว่าคน
ยังไม่ร่วมที่ทำแท้งอีกหลายราย
บาปมันติดตัวเราไปจนตาย
แม้กระทั้งคนที่รู้เรื่อง ชี้แนะ ให้เงิน
กรรมเหล่านั้น มันจะตามคุณไปจริงๆ ทำการงานไม่ก้าวหน้า
มีอาการปวดเมื่อยแปลกๆ ฯลฯ
มันแก้ไขไม่ได้.... ชีวิต ต้องแลกด้วย ชีวิต
หลายคนสมมุติวันนี้ขึ้นมา เพื่อแสดงความรักให้กับคนที่รัก
เมื่อเช้า เห็นเด็กนักเรียน 2 คน ออกบ้านแต่เช้าตรู่ (ปกติไม่ค่อยเห็น) ตอนแรก นึกว่าจะออกมาใส่บาตรกัน แต่ปรากฎว่า น้องสองคนนั้น ทำของขวัญที่เพิ่งซื้อมาร่วงบนถนน... สรุปว่า รีบออกมาซื้อของขวัญให้หนุ่ม
คนรักกัน ดีกว่าเกลียดกัน
ตะโกนเรียกร้องหาความรัก ดีกว่าตะโกน กูจะฆ่ามึง
วันนี้ สมควรจะบอกรักพ่อแม่ก่อนใคร เพราะไม่มีท่าน ก็ไม่มีเรา
ที่สำคัญ อย่าเอาร่างกาย แลกความรัก
ต้องระวัง และป้องกัน
มิเช่นนั้น เราจะมีแม่อายุน้อยวันละ 300 กว่าคน
ยังไม่ร่วมที่ทำแท้งอีกหลายราย
บาปมันติดตัวเราไปจนตาย
แม้กระทั้งคนที่รู้เรื่อง ชี้แนะ ให้เงิน
กรรมเหล่านั้น มันจะตามคุณไปจริงๆ ทำการงานไม่ก้าวหน้า
มีอาการปวดเมื่อยแปลกๆ ฯลฯ
มันแก้ไขไม่ได้.... ชีวิต ต้องแลกด้วย ชีวิต
12 กุมภาพันธ์ 2554
งานวัดใหญ่เริ่มแล้ว
วันนี้ เดินทางไปเตรียมอุดมฯ
ซึ่งต้องผ่านวัดพระศรรัตนมหาธาตุฯ หรือที่ชาวพิษณุโลกเรียกว่าวัดใหญ่
คนเยอะมาก รถจึงเยอะตาม
อาชีพใหม่ๆที่เกิดขึ้นคือ รับฝากรถ เริ่มยาวออกมาเรื่อยๆ พูดง่ายๆ เกือบ 2 ไฟแดงแล้ว
ในหนึ่งปี จะเปิดโอกาสให้ประชาชนขึ้นไปสักการะบูชาพระบรมสาลีริกธาตุฯบนพระปราง
จะไปวันไหนดีเนี่ย เฮ้อ อยากไปครับ
ซึ่งต้องผ่านวัดพระศรรัตนมหาธาตุฯ หรือที่ชาวพิษณุโลกเรียกว่าวัดใหญ่
คนเยอะมาก รถจึงเยอะตาม
อาชีพใหม่ๆที่เกิดขึ้นคือ รับฝากรถ เริ่มยาวออกมาเรื่อยๆ พูดง่ายๆ เกือบ 2 ไฟแดงแล้ว
ในหนึ่งปี จะเปิดโอกาสให้ประชาชนขึ้นไปสักการะบูชาพระบรมสาลีริกธาตุฯบนพระปราง
จะไปวันไหนดีเนี่ย เฮ้อ อยากไปครับ
11 กุมภาพันธ์ 2554
10 กุมภาพันธ์ 2554
“ชินวรณ์” เผย พ.ร.บ.เงินเดือนฯ ทำให้อัตราเงินเดือนครูเพิ่มร้อยละ 13
“ชินวรณ์” เผย พ.ร.บ.เงินเดือนฯ ทำให้อัตราเงินเดือนครูเพิ่มร้อยละ 13
“ชินวรณ์” เผย ที่ประชุม กมธ.วิสามัญฯ สั่งเพิ่มรายละเอียดในมาตรา 6 ให้ ขรก.ครูที่ยังมีเงินเดือนไม่ถึงขั้นต่ำตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.เงินเดือนฯ ได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำชั่วคราว มั่นใจ พ.ร.บ.เงินเดือนฯ จะได้รับพิจารณาทันประชุมผู้แทนราษฎรสมัยนี้แน่นอน ลั่นหากประกาศใช้แล้วส่งผลให้ ขรก.ครูได้รับการปรับเงินเดือนโดยเฉลี่ยร้อยละ 13
วันนี้ (11 ก.พ.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.... สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ที่ประชุม กมธ.วิสามัญฯ ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่ง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยได้ปรับเพิ่มในรายละเอียดมาตรา 6 จากเดิมที่ระบุว่าในระหว่างที่ ก.ค.ศ.ยังมิได้ปรับอัตราเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้สอดคล้องกับอัตราเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด โดยรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ได้มอบหมายให้ ก.ค.ศ.จัดทำคู่มือรายละเอียดของการดำเนินการตามบัญชีที่ได้ศึกษาไว้แล้ว ซึ่งจะได้ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต่อไป โดยจากมาตรา 6 ดังกล่าว ที่ประชุม กมธ.วิสามัญฯ ได้ปรับเพิ่มว่า กรณีที่ข้าราชการครู ที่ยังได้รับเงินเดือนยังไม่ถึงขั้นต่ำของอันดับตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.นี้ ให้ได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำชั่วคราว ตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.นี้ และให้ได้รับเงินเดือนจนกว่าจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำของอันดับ ตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.นี้
รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ตนได้ลงนามถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะได้ประสานกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ต่อไป ก่อนจะนำเสนอเข้าสู่ชั้นวุฒิสภา เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ก็จะได้มีการประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ทั้งนี้ ตนได้ดูปฏิทินการทำงาน มั่นใจว่า ร่าง พ.ร.บ.เงินเดือนฯ จะได้รับการพิจารณาให้แล้วเสร็จทันการประชุมผู้แทนราษฎรสมัยนี้อย่างแน่นอน โดยหากมีการประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะส่งผลให้เพดานเงินเดือนครูได้รับการปรับเพิ่มร้อยละ 8 และเมื่อรวมกับการปรับขึ้นเงินเดือนของข้าราชการทุกประเภทร้อยละ 5 ตามภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็จะทำให้ข้าราชการครูได้รับการปรับเพิ่มเงินเดือนโดยเฉลี่ยร้อยละ 13
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่าง พ.ร.บ.เงินเดือนฯ มีมาตราที่มีความสำคัญ 3 มาตรา ได้แก่ มาตรา 3 มาตรา 5 และมาตรา 6 โดยมาตรา 3 ระบุว่า อัตราเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่ง สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และบัญชีอัตราเงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษาท้ายพระราชบัญญัตินี้ ส่วนมาตรา 5 ระบุว่า ครม.จะพิจารณาปรับเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูง เงินวิทยฐานะ เงินประจำตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้นตามความจำเป็นก็ได้ โดยหากเป็นการปรับเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูง เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งเพิ่มไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งที่ใช้บังคับอยู่ ให้กระทำได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และให้ถือว่าเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูง เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เป็นเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูง เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งท้ายพระราชบัญญัตินี้ เมื่อมีการปรับเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งตามวรรคหนึ่ง การปรับเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับอยู่เดิม เข้าสู่อัตราในบัญชีที่ได้รับการปรับใหม่ ให้เป็นไปหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด ซึ่ง ก.ค.ศ.จะต้องดำเนินการตามมาตรา 6
“ชินวรณ์” เผย ที่ประชุม กมธ.วิสามัญฯ สั่งเพิ่มรายละเอียดในมาตรา 6 ให้ ขรก.ครูที่ยังมีเงินเดือนไม่ถึงขั้นต่ำตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.เงินเดือนฯ ได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำชั่วคราว มั่นใจ พ.ร.บ.เงินเดือนฯ จะได้รับพิจารณาทันประชุมผู้แทนราษฎรสมัยนี้แน่นอน ลั่นหากประกาศใช้แล้วส่งผลให้ ขรก.ครูได้รับการปรับเงินเดือนโดยเฉลี่ยร้อยละ 13
วันนี้ (11 ก.พ.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.... สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ที่ประชุม กมธ.วิสามัญฯ ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่ง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยได้ปรับเพิ่มในรายละเอียดมาตรา 6 จากเดิมที่ระบุว่าในระหว่างที่ ก.ค.ศ.ยังมิได้ปรับอัตราเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้สอดคล้องกับอัตราเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด โดยรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ได้มอบหมายให้ ก.ค.ศ.จัดทำคู่มือรายละเอียดของการดำเนินการตามบัญชีที่ได้ศึกษาไว้แล้ว ซึ่งจะได้ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต่อไป โดยจากมาตรา 6 ดังกล่าว ที่ประชุม กมธ.วิสามัญฯ ได้ปรับเพิ่มว่า กรณีที่ข้าราชการครู ที่ยังได้รับเงินเดือนยังไม่ถึงขั้นต่ำของอันดับตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.นี้ ให้ได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำชั่วคราว ตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.นี้ และให้ได้รับเงินเดือนจนกว่าจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำของอันดับ ตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.นี้
รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ตนได้ลงนามถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะได้ประสานกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ต่อไป ก่อนจะนำเสนอเข้าสู่ชั้นวุฒิสภา เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ก็จะได้มีการประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ทั้งนี้ ตนได้ดูปฏิทินการทำงาน มั่นใจว่า ร่าง พ.ร.บ.เงินเดือนฯ จะได้รับการพิจารณาให้แล้วเสร็จทันการประชุมผู้แทนราษฎรสมัยนี้อย่างแน่นอน โดยหากมีการประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะส่งผลให้เพดานเงินเดือนครูได้รับการปรับเพิ่มร้อยละ 8 และเมื่อรวมกับการปรับขึ้นเงินเดือนของข้าราชการทุกประเภทร้อยละ 5 ตามภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็จะทำให้ข้าราชการครูได้รับการปรับเพิ่มเงินเดือนโดยเฉลี่ยร้อยละ 13
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่าง พ.ร.บ.เงินเดือนฯ มีมาตราที่มีความสำคัญ 3 มาตรา ได้แก่ มาตรา 3 มาตรา 5 และมาตรา 6 โดยมาตรา 3 ระบุว่า อัตราเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่ง สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และบัญชีอัตราเงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษาท้ายพระราชบัญญัตินี้ ส่วนมาตรา 5 ระบุว่า ครม.จะพิจารณาปรับเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูง เงินวิทยฐานะ เงินประจำตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้นตามความจำเป็นก็ได้ โดยหากเป็นการปรับเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูง เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งเพิ่มไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งที่ใช้บังคับอยู่ ให้กระทำได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และให้ถือว่าเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูง เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เป็นเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูง เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งท้ายพระราชบัญญัตินี้ เมื่อมีการปรับเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งตามวรรคหนึ่ง การปรับเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับอยู่เดิม เข้าสู่อัตราในบัญชีที่ได้รับการปรับใหม่ ให้เป็นไปหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด ซึ่ง ก.ค.ศ.จะต้องดำเนินการตามมาตรา 6
09 กุมภาพันธ์ 2554
มากมารยาท
มากมารยาท นิทานเซ็น
《惭愧的高僧》
ยังมีอุบาสกวัยฉกรรจ์ผู้หนึ่ง ไปกราบนมัสการพระผู้มีสมณศักดิ์สูงยังวัดแห่งหนึ่ง ทั้งสองสนทนาธรรมกันอย่างออกรส ตั้งแต่เช้าจนกระทั่งถึงเวลาอาหารกลางวัน เณรจึงได้จัดอาหารมาให้ทั้งสอง เป็นบะหมี่ชามใหญ่ 1 ชามและชามเล็ก 1 ชาม
เมื่อพระผู้มีสมณศักดิ์สูงเห็นสำรับกับข้าวที่เณรยกมา จึงได้ยกบะหมี่ชามใหญ่ยื่นให้อุบาสกผู้นั้น ทั้งยังกล่าวว่า "ท่านรับประทานชามใหญ่เถอะ"
หากยึดตามธรรมเนียมปฏิบัติ อุบาสกผู้นั้นควรที่จะปฏิเสธและผลักไสบะหมี่ชามใหญ่กลับคืนไปยังพระสงฆ์ เพื่อแสดงความเคารพเกรงใจ ทว่าอุบาสกผู้นี้กลับรับชามบะหมี่มาโดยไม่อิดเอื้อน จากนั้นลงมือรับประทานทันที เมื่อพระผู้มีสมณศักดิ์สูงเห็นดังนั้นก็รู้สึกไม่พอใจจนหน้านิ่วคิ้วขมวดพลางคิดว่า "แรกทีเดียวคิดว่าคนผู้นี้มีสติปัญญาไม่น้อย ไฉนกลับกลายเป็นโง่เขลาไร้มารยาทเช่นนี้"
เมื่ออุบาสกรับประทานบะหมี่หมดชาม เงยหน้าขึ้นมาพบว่าพระรูปนั้นยังไม่ได้แตะต้องบะหมี่ชามเล็กแม้แต่น้อย ทั้งยังมีสีหน้าเย็นชา จึงยิ้มพลางเอ่ยถามว่า "พระคุณเจ้าไฉนไม่รับประทานบะหมี่?"
พระผู้มีสมณศักดิ์สูงเงียบงันไม่ตอบ อุบาสกจึงยิ้มและกล่าวต่อไปว่า "กระผมรู้สึกหิวยิ่งนัก จึงสนใจแต่ปากท้องของตนเองโดยลืมเลือนพระคุณเจ้าไป แต่หากจะให้กระผมผลักไสบะหมี่ชามใหญ่ที่พระคุณเจ้าหยิบยื่นมาให้กระผมกลับคืนไปยังพระคุณเจ้าอีก นั่นไม่ใช่ความตั้งใจของกระผม และในเมื่อไม่ได้ตั้งใจ จะต้องเสแสร้งแกล้งทำไปเพื่ออันใดเล่า ขอถามพระคุณเจ้าว่าการเกี่ยงกันด้วยความเกรงใจไปมานั้นที่แท้แล้วจุดมุ่งหมายคืออะไร?"
พระผู้มีสมณศักดิ์สูงตอบว่า "เพื่อรับประทาน"
อุบาสกจึงกล่าวอย่างจริงจังว่า "ในเมื่อจุดประสงค์คือเพื่อรับประทาน ท่านรับประทานหรือกระผมรับประทานก็ล้วนไม่ต่างกัน หรือว่าที่พระคุณเจ้าชิงมอบบะหมี่ชามใหญ่ให้กระผมนั้นเป็นเพียงการเสแสร้ง มิใช่น้ำใสใจจริง?"
เมื่ออุบาสกกล่าวจบ พระผู้มีสมณศักดิ์สูงจึงได้รู้แจ้งกระจ่างใจ กระทั่งหลั่งน้ำตาออกมา
ปัญญาเซน : การแสดงความเกรงใจที่มากเกินไปกลับกลายเป็นความเสแสร้ง การเคร่งครัดมารยาท มากพิธีจนเกินงามกลับกลายเป็นสิ่งไร้สาระ ทั้งนี้เพราะความซื่อสัตย์เปิดเผยจริงใจต่างหากจึงเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของการเป็นมนุษย์
ที่มา : หนังสือ 《菩提树下听禅的故事》, 惟真 เรียบเรียง, สำนักพิมพ์ 中国华侨出版社, 2004.08, ISBN 7-80120-851-X
《惭愧的高僧》
ยังมีอุบาสกวัยฉกรรจ์ผู้หนึ่ง ไปกราบนมัสการพระผู้มีสมณศักดิ์สูงยังวัดแห่งหนึ่ง ทั้งสองสนทนาธรรมกันอย่างออกรส ตั้งแต่เช้าจนกระทั่งถึงเวลาอาหารกลางวัน เณรจึงได้จัดอาหารมาให้ทั้งสอง เป็นบะหมี่ชามใหญ่ 1 ชามและชามเล็ก 1 ชาม
เมื่อพระผู้มีสมณศักดิ์สูงเห็นสำรับกับข้าวที่เณรยกมา จึงได้ยกบะหมี่ชามใหญ่ยื่นให้อุบาสกผู้นั้น ทั้งยังกล่าวว่า "ท่านรับประทานชามใหญ่เถอะ"
หากยึดตามธรรมเนียมปฏิบัติ อุบาสกผู้นั้นควรที่จะปฏิเสธและผลักไสบะหมี่ชามใหญ่กลับคืนไปยังพระสงฆ์ เพื่อแสดงความเคารพเกรงใจ ทว่าอุบาสกผู้นี้กลับรับชามบะหมี่มาโดยไม่อิดเอื้อน จากนั้นลงมือรับประทานทันที เมื่อพระผู้มีสมณศักดิ์สูงเห็นดังนั้นก็รู้สึกไม่พอใจจนหน้านิ่วคิ้วขมวดพลางคิดว่า "แรกทีเดียวคิดว่าคนผู้นี้มีสติปัญญาไม่น้อย ไฉนกลับกลายเป็นโง่เขลาไร้มารยาทเช่นนี้"
เมื่ออุบาสกรับประทานบะหมี่หมดชาม เงยหน้าขึ้นมาพบว่าพระรูปนั้นยังไม่ได้แตะต้องบะหมี่ชามเล็กแม้แต่น้อย ทั้งยังมีสีหน้าเย็นชา จึงยิ้มพลางเอ่ยถามว่า "พระคุณเจ้าไฉนไม่รับประทานบะหมี่?"
พระผู้มีสมณศักดิ์สูงเงียบงันไม่ตอบ อุบาสกจึงยิ้มและกล่าวต่อไปว่า "กระผมรู้สึกหิวยิ่งนัก จึงสนใจแต่ปากท้องของตนเองโดยลืมเลือนพระคุณเจ้าไป แต่หากจะให้กระผมผลักไสบะหมี่ชามใหญ่ที่พระคุณเจ้าหยิบยื่นมาให้กระผมกลับคืนไปยังพระคุณเจ้าอีก นั่นไม่ใช่ความตั้งใจของกระผม และในเมื่อไม่ได้ตั้งใจ จะต้องเสแสร้งแกล้งทำไปเพื่ออันใดเล่า ขอถามพระคุณเจ้าว่าการเกี่ยงกันด้วยความเกรงใจไปมานั้นที่แท้แล้วจุดมุ่งหมายคืออะไร?"
พระผู้มีสมณศักดิ์สูงตอบว่า "เพื่อรับประทาน"
อุบาสกจึงกล่าวอย่างจริงจังว่า "ในเมื่อจุดประสงค์คือเพื่อรับประทาน ท่านรับประทานหรือกระผมรับประทานก็ล้วนไม่ต่างกัน หรือว่าที่พระคุณเจ้าชิงมอบบะหมี่ชามใหญ่ให้กระผมนั้นเป็นเพียงการเสแสร้ง มิใช่น้ำใสใจจริง?"
เมื่ออุบาสกกล่าวจบ พระผู้มีสมณศักดิ์สูงจึงได้รู้แจ้งกระจ่างใจ กระทั่งหลั่งน้ำตาออกมา
ปัญญาเซน : การแสดงความเกรงใจที่มากเกินไปกลับกลายเป็นความเสแสร้ง การเคร่งครัดมารยาท มากพิธีจนเกินงามกลับกลายเป็นสิ่งไร้สาระ ทั้งนี้เพราะความซื่อสัตย์เปิดเผยจริงใจต่างหากจึงเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของการเป็นมนุษย์
ที่มา : หนังสือ 《菩提树下听禅的故事》, 惟真 เรียบเรียง, สำนักพิมพ์ 中国华侨出版社, 2004.08, ISBN 7-80120-851-X
08 กุมภาพันธ์ 2554
ค่าของคน
ค่าของคน
《圆满报身》
ยังมีศิษย์เซนผู้หนึ่ง เฝ้าพร่ำถามอาจารย์เซนทุกวันว่า “สิ่งใดคือคุณค่าที่แท้จริงของคนเรา?”
วันหนึ่ง อาจารย์เซนเดินออกมาจากห้องพร้อมกับก้อนหินหนึ่งก้อน จากนั้นเอ่ยกับศิษย์เจ้าปัญหาว่า “เจ้าจงเอาก้อนหินก้อนนี้ไปเร่ขายยังท้องตลาด แต่ไม่จำเป็นต้องขายออกไปจริงๆ เพียงแค่ทำให้มีผู้มาเสนอราคาขอซื้อก็เพียงพอแล้ว ลองดูสิว่าตลาดจะให้ราคาของก้อนหินก้อนนี้เท่าไหร่”
ศิษย์เซนนำก้อนหินไปเร่ขายยังท้องตลาด มีคนเห็นว่าหินก้อนนี้ทั้งใหญ่และเรียบสวย จึงให้ราคา 2 ตำลึง อีกผู้หนึ่งเห็นว่าหินก้อนนี้น่าจะนำไปทำเป็นลูกกลิ้งหรือลูกตุ้มถ่วงน้ำหนักได้อย่างดี จึงให้ราคาถึง 10 ตำลึง หลังจากนั้น แม้ว่าจะมีผู้แวะเวียนเข้ามาชมดูก้อนหินมากมาย แต่ราคาที่สูงสุดที่ได้จากท้องตลาดคือ 10 ตำลึง
เมื่อศิษย์เซนนำก้อนหินกลับมายังวัด ก็ถ่ายทอดเรื่องราวที่ตนเร่ขายก้อนหินธรรมดาๆ จนได้ราคาถึง 10 ตำลึงให้อาจารย์ฟังด้วยความยินดียิ่ง
เมื่อฟังจบ อาจารย์เซนเพียงแต่กล่าวว่า “เจ้าจงนำหินก้อนนี้ไปเร่ขายอีกครั้ง ยังตลาดค้าทอง”
ศิษย์เซนจึงเดินทางไปยังตลาดค้าทอง จากนั้นนำก้อนหินออกมาเร่ขาย คราวนี้เพียงแค่เริ่มต้นก็มีผู้เสนอราคาก้อนหินถึง 1 พันตำลึง จากนั้นราคาก็ขึ้นมาเป็น 1 หมื่นตำลึง และสุดท้ายจบลงที่ราคา สิบหมื่นตำลึง
เมื่อศิษย์เซนเห็นผลลัพธ์เกินความคาดหมายถึงเพียงนั้น จึงรีบกลับมารายงานอาจารย์เซน ทว่าอาจารย์เซนเพียงกล่าวว่า “พรุ่งนี้เจ้าจงนำก้อนหินก้อนนี้ไปเร่ขายยังตลาดค้าเพชรพลอย ซึ่งเป็นตลาดระดับสูงที่สุดดู”
เมื่อศิษย์เซนนำก้อนหินไปเร่ขายตามคำสั่งของอาจารย์ พบว่าราคาของก้อนหินขึ้นพรวดพราดไปเรื่อยๆ จากสิบหมื่นตำลึง ยี่สิบหมื่นตำลึง สามสิบหมื่นตำลึง จนกระทั่งมีผู้เข้าใจว่าที่ศิษย์เซนยังไม่ยอมตกลงใจขายก้อนหินเป็นเพราะยังไม่ได้ราคาเหมาะสม จึงเสนอให้ตั้งราคาขึ้นมาเองตามใจชอบอย่างไม่อั้นได้เลยว่าจะขายที่ราคาเท่าไหร่ ศิษย์เซนได้แต่อธิบายต่อผู้คนที่สนใจซื้อก้อนหินว่าตนทำตามคำสั่งอาจารย์ มิอาจขายก้อนหินออกไปจริงๆ ได้ จากนั้นจึงเดินทางกลับวัด พร้อมทั้งบอกอาจารย์เซนว่า "ตอนนี้ราคาของก้อนหินพุ่งขึ้นไปถึงหลักสิบหมื่นตำลึงแล้ว”
เมื่ออาจารย์เซนฟังจบ จึงกล่าวว่า “นั่นก็ใช่แล้ว ที่ข้าไม่อาจสั่งสอนเจ้าได้ว่าชีวิตมีคุณค่าเพียงใด ก็เพราะนั่นจะเป็นการตีราคาชีวิตของเจ้าโดยผ่านมุมมองภายนอกไม่ต่างจากการตีราคาก้อนหิน ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วคุณค่าของมนุษย์ทุกคนล้วนต้องกระจ่างอยู่ภายในจิตใจของคนผู้นั้นเอง จงมีสายตาแหลมคมดั่งนักค้าเพชรพลอยเสียก่อน จึงจะสามารถเห็นซึ้งถึงคุณค่าที่แท้จริงของคนเรา”
ปัญญาเซน : มนุษย์ทุกคนล้วนมีคุณค่าอยู่ในตัวเอง จงตระหนักในคุณค่าแห่งตน ยอมรับตนเอง ฝึกฝนตนเอง ให้ช่องว่างกับตัวเองได้เติบโต ทุกคนล้วนสามารถกลายเป็นสิ่งมีค่าอันประเมินมิได้ ทุกขวากหนาม ทุกความเจ็บปวด ทุกความพ่ายแพ้ล้วนแล้วแต่มีความหมายอย่างยิ่งต่อชีวิตของคนเรา
ที่มา : หนังสือ 《禅的故事精华版》, 慕云居 เรียบเรียง, สำนักพิมพ์ 地震出版社, 2006.12, ISBN 7-5028-2995-4
《圆满报身》
ยังมีศิษย์เซนผู้หนึ่ง เฝ้าพร่ำถามอาจารย์เซนทุกวันว่า “สิ่งใดคือคุณค่าที่แท้จริงของคนเรา?”
วันหนึ่ง อาจารย์เซนเดินออกมาจากห้องพร้อมกับก้อนหินหนึ่งก้อน จากนั้นเอ่ยกับศิษย์เจ้าปัญหาว่า “เจ้าจงเอาก้อนหินก้อนนี้ไปเร่ขายยังท้องตลาด แต่ไม่จำเป็นต้องขายออกไปจริงๆ เพียงแค่ทำให้มีผู้มาเสนอราคาขอซื้อก็เพียงพอแล้ว ลองดูสิว่าตลาดจะให้ราคาของก้อนหินก้อนนี้เท่าไหร่”
ศิษย์เซนนำก้อนหินไปเร่ขายยังท้องตลาด มีคนเห็นว่าหินก้อนนี้ทั้งใหญ่และเรียบสวย จึงให้ราคา 2 ตำลึง อีกผู้หนึ่งเห็นว่าหินก้อนนี้น่าจะนำไปทำเป็นลูกกลิ้งหรือลูกตุ้มถ่วงน้ำหนักได้อย่างดี จึงให้ราคาถึง 10 ตำลึง หลังจากนั้น แม้ว่าจะมีผู้แวะเวียนเข้ามาชมดูก้อนหินมากมาย แต่ราคาที่สูงสุดที่ได้จากท้องตลาดคือ 10 ตำลึง
เมื่อศิษย์เซนนำก้อนหินกลับมายังวัด ก็ถ่ายทอดเรื่องราวที่ตนเร่ขายก้อนหินธรรมดาๆ จนได้ราคาถึง 10 ตำลึงให้อาจารย์ฟังด้วยความยินดียิ่ง
เมื่อฟังจบ อาจารย์เซนเพียงแต่กล่าวว่า “เจ้าจงนำหินก้อนนี้ไปเร่ขายอีกครั้ง ยังตลาดค้าทอง”
ศิษย์เซนจึงเดินทางไปยังตลาดค้าทอง จากนั้นนำก้อนหินออกมาเร่ขาย คราวนี้เพียงแค่เริ่มต้นก็มีผู้เสนอราคาก้อนหินถึง 1 พันตำลึง จากนั้นราคาก็ขึ้นมาเป็น 1 หมื่นตำลึง และสุดท้ายจบลงที่ราคา สิบหมื่นตำลึง
เมื่อศิษย์เซนเห็นผลลัพธ์เกินความคาดหมายถึงเพียงนั้น จึงรีบกลับมารายงานอาจารย์เซน ทว่าอาจารย์เซนเพียงกล่าวว่า “พรุ่งนี้เจ้าจงนำก้อนหินก้อนนี้ไปเร่ขายยังตลาดค้าเพชรพลอย ซึ่งเป็นตลาดระดับสูงที่สุดดู”
เมื่อศิษย์เซนนำก้อนหินไปเร่ขายตามคำสั่งของอาจารย์ พบว่าราคาของก้อนหินขึ้นพรวดพราดไปเรื่อยๆ จากสิบหมื่นตำลึง ยี่สิบหมื่นตำลึง สามสิบหมื่นตำลึง จนกระทั่งมีผู้เข้าใจว่าที่ศิษย์เซนยังไม่ยอมตกลงใจขายก้อนหินเป็นเพราะยังไม่ได้ราคาเหมาะสม จึงเสนอให้ตั้งราคาขึ้นมาเองตามใจชอบอย่างไม่อั้นได้เลยว่าจะขายที่ราคาเท่าไหร่ ศิษย์เซนได้แต่อธิบายต่อผู้คนที่สนใจซื้อก้อนหินว่าตนทำตามคำสั่งอาจารย์ มิอาจขายก้อนหินออกไปจริงๆ ได้ จากนั้นจึงเดินทางกลับวัด พร้อมทั้งบอกอาจารย์เซนว่า "ตอนนี้ราคาของก้อนหินพุ่งขึ้นไปถึงหลักสิบหมื่นตำลึงแล้ว”
เมื่ออาจารย์เซนฟังจบ จึงกล่าวว่า “นั่นก็ใช่แล้ว ที่ข้าไม่อาจสั่งสอนเจ้าได้ว่าชีวิตมีคุณค่าเพียงใด ก็เพราะนั่นจะเป็นการตีราคาชีวิตของเจ้าโดยผ่านมุมมองภายนอกไม่ต่างจากการตีราคาก้อนหิน ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วคุณค่าของมนุษย์ทุกคนล้วนต้องกระจ่างอยู่ภายในจิตใจของคนผู้นั้นเอง จงมีสายตาแหลมคมดั่งนักค้าเพชรพลอยเสียก่อน จึงจะสามารถเห็นซึ้งถึงคุณค่าที่แท้จริงของคนเรา”
ปัญญาเซน : มนุษย์ทุกคนล้วนมีคุณค่าอยู่ในตัวเอง จงตระหนักในคุณค่าแห่งตน ยอมรับตนเอง ฝึกฝนตนเอง ให้ช่องว่างกับตัวเองได้เติบโต ทุกคนล้วนสามารถกลายเป็นสิ่งมีค่าอันประเมินมิได้ ทุกขวากหนาม ทุกความเจ็บปวด ทุกความพ่ายแพ้ล้วนแล้วแต่มีความหมายอย่างยิ่งต่อชีวิตของคนเรา
ที่มา : หนังสือ 《禅的故事精华版》, 慕云居 เรียบเรียง, สำนักพิมพ์ 地震出版社, 2006.12, ISBN 7-5028-2995-4
07 กุมภาพันธ์ 2554
วันแห่งความภาคภูมิใจ
วันนี้มีพิธีพระราชทานปริญญาบัตรให้กับมหาวิทยาลับแห่งหนึ่ง ในจ.พิษณุโลก
หลายท่านเป็นดุษฏีบัณฑิต มหาบัณฑิต และบัณฑิตอย่างเต็มตัว
หลายปีในระบบการศึกษา ได้บ่มเพาะหลายๆอย่าง
ผมเคยได้รับการสั่งสอนจาก อ.สมศรี จินตนสนธิ ว่า การลอกข้อสอบ การทุจริต ไม่ใช่การโกหกครูผู้สอนเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการโกหกต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันรับปริญญา
เสียงนั้นยังดังก้องหูผมตลอดเวลา ท่านไม่ได้ว่าใครโดยตรง แต่ท่านกำลังสอนในศีลธรรม เรื่องความซื่อสัตย์ และการให้เกียรติตัวเอง (ท่านพูดในช่วงที่มหาวิทยาลัยของผม กำลังมีกำหนดการรับพระราชทานปริญญาบัตร ถ้าจำไม่ผิด น่าจะประมาณปี 2550)
ที่สำคัญ
ในวันรับปริญญา
คนที่หน้าบาน หน้าใหญ่มากที่สุด คือพ่อแม่ของบัณฑิต มหาบัณฑิตทั้งหลาย.... ไม่เชื่อ ลองไปขยายรูปดูสิครับ
(เสียดายที่บางคนอายเพื่อน ที่มีพ่อแม่จน มีพ่อแม่เป็นชาวนา ไม่ถ่ายรูปกับพ่อแม่ ไม่อยากให้พ่อแม่มางานรับปริญญา คนแบบนี้ไม่สมควรที่จะเรียกตัวเองว่า...ปัญญาชน)
หลายท่านเป็นดุษฏีบัณฑิต มหาบัณฑิต และบัณฑิตอย่างเต็มตัว
หลายปีในระบบการศึกษา ได้บ่มเพาะหลายๆอย่าง
ผมเคยได้รับการสั่งสอนจาก อ.สมศรี จินตนสนธิ ว่า การลอกข้อสอบ การทุจริต ไม่ใช่การโกหกครูผู้สอนเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการโกหกต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันรับปริญญา
เสียงนั้นยังดังก้องหูผมตลอดเวลา ท่านไม่ได้ว่าใครโดยตรง แต่ท่านกำลังสอนในศีลธรรม เรื่องความซื่อสัตย์ และการให้เกียรติตัวเอง (ท่านพูดในช่วงที่มหาวิทยาลัยของผม กำลังมีกำหนดการรับพระราชทานปริญญาบัตร ถ้าจำไม่ผิด น่าจะประมาณปี 2550)
ที่สำคัญ
ในวันรับปริญญา
คนที่หน้าบาน หน้าใหญ่มากที่สุด คือพ่อแม่ของบัณฑิต มหาบัณฑิตทั้งหลาย.... ไม่เชื่อ ลองไปขยายรูปดูสิครับ
(เสียดายที่บางคนอายเพื่อน ที่มีพ่อแม่จน มีพ่อแม่เป็นชาวนา ไม่ถ่ายรูปกับพ่อแม่ ไม่อยากให้พ่อแม่มางานรับปริญญา คนแบบนี้ไม่สมควรที่จะเรียกตัวเองว่า...ปัญญาชน)
06 กุมภาพันธ์ 2554
@อาลัย ทองใบ ทองเปาด์@ โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
@อาลัย ทองใบ ทองเปาด์@ โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
@ รายทางประชาธิปไตย
มีดอกไม้มีหลุมศพ
จารึกอันเลือนลบ
กับคืนวันกาลเวลา
@ โหดระห่ำกระหน่ำกรู
ก็หาญสู้พายุกล้า
คราบเลือดและน้ำตา
ยังทาบทาที่ขอบธง
@ ทองใบ ทองเปาด์ ยัง
ยืนอยู่อย่างผู้ทระนง
ผู้สู้ผู้สืบทรง
บริสุทธิ์และยุติธรรม
@ ปากเสียงของคนยาก
และปากกาอันคงคำ
ให้จดและให้จำ
เป็นตำนานแห่งยุคสมัย
@ เป็นหนึ่งในรายทาง
ประชาธิปไตยไทย
จารึกผนึกใจ
นาม "ทองใบ ทองเปาด์" นิรันดร์ฯ
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
พฤ.๒๗/๑/๕๔
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
ขอบพระคุณ อ.เนารัตน์ครับ ที่เขียนกลอนเตือนสติคนไทยหลายต่อหลายครั้ง
@ รายทางประชาธิปไตย
มีดอกไม้มีหลุมศพ
จารึกอันเลือนลบ
กับคืนวันกาลเวลา
@ โหดระห่ำกระหน่ำกรู
ก็หาญสู้พายุกล้า
คราบเลือดและน้ำตา
ยังทาบทาที่ขอบธง
@ ทองใบ ทองเปาด์ ยัง
ยืนอยู่อย่างผู้ทระนง
ผู้สู้ผู้สืบทรง
บริสุทธิ์และยุติธรรม
@ ปากเสียงของคนยาก
และปากกาอันคงคำ
ให้จดและให้จำ
เป็นตำนานแห่งยุคสมัย
@ เป็นหนึ่งในรายทาง
ประชาธิปไตยไทย
จารึกผนึกใจ
นาม "ทองใบ ทองเปาด์" นิรันดร์ฯ
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
พฤ.๒๗/๑/๕๔
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
ขอบพระคุณ อ.เนารัตน์ครับ ที่เขียนกลอนเตือนสติคนไทยหลายต่อหลายครั้ง
05 กุมภาพันธ์ 2554
วันนี้ผมมีความสุขมาก
วันนี้ผมมีความสุขมาก
เป็นความสุขที่แปลก
เป็นความสุขที่เกิดจากเพื่อนคนหนึ่ง
ผมจะขยันเรียนรู้เรื่องต่างๆให้มากขึ้นครับ
เป็นความสุขที่แปลก
เป็นความสุขที่เกิดจากเพื่อนคนหนึ่ง
ผมจะขยันเรียนรู้เรื่องต่างๆให้มากขึ้นครับ
04 กุมภาพันธ์ 2554
วันแห่งความเหนื่อย
ทำไมวันนี้รู้สึกเหนื่อยจัง
ยิ่งตอนเช้า รู้สึกเพลียมาก
ร่างกายก็แย่ มีแต่ใจที่ต้องสู้ๆ
สู้ๆ นักสู้พันธุ์ข้าวสวย + ข้าวเหนียว + ข้าวหลาม + ข้าวก้นบาตร
ป๊าดดดโธ่...
ยิ่งตอนเช้า รู้สึกเพลียมาก
ร่างกายก็แย่ มีแต่ใจที่ต้องสู้ๆ
สู้ๆ นักสู้พันธุ์ข้าวสวย + ข้าวเหนียว + ข้าวหลาม + ข้าวก้นบาตร
ป๊าดดดโธ่...
03 กุมภาพันธ์ 2554
กิจกรรมการวางแผนแก้ปัญหา
วันนี้กิจกรรมลูกเสือ ได้ไห้เด็กเล่นเกมส์ที่คิดขึ้นมา
คล้ายๆกับเล่นหัวใบ้ ท้ายบอด แต่ให้หันหลัง รอบแรกไม่ให้หลับตา รอบที่สองให้หลับตา โยเดินถอยให้ ให้เพียงคนหลังสุดค่อยหาวิธีส่งสัญญานให้ไปทางซ้าย หรือขวา แต่ห้ามพูด
มีการล้มกลิ้ง มีแผลบ้าง แต่ก็ต้องให้เด็กเรียนรูการวางแผน
การหาข่าว
การวิเคราะห์ข่าว แล้วนำมาหาทางเป็นไปได้
บางกลุ่มก็ใช้กลยุทธ์ หาวิธี(โกง) ให้ตนเองรอดพ้นจากการลงโทษสุดมันส์
เราสามารถหาเกมง่ายๆ ให้นักเรียนเล่น โดยส่งเสริมการคิด ยิ่งคุณครูที่เคยเรียน นศท. มา ถ้าสามารถนำความรู้เหล่านั้นมาประยุกต์สอนเด็กได้ เด็กจะได้ทั้งวิธีคิด ประสบการณ์ และความรักชาติครับ
คล้ายๆกับเล่นหัวใบ้ ท้ายบอด แต่ให้หันหลัง รอบแรกไม่ให้หลับตา รอบที่สองให้หลับตา โยเดินถอยให้ ให้เพียงคนหลังสุดค่อยหาวิธีส่งสัญญานให้ไปทางซ้าย หรือขวา แต่ห้ามพูด
มีการล้มกลิ้ง มีแผลบ้าง แต่ก็ต้องให้เด็กเรียนรูการวางแผน
การหาข่าว
การวิเคราะห์ข่าว แล้วนำมาหาทางเป็นไปได้
บางกลุ่มก็ใช้กลยุทธ์ หาวิธี(โกง) ให้ตนเองรอดพ้นจากการลงโทษสุดมันส์
เราสามารถหาเกมง่ายๆ ให้นักเรียนเล่น โดยส่งเสริมการคิด ยิ่งคุณครูที่เคยเรียน นศท. มา ถ้าสามารถนำความรู้เหล่านั้นมาประยุกต์สอนเด็กได้ เด็กจะได้ทั้งวิธีคิด ประสบการณ์ และความรักชาติครับ
02 กุมภาพันธ์ 2554
เสร็จสักที โปรเจคเตอร์ใหม่
ในที่สุด ก็ได้โปรเจคเตอร์ใหม่สักที หลังจากรอคอยมานาน
วันนี้ช่างติดตั้งให้เสร็จแล้ว
ลองทดสอบ ได้ระยะพอดี
พรุ่งนี้ ลองให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ชุดใหม่ ชุดเครื่องเสียง mini และกระดาน IP Board เนาะ
วันนี้ช่างติดตั้งให้เสร็จแล้ว
ลองทดสอบ ได้ระยะพอดี
พรุ่งนี้ ลองให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ชุดใหม่ ชุดเครื่องเสียง mini และกระดาน IP Board เนาะ
01 กุมภาพันธ์ 2554
ฝันดีตอนรุ่งสาง มงคลแห่งชีวิตจริงๆ
วันนี้ฝันดี
รู้สึกตัวตื่นแล้วมาครั้งหนึ่ง แต่อากาสที่หนาวเย็น เหมือนขับกล่อมให้ซุกตัวใต้ผ้าห่มอีก
ผมก็ฝันว่า ได้เข้าไปที่หอประชุมแห่งหนึ่ง มีนักศึกษาเต็มไปหมด
มีคนมาทักผมว่า มาทำไม ผมบอกว่า ผมเรียนจบ ปวค. ห้อง 5/3 (เลยเข้าใจว่า น่าจะเป็นการซ้อมรับปริญญา หรืออาจจะรับจริง)
แล้วองค์ประธานก็เสด็จมา
บนเวทีนั้น คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในหลวงทรงเสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตร....
ในฝัน ผมไม่เห็นตัวเองรับปริญญาบัตร แต่ผมได้รับมอบหนังสือเล่มหนึ่งมีความหนาพอสมควร และที่หน้าปก มีเมล็ดข้าวหลายเม็ด ถูกปิดด้วยพลาสเตอร์ใส (เต็มหน้าปก) ท่านทรงตรัสว่า "มีคนทูลเกล้าฯถวายเรา เรามอบให้เจ้า" ในฝัน ผมดีใจมาก พอลงเวทีมา เพื่อนๆก็ขอแบ่ง ผมหยิบให้เขาคนละนิด คนละหน่อย แต่ไม่หมดสักที
แล้วแต่ละคนค่อยๆออกจากหอประชุม ซึ่งในหลวงท่านยังทรงประทับอยู่ และทรงดนตรีเพียงลำพัง ผมจำได้ เสียงเปียนโนที่พระองค์ทรงดนตรี ฟังแล้วรู้สึกร่าเริง
แล้วผมก็เดินขึ้นไป ตอนนั้นเปลี่ยนชุดเป็นชุดปกติขาวตอนไหนก็ไม่รู้ ผมค่อยๆคลานเข้าไปหาพระองค์ท่าน ท่านทรงหยุดเล่น แล้วตรัสว่า มีอะไร
ผมเงยหน้า กราบทูลว่า ผมอยากกราบแทบพระบาทของพระองค์ท่าน อยากสักครั้งในชีวิต ผมไม่อยากรอให้มีตำแหน่งใหญ่โตแล้วจึงมีโอกาสเข้าเฝ้าฯ
ในหลวงท่านทรงลูบหัวผม แล้วตรัสว่า
"อะไรที่ทำก็ดีแล้ว ให้เสียสละเพื่อคนอื่น เพื่อเด็กต่อไป เดี๋ยวผลดีก็จะกลับมาหาเราเอง"
ตอนนั้นในฝัน ผมเกิดปิติ น้ำตาไหล ดีใจมากๆ
แล้วก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา รู้สึกน้ำตาไหลจริง
ผมถือว่า ความฝันครั้งนี้ เป็นมหามงคลสำหรับตัวผม
แล้ววันหนึ่ง ผมต้องกราบแทบพระบาทของในหลวงให้ได้ ผมจะเป็นข้าราชการที่ดี และทำเพื่อคนอื่ นทำเพื่อเด็ก ดั่งคำสอนของท่านครับ
รู้สึกตัวตื่นแล้วมาครั้งหนึ่ง แต่อากาสที่หนาวเย็น เหมือนขับกล่อมให้ซุกตัวใต้ผ้าห่มอีก
ผมก็ฝันว่า ได้เข้าไปที่หอประชุมแห่งหนึ่ง มีนักศึกษาเต็มไปหมด
มีคนมาทักผมว่า มาทำไม ผมบอกว่า ผมเรียนจบ ปวค. ห้อง 5/3 (เลยเข้าใจว่า น่าจะเป็นการซ้อมรับปริญญา หรืออาจจะรับจริง)
แล้วองค์ประธานก็เสด็จมา
บนเวทีนั้น คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในหลวงทรงเสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตร....
ในฝัน ผมไม่เห็นตัวเองรับปริญญาบัตร แต่ผมได้รับมอบหนังสือเล่มหนึ่งมีความหนาพอสมควร และที่หน้าปก มีเมล็ดข้าวหลายเม็ด ถูกปิดด้วยพลาสเตอร์ใส (เต็มหน้าปก) ท่านทรงตรัสว่า "มีคนทูลเกล้าฯถวายเรา เรามอบให้เจ้า" ในฝัน ผมดีใจมาก พอลงเวทีมา เพื่อนๆก็ขอแบ่ง ผมหยิบให้เขาคนละนิด คนละหน่อย แต่ไม่หมดสักที
แล้วแต่ละคนค่อยๆออกจากหอประชุม ซึ่งในหลวงท่านยังทรงประทับอยู่ และทรงดนตรีเพียงลำพัง ผมจำได้ เสียงเปียนโนที่พระองค์ทรงดนตรี ฟังแล้วรู้สึกร่าเริง
แล้วผมก็เดินขึ้นไป ตอนนั้นเปลี่ยนชุดเป็นชุดปกติขาวตอนไหนก็ไม่รู้ ผมค่อยๆคลานเข้าไปหาพระองค์ท่าน ท่านทรงหยุดเล่น แล้วตรัสว่า มีอะไร
ผมเงยหน้า กราบทูลว่า ผมอยากกราบแทบพระบาทของพระองค์ท่าน อยากสักครั้งในชีวิต ผมไม่อยากรอให้มีตำแหน่งใหญ่โตแล้วจึงมีโอกาสเข้าเฝ้าฯ
ในหลวงท่านทรงลูบหัวผม แล้วตรัสว่า
"อะไรที่ทำก็ดีแล้ว ให้เสียสละเพื่อคนอื่น เพื่อเด็กต่อไป เดี๋ยวผลดีก็จะกลับมาหาเราเอง"
ตอนนั้นในฝัน ผมเกิดปิติ น้ำตาไหล ดีใจมากๆ
แล้วก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา รู้สึกน้ำตาไหลจริง
ผมถือว่า ความฝันครั้งนี้ เป็นมหามงคลสำหรับตัวผม
แล้ววันหนึ่ง ผมต้องกราบแทบพระบาทของในหลวงให้ได้ ผมจะเป็นข้าราชการที่ดี และทำเพื่อคนอื่ นทำเพื่อเด็ก ดั่งคำสอนของท่านครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ