30 มิถุนายน 2552

มีหนังสือ 1 เล่ม คือมีครู 1 คน

เมื่อก่อน
ผมเคยได้ยินมาว่า "คุณมีหนังสือ 1 เล่ม คือคุณมีครู 1 คน"
หมายความว่า เมื่อมีปัญหา คุณเปิดหนังสืออ้างอิงได้

ผมเลยตัดสินใจซื้อหนังสือทุกครั้ง เมื่อเห็นว่าจะสามารถใช้งานได้
ทุกวันนี้ ผมมีมหาวิทยาลัยครู "ส่วนตัว" แล้วครับ 555

29 มิถุนายน 2552

เคล็ดลับครูดีเด่น

วันนี้ขอนำเสนอ เคล็ดลับครูดีเด่น ฉบับ พิริยะ

1.มาสาย

(...ยังมาไม่ถึง)

2.บ่ายหลับ


3.เย็นกลับก่อน




คลิปลับครู แอบถ่ายครู

555 ถ่ายแล้วเอาไปให้นายดู ตัดคู่แข่ง 555

28 มิถุนายน 2552

วันที่อ่อนล้า

วันนี้เหนื่อยอ่อนมาก
ใครเลยจะรู้ว่า การเป็นครุเหนื่อยขนาดไหน ทั้งๆที่พยายามทำงานการสอนให้ดี แต่ก็ต้องมีอุปสรรคเพราะงานอื่นๆนี้แหละ เค้าบอกว่าเป็นงานที่สนับสนุนให้การศึกษาดีขึ้น

โธ่ ถ้าจะให้การศึกษาดีขึ้น เวลารับอัตราจ้าง-ธุรการ อย่าเล่นเส้นสิครับ

วันนี้เลยนอนทั้งวัน

นอน
นอน
นอน

เอาละ มาดูคลิปลับ คลิปหลุด คลิปน่ารัก กันดีกว่า


เป็นไงบ้างครับ คลิปลับ ปังคุง

27 มิถุนายน 2552

เรื่องของเงิน

วันนี้ขี่รถมอเตอร์ไซต์ไปรับงาน
อย่างมาแหละครับ มันก็เรื่องของเงินๆๆๆๆ ใครบ้างละ ไม่อยากได้เงิน

เมื่อมีเงิน ก็มีข้อสงสัย ไม่เข้าใจมาตั้งนานว่า ดอกเบี้ยเงินฝาก ที่เกี่ยวกับการฝากประจำเป็นอย่างไร เลยลองค้นมาดู
เมื่อคนหามาแล้ว ก็นำมาไว้ในที่นี้เลยนะครับ

บัญชีเงินฝาก
ธนาคารแทบทุกแห่งต่างก็จะมีลักษณะของบัญชีเงินฝากที่เหมือนๆกัน เพียงแต่อาจจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไปแค่นั้นเอง
บัญชีเงินฝาก
บัญชีปลอดภาษี เหมาะสำหรับการออมที่สุด
บัญชีออมทรัพย์บางธนาคารก็จะเรียกว่าบัญชีสะสมทรัพย์สมัยเด็กๆหากท่านมีบัญชีกับธนาคารออมสินท่านอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า เผื่อเรียกเสียมากกว่า คิดว่าทุกท่านก็คงจะมีบัญชีประเภทนี้อย่างน้อย 1 บัญชีอยู่แล้ว และทราบดีว่าบัญชีนี้ทำงานอย่างไร
เมื่อคุณเปิดบัญชีก็จะมีสมุดคู่ฝากโดยใช้บัตรประชาชนเพียงอย่างเดียว ท่านจะฝากจะถอนเมื่อไหร่ก็ได้ไม่จำกัดวงเงิน ตราบเท่าที่บัญชียังมีเงินอยู่ การฝากและถอนเงินอาศัยลายเซ็นเป็นสำคัญ แต่เพื่อความปลอดภัยอาจจะมีการขอดูบัตรประชาชนเวลาถอน เงินของท่านที่มีอยู่ในบัญชีจะได้รับดอกเบี้ยตามอัตราที่ธนาคารกำหนด ซึ่งการคำนวนดอกเบี้ยจะคำนวนรายวันแล้วทบต้นให้ทุกๆ 6 เดือนท่านไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมอะไรเลยยกเว้นว่าท่านจะมีบัตร ATM
แทบทุกธนาคารก็จะเสนอให้คุณมีบัตร ATM เพราะคุณก็จะสะดวกเวลาถอนเงินธนาคารก็ไม่ต้องจ้างแคชเชียร์เพิ่ม
ตามมาตรฐานคุณจะถอนผ่านบัตร ATM ได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อวัน บางธนาคารอาจให้มากกว่านั้นหรือคุณจะไปยื่นเรื่องขอเองก็ได้ ยอดการถอนนี้ไม่เกี่ยวกับยอดการถอนจาก counter ปกติธนาคารจะคิดค่าธรรมเนียมค่าใช้บัตร 100 บาทต่อปี เวลาคุณเช็คยอดคงเหลือผ่านเครื่อง ATM ก็จะเห็นว่าถอนได้น้อยไปจากเงินที่มีอยู่ 100 บาทเสมอ เดี๋ยวนี้ธนาคารบางแห่งจะหันมาคิดค่าธรรมเนียมขูดรีดกับประชาชน โดยหากคุณมีเงินต่ำกว่า 500 บาท หรือขาดการติดต่อกับธนาคารเกิน 1 ปี เค้าจะหักเงินคุณเดือนละ 50 บาทบ้าง 100 บ้าง พอเงินหมดก็จะได้ปิดบัญชีไป เพราะฉะนั้นว่างๆก็ไปฝากซะบ้าง สองสามร้อยก็ยังดี หรือไม่ก็ปิดไปเลย
เดี๋ยวนี้หลายธนาคารเริ่มหันมาประชาสัมพันธ์บัญชีออมทรัพย์ที่ไม่มีสมุดคู่ฝากมากขึ้น โดยผู้ฝากจะไม่มีสมุดคู่ฝากแต่จะได้รับ statement ทุกๆสิ้นเดือนแทน เหมือนธนาคารในต่างประเทศ

...บัญชีฝากประจำ
ชื่อบัญชีอาจฟังดูสับสนนิดๆ บัญชีนี้ไม่ใช่ว่าท่านจะต้องฝากเป็นประจำ แต่จะหมายถึงว่าคุณฝากแล้วต้องประจำที่ห้ามถอนระหว่างนั้น ทุกธนาคารก็จะให้บริการฝากประจำ 3,6,12,24 เดือน อัตราดอกเบี้ยอาจจะแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับว่าธนาคารต้องการระดมเงินมากแค่ไหน โดยทั่วไปทุกธนาคารจะฮั้วกันเพราะถ้าที่ไหนอัตรดอกเบี้ยสูงคนก็จะเฮโลกันไปฝากทำให้ธนาคารมีต้นทุนสูงขึ้น

การฝากประจำ 3 เดือนหมายความว่าเมื่อท่านฝากแล้วระหว่างนั้นท่านไม่ควรถอน เพราะหากไม่ครบกำหนดธนาคารก็จะไม่จ่ายดอกเบี้ยให้แม้แต่นิดเดียว แต่ถ้าคุณฝากประจำประเภท 6 เดือนขึ้นไปหากถอนหลังจากผ่านไป 3 เดือนธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอัตราออมทรัพย์ให้ เพียงแต่ถ้าน้อยกว่า 3 เดือนก็ไม่คิดให้เช่นกัน บัญชีประเภทนี้ ธนาคารไม่คิดค่าธรรมเนียมไดๆ ทั้งสิ้น

การฝากเงินในแต่ละครั้งธนาคารจะมีหมายเลขประจำงวดให้ และการนับเวลา 3 เดือน (หรือ 6,12,24) จะนับตามวันที่ในปฏิทินไม่ใช่นับจำนวนวันที่ฝาก เช่นคุณฝากเงินวันที่ 25 มกราคม วันครบกำหนด 3 เดือนคือ 25 เมษายน ครบ 6 เดือนวันที่ 25 กรกฏาคม เป็นต้น การคำนวนดอกเบี้ยก็ นำเอาอัตราที่ประกาศหารด้วย 12 แล้วคูณจำนวนเดือน เช่นคุณฝากเงิน 30,000 ประจำ 3 เดือน ที่อัตรา 2-2.25 % ต่อปี เมื่อครบกำหนด คุณจะได้ดอกเบี้ย 168.75 บาท หักภาษี 15 % เหลือสุทธิ 143.44 บาท หากคุณไม่ถอนในวันครบกำหนด ดอกเบี้ยก็จะถูกรวมเข้ากับเงินต้นแล้วฝากประจำงวดต่อไปทันที ตามอัตราดอกเบี้ยใหม่ (ซึ่งอาจจะต่ำกว่าสูงกว่าหรือเท่าเดิมก็ได้) หมายเลขประจำงวดก็จะยังเหมือนเดิม

ข้อแนะนำในการฝากประจำก็คือควรดูแนวโน้มดอกเบี้ยว่าจะเป็นอย่างไร หากแนวโน้มดอกเบี้ยจะลดลงคุณก็ฝากประจำประเภทที่ยาวขึ้น เพราะถึงดอกเบี้ยจะลดลงในวันถัดมา อัตราที่ธนาคารจะจ่ายให้คุณเมื่อครบกำหนดก็จะยังคงเดิม ถ้าแนวโน้มดอกเบี้ยจะสูงขึ้นคุณก็ควรฝากระยะ 3 เดือน เงินคุณก็จะได้เปลี่ยนไปรับดอกเบี้ยที่สูงกว่าได้เร็วขึ้น

หากคุณคิดว่าอาจจะมีความจำเป็นทางการเงินอีก 2 - 3 เดือนข้างหน้าแต่อยากฝากประจำเพราะได้ดอกเบี้ยสูงกว่า (แต่ช่วงนี้ฝากออมทรัพย์ดีกว่า หักภาษีแล้วต่างกันไม่มาก) แทนที่คุณจะฝากทั้งก้อนเช่น 30,000 บาท ถ้าจำเป็นต้องใช้เงิน 5000 บาท ก็ต้องถอนทั้งก้อน ดอกเบี้ยก็ไม่ได้เลย คุณควรหันมาฝากทีละงวด เช่น ต้นเดือนมกราคม ฝาก 10,000 บาท ที่เหลืออยู่ในบัญชีออมทรัพย์ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ฝากอีก 10,000 บาท และต้นเดือนมีนาคม ฝากอีก 10,000 บาท พอต้นเดือนเมษายน เงินงวดแรกครบกำหนดหากไม่จำเป็นต้องใช้ก็ปล่อยให้ดอกเบี้ยทบต้นฝากต่อไป คุณก็จะพบว่าทุกๆ ต้นเดือนก็จะถอนเงินได้ 10,000 บาทหากจำเป็น ถ้าต้องการมากกว่านั้น คุณก็ย้อนไปถอนงวดที่เพิ่งฝากไปเรื่อยๆ แต่วิธีนี้อาจจะไม่เหมาะกรณีดอกเบี้ยอยู่ในขาลง

บัญชีปลอดภาษี
หากคุณต้องการออมเงินระยะยาวตั้งแต่ 24 เดือนขึ้นไป อาจจะหันมาฝากบัญชีประเภทนี้แทนเพราะจะได้รับการยกเว้นภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก และอัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าบัญชีฝากประจำ 0.25 ? 0.75 % ต่อปี ส่วนข้อเสียก็คือคุณต้องฝากทุกงวด ๆ ละเท่าๆ กัน และขาดได้ไม่เกินที่ธนาคารกำหนด (เช่นไม่เกิน 2 เดือน หรือ 6 เดือนแล้วแต่ประเภทบัญชี) ข้อกำหนดทั่วไป จะมีดังนี้ บัญชีที่สามารถยกเว้นภาษีได้แก่ เพื่อการศึกษา เคหะ เพิ่มทรัพย์ วิวาห์ ชีวิต (ตัวอย่างของ ธ. ไทยพาณิชย์) จำนวนเงินฝากในแต่ละงวดไม่เกิน 25,000 เมื่อครบกำหนดเงินต้นต้องไม่เกิน 600,000 บาท ขาดฝากไม่เกิน 2 งวด ต้องฝากให้ครบกำหนดของแต่ละประเภทบัญชีที่ธนาคารกำหนด มีสิทธิขอยกเว้นภาษีได้ 1 คนต่อ 1 บัญชีเท่านั้น ต้องแจ้งหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีในวันที่เปิด (ป้องกันบัญชีซ้ำซ้อน) อย่างไรก็ตามแต่ละธนาคารอาจจะมีข้อกำหนดจำนวนเงินฝากขั้นต่ำ (500 หรือ 1000 บาท) การผิดนัดฝากเงิน และอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยหลักการแล้วคุณต้องฝากสม่ำเสมอจนกว่าจะครบกำหนด
ดอกเบี้ยที่ได้จะถูกนำมาทบต้นปีละ 2 ครั้งเหมือนบัญชีอื่นๆ ซึ่งบัญชีประเภทนี้เหมาะมากสำหรับคนที่อยู่ในระยะเริ่มแรกของการออม (หลังจากสะสมเงินฉุกเฉินไว้แล้ว) เช่นออมเงินไว้ดาวน์บ้าน ซื้อรถ เพื่อการศึกษา เป็นต้น
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นรายละเอียดของการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ในบ้านเรา

26 มิถุนายน 2552

คำคม

คำค้ม..คม

คบคนพาลถ้าจริงใจก็ไม่ผิด คบบัณฑิตไม่จริงใจก็ไร้ผล

ทำดี ย่อมได้ดี ทำอัปปรีย์ มันจะได้ดีได้ยังไง

บางสิ่งเราก็ไม่ควรจำ...ถ้ามันทำให้ใจเจ็บ

แต่บางสิ่งเราก็ควรจะเก็บ..ถ้ามันเป็นความเจ็บที่น่าจำ!

อย่ามีหัว..ไว้ให้แค่ผมขึ้น.(รู้จักใช้ซะบ้างสมองอ่ะ..เดี๋ยวมันจะฝ่อ)

ความดีก็เหมือนกางเกงใน ต้องมีติดตัวไว้แต่ไม่ต้องเอามาโชว์

เจ็บแล้วจำ คือ คน เจ็บแล้วทน คือควาย

พอใจเท่าที่มี...ยินดีเท่าที่ได้

สิ่งที่สอนคนเราไม่ได้ ก็คือ "สามัญสำนึก"

ไปให้สุด..........แล้วหยุดแค่คำว่าพอ........

จงซื่อสัตย์กับแฟนตัวเอง แล้วจงครื้นเครงกับแฟนคนอื่น(จะดีไหมหว่า)

หากเดินตามรอยเท้าคนอื่น ก็ไม่มีวันมีรอยเท้าเป็นของตัวเอง

มาสาย กลับก่อน นอนกลางวัน มันส์กลางคืน

สุราไม่ได้สร้างวีระบุรุษ......แต่วีรบุรุษก็ขาดสุราไม่ได้

ความพยามครั้งที่ 100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ

When the candle are out, all women are fair (ทุกนาง...งามสรรพ...เมื่อดับเทียน 555)

สุขใดไม่เท่า ล้วงกระเป๋า แล้วเจอตังค์ 555

คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด..คนฉลาดย่อมเป็นเหยื่อของ..คนฉลาดที่แกล้งโง่

สามีคือเป้าหมาย ผู้ชายคือทางผ่าน คบเด็กคือนิพพาน ขึ้นคานคือตายทั้งเป็น

การดื่มเหล้าให้เมาไม่ใช่ยี่ห้อของสุรา..การศึกษาคือความรู้ที่ได้มาไม่ใช่สถาบัน

We can't dip into the future = อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

ยามศึกเรารบ ยามสงบเราปฏิวัติ (อันนี้ขำขำนะ อย่าเครียด เอิ้ก ๆ ๆ )

อ่อนโยน แต่อย่าอ่อนแอ

เมียซื้อเงินสด รถซื้อเงินผ่อน (สำหรับคนจะแต่งงาน อิอิ)

ถ้าคนเราไม่ปล่อยวางอดีต ก็จะไม่รู้จักอนาคต

มนุษย์ แท้จริงแล้วไม่ได้โตด้วยอาหาร แต่โตได้ด้วยความลำบาก

เมียรวยช่วยเราได้ ( 555)

เพื่อนกิน เพื่อนกัน เพื่อนกินไม่ทัน เพื่อนกันเอาไปกิน

ชะตาฟ้าลิขิต...แต่ชีวิตนะของกู

รักแท้ต้องแย่งชิง..รักจริงต้องปล่อยไป

ตัดกระดาษต้องใช้กรรไกร .แต่ตัดใจต้องใช้เวลา

กาเม มอระนัง ทุกขัง โลเก...(กามตายด้านเป็นทุกข์ในโลก)

รักดีกินถั่ว รักชั่วกินเหล้า..รักดีรักชั่ว กินถั่วแกล้มกะเหล้า เอิ้ก ๆ ๆ

สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วชนะก็คือ "การที่คนดีนิ่งดูดาย"

กำขี้ดีกว่ากำตด แต่ถ้ากำขี้สดๆกำตดจะดีกว่ากำขี้

ทำแล้วเสียใจ ยังดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ

จุดยืนของเราทุกคนคือ ส้นตีน

กระบี่อยู่ที่ใจ แค่ไม้ไผ่ก้อไร้เทียมทาน

เห็นงานเป็นลม เห็นนมสู้ตาย สู้ว้อยยยยยยยยยย

ตัวอย่างที่ดี...มีค่ากว่าคำสอน

ดี-ชั่ว ไม่ได้เป็นกรรมพันธุ์...

25 มิถุนายน 2552

tomorrow can be too late

tomorrow can be too late

If you're mad with someone, and nobody's there to fix the situation... You fix it . Maybe today, that person still wants to be your friend . And if u don't, tomorrow can be too late .

ถ้าคุณโกรธใครขึ้นมาแล้วไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเพื่อช่วยแก้สถานการณ์ จงทำด้วยตัวเอง บางทีใครคนนั้นอาจจะยังคงอยากเป็นเพื่อนกับคุณอยู่ และ ถ้าคุณไม่ทำ พรุ่งนี้อาจสายเกินไป

If you're in love with somebody, but that person doesn't know... tell her/him. Maybe today, that person is also in love with you .And if you don't say it, tomorrow can be too late .

ถ้าคุณตกหลุมรักใครสักคนแต่คนๆ นั้นไม่รู้ จงบอกเค้าไป บางทีคนๆ นั้นอาจจะกำลังรักคุณอยู่ด้วยเช่นกัน และถ้าคุณไม่บอกเค้า บางทีพรุ่งนี้อาจจะสายเกินไป

If you still love a person that you think has forgetten you... tell her/him. Maybe that person have always loved you. And if you don't tell her/him today, tomorrow can be too late.

ถ้าคุณยังคงรักใครสักคนที่คุณคิดว่าป่านนี้เค้าคงลืมคุณไปแล้ว จงบอกเค้าวันนี้ บางทีเค้าอาจจะยังคงรักคุณอยู่เช่นกัน ถ้าคุณไม่บอกเค้าวันนี้ บางทีพรุ่งนี้อาจจะสายเกินไป

If you need a hug of a friend ... ask her/him for it. Maybe they need it more than you do. And if you don't ask for it today, tomorrow can be too late.

ถ้าคุณต้องการการกอดจากเพื่อนสักคนหนึ่ง บอกเค้าสิ บางทีพวกเค้าอาจกำลังอยากให้คุณกอดมากกว่าที่คุณเป็นเสียอีก และถ้าคุณไม่ทำวันนี้ บางทีพรุ่งนี้อาจจะสายเกินไป

If you really have friends who you appreciate... tell themMaybe they appreciate you as well. That if you don't and they leave or go far away today, tomorrow can be too late.

ถ้าคุณรู้สึกว่าเพื่อนคุณแสนดีเหลือเกิน จงบอกพวกเค้าด้วย เพราะเค้าเองก็อาจจกำลังรู้สึกอย่างเดียวกับคุณเช่นกัน ถ้าคุณไม่ทำแล้วเค้าต้องจากไปเสียแล้ว บางทีพรุ่งนี้อาจจะสายเกินไป

If you love your parents, and never had the chance to show them... do it. Maybe you have them there to show them how you feel. That if you don't and they leave today, then tomorrow can be too late.

ถ้าคุณรักพ่อแม่ของคุณและยังไม่มีโอกาสแสดงออกมา ทำซะเถอะ ท่านยังอยู่ตรงนั้นเพื่อให้คุณได้มีโอกาสแสดงให้ท่านรู้ หากท่านจากไปวันนี้ พรุ่งนี้ก็สายเกินไปเสียแล้ว

24 มิถุนายน 2552

กฎแห่งกรรม ภาค 2

13. ไปไหนมาไหนลำบาก มีแต่อุปสรรค กรรมจาก เคยทำลายหนทางสัญจรของวัด หรือของชาวบ้าน หรือทำให้ทางสัญจรสาธารณะได้รับความไม่สะดวก ลดกรรม บริจาคทรัพย์หรือแรงกายช่วงสร้างสะพาน สร้างทางอันเป็นประโยชน์แก่วัด หรือชุมชนเล็กๆ ช่วยผู้คนยากไร้ให้ ได้มียวดยานพาหนะหรือทางสัญจรที่สะดวก

14. เป็นคนรับใช้เขาร่ำไป กรรมจาก เคยเนรคุณผู้ที่เคยมีพระคุณแก่ตน ลดกรรม ตอบแทนผู้มีคุณด้วยความกตัญญู ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูป พระประธาน ทำทานทั้งกับคนและสัตว์

15. ขัดสน อดมื้อกินมื้อ กรรมจาก เคยละเว้นการใส่บาตร ละเว้นการให้ทาน เมื่อมีคนยากไร้มาขอทานอาหารและน้ำ ลดกรรม แบ่งปันอาหาร น้ำ เสื้อผ้า แก่คนยากไร้อนา! ถา แม้ไม่มีเงินก็แบ่งปันสิ่งของตามที่มี ตักบาตรทุกเช้าหรือทุกวันพระ

16. อาภัพคู่ ร้างคู่ กรรมจาก เคยผิดลูกผิดเมียเขา ลดกรรม บวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพงานแต่งงานคู่บ่าวสาวที่ยากจน ถวายของเป็นคู่ เช่น แจกันคู่ เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ เป็นต้น

17. ได้คู่ที่เลวร้าย ทำร้ายตนหรือทำให้เป็นทุกข์ กรรมจาก เคยข่มขืนเขาในชาติก่อน เคยทุบตีทำร้ายคู่ ลดกรรม บวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา

18. อยู่โดดเดี่ยวยามบั้นปลาย กรรมจาก เคยจับสัตว์ขัง ลดกรรม ทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ ปล่อยนกปล่อยกา ทำบุญทำทานแก่เด็กอนาถาและสัตว์อนาถา

19. รูปร่างหน้าไม่งดงาม กรรมจาก ไม่เคยถวายดอกไม้ของหอม ลดกรรม ถวายพวงมาลัยดอกไม้สด ดอกไม้หอม ทำบุญบริจาคดวงตา บริจาคร่างกายให้โรงพยาบาล

20. มักถูกโกง ถูกเบี้ยวเงิน กรรมจาก เคยคดโกงผู้อื่น! ลดกรรม สละทรัพย์บริจาคร่วมการกุศลต่างๆ ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลแก่เจ้ากรรมนายเวรทุกๆเดือน

21. พิการ ร่างกายไม่สมประกอบ กรรมจาก เคยทุบตีพ่อแม่ ด่าพ่อแม่ หรือทำร้ายพ่อแม่ ลดกรรม หมั่นทำบุญไหว้พระ ปล่อยนกปล่อยปลา ถือศีล 5 ศีล 8 เจริญภาวนา นั่งวิปัสสนากรรมฐาน

22. มีคดีความ กรรมจาก เคยพบคนทุกข์ร้อนแล้วไม่ช่วยหรือพยายามหาทางช่วยเหลือ ลดกรรม หมั่นทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา นั่งสมาธิ เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ถือศีล 8 ทุกๆ 3 เดือนๆละ 7 วัน

23. ไร้ที่อยู่เป็นหลักแหล่ง กรรมจาก ไม่สงเคราะห์คนอนาถา ที่มาขออาหาร ขอชายคาหลบฝน ไม่มีน้ำใจช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก ลดกรรม ร่วมทำบุญซื้อกระเบี้องหลังคาโบสถ์ หมั่นไปกราบไหว้บู! ชาศาลหลักเมือง ทำบุญทำทานแก่สัตว์พิการหรือสัตว์จรจัด

24. จิตใจขุ่นมัว ดุดัน ขี้โมโห กรรมจาก มักตะหนี่ในการทำบุญ ลดกรรม สวดมนต ์ไหว้พระ ทุกวันพระ ฝึกวิปัสสนากรรมฐาน ถือศีล 5 หรือศีล 8 ทุกๆ 3 เดือน บริจาคทาน แบ่งปันเงินทองหรือ สิ่งของแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก หรือร่วมทำบุญบริจาคทานกับมูลนิธิสถานสงเคราะห์ และวัดวาอารามต่างๆ

23 มิถุนายน 2552

วันเกิด ปีที่ 27 แก่ไปอีก 1 ปี

ผ่านไปแล้วอีก 1 ปี
แก่ลงอีก 1 ปี

ยังไม่ได้ทำอะไรหลายๆอย่าง
ยังไม่ได้เริ่มอะไรหลายๆอย่า

เมื่อวานก็เอาคืนมาไม่ได้
พรุ่งนี้ก็ยังไม่รู้จะเป็นอย่างไร

เฮ้อ

วันเกิดปีนี้ ไม่มีเลี้ยงฉลอง
ไม่ทานเนื้อสัตว์ เพราะไม่อยากเอาชีวิตคนอื่น มาต่อชีวิตเรา
ไม่มีงานเลี้ยงใหญ่โต

มีแต่อยากกลับไปกอดแม่ กอดพ่อ
ก่อนไม่มีโอกาสได้กอด

22 มิถุนายน 2552

โจรกางเกงแดง

เผยโฉมโจรกางเกงแดงที่มีฉายาว่า จ่าดับ จำเปาะ หรือ โกร่ง กางเกงแดง

ชื่อจริง พิชายุทธ เหน่งแดง


จับครูเป็นตัวประกัน เป็นการกระทำที่อุกอาจมาก

คู่หูของโกร่ง กางเกงแดงอีกคนคือ "ตั้ม มือตบ"

21 มิถุนายน 2552

กฎแห่งกรรม ภาค 1

1. กรรมที่ไม่มีลูก กรรมจาก การทำร้ายลูกของสัตว์อื่น พรากสัตว์อื่นจากพ่อแม่หรือเคยข่มเหงลูกคนอื่น ลดกรรม ด้วยการงดกินเนื้อสัตว์ทุกๆ 7 วัน ในทุกๆเดือนทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ ปล่อยนกปล่อยกา ทำบุญบริจาคทานที่มูลนิธิสัตว์หรือ มูลนิธิเด็กอ่อน

2. เจ็บป่วยบ่อย หรือเป็นโรคร้าย กรรมจาก เคยทำทารุณกรรมต่อสัตว์ ลดกรรม ด้วยการทำบุญทำทานกับสัตว์อนาถา ให้อาหารให้ความเมตตา ซื้อยาหรือบริจาคเงินที่โรงพยาบาลสงฆ์ ทำบุญปล่อยเต่า งดกินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต

3. ตาบอดหรือเป็นโรคตา กรรมจาก เคยทำร้ายสัตว์ที่ดวงตา หรือไม่เคยทำบุญเติมน้ำมันตะเกียงในชาติก่อน หรือเคยทำลายไฟฟ้าของวัด ของที่สารธารณะ ลดกรรม ซื้อโคมไฟ หลอดไฟถวายวัด ถวายเทียนห่อใหญ่ ถวายไฟฉาย เติมน้ำมันตะเกียงทุกวันพร! ะ บริจาคเงินในกล่อง ซื้อน้ำมันเติมตะเกียงที่วัด

4. ถูกรถเฉี่ยวชน ถูกลูกหลง ถูกสัตว์กัดต่อย กรรมจาก จากเคยเป็นคนพาลเกะกะเกเร หาเรื่องเดือดร้อนให้ผู้อื่น มักรังแกและสาปแช่งผู้อื่นอยู่เสมอ ลดกรรม หมั่นพูดดี มีวาจาไพเราะ

5. สูญเสียคนใกล้ชิด กรรมจาก เคยยิงนกตกปลา ลดกรรม ทำบุญไถ่ชีวิตโค กระบือ งดกินเนื้อสัตว์อย่างน้อยสัก 1 อย่างชั่วชีวิต หรือกินเจทุกๆ 3 เดือน ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา

6.ถูกนินทา ถูกให้ร้าย กรรมจาก เคยพูดจาให้เป็นเหตุให้คนอื่นเป็นทุกข์หรือเดือดร้อน ลดกรรม พิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี พูดดี พูดให้คนอื่นเกิดประโยชน์ พูดให้ผู้อื่นมีความสุข

7. มักเดือดร้อนเพราะไฟ ไฟไหม้บ้าน ไฟดูด กรรมจาก เคยลบหลู่พระสงฆ์ และศาสนา ลดกรรม ตักบาตรทุกวันพระ ทำบุญถวายสังฆทานทุกเดือน ฟังเทศน์ฟังธรรมทุกวันพระ หรือทุกๆเดือนในวันพระ ร่วมพิมพ์หนังสือ ธรรมะแจกจ่ายฟรี

8. ขาดบารมี ไร้ญาติขาดมิตร กรรมจาก ไม่เคยไปร่วมงานบุญงานศพ ลดกรรม ร่วมทำบุญงานศพ บริจาคเงิน หรือร่วมด้วยแรงกายช่วยงานอื่นๆในงานศพ เช่นทำอาหาร จัดดอกไม้

9. ตั้งหลักปักฐานไม่ได้ โยกย้ายบ่อย กรรมจาก ไม่เคยร่วมทำบุญสร้างโบสถ์สร้างวิหาร แก่วัดวาอารามต่างๆ ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ สร้างหลังคาวิหาร ร่วมทำบุญฝังลูกนิมิต หมั่นไปไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ณ เมืองที่ตนอยู่อาศัย

10. มักถูกรังแก ถูกเบียดเบียน กรรมจาก ไม่เคยบวช หรือทำบุญงานบวช ลดกรรม บวช ด้วยจิตศรัทธาปวารถาอย่างบริสุทธิ์ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงจะบวช 7 วัน หรือ 15 วัน 1 เดือน 1 พรรษา แล้วแต่ จิตศรัทธา ถ้าเป็นสตรีจะบวชชีพราหมณ์ หรือถือศีล 8 ตามเวลาที่สะดวกและตั้งจิตศรัทธา หรือร่วมทำบุญงานบวชอย่าง สม่ำเสมอเท่าที่จะทำได้

11.ไม่มีคนชื่นชมเอ็นดู ชาดเสน่ห์ กรรมจาก ไม่เคยถวายของหอม ลดกรรม หมั่นทำบุญไหว้พระทุกวันพระ ถวายธูปหอม เทียน ดอกไม้สด พวงมาลัย ทองคำเปลว ประน้ำอบน้ำปรุง ประพฤติดี ปฏิบัติชอบต่อผู้อื่น คิดดี ทำดี พูดดี ให้ผู้อื่นได้ดี มิให้ร้ายผู้ใด

12. เป็นที่รังเกียจ มีกลิ่นปาก กลิ่นตัว กรรมจาก ทำติเตียนดูแคลน ผู้ที่ชอบทำบุญทำทาน ลดกรรม หมั่นทำบุญทำทานอย่างสม่ำเสมอ ฟังเทศน์มหาชาติทุกๆปี ชักชวนผู้อื่นให้ร่วมทำบุญหรือบริจาคทานเป็นการบอกบุญผู้อื่น พิมพ์หนังสือธรรมะจ่ายแจกฟรี

20 มิถุนายน 2552

ฝันเห็น อ.หนู กันภัย เมื่อรุ่งสาง

เมื่อรุ่งสางใกล้สว่าง ผมฝันแปลกๆ และเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ดี

แม้ว่ามีผู้แบ่งสาเหตุแห่งการฝันว่าเป็นเพราะ บุพนิมิต จิตนิวร เทพสังหรณ์ ธาตุกำเริบ ผมเองก็ไม่รู้ว่าของผมจะจัดอยู่ในประเภทไหน เพราะเมื่อย้อนกลับไปดูพฤติกรรมเมื่อวาน ก็มีข้อมูลดังนี้
1. ไม่ได้กินมากกว่าปกติ เพราะวันที่ 19 ไปกินเลี้ยงมา หากจะฝันเพราะกินมาก คงเป็นเช้าเมื่อวานมากกว่า
2. ไม่ได้คิดถึงเรื่อง อ. หนู กันภัย เลย เพราะทำงานทั้งวัน และกลับมาถึงบ้านก็เหนื่อยมาก ดูหนังแล้วก็นอน
3. หนังที่ดู ก็เป็นเรื่องทั่วไป ไม่เกี่ยวกับ อ.หนู หรือยันต์ห้าแถวเลย

ในเมื่อวิเคราะห์แล้ว ก็ตัดประเด็นกินมาก คิดมาก ออกไป
... และมาดูว่า ฝันว่าอะไร

(เป็นความฝันของผม มิได้เจตนาอื่นใด และอยากเขียนไว้อ่านในอนาคตว่าฝันวันที่เท่าไร ฝันว่าอย่างไร นานมาแล้วฝันเห็นหลวงปู่ชาเดินมาบอกผมซึ่งนั่งอยู่ตรงขั้นบันไดของวัดหนองป่าพง แล้วกล่าว "เจ้าแชมป์ ทำดีแล้ว จงทำต่อไป" เสียดายที่เครื่องมือที่บันทึกไว้พัง เสียดายครับ)

ผมฝันว่า ได้เข้าร่วมพิธีอะไรบางอย่างที่วัดแห่งหนึ่ง ค่อนข้างเก่า รูปทรงสมัยโบราณ ในปรัมพิธีนั้น มี อ.หนู กันภัย ได้เดินพระพรมน้ำมนต์ แล้วมีใครก็ไม้รู้ นำสายคล้ายที่คาดผม แต่มีอักขระจำนวนหนึ่งเอามาให้ผม แล้วบอกให้เดินตามอาจารย์หนู หากท่านจะให้ใคร ท่านจะเอื้อมมือมาหยิบไป

สักพักของในมือหมด ก็มีคนนำสายคล้ายอันเดิมแต่มีขนาดเล็กกว่า ประมาณริทแบนด์ (สายข้อมือที่ฮิตสวมใส่ตอนงาน 60 ปี ในหลวง) พอเดินไปสักพัก ก็เสร็จพิธี มีเหลืออยู่ 1 อัน ผมเลยเอาใส่ข้อมือไว้ (จำได้ว่ามือซ้าย)

แล้วผมก็เดินทะลุหลังวัดเก่ามา พบเรือนไม้เก่าๆ ก็เดินขึ้นไป นั่งเล่นสักพักก็พบว่า อาจารย์หนู กันภัย ก็เดินมา ท่านนั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วสอบถามอะไรผม 2 - 3 ข้อ ก่อนถาม อ.หนู จะนั่งหลับตาแล้วถาม เสร็จแล้วก็ถามว่า ได้รับของหรือยัง ผมบอกว่า ได้แล้วครับ แล้วชูมือให้ดู ท่านก็ให้เข้ามาใกล้ๆ แล้วบอกว่า เอาอันนี้ไปเพิ่ม เป็นเหรียญพลาสติกหนาๆ ลักษณะคล้ายตัวโดมิโน มีตัวเลขที่เป็นจุด 2 ด้าน ตอนนั้นดีใจ เลยไม่ได้ดูว่า แต่ละด้านมีกี่จุด ไม่งั้นคงได้ ... 2 ตัว อิอิ

เมื่อมัดแล้ว อ.หนู กันภัย ก็สวดคาถายาวมาก แล้วก็มีแขกขึ้นมา อาจารย์เลยขอไปรับแขก ผมนั่งอยู่ที่เดินก็มองเห็นคนวัยกลางคนหลายคน มองไปมองมาเจอพี่ที่โรงเรียน ก็เลยเข้าไปทักแล้วโชว์ของดีที่ได้มา พอพูดคุยสักพักก็ลากลับ

จากนั้น ก็พบว่า(ในฝันต่อนะครับ) ผมนั่งรถมากับ ผอ. โรงเรียนผม มาที่โรงเรียนแห่งขึ้น เป็นโรงเรียนใหญ่พอสมควร พบว่า ชื่อผมได้อยู่ในคำสั่งให้เก็ยหลักงานการเข้างานของ สสวท. (เห็นชัดจริงๆนะครับ) แล้ว ผอ.ผม พูดกับ ผอ. โรงเรียนนั้นมา ทำไมปมไม่รู้ล่วงหน้า นี่เหลือเวลาอีกวันจะทันเหรอ
ได้ยินแค่นั้นดีใจสุดๆ แสดงว่า ผมได้ย้ายโรงเรียน 555

จากนั้นก็สะดุ้งตื่นเพราะเสียงปลุกของมือถือ

ผมถืดว่าเป็นฝันดี ทั้งๆที่ไม่ได้ฝันมานานแล้ว วันไหนที่คิด ที่อธิษฐาน กลับไม่ฝัน แปลกนะครับ

ป.ล. เป็นเรื่องของความฝันนะครับ ผมบันทึกไว้เพื่ออ่านเองในอนาคต

19 มิถุนายน 2552

ส่งครูสุมณฑา

และแล้ว เพื่อร่วมงานก็จากไปอีกคน

แต่เป็นการจากไปในที่ๆดี จากไปในที่ๆหวังไว้ (เหมือนกันที่เราเองก็มีความหวัง)
มันเป็นสิ่งที่กระตุ้นเตือนใจว่า อาชีพนี้ ไม่มีอะไรที่แน่นอน แม้แต่การทำงาน
ต่อให้ทำดีแค่ไหน ถ้าขัดใจนายขึ้นมาก็ไม่มีหวังเจริญ
(เว้นแต่ เราเส้นใหญ่กว่า ดักตีนายเมื่อภายหลัง 555...ว่าไป)

ครูสุมณฑา ศรีสมบุญ มาบรรจุหลังผมประมาณเกือบปี
เธอเป็นคนที่มีความตั้งใจ ละเอียด และมีความเชื่อมั่นในตนเอง
อาจเป็นเพราะความที่ได้สอนที่โรงเรียนเอกชนมาก่อน ทุกอย่างต้องเปะ
เนี๊ยบ (ไม่เหมือนผม ขี้เกียจเอามากๆๆๆๆๆ)

เอาเถิด ขอให้พี่ไปเริ่มชีวิตราชการในโรงเรียนที่ใกล้บ้าน มีเจ้านายและเพื่อนร่วมงานที่ดี
และมีความสุข

เหมือนกับที่หลายๆคนปรารถนาไว้

18 มิถุนายน 2552

คาถาเรียกความมั่งคั่ง

คาถาเรียกความมั่งคั่งจาก Supplement – Secret to Wealth & Prosperity ฉบับที่ 1 – 10 กรกฎาคม 2551
คาถาปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์
(ตั้งนะโม 3 จบ)
พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระยะโยวิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสาวิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานี มามะ พุทธัสสะ สวาโหม*****************************************
คาถาบูชาพระสีวลี
(ตั้งนะโม 3 จบ)
สีวะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทาสีวะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทาสีวะลี เถระคุณัง เอตัง โสตถิ ลาภัง ภะวันตุ เมฯ
*****************************************
คาถาบูชาพระสังกัจจายน์
(ตั้งนะโม 3 จบ)
สังกัจจายะโน มะหาเถโร มะหาลาโภ นิรันตะรังวันทามิตัง สิเรนะหัง ลาภานิจจัง ภะวันตุเมฯ*****************************************
คาถาเงินล้านจากคอลัมน์ My Secret – คาถาแห่งความร่ำรวยและความสำเร็จ ฉบับที่ 1 – 10 กรกฎาคม 2551
นาสังสิโมพรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติพรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เมมหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เมมิเตพาหุหะติพุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายังวิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะมานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหมสัมปะติจฉามิเพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤา ฤา*****************************************

17 มิถุนายน 2552

ขันธปริตร

ขันธปริตร(สวดเพื่อปกป้องตนเองจาก งูพิษ และสัตว์ร้ายทั้งหลาย)วิรูปักเขหิ เม เมตตังความเป็นมิตรของเรา จงมีแก่พญางูทั้งหลาย สกุลวิรูปักข์ด้วยเมตตัง เอราปะเถหิ เม ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับพญางูทั้งหลาย สกุลเอราบทด้วยฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง ความเป็นมิตรของเรา จงมีแก่พญางูทั้งหลาย สกุลฉัพยาบุตรด้วยเมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิ จะ ความเป็นมิตรของเรา จงมีแก่พญางูทั้งหลายสกุลกัณหาโคตมกะด้วยอะปาทะเกหิ เม เมตตัง ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลาย ที่ไม่มีเท้าด้วยเมตตัง ทิปาทะเกหิ เม ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลาย ที่มีสองเท้าด้วยจะตุปปะเทหิ เม เมตตังความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลาย ที่มีสี่เท้าด้วย เมตตัง พะหุปปะเทหิ เม ความเป็นมิตรของเรา จงมีกับสัตว์ทั้งหลาย ที่มีหลายเท้าด้วยมา มัง อะปาทะโก หิงสิ สัตว์ไม่มีเท้าอย่าเบียดเบียนเรา มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก สัตว์สองเท้าอย่าเบียดเบียนเรา มา มัง จะตุปปะโท หิงสิ สัตว์สี่เท้าอย่าเบียดเบียนเรา มา มัง หิงสิ พะหุปปะโท สัตว์หลายเท้าอย่าเบียดเบียนเรา สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา ขอสรรพสัตว์ที่มีชีวิตทั้งหลาย สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา ที่เกิดมาทั้งหมดจนสิ้นเชิงด้วย สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ จงเห็นซึ่งความเจริญทั้งหลายทั้งปวงเถิด มา กิญจิ ปาปะมาคะมา โทษลามกใดๆ อย่าได้มาถึงแล้ว แก่สัตว์เหล่านั้นอัปปะมาโณ พุทโธ พระพุทธเจ้า ทรงพระคุณ ไม่มีประมาณอัปปะมาโณ ธัมโม พระธรรม ทรงพระคุณ ไม่มีประมาณอัปปะมาโณ สังโฆ พระสงฆ์ ทรงพระคุณ ไม่มีประมาณปะมาณะวันตานิ สิริงสะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที อุณณานาภี สะระพู มูสิกาสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย คือ งู แมลงป่อง ตะเข็บ ตะขา แมงมุม ตุ๊กแก หนูเหล่านี้ ล้วนมีประมาณ (ไม่มากเหมือนพระรัตนตรัย)กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา ความรักษา อันเรากระทำแล้ว การป้องกัน อันเรากระทำแล้วปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ หมู่สัตว์ทั้งหลายจงหลีกไปเสียโสหัง นะโม ภะคะวะโต เรานั้น กระทำนอบน้อม แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานังฯกระทำนอบน้อม แด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เจ็ดพระองค์อยู่ ฯ

16 มิถุนายน 2552

ธชัคคปริตร (ธะชัคคะสุตตัง)

ธชัคคปริตร (ธะชัคคะสุตตัง)
(สวดเมื่อมีเหตุจะต้องขึ้นที่สูง)

เอวัม เม สุตังฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ฯ ตัตระ โข ภะคะวา ภิกขู อามันเตสิ ภิกขะโวติ ฯ ภะทันเตติ เต ภิกขู ภะคะวะโต ปัจจัสโสสุง ฯ ภะคะวา เอตะทะโวจะฯ ภูตะปุพพัง ภิกขะเว เทวาสุระสังคาโม สะมุปัพยุฬ โห อะโหสิ ฯ อะถะโข ภิกขะเว สักโก เทวานะมินโท เทเว ตาวะติงเส อามันเตสิ สะเจ มาริสา เทวานัง สังคา มะคะตานัง อุปปัชเชยยะ ภะยัง วา ฉัมภิตัตตัง วา โลมะหังโส วา มะเมวะ ตัสมิง สะมะเย ธะชัคคัง อุลโลเกยยาถะ มะมัง หิ โว ธะชัคคัง อุลโลกะยะตัง ยัมภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉัมภิตัตตัง วา โลมะหังโส วา โส ปิหิยยิสสะติ โน เจ เม ธะชัคคัง อุลโลเกยยาถะ อะถะ ปะชาปะติสสะ เทวะราชัสสะ ธะชัคคัง อุลโลเกย ยาถะ ปะชาปะติสสะ หิโว เทวะราชัสสะ ธะชัคคัง อุลโลกะยะตัง ยัมภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉัมภิตัตตัง วา โลมะหังโส วา โส ปะหิยยิสสะติ โน เจ ปะชาปะติสสะ เทวะราชัสสะ ธะชัคคัง อุลโลเกยยาถะ อะถะ วะรุณัสสะ หิโว เทวะราชัสสะ ธะชัคคัง อุลโลกะยะตัง ยัมภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉัมภิตัตตัง วา โลมะหังโส วา โส ปะหิยยิส สะติ โน เจ วะรุณัสสะ เทวะราชัสสะ ธะชัคคัง อุลโล เกยยาถะ อีสานัสสะ หิโว เทวะ ราาชัสสะ ธะชัคคัง อุลโลกะยะตัง ยัมภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉัมภิตัตตัง วา โลมะหังโส วา โส ปะหิยยิสสะตีติฯ ตัง โข ปะนะ ภิกขะเว สักกัสสะ วา เทวานะ มินทัสสะ ธะชัคคัง อุลโลกะยะตัง ปะชาปะติสสะ วา เทวะราชัสสะ ธะชัคคัง อุลโลกะยะตัง วะรุณัสสะ วา เทวะราชัสสะ ธะชัคคัง อุลโลกะยะตัง อีสานัสสะ วา เทวะราชัสสะ ธะชัคคัง อุลโลกะยะตัง ยัมภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉัมภิตัตตัง วา โลมะหังโส วาโส ปะหิยเยถาปิ โนปิ ปะหิยเยถะ ตัง กิสสะเหตุ สักโก หิ ภิกขะเว เทวานะมินโท อะวีตะราโค อะวีตะโทโส อะวีตะโมโห ภิรุ ฉัมภี อุตราสี ปะลายีติฯ อะหัญจะ โข ภิกขะเว เอวัง วะทามิ สะเจ ตุมหากัง ภิกขะเว อะรัญญะคะตานัง วา รุกขะมูละคะตานัง วา สุญญาคาระคะตานัง วา อุปปัชเชยยะ ภะยัง วา ฉัมภิตัตตัง วา โลมะหังโส วา มะเมวะ ตัสมิง สะมะเย อันุสสะเรยยาถะ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ มะมัง หิ โว ภิกขะเว อะนุสสะระตัง ยัมภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉัมภิตัตตัง วา โลมะหังโส วา โส ปะหิยยิสสะติ โน เจ มัง อะนุสสะเรยยาถะ อะถะ ธัมมัง อะนุสสะเรยยาถะ สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ ธัมมัง หิโว ภิกขะเว อะนุสสะระตัง ยัมภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉัมภิตัตตัง วา โลมะหังโส วา โส ปะหิยยิสสะติ โน เจ ธัมมัง อะนุสสะเรยยาถะ อะถะ สังฆัง อะนุสสะเรยยาถะ สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะ กะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะ ปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณะโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ สังฆัง หิ โว ภิกขะเว อะนุสสะระตัง ยัมภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉัมภิตัตตัง วา โลมะหังโส วา โส ปะหิยยิสสะติ ตัง กิสสะ เหตุ ตะถา คะโต หิ ภิกขะเว อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วีตะราโค วีตะโทโส วีตะโมโห อะภิรุ อัจฉัมภี อะนุตราสี อะปะ ลายีติฯ อิทะมะโวจะ ภะคะวา อิทัง วตวานะ สุคะโต อะถาปะรัง เอตะทะโวจะ สัตถา อะรัญเญ รุกขะมูเล วา สุญญาคาเรวะ ภิกขะโว อะนุสสะเรถะ สัมพุทธัง ภะยัง ตุมหากะ โน สิยา โน เจ พุทธัง สะเรยยาถะ โลกะ เชฏฐัง นะราสะภัง อะถะ ธัมมัง สะเรยยาถะ นิยยานิกัง สุเทสิตัง โน เจ ธัมมัง สะเรยยาถะ นิยยานิกัง สุเทสิตัง อะถะ สังฆัง สะเรยยาถะ ปุญญักเขตตัง อะนุตตะรัง เอวัมพุทธัง สะรันตานัง ธัมมัง สังฆัญจะ ภิกขะโว ภะยัง วา ฉัมภิตัตตัง วา โลมะหังโส นะ เหสสะตีติ ฯ

15 มิถุนายน 2552

ผิดด้วยหรือ ที่ไม่ได้ btc

มีคนบอกว่า ทำไม ผมจึงไม่เรียนวุฒิลูกเสือ
แหม
ก็ตอนที่ผมเรียนปริญญาตรี ผมเรียนตั้ง 151 หน่วยกิต แต่สาขาวิชาอื่น เค้าเรียนแต่ 148 เอง เค้าเลยมีอบรมวิชาลูกเสือ

จริงๆแล้ว ผมอยากสอน นศท. หรือที่เรียกว่า ร.ด. นั่นเอง
ผมว่า ผมไม่เหมาะกับการสอนลูกเสือ เพราะเด็กๆ ยังเล็กเกินกว่าจะฝึกหัดหลายๆอย่างได้

การโผ
การรุก
การตี
การถอยร่น
การตีโฉบฉวย
การตีแบบกองโจร
การปฏิบัติการทางจิตวิทยา

แหมๆๆๆๆๆ แล้วจะสอนลูกเสือได้ไหมเนี่ย

สมการรวยแน่นอน

สมการรวยแน่นอน
ว่าแต่จะทำได้ไหมเนี่ย พวกเรายิ่งเป็นครูบ้านนอกจนๆอยู่ด้วย

สมการคนรวย
รายได้ - เงินออม = รายจ่าย

แต่เดิม
รายได้ - รายจ่าย = เงินออม
เมื่อมีรายได้ เอามาหักค่าใช้จ่าย จึงเป็นเงินออม ทำให้มีตัวเลือกใช้จ่ายมาก แต่พอให้สมการใหม่ มันก็ตอยคำถามว่า ตกลง เราควรจะใช้จ่ายเท่าไรกันแน่

ใครรวยแล้ว เอาไปทำบุญ ทำกุศลด้วยนะครับ

13 มิถุนายน 2552

ประเภทของ ปพ.

ปพ. 1 คือ ระเบียบแสดงผลการเรียน
ปพ. 2 คือ ประกาศนียบัตร
ปพ. 3 คือ รายงานผู้สำเร็จการศึกษา
ปพ. 4 คือ ผลการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ปพ. 5 คือ ผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
ปพ. 6 คือ ผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล
ปพ. 7 คือ ใบรับรองผลการศึกษา
ปพ. 8 คือ เอกสารระเบียนสะสม
ปพ. 9 คือ สมุดบันทึกผลการเรียนรู้

.........................................................
Thailand Travel memo
หลวงปู่ทวด ยันต์ 5 แถว หนุนดวง
รุ่น ยืนมั่นคงบุญฤทธิ์หนุนดวง
กรมหลวงชุมพร

...................................

12 มิถุนายน 2552

กลยุทธ์เพื่ออิสรภาพทางการเงิน

กลยุทธ์เพื่ออิสรภาพทางการเงิน

1. ควรสำรองเงินไว้ใช้เผื่อฉุกเฉินเท่าไรดี

จำนวนเงินขั้นต่ำที่ควรออมไว้เผื่อฉุกเฉินคือ ประมาณ 6 เท่าของรายจ่ายประจำเดือน โดยออมไว้ในลักษณะที่มีสภาพคล่องสูง หากเงินออมสามารถมีผลตอบแทนได้ด้วยก็ยิ่งดี เช่น ฝากธนาคารไว้ในบัญชีออมทรัพย์บางส่วน ในบัญชีเงินฝากประจำบางส่วน หรือในรูปของทรัพย์สินมีค่าที่มีสภาพคล่องดี เป็นต้น
การซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตก็มีประโยชน์เผื่อการป่วยไข้หรือประสบอุบัติเหตุได้

2. มีเงินออมเท่าไรจึงจะดี

เงินออมที่ควรมี = อายุ X เงินได้ทั้งปี X 0.1

ตัวอย่าง สมชายอายุ 30 ปี มีรายได้เดือนละ 25,000 บาท
สมชายควรมีเงินออม = 30 X 25,000x12 X 0.1 = 900,000 บาท

หากมีเงินออมน้อยกว่าที่คำนวณได้ ควรต้องเร่งออมและมีวินัย เพื่อชีวิตที่สบายในวันหน้า

3. ออมแบบลบ 10 เพิ่ม 10

ออมแบบลบ 10 คือ หาได้เท่าไรหักไว้เป็นเงินออม 10% ก่อนใช้จ่ายเสมอ
ออมแบบเพิ่ม 10 คือ ก่อนจะใช้เงินต้องแยกเงินไปออมไว้ 10% ของเงินที่จะจ่ายไป

ออมแบบนี้จะสร้างนิสัยการออมเพื่อชีวิตที่สบายวันหน้า

4. ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่รัฐมอบให้

ในเดือนมีนาคมของทุกปีเป็นช่วงเวลายื่นภาษีเงินได้สำหรับคนวัยทำงาน บางท่านอาจรู้สึกเสียดายเมื่อเห็นยอดภาษีที่ต้องจ่ายในแต่ละปี แต่หากศึกษาสิทธิประโยชน์และเงื่อนไขที่รัฐมอบให้เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักออมและเลือกลงทุนแล้ว จะพบว่าท่านสามารถประหยัดภาษีได้เป็นจำนวนไม่น้อยที่เดียว เช่น การลงทุนซื้อประกันชีวิต การฝากธนาคารบัญชียกเว้นภาษี หุ้นกู้ การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund หรือ LTF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund หรือ RMF)

5. ประหยัด 1 บาท เท่ากับเพิ่มเงินออมมากกว่า 1 บาท

ทุกๆ 1 บาทที่ประหยัดได้วันนี้ เท่ากับมีฐานเงินออมเพิ่มาขึ้น 1 บาท ที่กำลังจะสร้างผลตอบแทนที่งอกเงย นำไปสู่ความมั่งคงที่เพิ่มขึ้น

6. สี่ขั้นตอนวางแผนใช้จ่ายเพื่อ “เพิ่มคุณภาพชีวิต”

1) สำรวจรายได้ เพื่อให้รู้ถึงวงเงินที่สามารถจ่ายได้
2) กำหนดเป้าหมายการใช้จ่าย โดยวางแผนใช้จ่าย เพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิต
“สบายวันนี้ ไม่ดีพอ แต่เราขอ คงมั่งมี ในวันหน้า”
3) บันทึกการใช้จ่ายทุกวัน จะช่วยเตือนใจให้ใช้จ่ายอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้
4) มีวินัย ทบทวน ปรับปรุงแผนการใช้จ่ายเป็นระยะๆ เพื่อใสอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง

7. สี่ขั้นตอนวางแผนใช้จ่ายเพื่อ “เพิ่มคุณภาพชีวิต”
ควรใช้จ่ายเพื่อมุ่งหวัง “เพิ่มคุณภาพชีวิต” โดยพิจารณาประโยชน์ หรือคุณค่าที่แท้จริงมากกว่ากระแสนิยม เช่น รับประทานอาหารด้วยหวังในคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจมากว่าหวังความโก้หรู

8. แนวทางการใช้จ่ายอย่าง “มีคุณภาพ”
  • ซื้อเมื่อจำเป็น ไม่ใช้ ไม่ซื้อ
  • ซื้อเมื่อพร้อมทั้งเงินทุน การใช้ประโยชน์และการดูแลรักษา
  • ไม่หลงกลลวงการตลาดเพราะของแถมหรือได้รับสิทธิพิเศษ
  • เปรียบเที่ยบราคาและคุณประโยชน์ก่อนตัดสินใจซื้อ
  • บันทึกแผนการใช้จ่าย และการใช้จ่ายจริงทุกครั้ง
  • ไม่หลงโฆษณาชวนเชื่อที่อ้างสรรพคุณเกินจริง
ท่องคาถาประหยัดเงินอยู่เสมอ เช่น “ถูกแค่ไหน ถ้าไม่ใช้ ก็ไม่ซื้อ”

9. ตัวอย่างค่าใช้จ่ายที่ท่านสามารถแปลงเป็นเงินออม
ค่าบุหรี่ ค่าเครื่องดื่มปรุงแต่ง หรือผสมแอลกอฮอล์ หากเปลี่ยนวิถีชีวิตโดย ลด ละ เลิก สิ่งเหล่านี้เพียงวันละ 50 บาท เป็นเวลา 365 วันใน 1 ปี ท่านจะมีเงินออมมากกว่า 18,250 บาท ทั้งได้ความมั่นคงในชีวิตและสุขภาพที่ดีขึ้น


“(ออม) สบายๆ วันนี้…สร้างความพร้อมที่จะสบายวันหน้า”


ที่มา : เอกสารโครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม

11 มิถุนายน 2552

10 มิถุนายน 2552

ความเครียดจากการทำผลงานชำนาญการพิเศษ

บัดนี้ จวนเวลาของการประกาศผลงานชำนาญการพิเศษ (ค.ศ.3)

หลายท่านที่ส่งผลงานไปก็คงกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ เครียด
เพราะได้ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ แรงเงิน และแรงดัน(จากครอบครัว)

หลายคนมีปัญหากันช่วงทำงาน
บัดนี้ ขอให้คืนดีกัน

หลายคนสามีช่วยภรรยา
แต่ได้เงินมา เป็นของภรรยา

หลายคนสามีลงมือทำ
ประกาศผล สามีได้
แต่ภรรยาเก็บตังส์ 55 ล้อเล่นให้หายเครียดนะครับ

เอาเถิดครับ ทำเพื่อการศึกษาไทย ทำเพื่อเด็ก ผลบุญจะส่งให้ได้ดีครับ

...เชื่อผมเถอะ

09 มิถุนายน 2552

วันฝนตก

วันนี้ฝนตกตอนกลับบ้าน
ช่างเป็นการเดินทางที่ลำบาก ทั้งต้องคอยประคองรถมอเตอร์ไซต์ไม่ให้ลืมจากถนนลื่น จากลมพัด และจากการที่รถบรรทุกคันใหญ่ๆ ดูด

การดูดของรถบรรทุก เกิดจากการที่รถเคลื่อนที่แซงไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่มากกว่า
บ่อยครั้งที่คนที่ไม่มีสติ หรือเมื่อพบการดูดแลวจกใจ ตะทำให้ไปนอนอยู่ใต้ล้อรถ

วิธีการที่ผมใช้ (เพราะวิธีนี้ประคับประคองชีวิตผมมาหลายปี)
- เกร็งแขน
- ผ่อนความเร็วลง
- พยายามทรงตัว และเบี่ยงชิดซ้าย

อีกอย่าง ระวังรถข้างหลังด้วยนะครับ


วันนี้ฝนตกมากๆๆๆๆๆ แรงๆๆๆๆๆ
เสียดายจริงๆ ที่โรงเรียนไม่ใช่โรงแรมสวยๆ บริการทุกระดับประทับใจ ที่ได้นอนรอให้ฝนหยุด

เหนื่อยจัง

ว่าแต่ วันนี้มีข่าวดีที่รอคอย และปฏิเสธไปด้วย 55 ไม่ค่อยหล่อ แต่เลือกได้

08 มิถุนายน 2552

การคัดเลือกที่โครตโกง

โอววว

คืนครูสู่โรงเรียน
คืนจริงๆ ครูสู่โรงเรียน โดยเอาธุรการมา
แบ่ง 1 คน ทำ 2 โรงเรียน
แย่งกันแทบตาย

ลองสืบดู
โอ้ววว
ลูกครู หลาน ผอ. ญาติ อบต.
ทั้งนั้น

ใครเป็นคนเลือก?
ใครทดสอบ
ใครเชื่อมโยง

แหม ช่างบังเอิญ
ลูกครู
หลาน ผอ.
ญาติ อบต.

ก็แค่นั้น

ไหว้ครู บ้านคุณตาพร

วันนี้วันดี

ก่อนหน้าที่ได้รับข่าวว่าจะมีการหล่อทองพระรูปของเสด็จเตี่ย

และเมื่อเวลาประมาณ 7 โมงเช้า ได้รับโทรศัพท์จาก อ.สมศรี ว่าวันนี้จะมีการบวงสรวงเสด็จเตี่ย และไหว้ครูตั้งแต่ 7 โมงกว่า

พอดีผมต้องรีบทำงาน เลยกะว่าจะไป 9 โมง เพราะตั้งใจจะไปทันพิธีไหว้ครู (ไปช่วงท้ายๆพอดีเลย อิอิ) เกือบไม่ทัน


ภาพบรรยากาศหลังการไหว้ครูเสร็จ
อาจารย์มังกุร (ไม่ได้พิมพ์ผิดนะครับ) โชว์ภาพถ่ายอัศจรรย์

วัตถุมงคลที่ได้รับแจกเป็นที่ระลึก

ด้านหลังของวัตถุมงคลครับ

ตอนแรกเกือบไม่ได้พระผงว่าน เพราะมีการกำหนดแจกแค่ 25 คน แต่พอมาตอนหลัง ท่านมอบให้พิเศษ ปรากฎว่าเป็นองค์ปัดทองครับ แทบจะไม่มีเลย ทำมาน้อยมากครับ ดีใจสุดๆ (ด้านหน้าหลวงปู่ศุข ด้านหลังกรมหลวงชุมพร)

06 มิถุนายน 2552

ครึ่งปีแล้ว

วันนี้ วันที่ 6 เดือน 6

ถือว่าครึ่งปีได้แล้วใช่ไหมครับ

ชีวิตขิงเราเดินทางไม่มีหยุดพัก
เราแก่ลงทุกวินาที
กว่าจะโต
กว่าจะเรียนจบ
กว่าจะสอบบรรจุได้
กว่าจะผ่านการทดลองราชการแบบเข้ม
กว่าจะได้ย้าย

โห

ชีวิตมันช่างแสนเหนื่อยจริงๆ
........................................
Thailand travel memo กรมหลวงชุมพร

05 มิถุนายน 2552

รอเงินตั้ง 7 วัน

เอาเช็คจาก google adsense ไปขึ้นเงินที่ธนาคารกรุงไทย
ต้องเสียค่าธรรมเนียม 10 บาท (จาก สามพันกว่าๆ)
และต้องรอ 7 วัน

โห

ร้อนใจๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อยากเอาเงินมาจ่ายค่าเว็บจังเลยยยยยยย

04 มิถุนายน 2552

วันนี้ได้รับเช็คจาก google Adsense แล้ว

วันนี้ดีใจ
ได้กลับบ้านเร็วกว่าปกติ
เมื่อมาถึงก็ได้เห็นซองของ city bank ก็คิดว่าคงไม่ใช่ของเรา แต่พี่เจ้าของหอกลัวมือเรียกแล้วบอกว่า
"เห็นชื่อภาษาอังกฤษ งง เหมือนกัน"

ผมดีใจมาก แม้จะเป็นเงินไม่กี่พันบาท แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีไม่ใช่หรือครับ
จากคนที่ไม่สนใจ ไม่มีความรู้ สามารถทำรายได้เพียง 3 - 4 เดือน เมื่อลอง search ดู บางคนเค้าได้เกือน 2 หมื่นต่อเดือน บางคนยังไม่ถึง 100 ทั้งๆที่ทำมาทั้งปี

เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ผมก็พอใจครับ

อิอิ ได้ค่าเช่า host แล้ว

03 มิถุนายน 2552

ยึดมั่นในระบบราชการ

หลายคนบอกว่า ระบบราชการ ล้าหลัง
เขาให้เหตุผลว่า
1. ทำงานเช้าชามเย็นชาม
2. มีการคอรัปชั่น
3. ใช้เส้นใช้สาย
4. เอาใจแต่นายตน

เอาหละ ผมว่าเรามาวิเคราะห์กันสักนิด โดยเอาประสบการณ์ของผมมาประกอบ

1. ทำงานเช้าชามเย็นชาม
หมายถึง งานเดินช้า ปากพูด ตุดตด กินข้าว 11 โมง กลับทำงานบ่ายโมงครึ่ง (อันนี้เป็นข้าราชการเลว) ว่าแต่ว่า คนพวกนี้มาจากไหน เข้าสู่ระบบราชการได้อย่างไร

2. มีการคอรัปชั่น
มีการขอส่วนแบ่ง เปอร์เซ็นต์ ค่านายหน้า ค่าหัวคิว กินๆๆๆๆๆๆๆๆ กินกันจนอุปกรณ์ทางการเรียนเหลือคุณภาพแค่ 10 บาท จาก 3 หมื่น
แล้วมาจากไหนละ ก็มาจากข้อ 1 ไง เป็นกลจักรขับเคลื่อน

3.ใช้เส้นใช้สาย
นี่แหละ คือที่มีของคน ข้อ 1 ลองไปเช็คดูแล้วจะรู้ว่า คนนั้นเป็นลูกนักการเมือง คนนี้เป็นหลาน คนนี้นักการเมืองฝากมา คนนี้หัวคะแนนฝากเข้า เลยเป็นที่มาของการคอรัปชั่น

4. เอาใจแต่นายตน
ก็ถ้าไม่เอาใจ แล้วจะได้ดิบได้ดีไหม
ลูกน้องเอาใจหัวหน้า
หัวหน้าเอาใจนาย
นายเอาใจหัวคะแนน
หัวคะแนนเอาใจนักการเมือง
นักการเมือง เอาใจตนเอง เอาใจจนประสาทเสื่อม ไปไล่ถามชาวบ้านเขาว่า "มึงรู้ไหมว่ากูลูกใคร"

02 มิถุนายน 2552

ราคาน้ำมัน (ที่ไม่เท่ากัน)

ผมเดินทางไปโรงเรียนด้วยรถ 2 ต่อ

ต่อแรก นั่งรถเมล์ บขส.99 มาลงที่สี่แยกปลวกสูง
ต่อที่สอง ขี่จักรยานยนต์จากจุดลงรถไปยังโรงเรียน

ส่วนใหญ่จะเดิมน้ำมันประมาณ 2 วัน / ครั้ง

ปั๊มน้ำมันที่มีคือปั๊มน้ำมันหลอด (หมุนๆๆๆๆๆๆๆๆ) แล้วเปิดก๊อก

แปลกใจตรงที่ปั๊มเหล่านี้จำหน่ายลิตรละ 35 บาท ทั้งๆที่ราคาปั๊มใหญ่ๆ เพียงลิตรละ 31 กว่าๆ ถามว่าถ้าแพงจะไปเติมทำไม
ผมก็ต้องตอบว่า "มันจำเป็น"

แต่คนเหล่านี้ค้าขายเอากำไรจากความจำเป็นเหล่านี้ เค้าได้กำไรลิตรละ 2 - 3 บาท
ไม่รู้ว่าส่วนต่างที่เหลือ เอาไปซุกไว้ตรงไหน และเสียภาษีหรือเปล่า

เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ

และ... น้ำมันที่เติม มีคุณภาพหรือเปล่า ก็ไม่มีคำตอบเช่นกัน

01 มิถุนายน 2552

เมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัว

เบื่อจริงสังคมไทย
มองเมื่อไรก็รำคาญ
เบื่อจริงทุกวันวาน
ผลประโยชน์ไม่ลงตัว

เก็บเงินผู้ปกครอง
เลือดรินนอง จนท่วมหัว
เราสุขเข้าใส่ตัว
มัวร้องเพลง และทัศนศึกษา

รำคาญจริงๆๆๆๆๆๆ เลย ก็แต่งไว้อ่านเล่น
ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ