วันนี้ บันทึกของครูบ้านนอก ได้ไปอ่านวิธีการแก้ผมหงอก จาก www.charme.in.th/hair/ ซึ่งเห็นว่า พี่น้องครูบางท่าน อาจจะเกิดปัญหานี้ขึ้นแล้ว (งานเยอะ เครียดเยอะ) เลยเอามานำเสนอครับ
วิธีที่ 1 ลดอาการเครียดและกังวลให้หมดไป
เพราะความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดผมหงอกก่อนวัย
วิธีที่ 2 เลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อเส้นผม อาทิเช่น วิตามินเอ ช่วยทำให้เส้นผมและหนังศรีษะแข็งแรง พบมากในผักใบเขียว และผลไม้สีเหลือง, วิตามินบี ช่วยควบคุมการหลั่งของน้ำมันธรรมชาติเพื่อหล่อลื่นเส้นผมให้เงางามและชุ่มชื้น พบในผักใบเขียว มะเขือเทศ กล้วย โยเกริต และธัญพืช, วิตามินซี ช่วยในการลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์รากผมได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พบมากในผลไม้รสเปรี้ยวทั้งหลาย เช่น มะม่วงดิบ ฝรั่ง มะขาม ส้ม สตรอเบอร์รี่ ผักใบเขียวต่างๆ, โปรตีน ช่วยบำรุงให้เส้นผมเงางามและมีความยืดหยุ่นดี ไม่ขาดตอน พบทั่วไปในเนื้อสัตว์ ไข่ เต้าหู้ ฯลฯ, แร่ธาตุต่างๆ เช่น เหล็ก สังกะสี ทองแดง ช่วยบำรุงให้เส้นผมแข็งแรง พบได้ทั่วไปในเนื้อแดง เนื้อไก่ ไข่แดง อาหารทะเล และธัญพืช, แคลเซียม ช่วยบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดีและมีชีวิตชีวา เช่น อาหารทะเล สาหร่าย นม กระดูกอ่อน กุ้งแห้ง ปลาเล็กปลาน้อย
วิธีที่ 3 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการสูบบุหรี่ให้น้อยลงหรือทางที่ดีที่สุดควรเลิกสูบบุหรี่แบบถาวรไปเลย เพราะมีงานวิจัยที่พบว่าคนที่สูบบุหรี่จะมีแนวโน้มของผมขาวเร็วกว่าคนไม่สูบบุหรี่ถึง 4 เท่า
วิธีที่ 4 พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทำงานหนักจนเกินไป เพราะการที่ร่างกายพักผ่อนน้อยรวมทั้งการรับประทานอาหารไม่ครบหมู่ จะทำให้การเจริญเติบโตของรากผมไม่แข็งแรง และทำให้ผมหลุดร่วงได้ง่าย นอกจากนี้ยังทำให้การสร้างเม็ดสีของเส้นผมลดน้อยลง ทำให้เส้นผมขาวโพลนเพิ่มมากขึ้น
วิธีที่ 5 ดูแลบำรุงสุขภาพเส้นผมเป็นประจำ วิธีที่ง่าย ๆที่ทุกคนสามารถทำได้เองขณะอยู่ที่บ้านคือ หมั่นใช้น้ำมันมะกอกหมักผมทิ้งเอาไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วล้างออกให้สะอาด ทำบ่อย ๆ จะช่วยชะลอการเกิดผมหงอกได้
วิธีที่ 6 ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยชะลอการเกิดผมหงอกแล้วยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานโรคต่างๆได้ดีอีกด้วย
วิธีที่ 7 การย้อมผมเพื่อปกปิดผมหงอก วิธีนี้เป็นวิธีที่หลายๆคนเลือกใช้อยู่ตอนนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว แต่ก็ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง เช่น การเกิดโรคมะเร็ง และอาการแพ้สารเคมีที่อยู่ในน้ำยาย้อมผมนั้นๆๆ ดังนั้นก่อนซื้อยาย้อมผมควรศึกษาให้ดีก่อนนำมาใช้ และไม่ควรย้อมผมบ่อยๆ เพราะการย้อมผมแต่ละครั้งเป็นการสะสมสารเคมีไว้ในร่างกายท้ายที่สุดอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
วิธีที่ 8 รักษาผมหงอกด้วยสมุนไพรไทย โดยนำใบบัวบกสดปั่นกับน้ำสะอาดปริมาณพอเหมาะให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำ แล้วนำมาเคี่ยวกับน้ำมะพร้าว จากนั้นนำมาชโลมผม หรือนวดหนังศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด, นำใบบัวบกสดมาตำแล้วคั้นเอาแต่น้ำ แล้วชโลมผมทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นสระผมตามปกติด้วยแชมพูสมุนไพร, นำน้ำมันมะกอกนวดหนังศีรษะ ใช้ผ้าโพกศรีษะทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วนำผลมะกรูด 2-3 ผลเผาไฟพอสุก จากนั้นนำมาขยำกับน้ำ และนำน้ำที่คั้นได้ไปสระผม หรือใช้น้ำเมือกว่านหางจระเข้ชโลมผมจนทั่ว อย่าให้เปียกมากเกินไป ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ผมจะแห้งพอดี ทำเป็นประจำทุกเช้า-เย็น และหลังสระผม
วิธีที่ 9 การถอนผมหงอก ในทางปฏิบัติมีผลเพียงแค่ในแง่จิตวิทยาเท่านั้น แต่ในทางทฤษฎีแล้วการถอนผมหงอกนั้น เป็นการทำให้ผมหงอกหายไปเพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ท้ายที่สุดผมหงอกที่ถอนไปก็กลับขึ้นมาใหม่อย่างเช่นเคย
วิธีที่ 10 ปล่อยให้ผมหงอกเป็นไปตามธรรมชาติ คือ ไม่สนใจว่าผมที่มีอยู่จะดำหรือขาว เพราะสีผมไม่ไ้ด้เป็นตัวชี้วัดว่าคุณจะเป็นคนดีหรือคนเลว ดังนั้นคุณจึงควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่เครียดหรือเป็นกังวลกับสีผมที่เปลี่ยนไป เมื่อคุณคิดได้เช่นนี้ก็จะทำให้คุณมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้
วิธีที่ 2 เลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อเส้นผม อาทิเช่น วิตามินเอ ช่วยทำให้เส้นผมและหนังศรีษะแข็งแรง พบมากในผักใบเขียว และผลไม้สีเหลือง, วิตามินบี ช่วยควบคุมการหลั่งของน้ำมันธรรมชาติเพื่อหล่อลื่นเส้นผมให้เงางามและชุ่มชื้น พบในผักใบเขียว มะเขือเทศ กล้วย โยเกริต และธัญพืช, วิตามินซี ช่วยในการลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์รากผมได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พบมากในผลไม้รสเปรี้ยวทั้งหลาย เช่น มะม่วงดิบ ฝรั่ง มะขาม ส้ม สตรอเบอร์รี่ ผักใบเขียวต่างๆ, โปรตีน ช่วยบำรุงให้เส้นผมเงางามและมีความยืดหยุ่นดี ไม่ขาดตอน พบทั่วไปในเนื้อสัตว์ ไข่ เต้าหู้ ฯลฯ, แร่ธาตุต่างๆ เช่น เหล็ก สังกะสี ทองแดง ช่วยบำรุงให้เส้นผมแข็งแรง พบได้ทั่วไปในเนื้อแดง เนื้อไก่ ไข่แดง อาหารทะเล และธัญพืช, แคลเซียม ช่วยบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดีและมีชีวิตชีวา เช่น อาหารทะเล สาหร่าย นม กระดูกอ่อน กุ้งแห้ง ปลาเล็กปลาน้อย
วิธีที่ 3 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการสูบบุหรี่ให้น้อยลงหรือทางที่ดีที่สุดควรเลิกสูบบุหรี่แบบถาวรไปเลย เพราะมีงานวิจัยที่พบว่าคนที่สูบบุหรี่จะมีแนวโน้มของผมขาวเร็วกว่าคนไม่สูบบุหรี่ถึง 4 เท่า
วิธีที่ 4 พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทำงานหนักจนเกินไป เพราะการที่ร่างกายพักผ่อนน้อยรวมทั้งการรับประทานอาหารไม่ครบหมู่ จะทำให้การเจริญเติบโตของรากผมไม่แข็งแรง และทำให้ผมหลุดร่วงได้ง่าย นอกจากนี้ยังทำให้การสร้างเม็ดสีของเส้นผมลดน้อยลง ทำให้เส้นผมขาวโพลนเพิ่มมากขึ้น
วิธีที่ 5 ดูแลบำรุงสุขภาพเส้นผมเป็นประจำ วิธีที่ง่าย ๆที่ทุกคนสามารถทำได้เองขณะอยู่ที่บ้านคือ หมั่นใช้น้ำมันมะกอกหมักผมทิ้งเอาไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วล้างออกให้สะอาด ทำบ่อย ๆ จะช่วยชะลอการเกิดผมหงอกได้
วิธีที่ 6 ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยชะลอการเกิดผมหงอกแล้วยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานโรคต่างๆได้ดีอีกด้วย
วิธีที่ 7 การย้อมผมเพื่อปกปิดผมหงอก วิธีนี้เป็นวิธีที่หลายๆคนเลือกใช้อยู่ตอนนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว แต่ก็ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง เช่น การเกิดโรคมะเร็ง และอาการแพ้สารเคมีที่อยู่ในน้ำยาย้อมผมนั้นๆๆ ดังนั้นก่อนซื้อยาย้อมผมควรศึกษาให้ดีก่อนนำมาใช้ และไม่ควรย้อมผมบ่อยๆ เพราะการย้อมผมแต่ละครั้งเป็นการสะสมสารเคมีไว้ในร่างกายท้ายที่สุดอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
วิธีที่ 8 รักษาผมหงอกด้วยสมุนไพรไทย โดยนำใบบัวบกสดปั่นกับน้ำสะอาดปริมาณพอเหมาะให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำ แล้วนำมาเคี่ยวกับน้ำมะพร้าว จากนั้นนำมาชโลมผม หรือนวดหนังศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด, นำใบบัวบกสดมาตำแล้วคั้นเอาแต่น้ำ แล้วชโลมผมทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นสระผมตามปกติด้วยแชมพูสมุนไพร, นำน้ำมันมะกอกนวดหนังศีรษะ ใช้ผ้าโพกศรีษะทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วนำผลมะกรูด 2-3 ผลเผาไฟพอสุก จากนั้นนำมาขยำกับน้ำ และนำน้ำที่คั้นได้ไปสระผม หรือใช้น้ำเมือกว่านหางจระเข้ชโลมผมจนทั่ว อย่าให้เปียกมากเกินไป ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ผมจะแห้งพอดี ทำเป็นประจำทุกเช้า-เย็น และหลังสระผม
วิธีที่ 9 การถอนผมหงอก ในทางปฏิบัติมีผลเพียงแค่ในแง่จิตวิทยาเท่านั้น แต่ในทางทฤษฎีแล้วการถอนผมหงอกนั้น เป็นการทำให้ผมหงอกหายไปเพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ท้ายที่สุดผมหงอกที่ถอนไปก็กลับขึ้นมาใหม่อย่างเช่นเคย
วิธีที่ 10 ปล่อยให้ผมหงอกเป็นไปตามธรรมชาติ คือ ไม่สนใจว่าผมที่มีอยู่จะดำหรือขาว เพราะสีผมไม่ไ้ด้เป็นตัวชี้วัดว่าคุณจะเป็นคนดีหรือคนเลว ดังนั้นคุณจึงควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่เครียดหรือเป็นกังวลกับสีผมที่เปลี่ยนไป เมื่อคุณคิดได้เช่นนี้ก็จะทำให้คุณมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้