14 มีนาคม 2555

นวดผ่อนคลาย แก้ปวดเมื่อยเหมือนกินยา

สาระจาก msn ครับ


นวดผ่อนคลาย แก้ปวดเมื่อยเหมือนกินยา

ผู้ ที่มักจะมีอาการปวดเมื่อยเพราะกล้ามเนื้ออักเสบ อาจไม่ต้องพึ่งยาแก้อักเสบกล้ามเนื้อหรือยาแก้ปวดเพียงหนทางเดียว เพราะนายแพทย์มาร์ค ทาโนโพลสกี้ จากมหาวิทยาลัยแมคมาสเตอร์ ในแคนาดา และทีมวิจัยพบว่า การนวดผ่อนคลายอย่างละมุนละไม ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อได้

การวิจัยจะดู ตัวอย่างเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อของอาสาสมัครที่ออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน จนปวดเมื่อย จากนั้นจึงไปนวดผ่อนคลายเพียง 10 นาที และหลังเสร็จจากการนวดผ่านไปนาน 2 ชั่วโมงครึ่ง ทีมวิจัยก็ได้พบว่า ความเมื่อยล้าของกลุ่มตัวอย่างนั้นหายไป

ทีมวิจัยเชื่อว่า การนวดผ่อนคลาย ที่มีลักษณะการกดคลึงอย่างถูกต้อง และลงน้ำหนักเหมาะสม ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของ 'ไมโทคอนเดรีย' หรือ แหล่งพลังงานเซลล์ ขึ้นมาใหม่ แต่ที่สำคัญคือ การนวดผ่อนคลายที่ดีสามารถส่งสัญญาณไปยังระบบภูมิคุ้มกันให้จัดการความเจ็บ ปวดในระดับโมเลกุล
นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังเชื่อด้วยว่า การนวดในลักษณะที่ว่านี้ อาจมีประสิทธิภาพลดการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ  เหมือนกลไกลการออกฤทธิ์ของยาแก้อักเสบ จึงอาจเป็นผลดีสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหากล้ามเนื้อหรือกระดูกอักเสบ เรื้อรัง ได้มีทางเลือกการรักษาเสริมเข้ามาอีกทางภายใต้การควบคุมของแพทย์

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
takecareDD@gmail.com
ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์





...............................

13 มีนาคม 2555

คุมถูกวิธี การันตีไม่ท้อง

สาระจาก msn ครับ

คุมถูกวิธี การันตีไม่ท้อง

ที่ จริงแล้วการคุมกำเนิดมีหลากหลายวิธี ไม่ใช่แค่การใช้ถุงยางอนามัย ทานยาคุมกำเนิด หรือทำหมันเท่านั้น อีกทั้งการเลือกวิธีคุมกำเนิด ก็ไม่ควรพิจารณาเพียงแค่ความสะดวก เพราะบางวิธีต้องดูปัจจัยทางด้านสุขภาพของผู้ใช้ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักไม่รู้ถึงความสำคัญในข้อนี้มาก่อน

บรรดาผู้เชี่ยว ชาญด้านการคุมกำเนิดทั้งจากออสเตรเลีย เยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ และไทย จึงเผยวิธีการคุมกำเนิดแบบต่างๆ ไว้ในงานแถลงข่าว ฮอร์โมน..การคุมกำเนิด..หลากหลายทางเลือกที่เข้าใจ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิง ภายในงานประชุมวิชาการระดับภูมิภาค MSD ASIA PACIFIC CONTRACEPTIVE SUMMIT 2012
โดยวิธีการคุมกำเนิดทั่วๆ ไป มีทั้งการขวางกั้น, ห่วงคุมกำเนิด, การคุมกำเนิดแบบใช้ฮอร์โมน, และการทำหมัน

สำหรับวิธีขวางกั้น เป็นวิธีการทางกายภาพ ป้องกันเชื้ออสุจิของผู้ชายไม่ให้เข้าไปในมดลูกและไปทำปฏิกิริยาถึงรังไข่ ของผู้หญิง นั่นก็คือ 'ถุงยางอนามัย' ที่มีทั้งของผู้ชายและผู้หญิง แถมยังช่วยป้องกันการติดเชื้อเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ 'ฟองน้ำ' เป็นอุปกรณ์รูปร่างคล้ายโดนัททำด้วยโฟมนุ่มเคลือบด้วยสารฆ่าอสุจิ ใช้สอดเข้าไปในช่องคลอดของผู้หญิง
และ 'แผ่นครอบปากมดลูก, หมวกครอบปากมดลูก, และสิ่งปกป้องปากมดลูก' อุปกรณ์ขนาดเล็กรูปทรงครึ่งวงกลม สอดใส่ภายในช่องคลอดและครอบปากมดลูก ต้องสอดใส่อุปกรณ์ชนิดนี้โดยแพทย์ ใช้กับสารฆ่าอสุจิเช่นกัน

ส่วนวิธีป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยห่วงคุมกำเนิด (Intrauterine Device) หรือเรียกสั้นๆ ว่า ไอยูดี แบบไม่ใช้ฮอร์โมน จะฝังในมดลูกโดยแพทย์ อาจเรียกว่า 'IUD ทองแดง' ซึ่งจะปล่อยทองแดงปริมาณเล็กน้อยเข้าไปในมดลูก ทองแดงนี้ป้องกันอสุจิไม่ให้ไปถึงรังไข่และผสมกับไข่ และเพื่อหยุดยั้งไข่ไม่ให้ฝังตัวที่เยื่อบุของมดลูก

ขณะที่วิธีคุมกำเนิดแบบใช้ฮอร์โมน มีทั้งการใช้ฮอร์โมนเดียว และฮอร์โมนรวม ส่วนฮอร์โมนที่ใช้ในวิธีนี้ คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน (คล้ายกับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน) ช่วยป้องกันการปฏิสนธิ ทั้งในรูปแบบของวงแหวนช่องคลอด, ยาฝัง, ยาเม็ดคุมกำเนิด, ยาฉีด, และแผ่นแปะให้ยาซึมผ่านผิวหนัง วิธีนี้ใช้ฮอร์โมนป้องกันไม่ให้รังไข่ปล่อยไข่ออกมา และทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่เยื่อบุมดลูกและเมือกที่ปากมดลูก เพื่อป้องกันไม่ให้อสุจิผสมกับไข่

สุดท้าย วิธีทำหมัน เป็นขั้นตอนปฏิบัติของการผ่าตัดที่จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สำหรับผู้หญิง จะเกี่ยวข้องกับการปิดท่อรังไข่อย่างถาวร เพื่อไม่ให้อสุจิเข้าไปถึงไข่ได้ และเรียกว่าการผูกท่อ ส่วนผู้ชาย  ท่อที่พาเชื้ออสุจิจากอัณฑะไปยังองคชาติจะถูกตัดและผูกในการผ่าตัด เรียกว่า การตัดหลอดนำอสุจิ
อย่างไรก็ตาม ผศ.นพ.มานพชัย ธรรมคันโธ หัวหน้าหน่วยโรคติดเชื้อทางนรีเวชวิทยาและโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์สตรี ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า การคุมกำเนิดแต่ละวิธีข้างต้น มีประสิทธิภาพต่างกัน คุมกำเนิดได้ระยะสั้น-ระยะยาว โดยก่อนตัดสินใจเลือกใช้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะการใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิด ส่วนจะมีปัจจัยใดบ้างที่แพทย์ใช้นำมาเป็นหลักเลือกวิธีคุมกำเนิด ชมได้ทางคลิปประกอบ

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
takecareDD@gmail.com
ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์





...............................

12 มีนาคม 2555

สอบปลายภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554

วันนี้เป็นวันแรกของการสอบปลายภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554

โดยบางวิชาก็ได้ทำการทดสอบนอกตารางไปแล้ว

นักเรียนบางคนก็ขมีขมันกับการเตรียมตัวสอบ ในขณะที่บางคน ก็ยังทำตัวเป็นปูนปั้น ไม่รู้หนาว รู้ร้อน ไม่รู้จะเดินไปทางไหนต่อ งานก็ไม่ทำ ไม่ยอมส่ง แถมผลการเรียนที่ติด 0 ติด ร ยังติดตัวมาไม่ยอมแก้ไขให้หลุดพ้น

นั่นคือชะตากรรม ที่ต้องติดตามกันต่อไป





...............................

10 มีนาคม 2555

ร้อนนี้หันมาดื่มน้ำเปล่าขณะออกกำลังกายกันดีกว่า

สาระจาก msn ครับ


 การจิบน้ำเล็กน้อยขณะพักจะช่วยให้มีแรงเล่นต่อไปได้อีก ซึ่งน้ำที่ดีที่สุดขณะออกกำลังกายคือ œน้ำเปล่า ที่ ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้เร็วที่สุด โดยน้ำจะช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย ปรับระดับความดันโลหิต ช่วยลำเลียงอาหาร และออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ขณะเล่นกีฬาได้เป็นอย่างดี

ประมาณ70%ใน ร่างกายประกอบด้วยน้ำ ดังนั้น ถ้าคุณขาดน้ำเพียง 3 วันก็อาจถึงตายได้ เพราะน้ำเป็นสิ่งสำคัญรองจากอากาศ โดยร่างกายต้องการน้ำวันละประมาณ 2.5 ลิตร ในขณะที่เราสูญเสียน้ำวันละ 2.5 ลิตร จาก
1500 cc เป็น ปัสสาวะ
500 cc เป็น เหงื่อ
300 cc เป็น ละอองน้ำในการหายใจออก
200 cc เป็น อุจจาระ

หากร่าง กายขาดน้ำรื้อรัง(ดื่มน้ำน้อย) ทุกระบบการทำงานของร่างกายจะไม่มีประสิทธิภาพ สารพิษในร่างกายเพิ่มมากขึ้น กล้ามเนื้อไม่มีแรง ผิวหนังจะแห้ง ระบบย่อยอาหารพึ่งน้ำในทุกระดับ การเผาผลาญอาหารต้องมีน้ำเป็นตัวกลาง น้ำพาสารต่างๆไปให้เซลล์ สุขถาพที่ดี และการหยุดยั้งความชราขึ้นอยู่กับน้ำ ซึ่งคุณควรให้น้ำดื่มที่ดีที่สุดกับร่างกายท่านอย่างเพียงพอ

พญ.สิ รนิสถ์ ประพันธ์ศิลป์ แพทย์สาขาอายุรกรรมทั่วไป แผนกประกันสังคม รพ.กล้วยน้ำไท 1 แนะนำว่า œน้ำดื่มบริสุทธิ์จะเคลื่อนตัวสู่กระเพาะอาหาร และดูดซึมในลำไส้ได้เร็วที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มทั่วไปที่มักจะมี ปริมาณน้ำตาลสูงกว่า 2.5 เปอร์เซ็นต์ เครื่องดื่มเหล่านี้จะดูดซึมได้ช้า ทำให้รู้สึกจุก เสียด ท้องอืด และทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดสูง ยิ่งถ้าเป็นน้ำอัดลม ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะทำให้กระเพาะอาหารขยายตัวเบียดกล้ามเนื้อกระบังลม ทำให้ปอดขยายได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้หายใจไม่อิ่ม และหมดแรงเร็วขึ้น นอกจากนี้กระเพาะอาหารที่ขยายใหญ่ขึ้นทำให้รู้สึกจุกแน่นขณะออกกำลังกาย

ดื่มอย่างไรให้ถูกวิธี ?
การ ดื่มน้ำในขณะออกกำลังกายและรู้สึกเหนื่อยจัด ไม่ควรดื่มน้ำมากกว่าครั้งละ 2 แก้ว เพราะอาจทำให้เกิดภาวะน้ำเกิน (Water intoxication) ทำให้รู้สึกเวียนศีรษะ และปวดร้าวในสมอง
ทั้งนี้ในคุณควรดื่มน้ำเปล่า ไม่เกิน 1 แก้ว ก่อนออกกำลังกายประมาณ 10 นาที และอาจจิบน้ำเล็กน้อยทุกๆ 10-15 นาที ถ้ารู้สึกกระหายน้ำขณะออกกำลังกาย แต่ก็ไม่ควรเกิน 1 แก้ว (ภายใน 1 ชั่วโมง) และที่สำคัญคือการดื่มน้ำให้ได้ 2 แก้ว หลังจากที่ออกกำลังกายเรียบร้อยแล้ว 30 นาที

สูญเสียเหงื่อ = สูญเสียเกลือแร่?
การ เสียเหงื่อจะเป็นการเสียน้ำมากกว่าเสียเกลือ เนื่องจากความเข้มข้นของเกลือในเลือดอยู่ที่ประมาณ 0.9 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่มีเหงื่ออยู่ที่ประมาณ 0.12-0.4 เปอร์เซ็นต์ และไม่พบว่ามีการสูญเสียโพแทสเซียม (Potassium) จึงไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำเกลือแร่
น้ำดื่มผสมเกลือแร่ทั่วไป ที่ขายในท้องตลาดมักมีปริมาณกลูโคสสูงกว่า 2.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะดูดซึมได้ช้า ทำให้ร่างกายได้รับน้ำช้ากว่าการดื่มน้ำเปล่า ถ้าจิบขณะออกกำลังกายจะทำให้รู้สึกจุกได้ง่าย
อากาศร้อนอย่างนี้ หันมาดูแลสุขภาพให้ดีด้วยการดื่มน้ำเปล่าที่ช่วยให้สดชื่นขึ้นขณะออกกำลัง กาย และยังไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก ช่วยให้หุ่นสวยเพรียว ฟิต แอนด์ เฟิร์มกันเถอะค่ะ


ลิขสิทธิ์บทความของ e-magazine.info
ติดตามบทความ สุขภาพ หรืออ่าน แมกกาซีน
ที่มาข้อมูล : www.e-magazine.info





...............................

09 มีนาคม 2555

วิทยากร "การใช้สารสนเทศสำหรับนักสารสนเทศ" มรพส วันที่สอง

ครูแชมป์ มาเป็นวิทยากร การใช้สารสนเทศสำหรับนักสารสนเทศ วันที่สองครับ







ความเห็นของน้องๆที่มีต่อการอบรมในครั้งนี้

ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.seal2thai.org/sara/sara245.htm



...............................

08 มีนาคม 2555

วิทยากร "การใช้สารสนเทศสำหรับนักสารสนเทศ" มรพส วันแรก

วิทยากรการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
    
ในที่สุด ครูแชมป์ก็มีโอกาสตอบแทนพระคุณครูบาอาจารย์และมหาวิทยาลัยอันเป็นที่รักอีกครั้ง เมื่อสาขาวิชาบรรณารักษ์ศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ให้เกียรติครูบ้านนอก ไปแนะนำการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน

     กลุ่มเป้าหมายหลัก หรือน้องๆนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ที่กำลังจะออกฝึกประสบการณ์วิชาชีพ โดยจะได้นำไปประยุกต์ใช้งาน การติดต่อสื่อสาร และการทำแฟ้มสะสมผลงาน แต่ก็มีน้องๆชั้นปีที่ 2 เข้าร่วมอบรมอีกด้วย จึงทำให้บรรยากาศอุ่นหนาฝาคั่งมาก





ดูเพิ่มเติมที่ http://www.seal2thai.org/sara/sara245.htm 








อย่าลืมติดตามวันที่สองของการอบรมนะครับ



...............................


05 มีนาคม 2555

ตรวจสอบภายใน

   วันนี้ ทางหน่วยงานตรวจสอบภายใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 โดยคุณดลภูมิญ์  รังสีศีริดลธ์ หรือ พี่เต้ ได้เข้ามาตรวจสอบระบบการเงินภายในของโรงเรียนวัดยางแขวนอู่

   ในช่วงแรก ทางผู้รับผิดชอบทางการเงิน งานพัสดุ และบัญชี รวมถึงท่านผู้อำนวยการด้วย ได้มีสีหน้าที่ไม่สู้จะดี (ที่ว่าไม่สู้จะดี เพราะกลัว... จากข่าวลือที่ได้ยินมา) แต่ท่าน ผอ. ก็บอกว่า เราไม่ได้ทุจริตตรงไหน วันนี้ เค้ามาตรวจสอบ และแนะนำว่า เราควรทำอะไรเพิ่ม แก้ไขตรงไหน ก็ไม่ต้องกลัวอะไร

   เมื่อทางพี่เต้มาถึง ทางงานการเงินและพัสดุ ได้รวบรวมเอกสารมาให้ดู และทางพี่เต้ก็ได้ให้คำแนะนำ รวมถึงให้แบบฟอร์มเอกสารเพื่อนำไปปรับปรุงให้ระบบต่างๆดีขึ้น












...............................

04 มีนาคม 2555

ร่วมงานบุญ สถาบันวิจัยและพัฒนา ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม

     วันนี้ ได้ไปตอบแทนพระคุณครูบาอาจารย์ และรับใช้มหาวิทยาัลัยอันเป็นที่รักอีกครั้ง นั่นก็คือ การที่ได้ร่วมพิธีทำบุญของสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาัลัยราชภัฏพิบูลสงคราม 

     ที่ว่า ได้ตอบแทนพระคุณอาจารย์และสถาบันนั้น ก็คือ การได้นำสวดเป็นมัคนายก(น้อย) ในพิธี

     จริงๆแล้ว พี่ไก่ (คนสวย) ได้มอบหมายให้ผมประสานงานกับทางพระเลขาหลวงปู่แขก นิมนต์ท่านมาทำพิธีในวันนี้ เผอิญว่า ตรงกับวันอาทิตย์พอดี ก็เลยมาขอร่วมพิธีด้วย ปรากฎว่า จากคำพูดที่คิดว่าพี่ไก่ พูดเล่นๆว่าจะให้เป็นมัคนายก กลายเป็นเค้าเอาจริงๆ แถมยังไม่ได้เชิญเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาัลัยมาด้วย

    ... เอาวะ ศิษย์มีครู ถ้าทำดี ก็ขอยกเป็นพระคุณของครูบาอาจารย์
    แต่ถ้าพลาด... ข้อน้อยขอรับแต่เพียงผู้เดียว

ระหว่างรอท่านประธานในพิธี

ดร.นิวัตน์ ช่วยหลวงปู่แขกพันด้ายสายสิญย์

ท่าน ดร.สว่าง ภู่พัฒน์วิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จุดเทียนฯ

ไหว้พระพร้อมกัน...


ท่านผอ.สถาบันวิจัย, พี่ไก่ และคณาจารย์

ผศ.ชญานิษฐ์  ศศิวิมล 

ประธานจุดเทียนที่บาตรน้ำมนต์

หลวงปู่แขก ปภาโส ทำพิธีตามตำรับ

เทียนน้ำมนต์เป็นเศียรนาค... !!!

ภาพที่ใครๆ ล้วนตื่นเต้น

คณาจารย์ถวานปัจจัย ไทยธรรม

ถวายข้าวพระพุทธ

ท่าน ผอ. กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล

ท่านอธิการบดี

หลังจากนั้น หลวงปู่แขก แจกแบ๊งค์พันล้าน!!!!

ได้เป็นลูกช้าง อุ้มบาตรน้ำมนต์หลวงปู่ เดินประพรมทั่วตึก "เปียกหมดเลยครับ"

หลังจากหลวงปู่ฉันเสร็จ ผมได้ขอเมตตาหลวงปู่ จารธงชัยที่ปักเหนือฉัตรตอนปลุกเสกฯ ที่โบสถ์พระพุทธชินราช 

ก่อนหลวงปู่กลับ 

แมงปอ ที่มาเกาะบริเวณผ้าด้านหลังหลวงปู่ตลอดทั้งงาน

อวด สักกะนิดนะจ๊ะ

สุดยอดครับ "เรียกเงิน เรียกทอง เข้าบ้าน" สาธุๆๆๆๆ
   ก็ต้องกราบขอบพระคุณอาจารย์ และเจ้าหน้าที่ทุกท่านนะครับ สำหรับวันนี้ เพราะ ได้ทั้งตอบแทนพระคุณครูบาอาจารย์ และก็ยังได้ของดีกลับบ้านอีก อิอิ (เทียนในบาตรหลวงปู่ รับกับมือหลวงปู่ ใบเงินไปทอง เงินพันล้าน และธงชัยผืนนี้ ว้าวววววว)

     สาธุ....



...............................
ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ