ว้าวๆๆๆๆๆ
วันนี้ได้รับเช็คจาก google adsense ใบที่ 3 แล้ว
ได้ไม่มากมาย ได้เรื่อยๆ แบบนี้สบายเรื่องค่าเช่า host
ขยันทำ ขยันอัพ ได้สมาชิก ได้เงิน โอยยยย สุดยอด
พรุ่งนี้ เอาเช็คไปขึ้นดีกว่า ว้าววววว
07 กุมภาพันธ์ 2553
06 กุมภาพันธ์ 2553
ประชุมผู้เข้าร่วมการนำเสนอวิจัยเครือข่ายราชภัฏภาคเหนือ
วันนี้ไปประชุมอาจารย์ และนักศึกษาที่จะไปร่วมนำเสนองานวิจัย
ในงานนำเสนอผลงานวิจัยเครือข่ายราชภัฏภาคเหนือ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
ซึ่งกำหนดการคือวันที่ 10 - 12 ก.พ. 2553
โดยได้นำเสนอด้วยวาจา (บนเวที) และมีพี่น้องราชภัฏบางส่วนได้นำเสนอด้วยโปสเตอร์
ในงานนำเสนอผลงานวิจัยเครือข่ายราชภัฏภาคเหนือ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
ซึ่งกำหนดการคือวันที่ 10 - 12 ก.พ. 2553
โดยได้นำเสนอด้วยวาจา (บนเวที) และมีพี่น้องราชภัฏบางส่วนได้นำเสนอด้วยโปสเตอร์
05 กุมภาพันธ์ 2553
ไปทำบุญที่สุโขทัย
วันนี้ได้ไปทำบุญที่สุโขทัย
และได้รับฟังเรื่องดีๆ เรื่องที่อยากรู้ เรื่องที่อยากฟัง
แม้จะไกลไปหน่อย แต่ก็คุ้มค่าที่จะไป สุดยอดเลยครับ
และได้รับฟังเรื่องดีๆ เรื่องที่อยากรู้ เรื่องที่อยากฟัง
แม้จะไกลไปหน่อย แต่ก็คุ้มค่าที่จะไป สุดยอดเลยครับ
04 กุมภาพันธ์ 2553
ยอด adsense ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากที่ดีใจเนื้อเต้นมาหลายวัน
เพราะว่า adsense ได้วันลาหลายเหรียญ แบบว่าเร็วมากๆ โอย สุดยอดครับ
พอมาถึงวันนี้ก็ลดลง
เข้าใจว่าเพราะเด็กสอบ o-net กันแล้ว จึงไม่ได้เข้ามาเว็บ
ดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาไทยนะเนี่ย ว้าว สุดยอดเลย
เพราะว่า adsense ได้วันลาหลายเหรียญ แบบว่าเร็วมากๆ โอย สุดยอดครับ
พอมาถึงวันนี้ก็ลดลง
เข้าใจว่าเพราะเด็กสอบ o-net กันแล้ว จึงไม่ได้เข้ามาเว็บ
ดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาไทยนะเนี่ย ว้าว สุดยอดเลย
03 กุมภาพันธ์ 2553
ยาดีตีไม่เจ็บ (ทำไมครูยังต้องตี)
ยาดี ถูกครูตีไม่เจ็บ
ไปซื้อมาจากร้านเกมส์ แล้วมาทดลองกินกัน กินแล้วให้เพื่อนต่อย ปรากฎว่ายังเจ็บ
...ก็กินเพิ่มอีก แล้วลองอีก ก็ยังเจ็บ
สงสัยยาออกฤทธิ์ช้า ผ่านไปสักพัก เริ่มมึน เหอะๆๆๆๆ
สังคมไทยกำลังเป็นอะไรไป เด็กนักเรียนไม่สนใจเรียน หนีไปเล่นเกมส์ แล้วกลัวถูกครูตี จึงหาวิธี"ครูตีแล้วไม่เจ็บ"
นักข่าวบางคนบอกว่า "สมัยนี้ ยังมีการลงโทษแบบนี้อยู่เหรอ"
คุณลองมาสอนสักวันสิครับ แล้วจะรู้ว่า...
...นักเรียนไม่สนใจเรียน เพราะมีกฎห้ามซ้ำชั้น
...นักเรียนกล้าชก ผอ. เพราะมีกฎห้ามตี หักไม่เรียวทิ้ง
...นักเรียนไม่ตั้งใจสอบ ทั้งในระดับโรงเรียน หรือระดับชาติ เพราะคิดว่า เดี๋ยวครูก็ให้ผ่าน เพราะหากเด็กสอบตกมาก เด้กมีผลสัมฤทธิ์ต่ำ เป็นความผิดของครู ทั้งๆที่เด็กไม่ทำงาน ไม่ส่งการบ้าน แม้แต่การปลูกถั่วงอกมาส่ง ก้ไม่ทำ เรียกผู้ปกครองมาพบ ก็ไม่กลัว
แล้วแบบนี้ สังคมไทยจะเป็นอย่างไรครับ
เจตนาที่ครูตี เพราะอยากให้หลาบจำ
ไม่ใช่ต้องการให้เด้กเจ็บปวดแล้วสะใจ ผมถามจริงๆ คนที่เป็นใหญ่เป็นโต แม่แต่นักข่าวอย่างคุณ (คนที่พูด) คุณไม่เคยถูกตีหรือ คุณไม่ได้ดีจากไม้เรียวครูหรือ ผมเองก็ยังเคยถูกตี และเราก็มีสติในการทำงานครั้งต่อไป ผมเลยมีวันนี้ มีวันทีได้เป็นข้าราชการครูตั้งแต่อายุ 23 (เข้าเรียนอนุบาลตามเกณฑ์) ผมจำได้ ตอนรับพระราชทานปริญญาบัตร มีคนรุ่นเดียวกันสวมชุดขาวเพียงไม่กี่คน (ไม่ถึง 10 คน) ผมโชคดีมาที่ได้สวมชุดปกติขาวดังใจ
ผมได้ดีเพราะมีครู ได้รู้เพราะครูตี ไม่อัปรีย์เพราะครูสอน ไม่นอนกิน(ชาติ) เพราะครูดี
ไปซื้อมาจากร้านเกมส์ แล้วมาทดลองกินกัน กินแล้วให้เพื่อนต่อย ปรากฎว่ายังเจ็บ
...ก็กินเพิ่มอีก แล้วลองอีก ก็ยังเจ็บ
สงสัยยาออกฤทธิ์ช้า ผ่านไปสักพัก เริ่มมึน เหอะๆๆๆๆ
สังคมไทยกำลังเป็นอะไรไป เด็กนักเรียนไม่สนใจเรียน หนีไปเล่นเกมส์ แล้วกลัวถูกครูตี จึงหาวิธี"ครูตีแล้วไม่เจ็บ"
นักข่าวบางคนบอกว่า "สมัยนี้ ยังมีการลงโทษแบบนี้อยู่เหรอ"
คุณลองมาสอนสักวันสิครับ แล้วจะรู้ว่า...
...นักเรียนไม่สนใจเรียน เพราะมีกฎห้ามซ้ำชั้น
...นักเรียนกล้าชก ผอ. เพราะมีกฎห้ามตี หักไม่เรียวทิ้ง
...นักเรียนไม่ตั้งใจสอบ ทั้งในระดับโรงเรียน หรือระดับชาติ เพราะคิดว่า เดี๋ยวครูก็ให้ผ่าน เพราะหากเด็กสอบตกมาก เด้กมีผลสัมฤทธิ์ต่ำ เป็นความผิดของครู ทั้งๆที่เด็กไม่ทำงาน ไม่ส่งการบ้าน แม้แต่การปลูกถั่วงอกมาส่ง ก้ไม่ทำ เรียกผู้ปกครองมาพบ ก็ไม่กลัว
แล้วแบบนี้ สังคมไทยจะเป็นอย่างไรครับ
เจตนาที่ครูตี เพราะอยากให้หลาบจำ
ไม่ใช่ต้องการให้เด้กเจ็บปวดแล้วสะใจ ผมถามจริงๆ คนที่เป็นใหญ่เป็นโต แม่แต่นักข่าวอย่างคุณ (คนที่พูด) คุณไม่เคยถูกตีหรือ คุณไม่ได้ดีจากไม้เรียวครูหรือ ผมเองก็ยังเคยถูกตี และเราก็มีสติในการทำงานครั้งต่อไป ผมเลยมีวันนี้ มีวันทีได้เป็นข้าราชการครูตั้งแต่อายุ 23 (เข้าเรียนอนุบาลตามเกณฑ์) ผมจำได้ ตอนรับพระราชทานปริญญาบัตร มีคนรุ่นเดียวกันสวมชุดขาวเพียงไม่กี่คน (ไม่ถึง 10 คน) ผมโชคดีมาที่ได้สวมชุดปกติขาวดังใจ
ผมได้ดีเพราะมีครู ได้รู้เพราะครูตี ไม่อัปรีย์เพราะครูสอน ไม่นอนกิน(ชาติ) เพราะครูดี
02 กุมภาพันธ์ 2553
ภาษาอังกฤษทางธุรกิจที่ใช้กันผิดบ่อยๆ
ภาษาอังกฤษทางธุรกิจที่ใช้กันผิดบ่อยๆ
ในโลกแห่งการแข่งขันทางธุรกิจอย่างปัจจุบันนี้ คุณต้องหาข้อเป็นต่อให้มากเท่าที่จะหาได้ไว้ดีกว่า การพูดภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องจะทำให้คุณก้าวนำคนอื่นอย่างมั่นใจ คิดว่ายากเกินไปเหรอ? ไม่เลย ! ลองอ่านดูข้อที่คู่แข่งขันคุณใช้ผิดบ่อยๆ แล้วจำคำที่ถูกไปใช้ได้ทันที
Personal vs. Personnel
สังเกตการสะกดคำและการเน้นเสียงของสองคำนี้! "Personnel" เป็นคำนามหมายถึงพนักงานในบริษัท เช่น"Our company has the best personnel in the industry." การเน้นเสียงจะเน้นพยางค์ท้ายของคำ ส่วน"Personal" เป็นคำ adjective หมายถึงส่วนตัวหรือส่วนบุคคล เช่น "I'm requesting a day of annual leave for personal reasons." การเน้นเสียงจะเน้นที่พยางค์แรกของคำ แล้วถ้าคุณไม่ระวัง คุณอาจถูกเรียกตัวเข้าประชุม "personal meeting" ไม่ใช่ "personnel meeting." อย่างที่ควรจะเป็น
Executive
"executive" หมายถึงคนที่มีตำแหน่งเป็นผู้บริหารของบริษัท ถ้าคุณต้องแนะนำ executives ระดับสูงให้แก่แขกหรือลูกค้า ก็ระวังการเน้นเสียงของคำนี้ให้ดี ! อย่าไปเน้นเสียงตรงอักษร "u" เพราะไม่อย่างนั้นคำว่า "executive" จะออกเสียงเหมือนกับคำว่า "execute" ซึ่งแปลว่าฆ่าหรือประหารชีวิต
Present? Presentate? Presentation?
คุณ present(เสนอ)รายงานข้อมูลเมื่อคุณให้ presentation(การ นำเสนองาน) คำว่าPresent เป็น verb หมายถึงแนะนำบางสิ่งให้เป็นที่รู้จักหรือกล่าวถึงบางสิ่งให้เป็นที่สนใจแก่ คนอื่น ส่วนคำว่า presentationเป็นการเรียกกระบวนการนำเสนอหรือการ แนะนำข้อมูลใหม่ในทางธุรกิจ มีคนมากมาย(รวมทั้งเจ้าของภาษาบางคนด้วย)ที่คิดว่า "presentate" เป็น verb ของคำว่า "presentation." คุณอย่าคิดผิดอย่างนั้นด้วยก็แล้วกัน เพราะคำนี้ไม่มีในภาษาอังกฤษ !
"I look forward to hearing from you."
ประโยคนี้ใช้กันบ่อยในการลงท้ายจดหมายทางธุรกิจ แต่คนมักใช้ผิดเป็น"I look forward to hear from you." ซึ่งไม่ถูกหลักไวยากรณ์และฟังดูตลกๆ สำหรับคนอ่านที่เป็นเจ้าของภาษา ที่ถูกต้องคือคำกิริยา "hear" ในประโยคนี้ต้องต่อท้ายด้วย "ing" เสมอ ดังนี้ "I look forward to hearing from you."
Headquarters and Information
มีคนที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่มากมายที่สะกดสองคำนี้ผิดโดยการตัด"s" ออกจาก "headquarters" แต่ไปเติม "s"ใน"information" ที่ถูกต้องคือ Headquartersซึ่งคำนี้เป็นคำนามเอกพจน์หมายถึงสำนัก งานใหญ่ของบริษัท เช่น "I'm going to headquarters this weekend to meet with the CEO." คำว่า Headquarters อาจสับสนหน่อยเพราะถึงแม้ว่าจะลงท้ายด้วย "s" แต่มันก็ไม่ใช่พหูพจน์ ! ถ้าคุณตัด "s" ออกจากคำว่า headquarters คำนี้จะเปลี่ยนเป็นคำกิริยา "to headquarter" ทันที ในทางตรงกันข้าม การเติม"s" เข้าที่ information นั้นไม่ถูกต้อง คนส่วนใหญ่คิดว่าถ้าเขาต้องการข้อมูล(information)มากมาย ก็ควรทำให้คำนี้เป็นพหูพจน์ เช่น "I need informations on overseas study programs." แต่ตามความเป็นจริงที่ถูกต้องแล้ว คำว่า information เป็นคำนามที่นับไม่ได้ (ไม่มีรูปพหูพจน์) เพราะฉะนั้น คุณต้องพูดเพียงว่า "I need some information."
ที่มา http://englishtown.msn.co.th
ในโลกแห่งการแข่งขันทางธุรกิจอย่างปัจจุบันนี้ คุณต้องหาข้อเป็นต่อให้มากเท่าที่จะหาได้ไว้ดีกว่า การพูดภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องจะทำให้คุณก้าวนำคนอื่นอย่างมั่นใจ คิดว่ายากเกินไปเหรอ? ไม่เลย ! ลองอ่านดูข้อที่คู่แข่งขันคุณใช้ผิดบ่อยๆ แล้วจำคำที่ถูกไปใช้ได้ทันที
Personal vs. Personnel
สังเกตการสะกดคำและการเน้นเสียงของสองคำนี้! "Personnel" เป็นคำนามหมายถึงพนักงานในบริษัท เช่น"Our company has the best personnel in the industry." การเน้นเสียงจะเน้นพยางค์ท้ายของคำ ส่วน"Personal" เป็นคำ adjective หมายถึงส่วนตัวหรือส่วนบุคคล เช่น "I'm requesting a day of annual leave for personal reasons." การเน้นเสียงจะเน้นที่พยางค์แรกของคำ แล้วถ้าคุณไม่ระวัง คุณอาจถูกเรียกตัวเข้าประชุม "personal meeting" ไม่ใช่ "personnel meeting." อย่างที่ควรจะเป็น
Executive
"executive" หมายถึงคนที่มีตำแหน่งเป็นผู้บริหารของบริษัท ถ้าคุณต้องแนะนำ executives ระดับสูงให้แก่แขกหรือลูกค้า ก็ระวังการเน้นเสียงของคำนี้ให้ดี ! อย่าไปเน้นเสียงตรงอักษร "u" เพราะไม่อย่างนั้นคำว่า "executive" จะออกเสียงเหมือนกับคำว่า "execute" ซึ่งแปลว่าฆ่าหรือประหารชีวิต
Present? Presentate? Presentation?
คุณ present(เสนอ)รายงานข้อมูลเมื่อคุณให้ presentation(การ นำเสนองาน) คำว่าPresent เป็น verb หมายถึงแนะนำบางสิ่งให้เป็นที่รู้จักหรือกล่าวถึงบางสิ่งให้เป็นที่สนใจแก่ คนอื่น ส่วนคำว่า presentationเป็นการเรียกกระบวนการนำเสนอหรือการ แนะนำข้อมูลใหม่ในทางธุรกิจ มีคนมากมาย(รวมทั้งเจ้าของภาษาบางคนด้วย)ที่คิดว่า "presentate" เป็น verb ของคำว่า "presentation." คุณอย่าคิดผิดอย่างนั้นด้วยก็แล้วกัน เพราะคำนี้ไม่มีในภาษาอังกฤษ !
"I look forward to hearing from you."
ประโยคนี้ใช้กันบ่อยในการลงท้ายจดหมายทางธุรกิจ แต่คนมักใช้ผิดเป็น"I look forward to hear from you." ซึ่งไม่ถูกหลักไวยากรณ์และฟังดูตลกๆ สำหรับคนอ่านที่เป็นเจ้าของภาษา ที่ถูกต้องคือคำกิริยา "hear" ในประโยคนี้ต้องต่อท้ายด้วย "ing" เสมอ ดังนี้ "I look forward to hearing from you."
Headquarters and Information
มีคนที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่มากมายที่สะกดสองคำนี้ผิดโดยการตัด"s" ออกจาก "headquarters" แต่ไปเติม "s"ใน"information" ที่ถูกต้องคือ Headquartersซึ่งคำนี้เป็นคำนามเอกพจน์หมายถึงสำนัก งานใหญ่ของบริษัท เช่น "I'm going to headquarters this weekend to meet with the CEO." คำว่า Headquarters อาจสับสนหน่อยเพราะถึงแม้ว่าจะลงท้ายด้วย "s" แต่มันก็ไม่ใช่พหูพจน์ ! ถ้าคุณตัด "s" ออกจากคำว่า headquarters คำนี้จะเปลี่ยนเป็นคำกิริยา "to headquarter" ทันที ในทางตรงกันข้าม การเติม"s" เข้าที่ information นั้นไม่ถูกต้อง คนส่วนใหญ่คิดว่าถ้าเขาต้องการข้อมูล(information)มากมาย ก็ควรทำให้คำนี้เป็นพหูพจน์ เช่น "I need informations on overseas study programs." แต่ตามความเป็นจริงที่ถูกต้องแล้ว คำว่า information เป็นคำนามที่นับไม่ได้ (ไม่มีรูปพหูพจน์) เพราะฉะนั้น คุณต้องพูดเพียงว่า "I need some information."
ที่มา http://englishtown.msn.co.th
01 กุมภาพันธ์ 2553
ฤกษ์ดี ปี 2553
วันนี้เอาฤกษ์ดี ตลอดปี 2553
ทั้งฤกษ์แต่งงาน
ฤกษ์บวช
ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่
ฯลฯ
ดูได้ที่ http://www.seal2thai.org/sara/sara203.htm
http://www.seal2thai.org/sara/sara202.htm
http://www.seal2thai.org/sara/sara201.htm
ทั้งฤกษ์แต่งงาน
ฤกษ์บวช
ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่
ฯลฯ
ดูได้ที่ http://www.seal2thai.org/sara/sara203.htm
http://www.seal2thai.org/sara/sara202.htm
http://www.seal2thai.org/sara/sara201.htm
31 มกราคม 2553
ไปวัดหนองบัว โพธิ์ประทับช้าง
วันนี้ไปวัดหนองบัว โพธิ์ประทับช้างมาครับ
สภาพเปลี่ยนไปมาก ไม่ได้ไปมาเกือบปี แต่พี่สาวของพระอาจารย์ และพระอาจารย์ยังจำได้อยู่
ดีใจครับ
เรื่องดวงเหมือนเดิม
สภาพเปลี่ยนไปมาก ไม่ได้ไปมาเกือบปี แต่พี่สาวของพระอาจารย์ และพระอาจารย์ยังจำได้อยู่
ดีใจครับ
เรื่องดวงเหมือนเดิม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ