14 มกราคม 2553

ติดตามวิทยานิพนธ์

วันนี้ต้องขออนุญาตออกมาก่อนเวลาเลิกเรียน
เพราะต้องมาจัดการเรื่องวิทยานิพนธ์ที่สอบแล้วแก้ไขไว้

ออกมา 12.45 น.

ขึ้นรถ 13.25 น.

มาถึงห้อง 14.05 น.

ไปเอาใบที่บัณฑิตฯ 14.10 น.

ไปพบอาจารย์ที่ ม.นเรศวร 15.20 น.

เหนื่อยเนาะ
กว่าจะขี่มอเตอร์ไซต์มาถึง กว่าจะมาจัดงาน กว่าจะมา.....โอยยยย

ใครที่ไม่ได้เรียน คงไม่เข้าใจ
เหนื่อยมาก ขนาดได้ดีเยี่ยม นะเนี่ย

13 มกราคม 2553

ครูบ้านนอกอยากกินเต้าหู้ทอดใบสะระแหน่

วันนี้หิวมากๆ
อยากกินเต้าหู้ทอดใบสะระแหน่ ไปลองหาดู อ้าววววว

เจอแล้ว วิธีทำ เต้าหู้ทอดใบสะระแหน่

ไปลองทำดูดีกว่า.........................

แซบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

12 มกราคม 2553

ครูบ้านนอก กับเครื่องแบบข้าราชการครู ตอนที่ 2

เมื่อการเดินทางในแต่ละวันสิ้นสุดลง นั่นคือความสบายใจที่ได้เอาชีวิตรอดไป 1 วัน

คนที่มีรถส่วนตัว มีรถยนต์ คงยังไม่เข้าใจความรู้สึกนี้เท่าไรครับ เพราะการเดินทางที่ต้องเสียง "เนื้อหุ้มเหล็ก" มันยากลำบากขนาดไหน เวลาพลาดรถเมล์ ก็ต้องรออีกเที่ยวหนึ่ง ไม่ได้สึขสบายอย่างที่คิด

สิ่งเดียวที่เป็นกำลังใจ และคอยย้ำเตือนหน้าที่คือ ตราครุฑที่อยู่บนเข็มขัด นั่นแหละเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า เราคือคนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน

เครื่องแบบข้าราชการครู คือเครื่องแบบของคนในพระบาทฯ

11 มกราคม 2553

ครูบ้านนอก กับเครื่องแบบข้าราชการครู

การเป็นครู เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ
เพราะได้ทำหน้าที่สอนคน มิใช่การสั่งคน

นายพล สั่งทหารเข้ารบ
แต่ครูฝึก สอนทหารรบอย่างถูกวิธี รบแบบเอาตัวรอด

ความภูมิใจ คือ การที่ได้รับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แม้ว่าการเดินทางจะยากลำบากไปสักหน่อย อีกทั้งยั้งต้องเสียงภัยโดนรถอ้อยเหยียบ

ไม่รู้ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น จะได้ธงชาติคลุมหรือเปล่า เพราะไม่มีคำสั่ง (เพราะอยู่ระหว่างการเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ)

10 มกราคม 2553

เหรียญนเรศวรพาหุง วัดภูเขาทอง

วันนี้เอาเหรียญนเรศวรพาหุง วัดภูเขาทอง และเหรียญ 5 แถว - นะมหาสำเร็จกินไม่รู้สิ้น (รุ่นทูลเกล้าฯ) ของ อ.หนู กันภัยไปเลี่ยมพลาสติก
ชอบมากเลยครับ สวยงามและดูเข้มขลังดี

……..“เหรียญนเรศวรพาหุง” เป็นเหรียญทรงเสมาขนาดเขื่อง ด้านหน้าเป็นพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหา ราช ประทับเหนือพระที่นั่งพุท ไธสวรรค์ ทรงพระแสงดาบบนพระเพลา ทรงหลั่งน้ำทักษิโณ ทกประกาศเอกราช ไม่เป็นเมืองขึ้นของใคร ด้านหลังเป็นพระยันต์พาหุงมหากาฯ บทใหญ่ 8 แม่บท และพระยันต์นารายณ์ปราบไตรจักร ประกอบด้วยพระยันต์มหาปราบแม่บทใหญ่ ถึง 14 พระยันต์
……..เหตุที่เหรียญนี้ชื่อเหรียญพาหุง เพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นมหาบุรุษอันประเสริฐ มีชัยชนะเหนือพญามารและเสนามารทั้งปวง และชนะเหนือศัตรูสำคัญที่มาผจญถึง 8 ครั้งด้วยกัน โบราณาจารย์จึงสรรเสริญคุณของพระพุทธเจ้า เป็นบทสวดพาหุงมหากาฯ ดุจเดียวกับองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงมีชัยชนะเหนืออริราชศัตรู ปกป้องแผ่นดินไทยมาได้
……..อีกทั้ง “หลวงพ่อสายบัว” อัญเชิญพระคาถาพาหุงบทใหญ่ เสกประจุพุทธคุณอย่างเต็มที่ ซึ่งเชื่อกันว่าบทสวดพาหุงบทใหญ่นี้ มีพุทธคุณบันดาลชัยชนะเหนือศัตรู และอุปสรรคทั้งปวง ป้องกันและระงับภัย ส่งเสริมดวงชะตาของผู้สวดเป็นประจำ และจะมีเทพและพรหมมาคอยพิทักษ์รักษาอยู่เป็นนิจ จึงเป็นที่มาของเหรียญพาหุง ซึ่งเป็นเหรียญแห่งชัยชนะทั้งปวง

อ่านที่ http://www.amulet.saweedas.com/prageji/?p=40

09 มกราคม 2553

วันเด็ก

ถึงวันเด็กทีไร ทำให้ผมนึกถึงวันเด็กเมื่อปี 2549 ทุกที

ผมจำได้ว่า ตอนนั้นยังไปเรียน ป.โทอยู่

พอขี่รถผ่านซอยเจียรไนเพชร ผมเห็นเด็ก 2 คน
คนโตเป็นผู้หญิง น่าจะประมาณ 7 ขวบ สวนน้องชาย น่าจะประมาณ 4 - 5 ขวบ

ตัวเล็กๆ ผอม
เสื้อผ้าที่ดูเก่า ประกอบกับใบหน้าที่ไร้เดียงสา

ทั้งสองจอดจักรยานคันเล็กๆ สภาพเก่าๆ ลงคุ้ยเขี่ยถังขยะอยู่

ภาพนั้นยังติดตาผมมาถึงทุกวันนี้
เพราะเมื่อพ้อนซอนนั้นแล้ว ผมเห็นผู้ปกครองหลายคน ขับรถยนต์คันแพงๆ บ้างก็รถกระบะ บ้างก็มอเตอร์ไซต์ ลูกหลานไปดูรถถัง ดูเครื่องบิน เล่นของเล่น กินไอศกรีม รับของแจก

ในวันที่หลายคนมีความสุข
ในมุมเล็กๆของสังคม ก็มีคนที่ขาดโอกาสนั้นอยู่

หากคุณที่เข้ามาอ่าน คุณเป็นคนที่มีโอกาสมากมายทางสังคม เป็นนักธุรกิจ เป็นผู้บริหารระดับสูง เป็น CEO เป็นดาราที่กำลังจะได้รับรางวัลเยาวชนดีเด่น (แม้อาจจะเปลี่ยนประวัติ ชื่อพ่อ ชื่อแม่ ก็ตาม) เป็นนักร้องที่จะได้รับรางวัลใช้ภาษาไทยดีเด่น ฯลฯ ขอความกรุณาหยิบยื่นโอกาสที่คุณมีให้คนอื่นๆบ้าง
ว่างๆ ลองหาอะไรทำที่เป็นประโยชน์แบบง่ายๆ ... ไม่ต้องอาศัยหน้าตา ชื่อเสียง และยศฐาบรรดาศักดิ์ ขอเพียงความจริงใจ และจิตสาธารณะเท่านั้น เพราะนอกจากจะได้บุญแล้ว คุณอาจรับรู้ว่า ในมุมที่มืดมิด แสงสว่างเพียงนิดเดียว คือแสงดาวส่องนำทางครับ

ขอบคุณครับ

08 มกราคม 2553

ฝนตกหน้าหนาว หลังปีใหม่เนี่ยนะ!!!

โอยยยยย

อะไรกันเนี่ย

ฝนตกมา 2 วันแล้ว มันก็ไม่แปลกหรอก มันแปลกตรงที่ ก่อนหน้านี้ 4 วัน อากาสร้อนจนต้องเปิดพัดลม
แล้วฝนก็ตก โครมเบ้อเร้อ

ที่สำคัญ ตกหน้าหนาว ตกจนกรุงเทพน้ำขัง(เพราะผู้ว่า กทม. คนเหนึ่งเคยด่านักข่าว ที่ดันไปถามว่าจะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้อย่างไร และไม่เคยโพล่หัวไปแก้ปัญหาเลย เค้าก็ตอกกลับว่า "กรุงเทพแค่น้ำขัง ไม่ใช่น้ำท่วม แล้วจะให้กระผมทำอย่างไร ถ้าผมลงไปแช่น้ำแล้วน้ำแห้ง ผมก็จะไป") น่านนนนนนนนน

พอฝนตก อากาศก็เย็นลงมาก
หลายคนเป็นไข้ ไม่สบาย ป่วย และที่สำคัญ ไม่มีใครรณรงค์สวมหน้ากากอนามัยแล้ว

ทุกวันนี้ แทบจะมีผมคนเดียวมั้ง ที่สวมหน้ากากเข้าหาคนอื่นแวลานั่งรถเมล์

เซ็งเลย ฟ้าผ่าด้วย

ดีนะที่วันนี้ได้อาศัยรถยนต์เค้าเข้าโรงเรียน ไม่งั้นเปียกปอนแน่ๆครับ
เฮ้อ....ชีวิต ครูบ้านนอก

07 มกราคม 2553

พระขับเก๋งบิณฑบาตร กับการทำบุญที่รู้สึกต่างกัน

เมื่อเช้าได้ดูข่าวพระขับรถเก๋งบิณฑบาตร พอเห็นแล้วก็ร้องเฮ้ย!! ใช่เลยนี่หว่า

ที่ว่าใช่เลยก็เพราะเป็นพระที่ขับรถคันดังกล่าวในบริเวณที่ผมอาศัยอยู่
ผมจะไปซื้อกับข้าวประมาณ 6 โมง ก็จะเห็นท่านประจำ
ตอนแรกก็มีความรู้สึกไม่ดี แต่ก็คิดว่า สงสัยไม่มีพระลูกวัด หรือโยมอยู่ใกล้ๆขับรถให้ ท่านจึงต้องขับเอง

หลายท่านที่เคยใส่บาตรบริเวณสี่แยกบ้านคลองก็คงทรายบกันดี เพราะท่านจะเป็นพระรูปเดียวที่ไม่ให้โยม "นั่งรับพร" ท่านจะให้โยมยืนรับพร ซึ่งโยมบางคนก็เก้ๆกังๆ (ใส่บาตรนั่งรับพรมา 40 ปีแล้ว มาเจอแบบนี้ก็งง)

ครั้งแรกที่ผมเห็นคือ ท่านขับรถมาจอด 7 - 11 สาขา 3388 (ตลาดบ้านคลอง) ผมนั่งคร่อมจักรยานยนต์อยู่ มีรถเก๋งคันดังกล่าวมาจอด มองด้านหลังมีสายรัดของรัดกระโปรงรถอยู่ ก็แอบยิ้มขำๆคนเดียว แต่รอยยิ้มก็หุบไป เมื่อ "ท่าน" ลงมาจากรถ พร้อมทั้งเอาบาตรลงมา

"เฮ้ย"

ผมเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่กล้าทำอะไร ....

ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ (ที่ข่าวออก)
คนที่ใส่บาตรจะเห็นท่าน...ขับรถ
เคยมีครั้งหนึ่ง ที่มีโยมขับให้

มาตอนหลัง ผมก็รู้ว่า สิ่งที่ผมคิดนั้นผิด
เพราะพระลูกวัด "วัดบ้านคลอง" ก็นั่งรถซาเล้ง(ไม่เกี่ยวกับคุณโสภณนะครับ)ประมาณ 4 - 5 รูป มาบิณฑบาตร โดยมีโยมขี่ให้
แสดงว่า ท่านไม่ได้อยู่รูปเดียวสินะ.... วัดป่า วัดธรรมยุต... วัดบ้านคลอง (ธ)

แต่วันนี้เช่นเดียวกัน ผมนำมุ้งและยาไปทำสังฆทานที่วัดป่า ข้างโรงเรียนผม
ทางไปก็ขรุขระ ไปกับพี่อีก 3 คน
เมื่อไปถึง สภาพวัด (ไม่รู้ว่าเป็นวัดหรือสำนักสงฆ์) ก็เรียบง่าย เพราะเดินท่านอยู่รูปเดียว ตอนนี้มีพระนวกะมาอยู่ด้วยอีก 1 รูป (บวชเมื่อ 1 ธ.ค.) เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนผมเอง

ภายในศาลาก็ไม่มีอะไร มีเพียงพระพุทธรูปขนาดประมาณ 1 ศอก 2 ศอก อยู่ 3 องค์ ขนาด 5 นิ้ว 7 นิ้ว อยู่ไม่กี่องค์ แต่สะอาด ไฟฟ้าไม่มีใช้ ข่าวไม่ฟัง ทีวีไม่ดู พัดลมเก่าๆ 1 ตัว โอย เรียบง่ายมากๆ สุดยอดครับ

ปกติท่านจะเดินบิณฑบาตรไปเกือบครึ่งหมู่บ้านด้วยเท้าเปล่า จนหลายคนลือกันว่า "ท่านย่นระยะทางได้" ซึ่งท่านก็บอกว่า ไร้สาระ

พอถวายสังฆทาน ซึ่งมีมุ้ง มียา มีน้ำ มีเครื่องอุปโภคบริโภคที่สงฆ์พึงมีได้ (ของ 4 คน ก็ดูมากอยู่)
ท่านให้ทำตามขั้นตอนแล้วสอนว่า "การทำบุญไม่เน้นเรื่องจำนวนมาก มีน้อยให้น้อย มีมากให้ตามสมควร ไม่ควรทำให้เดือดร้อยทั้งกาย วาจา ใจ"

"จิตที่ให้พึงบริสุทธ์ ไม่ต้องไปมองว่า ของคนนั้นมากกว่าของเรา เพราะจะทำให้บุญที่จะได้ลดไป"

และของที่ได้ มากเกินไป ท่านก็จะขอเอาไปบริจาค

ผมและพี่ๆเชื่อว่า ท่านไม่ได้สร้างภาพแน่นอน เพราะข้าวของสมบัติในวัด ไม่มีอะไรเลย มีเพียงความสงบ เรียบง่าย เอาไว้ขัดเกลาสันดานหยาดของคน

เรื่องนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญในวันเดียวกัน ส่วนจะตัดสินอย่างไร ก็ตามสติของแต่ละท่านครับ
ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ