วันนี้วันดี มีฤกษ์สำหรับการออกกิจการใหม่ ฤกษ์เปิดร้านใหม่ ฤกษ์การขึ้นบ้านใหม่ เป็นสิ่งที่ดี
ใครๆก็มองเห็นว่า ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ดี
โชคดีกันมากมายนะครับพี่น้อง อยากให้เป็นจุดเริ่มต้นของร้านใหม่ บ้านใหม่
การเริ่มต้นใหม่ เป็นการเริ่มก้าวเดิน
บางคนอาจเดินครั้งแรก
บางคนอาจเคยล้ม แล้วเดินใหม่
มีเพียงคนตายเท่านั้นที่ไม่เดิน
ใครบ้างจะยอมเป็นคนตาย
เดิน เดิน เดิน
ฤกษ์ดี ฤกษ์งาม ย่อมคู่กับฤกษ์สะดวกสบาย เรื่องฤกษ์บางคนอาจมองว่าไร้สาระ แต่แต่ละวัน พระอาทิตย์ขึ้นไม่พร้อมกัน
น้ำขึ้น น้ำลงไม่พร้อมกัน
มันมีเวลาของมันอยู่
ฤกษ์ผานาทีที่ดีงาม ย่อมอยู่กับกิจการที่ประกอบด้วยคุณธรรมด้วยนะครับ
ที่มา www.saweedas.com
13 ตุลาคม 2552
12 ตุลาคม 2552
อ.หนู กันภัย
บนทางเดินมากมายมีหลายหลาก
บ้างลำบาก บ้างสบายเพราะกุศล
พ่อหนูช่วย ผู้ลำบากและอับจน
จึงอยู่ใน ใจชน ตลอดกาล
(พิริยะ)
อ.หนู กันภัย ยันต์ 5 แถว หนังสือ หมื่นยันต์ เหรียญห้าแถวนะมหาสำเร็จกินไม่รู้สิ้น
บ้างลำบาก บ้างสบายเพราะกุศล
พ่อหนูช่วย ผู้ลำบากและอับจน
จึงอยู่ใน ใจชน ตลอดกาล
(พิริยะ)
อ.หนู กันภัย ยันต์ 5 แถว หนังสือ หมื่นยันต์ เหรียญห้าแถวนะมหาสำเร็จกินไม่รู้สิ้น
11 ตุลาคม 2552
ทำบุญทอดกฐินที่วัดป่าวิสุทธิชาติ หนองบัวลำภู
วันนี้มีโอกาสดี เดินทางไปร่วมทำบุญที่วัดป่า วัดวิสุทธิชาติ จ.หนองบัวลำภู ออกเดินทางตั้งแต่ตี 3 จากพิษณุโลก หมอกจัดมากๆๆๆๆๆๆ ระหว่างช่วยที่ผ่าน จ.เลย
แล้วจะเอาภาพมาให้ชมนะครับ
แล้วจะเอาภาพมาให้ชมนะครับ
10 ตุลาคม 2552
เปิดโปงเรื่องย้าย
วันนี้ ขอเปิดโปงเรื่องย้ายกัน
คนๆหนึ่งต้องการย้าย (โดยมีเหตุผลหลายประการ)
คนๆหนึ่ง จึงเดินไปหาคนๆหนึ่ง เพื่อให้แนะนำให้รู้จักกับคนอีกคนหนึ่ง (กี่คนแล้ววะ)
เมื่อมาพร้อมหน้ากัน ทุกคนก็คุยเรื่องย้าย คนแรกก็ยกความจำเป็นที่ต้องย้าย
คนที่สอง กึ่งสนับสนุน กึ่งวางตัว (กั๊ก)
คนที่สาม มองดูในมือของคนที่หนึ่ง
เมื่อคุยกันจนถึงจุดที่ลงตัว (ผลประโยชน์ตรงกัน)
พวกเขาก็เริ่มย้าย.....
ทั้งหมด ช่วยกันย้ายตู้หนังสือออกจากทางเดิน เพราะกลัวว่านักเรียนจะเดินมาชน (ฮา)
เรื่องโดย อ.ก.ค.ศ.
คนๆหนึ่งต้องการย้าย (โดยมีเหตุผลหลายประการ)
คนๆหนึ่ง จึงเดินไปหาคนๆหนึ่ง เพื่อให้แนะนำให้รู้จักกับคนอีกคนหนึ่ง (กี่คนแล้ววะ)
เมื่อมาพร้อมหน้ากัน ทุกคนก็คุยเรื่องย้าย คนแรกก็ยกความจำเป็นที่ต้องย้าย
คนที่สอง กึ่งสนับสนุน กึ่งวางตัว (กั๊ก)
คนที่สาม มองดูในมือของคนที่หนึ่ง
เมื่อคุยกันจนถึงจุดที่ลงตัว (ผลประโยชน์ตรงกัน)
พวกเขาก็เริ่มย้าย.....
ทั้งหมด ช่วยกันย้ายตู้หนังสือออกจากทางเดิน เพราะกลัวว่านักเรียนจะเดินมาชน (ฮา)
เรื่องโดย อ.ก.ค.ศ.
09 ตุลาคม 2552
หมื่นยันต์
หนังสือหมื่นยันต์ โดย อ.หนู กันภัย
ในหนังสือถูกแบ่งออกเป็น 5 บรรพ
1.ศึกษาอักขระขอมโบราณ
2.เรื่องราวของ อ.หนูในหลาก หลายรูปแบบ
3.เป็นเรื่องราวอันหลากหลายของประสบการณ์ที่ลูกศิษย์ได้ผ่านพบมา
4.ภาพลายสักรวมถึงอักขระและ เลขยันต์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบได้นำเอาไปเก็บรักษากว่า 100 ลายภาพ
5.ภาคภาษาอังกฤษเกือบ100 หน้า สำหรับลูกศิษย์ชาวต่างชาติ ได้อ่านศึกษาเพื่อทำความเข้าใจในการสักยันต์แบบโบราณ
ทั้งหมดมีความหนากว่า 450 หน้าเต็มอิ่มจุใจ รวมอยู่ในพ๊อกเก็ตบุ๊ค(Pocket Book) ของ อ. หนู กันภัยภายใต้ชื่อ “หมื่นยันต์”
ในหนังสือถูกแบ่งออกเป็น 5 บรรพ
1.ศึกษาอักขระขอมโบราณ
2.เรื่องราวของ อ.หนูในหลาก หลายรูปแบบ
3.เป็นเรื่องราวอันหลากหลายของประสบการณ์ที่ลูกศิษย์ได้ผ่านพบมา
4.ภาพลายสักรวมถึงอักขระและ เลขยันต์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบได้นำเอาไปเก็บรักษากว่า 100 ลายภาพ
5.ภาคภาษาอังกฤษเกือบ100 หน้า สำหรับลูกศิษย์ชาวต่างชาติ ได้อ่านศึกษาเพื่อทำความเข้าใจในการสักยันต์แบบโบราณ
ทั้งหมดมีความหนากว่า 450 หน้าเต็มอิ่มจุใจ รวมอยู่ในพ๊อกเก็ตบุ๊ค(Pocket Book) ของ อ. หนู กันภัยภายใต้ชื่อ “หมื่นยันต์”
สนใจสั่งซื้อ/รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกอ่าน หมื่นยันต์
อ.หนู กันภัย ยันต์ 5 แถว หนังสือ หมื่นยันต์ เหรียญห้าแถวนะมหาสำเร็จกินไม่รู้สิ้น
อ.หนู กันภัย ยันต์ 5 แถว หนังสือ หมื่นยันต์ เหรียญห้าแถวนะมหาสำเร็จกินไม่รู้สิ้น
08 ตุลาคม 2552
เรื่องเล่า ข้อสังเกต อ.หนู กันภัย
สวัสดีครับ
วันนี้มีเรื่องเล่า ข้อสังเกต และข้อคิดเห็นมาเล่าสู่กันฟัง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ
1. เรื่องแรก ผมได้เอาเสือเหลี่ยวหลังที่พี่จ๋อมมอบให้ไปเลี่ยมพลาสติกกะว่าจะเอาไปห้อยคอ สับเปลี่ยนกับพระหรือวัตถุมงคลอื่นๆ คนที่เลี่ยมเค้าบอกว่า เค้าเป็นลูกศิษย์ของพระรูปหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการสักในระแวกพิษณุโลก เค้าบอกว่า อาจารย์ท่านั้นบอกว่า ยันต์ห้าแถวของ อ.หนู อักขระไม่ครบ หายไปตัวหนึ่ง แต่ที่ดังๆและราคาค่าครูสูง เพราะดารามาสักกันเยอะ
ตอนแรก ผมก็ว่า เอ ทำไม มาพูดแบบนี้ แต่ก็ใช้สติ และสมองอันน้อยนิดประกอบกับความเป็นครูวิทยาศาสตร์ คิดวิเคราะห์ว่า
- หากยันต์ห้าแถว อ.หนู ไม่มีจริง ไม่ครบจริง ทำไมพระรูปนั้นถึงบอกใครต่อใครว่าเป็นศิษย์ผู้พี่ หรือเป็นเพื่อนร่วมสำนักกับ อ.หนู
- ทำไม ท่านสักห้าแถวให้คนอื่นด้วย
...แสดงว่า ลักษณะนี้ ภาษาทางวงการพระเรียกว่า "สวด" ใช่ไหมครับ
เมื่อคิดได้ดังนี้ ผมก็เลยสบายใจ ไม่สนใจกับสิ่งที่เค้าพูด เพราะคนที่พูดเค้าไม่รู้ว่า ค่าสัก ค่าบูชาวัตถุมงคล อาจารย์หนูนำไปช่วยเหลือคนยากไร้ นำไปสร้างวัด บำรุงดูแลสำนัก และเลี้ยงดูผู้คนในสำนักมากมาย เป็นธรรมดา ที่ต้องมีราคาสูง แต่ก็ไม่เกินไปอยู่แล้ว เพราะท่าน มีความเมตตาต่อทุกคนเสมอกัน (อ่านต่อที่ ทำไมผลถึงศรัทธาอาจารย์หนู กันภัย)
2. หลายท่าน(ที่อื่นๆ) มักจะบอกว่าสำนักบางสำนักราคาแพง อาศัยดารามาโปรโมท ผมก็สังเกตว่า ดาราที่มาสัก เค้าก็มีงานตลอด (ลองสังเกตดู) และเมื่อเค้าพูดๆๆๆ โจมตี แต่เค้าก็สักห้าแถวให้ศิษย์ตัวเอง แล้วบอกว่า ห้าแถวคนละอย่าง เหอะๆๆ (คิดต่อกันเอาเองนะครับ...อาศัยความดังจากคนที่ตัวเองเพิ่งตำหนิเปล่าเนี่ย)
3. ที่อาจารย์หนูกล่าวไว้ในหมื่นยันต์
3.1 อาจารย์บอกว่า ไม่อยากให้ลูกศิษย์กล่าวว่า รอเก็บเงินก่อน เพราะไม่ค่อยเป็นมงคลกับคนพูดเอง ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ครับ เพียงแต่บางคน(เช่นผม) ถ้าอยากสัก ก็ต้องเก็บหอมรอมริบบางส่วนมา เงินเดือนน้อยนิด ก็ต้องเก็บเล็กผสมน้อย ซึ่งส่วนตัวผมก็เห็นว่าดีกว่าจะพูดว่า "รอผมกู้มาก่อนนะครับ" เหอะๆๆ แบบนั้นยิ่งไม่เป็นมงคลใหญ่ ดังนั้น หากบรรลุถึงวัตถุประสงค์แล้ว ก็นำมาสร้างมงคล และร่วมสร้างบุญกับพ่อหนูครับ (อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดพลาดอย่างไรขออภัยครับ)
3.2 พ่อบอกว่า พุทธคุณจะค่อยๆลดลง ทั้งนี้เพราะการปฏิบัติของเรา จึงต้องสร้างบุญ กุศล เพิ่มๆไปเรื่อยๆ ... เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทุกสิ่งอนิจจัง ของดี ต้องรักษา และหมั่นสร้างบุญให้อยู่กับเรานานๆ (อันนี้ผมชอบมากครับ พ่อสอนไว้ในลายยันต์แท้ๆ)
4. บางคน ชอบว่าพ่อหนูไปโจมตีสำนักอื่น ผมดู ติดตาม อ่านตามเว็บ พ่อหนูเพียงพูดว่า "ไม่อยากให้คัดลอกลาย ไม่อยากให้นำไปสักกับเด็กอายุต่ำกว่า 20 เพื่อให้ไปตีรันฟันแทง" พ่อก็ไม่ได้พูดถึงใครเลย มีบางเว็บบางแห่ง กล่าวชื่อเลยบ้าง กล่าวลอยๆบ้าง ว่า"ไม่แพงเหมือนบางที่ ที่ดาราชอบไป" ครูดี ย่อมไม่ยุให้ศิษย์ไปทะเลาะกับคนอื่นๆ ใช่ไหมครับ .......พ่อเราไม่เคยทำ
5. ผมสังเกตว่า สำนักมีข้อถือ และข้อห้าม
5.1 ข้อห้าม
***ข้อห้ามสำหรับ บุรุษเพศ (ชาย)***
1.)ห้ามทุบตี ด่าว่า บุพการีผู้ให้กำเนิด ความหมายที่แท้จริง คือ **ไม่ว่าจะเป็นการกระทำในลักษณะใดก็ตาม ที่ทำให้บุพการีคือพ่อและแม่ ได้เจ็บช้ำตามร่างกาย หรือให้ได้รับบาดแผลแม้แต่รอยเท่าแมวข่วน ถือว่าผิด
**ถ้อยคำใดก็ตามที่กล่าวไปแล้วทำให้บุพการีคือพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิด เสียใจ จะเป็นคำพูดที่ต่อว่าคำใดก็ตามที่ทำให้บุพการีเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจจากคำ พูดที่กล่าวออกไป ถือว่าผิด
2.)ห้ามไปผิดเมียของคนอื่น คำว่าผิดเมียคนอื่นนั้น ในที่นี้หมายถึง **ห้ามร่วมหลับนอนกับสตรีที่มีสามีเป็นตัวเป็นตนอยู่โดยเด็ดขาด หากไปหลับนอนกับหญิงที่ไม่ใช่ภรรยาของตัวเอง แต่สตรีผู้นั้นไม่มีสามีหรือเลิกกับสามีไปแล้ว ไม่อยู่ในข้อถือ
**แต่หากไปร่วมหลับนอนกับสตรีที่มีสามีโดยที่ตนเองไม่รู้ไม่ทราบมา ก่อนเลยว่าหญิงนั้นมีสามี แต่มาทราบภายหลัง ก็ไม่ถือว่าผิดแต่ต้องหยุดพฤติกรรมดังกล่าวและเลิกข้องแวะโดยทันที
3.)ห้ามลบหลู่ดูหมิ่นครูอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ความหมายที่แท้คือ ครูผู้ประสิทธิ์ประสาทความรู้ อาจารย์ผู้สั่งสอน ถ่ายทอดวิชาให้
***ข้อห้ามสำหรับสตรีเพศ (หญิง)***
การสักยันต์ยึดถือเพียงข้อที่ 1. เพียงข้อเดียว คือห้ามทุบตี ด่าว่า บุพการีผู้ให้กำเนิด ส่วนข้ออื่น ๆ ไม่มีในข้อถือ
*** และหากไม่ยึดถือตามที่กล่าวมานี้ ถือว่าผิดของที่ได้ไปนั้นถือว่า ""หลุดหรือเสื่อม""***
**ส่วนข้อห้ามอื่นๆ นอกเหนือจากตามระบุเขียนห้าม ไม่ว่าจะการลอดราวตากผ้า ลอดใต้สะพาน ใต้ถุนบ้าน หรือการรับประทานอาหาร เช่น มะเฟือง บวบ ฟัก แตง หรืออาหารอื่น ๆ ที่สงสัย ไม่ห้ามไม่อยู่ในข้อถือ**
5.2 ข้อถือ ที่ผมได้เคยอ่านจากเว็บนี้ และจากที่พ่อหนูเขียนใน มงคลโสฬส
นอกจากข้อห้ามด้านบนแล้ว ต้อง
1) ถือศีล 5 อย่างเคร่งครัด
2) สวดมนต์ทำสมาธิเป็นประจำ อย่างน้อย 15 นาทีก่อนนอน
ถ้าไม่มีศีล แปลว่าเป็นคนไม่ปกติ (เพราะศีลแปลว่าปกติ) และศีล เป็นเครื่องกำกับให้คนเป็นคนดี (ศิษย์พ่อ ย่อมเป็นคนดีตลอดเวลา เพราะมีศีลกำกับจิตใจ)
การสวดมนต์ ทำให้มีสติ มีสมาธิ บางคนไม่สวดมนต์ พอมาสักก็สวดมนต์ ทำสมาธิ แสดงให้เห็นว่า การสักยันต์ น้อมนำให้ปฏิบัติดี
เด็กนักเรียนโรงเรียนผมเพิ่งจบไปปีที่แล้ว ไปสักห้าแถวมา จากที่ไหนไม่รู้ครับ ผมว่าผมพออ่านอักษรขอมได้นะ แต่อ่านไม่ออก ที่สำคัญ ไม่ใช่นะโมบุญญฤทธิ์อิติฯ แน่นอน ผมก็ถามว่า ไปสักทำไม อายุยังไม่ถึงเลย (เพิ่ง 16) เด็กบอกว่า ก็เรียนจบแล้ว และที่สำนักนั้นก็ไม่ว่าอะไร (อันนี้ก็ลองเปรียบเทียบดูแล้วกันนะครับ) เด็กคนนี้สักมาแล้ว ชอบโชว์ ชอบหาเรื่องไล่ตีกัน สอนให้เชื่ออะไรผิดๆ ยังไงผมก็ได้แต่เตือนเค้าครับ คงช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะเค้าไปสักมาแล้ว (กรรมเป็นของของๆตน) น่าสงสารเด็ก เพราะไม่รู้ว่า สำนักนั้น เค้าจะสอนอะไรมาบ้าง กลัวแต่เวลากินเหล้าเมา แล้วโชว์ลายสัก จากนั้นก็เอามีดแทงกัน เฮ้อ ที่สำคัญ...เค้าบอกว่า เป็นห้าแถวคนละอย่าง เหอะๆๆๆ เจตนาให้เป็นห้าแถวซะด้วยนะครับ
เขียนซะยาวเลยครับ แบบว่า อัดอั้นมาอะครับ
ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ
วันนี้มีเรื่องเล่า ข้อสังเกต และข้อคิดเห็นมาเล่าสู่กันฟัง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ
1. เรื่องแรก ผมได้เอาเสือเหลี่ยวหลังที่พี่จ๋อมมอบให้ไปเลี่ยมพลาสติกกะว่าจะเอาไปห้อยคอ สับเปลี่ยนกับพระหรือวัตถุมงคลอื่นๆ คนที่เลี่ยมเค้าบอกว่า เค้าเป็นลูกศิษย์ของพระรูปหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการสักในระแวกพิษณุโลก เค้าบอกว่า อาจารย์ท่านั้นบอกว่า ยันต์ห้าแถวของ อ.หนู อักขระไม่ครบ หายไปตัวหนึ่ง แต่ที่ดังๆและราคาค่าครูสูง เพราะดารามาสักกันเยอะ
ตอนแรก ผมก็ว่า เอ ทำไม มาพูดแบบนี้ แต่ก็ใช้สติ และสมองอันน้อยนิดประกอบกับความเป็นครูวิทยาศาสตร์ คิดวิเคราะห์ว่า
- หากยันต์ห้าแถว อ.หนู ไม่มีจริง ไม่ครบจริง ทำไมพระรูปนั้นถึงบอกใครต่อใครว่าเป็นศิษย์ผู้พี่ หรือเป็นเพื่อนร่วมสำนักกับ อ.หนู
- ทำไม ท่านสักห้าแถวให้คนอื่นด้วย
...แสดงว่า ลักษณะนี้ ภาษาทางวงการพระเรียกว่า "สวด" ใช่ไหมครับ
เมื่อคิดได้ดังนี้ ผมก็เลยสบายใจ ไม่สนใจกับสิ่งที่เค้าพูด เพราะคนที่พูดเค้าไม่รู้ว่า ค่าสัก ค่าบูชาวัตถุมงคล อาจารย์หนูนำไปช่วยเหลือคนยากไร้ นำไปสร้างวัด บำรุงดูแลสำนัก และเลี้ยงดูผู้คนในสำนักมากมาย เป็นธรรมดา ที่ต้องมีราคาสูง แต่ก็ไม่เกินไปอยู่แล้ว เพราะท่าน มีความเมตตาต่อทุกคนเสมอกัน (อ่านต่อที่ ทำไมผลถึงศรัทธาอาจารย์หนู กันภัย)
2. หลายท่าน(ที่อื่นๆ) มักจะบอกว่าสำนักบางสำนักราคาแพง อาศัยดารามาโปรโมท ผมก็สังเกตว่า ดาราที่มาสัก เค้าก็มีงานตลอด (ลองสังเกตดู) และเมื่อเค้าพูดๆๆๆ โจมตี แต่เค้าก็สักห้าแถวให้ศิษย์ตัวเอง แล้วบอกว่า ห้าแถวคนละอย่าง เหอะๆๆ (คิดต่อกันเอาเองนะครับ...อาศัยความดังจากคนที่ตัวเองเพิ่งตำหนิเปล่าเนี่ย)
3. ที่อาจารย์หนูกล่าวไว้ในหมื่นยันต์
3.1 อาจารย์บอกว่า ไม่อยากให้ลูกศิษย์กล่าวว่า รอเก็บเงินก่อน เพราะไม่ค่อยเป็นมงคลกับคนพูดเอง ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ครับ เพียงแต่บางคน(เช่นผม) ถ้าอยากสัก ก็ต้องเก็บหอมรอมริบบางส่วนมา เงินเดือนน้อยนิด ก็ต้องเก็บเล็กผสมน้อย ซึ่งส่วนตัวผมก็เห็นว่าดีกว่าจะพูดว่า "รอผมกู้มาก่อนนะครับ" เหอะๆๆ แบบนั้นยิ่งไม่เป็นมงคลใหญ่ ดังนั้น หากบรรลุถึงวัตถุประสงค์แล้ว ก็นำมาสร้างมงคล และร่วมสร้างบุญกับพ่อหนูครับ (อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดพลาดอย่างไรขออภัยครับ)
3.2 พ่อบอกว่า พุทธคุณจะค่อยๆลดลง ทั้งนี้เพราะการปฏิบัติของเรา จึงต้องสร้างบุญ กุศล เพิ่มๆไปเรื่อยๆ ... เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทุกสิ่งอนิจจัง ของดี ต้องรักษา และหมั่นสร้างบุญให้อยู่กับเรานานๆ (อันนี้ผมชอบมากครับ พ่อสอนไว้ในลายยันต์แท้ๆ)
4. บางคน ชอบว่าพ่อหนูไปโจมตีสำนักอื่น ผมดู ติดตาม อ่านตามเว็บ พ่อหนูเพียงพูดว่า "ไม่อยากให้คัดลอกลาย ไม่อยากให้นำไปสักกับเด็กอายุต่ำกว่า 20 เพื่อให้ไปตีรันฟันแทง" พ่อก็ไม่ได้พูดถึงใครเลย มีบางเว็บบางแห่ง กล่าวชื่อเลยบ้าง กล่าวลอยๆบ้าง ว่า"ไม่แพงเหมือนบางที่ ที่ดาราชอบไป" ครูดี ย่อมไม่ยุให้ศิษย์ไปทะเลาะกับคนอื่นๆ ใช่ไหมครับ .......พ่อเราไม่เคยทำ
5. ผมสังเกตว่า สำนักมีข้อถือ และข้อห้าม
5.1 ข้อห้าม
***ข้อห้ามสำหรับ บุรุษเพศ (ชาย)***
1.)ห้ามทุบตี ด่าว่า บุพการีผู้ให้กำเนิด ความหมายที่แท้จริง คือ **ไม่ว่าจะเป็นการกระทำในลักษณะใดก็ตาม ที่ทำให้บุพการีคือพ่อและแม่ ได้เจ็บช้ำตามร่างกาย หรือให้ได้รับบาดแผลแม้แต่รอยเท่าแมวข่วน ถือว่าผิด
**ถ้อยคำใดก็ตามที่กล่าวไปแล้วทำให้บุพการีคือพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิด เสียใจ จะเป็นคำพูดที่ต่อว่าคำใดก็ตามที่ทำให้บุพการีเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจจากคำ พูดที่กล่าวออกไป ถือว่าผิด
2.)ห้ามไปผิดเมียของคนอื่น คำว่าผิดเมียคนอื่นนั้น ในที่นี้หมายถึง **ห้ามร่วมหลับนอนกับสตรีที่มีสามีเป็นตัวเป็นตนอยู่โดยเด็ดขาด หากไปหลับนอนกับหญิงที่ไม่ใช่ภรรยาของตัวเอง แต่สตรีผู้นั้นไม่มีสามีหรือเลิกกับสามีไปแล้ว ไม่อยู่ในข้อถือ
**แต่หากไปร่วมหลับนอนกับสตรีที่มีสามีโดยที่ตนเองไม่รู้ไม่ทราบมา ก่อนเลยว่าหญิงนั้นมีสามี แต่มาทราบภายหลัง ก็ไม่ถือว่าผิดแต่ต้องหยุดพฤติกรรมดังกล่าวและเลิกข้องแวะโดยทันที
3.)ห้ามลบหลู่ดูหมิ่นครูอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ความหมายที่แท้คือ ครูผู้ประสิทธิ์ประสาทความรู้ อาจารย์ผู้สั่งสอน ถ่ายทอดวิชาให้
***ข้อห้ามสำหรับสตรีเพศ (หญิง)***
การสักยันต์ยึดถือเพียงข้อที่ 1. เพียงข้อเดียว คือห้ามทุบตี ด่าว่า บุพการีผู้ให้กำเนิด ส่วนข้ออื่น ๆ ไม่มีในข้อถือ
*** และหากไม่ยึดถือตามที่กล่าวมานี้ ถือว่าผิดของที่ได้ไปนั้นถือว่า ""หลุดหรือเสื่อม""***
**ส่วนข้อห้ามอื่นๆ นอกเหนือจากตามระบุเขียนห้าม ไม่ว่าจะการลอดราวตากผ้า ลอดใต้สะพาน ใต้ถุนบ้าน หรือการรับประทานอาหาร เช่น มะเฟือง บวบ ฟัก แตง หรืออาหารอื่น ๆ ที่สงสัย ไม่ห้ามไม่อยู่ในข้อถือ**
5.2 ข้อถือ ที่ผมได้เคยอ่านจากเว็บนี้ และจากที่พ่อหนูเขียนใน มงคลโสฬส
นอกจากข้อห้ามด้านบนแล้ว ต้อง
1) ถือศีล 5 อย่างเคร่งครัด
2) สวดมนต์ทำสมาธิเป็นประจำ อย่างน้อย 15 นาทีก่อนนอน
ถ้าไม่มีศีล แปลว่าเป็นคนไม่ปกติ (เพราะศีลแปลว่าปกติ) และศีล เป็นเครื่องกำกับให้คนเป็นคนดี (ศิษย์พ่อ ย่อมเป็นคนดีตลอดเวลา เพราะมีศีลกำกับจิตใจ)
การสวดมนต์ ทำให้มีสติ มีสมาธิ บางคนไม่สวดมนต์ พอมาสักก็สวดมนต์ ทำสมาธิ แสดงให้เห็นว่า การสักยันต์ น้อมนำให้ปฏิบัติดี
เด็กนักเรียนโรงเรียนผมเพิ่งจบไปปีที่แล้ว ไปสักห้าแถวมา จากที่ไหนไม่รู้ครับ ผมว่าผมพออ่านอักษรขอมได้นะ แต่อ่านไม่ออก ที่สำคัญ ไม่ใช่นะโมบุญญฤทธิ์อิติฯ แน่นอน ผมก็ถามว่า ไปสักทำไม อายุยังไม่ถึงเลย (เพิ่ง 16) เด็กบอกว่า ก็เรียนจบแล้ว และที่สำนักนั้นก็ไม่ว่าอะไร (อันนี้ก็ลองเปรียบเทียบดูแล้วกันนะครับ) เด็กคนนี้สักมาแล้ว ชอบโชว์ ชอบหาเรื่องไล่ตีกัน สอนให้เชื่ออะไรผิดๆ ยังไงผมก็ได้แต่เตือนเค้าครับ คงช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะเค้าไปสักมาแล้ว (กรรมเป็นของของๆตน) น่าสงสารเด็ก เพราะไม่รู้ว่า สำนักนั้น เค้าจะสอนอะไรมาบ้าง กลัวแต่เวลากินเหล้าเมา แล้วโชว์ลายสัก จากนั้นก็เอามีดแทงกัน เฮ้อ ที่สำคัญ...เค้าบอกว่า เป็นห้าแถวคนละอย่าง เหอะๆๆๆ เจตนาให้เป็นห้าแถวซะด้วยนะครับ
เขียนซะยาวเลยครับ แบบว่า อัดอั้นมาอะครับ
ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ
07 ตุลาคม 2552
รถมีอาการสะอึก เบาเครื่องไม่ได้ (ในวันปิดเทอม)
ในที่สุด วันที่รอคอยก็มาถึง
หลังจากที่เปิดเทอมมาได้แป๊บๆๆๆๆ ก้ปิดแล้ว
จริงๆต้องปิดวันศุกร์ แต่เนื่องจากนักเรียนเกือบทั้งโรงเรียนไม่อยู่แล้ว (ผู้ปกครองมารับไปไหนต่อไหน) ก็เพราะบางคนเค้ามาบอกเด็กว่า "วันพฤหัสหน้า ให้ผู้ปกครองมารับได้นะ" เด็กก็ไปบอกสิครับ พอถึงเวลา ครูยังสอบไม่เสร็จ เค้าบอกว่า "เอาไว้ซ่อมเทอมหน้า"
เออดี เจริญละ
มีฝ่ายวิชาการไว้ทำไม (วะ) มากำหนดกะเกณฑ์ (กู)อยากทำอะไรก็ทำ
เซ็ง
บอกว่าจะเน้นวิชาการ เพราะผลการประเมินคราวที่แล้วได้เกรด C
บอกว่าจะลดกิจกรรม
บอกว่าจะไม่อบรมบ่อย
เหอะๆๆๆๆ
ทำไม่ได้
อย่างว่าแหละ มันอดไม่ได้ที่จะเที่ยว กิน ร้องคาราโอเกะ
555+
เจริญละ ตราบใดที่มีผู้บริหารอย่างนี้ เฮ้อ
มาเล่าเรื่องวันนี้ดีกว่า
วันนี้ขี่มอเตอร์ไซต์มาจากกำแพงเพชร กลับมาพิษณุโลก แต่มีอาการผิดปกติตั้งแต่เช้า...
สตาร์ทติดยาก ต้องใช้โช๊ค เมื่อเบาเครื่องแล้วดับ บางครั้งมีอาการสะอึก และมีเสียงระเบิดจากท่อ เหมือนกับการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์
เมื่อเติมน้ำมันตอนเช้าแล้ว คิดว่าอาจเกิดจากไม่ได้ใช้งาน 4 วัน (ก่อนหน้านี้ทิ้งไว้เป็นอาทิตย์ ยังไม่เป็นขนาดนี้)
พอตอนเย็น จะขี่กลับ
ก็ภาวนา สวดคาถาเวลาขับรถ
สวดมนต์ ปลุกพระ ปลุกตะกรุด
เพราะต้องขี่บนถนนที่มีรถมากมาย ใหญ่ๆทั้งนั้น
(กลัว)
เมื่อยก็พัก เหนื่อยก็หยุด
จะให้พี่ที่กลับด้วยกันขี่ก็กลัว เพราะแกเป็นผู้หญิง กลัวการตัดสินใจของแก
อีกอย่าง ซ้อนแล้วเมื่อยขามากๆ
ที่นี้มาจอดรอไฟแดง พรึบบบบบบบ
เกือบดับ
ลองถอนเกียร์ กระชาก ครึกกกกกกก
พอเกือบมาถึงหอ โห ฝนเม็ดเท่าข้าวโพด ภาวนาว่า อย่าเพิ่งตกนะ สาธุๆๆๆๆ
ฝนก็หยุดตก (ขี่มาอีกหน่อยจึงรู้ว่า พื้นที่ในเมืองตกไปแล้วเมื่อครู่)
โชคดีอีกละ
ในที่สุดก็ถึงซักที
แล้วตอนเย็นพี่ดาก็โทรมา บอกว่า มีโคลนและขี้ฝุ่นลูกรัง เข้าไปอุดในคาบูเรเตอร์ (เอ้อ ชีวิตครูบ้านนอก)
กินหมูกะทะอีกแล้วววววววววว อร่อย
มาเที่ยวพิษณุโลกกันนะครับ ปิดเทอมนี้
หลังจากที่เปิดเทอมมาได้แป๊บๆๆๆๆ ก้ปิดแล้ว
จริงๆต้องปิดวันศุกร์ แต่เนื่องจากนักเรียนเกือบทั้งโรงเรียนไม่อยู่แล้ว (ผู้ปกครองมารับไปไหนต่อไหน) ก็เพราะบางคนเค้ามาบอกเด็กว่า "วันพฤหัสหน้า ให้ผู้ปกครองมารับได้นะ" เด็กก็ไปบอกสิครับ พอถึงเวลา ครูยังสอบไม่เสร็จ เค้าบอกว่า "เอาไว้ซ่อมเทอมหน้า"
เออดี เจริญละ
มีฝ่ายวิชาการไว้ทำไม (วะ) มากำหนดกะเกณฑ์ (กู)อยากทำอะไรก็ทำ
เซ็ง
บอกว่าจะเน้นวิชาการ เพราะผลการประเมินคราวที่แล้วได้เกรด C
บอกว่าจะลดกิจกรรม
บอกว่าจะไม่อบรมบ่อย
เหอะๆๆๆๆ
ทำไม่ได้
อย่างว่าแหละ มันอดไม่ได้ที่จะเที่ยว กิน ร้องคาราโอเกะ
555+
เจริญละ ตราบใดที่มีผู้บริหารอย่างนี้ เฮ้อ
มาเล่าเรื่องวันนี้ดีกว่า
วันนี้ขี่มอเตอร์ไซต์มาจากกำแพงเพชร กลับมาพิษณุโลก แต่มีอาการผิดปกติตั้งแต่เช้า...
สตาร์ทติดยาก ต้องใช้โช๊ค เมื่อเบาเครื่องแล้วดับ บางครั้งมีอาการสะอึก และมีเสียงระเบิดจากท่อ เหมือนกับการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์
เมื่อเติมน้ำมันตอนเช้าแล้ว คิดว่าอาจเกิดจากไม่ได้ใช้งาน 4 วัน (ก่อนหน้านี้ทิ้งไว้เป็นอาทิตย์ ยังไม่เป็นขนาดนี้)
พอตอนเย็น จะขี่กลับ
ก็ภาวนา สวดคาถาเวลาขับรถ
สวดมนต์ ปลุกพระ ปลุกตะกรุด
เพราะต้องขี่บนถนนที่มีรถมากมาย ใหญ่ๆทั้งนั้น
(กลัว)
เมื่อยก็พัก เหนื่อยก็หยุด
จะให้พี่ที่กลับด้วยกันขี่ก็กลัว เพราะแกเป็นผู้หญิง กลัวการตัดสินใจของแก
อีกอย่าง ซ้อนแล้วเมื่อยขามากๆ
ที่นี้มาจอดรอไฟแดง พรึบบบบบบบ
เกือบดับ
ลองถอนเกียร์ กระชาก ครึกกกกกกก
พอเกือบมาถึงหอ โห ฝนเม็ดเท่าข้าวโพด ภาวนาว่า อย่าเพิ่งตกนะ สาธุๆๆๆๆ
ฝนก็หยุดตก (ขี่มาอีกหน่อยจึงรู้ว่า พื้นที่ในเมืองตกไปแล้วเมื่อครู่)
โชคดีอีกละ
ในที่สุดก็ถึงซักที
แล้วตอนเย็นพี่ดาก็โทรมา บอกว่า มีโคลนและขี้ฝุ่นลูกรัง เข้าไปอุดในคาบูเรเตอร์ (เอ้อ ชีวิตครูบ้านนอก)
กินหมูกะทะอีกแล้วววววววววว อร่อย
มาเที่ยวพิษณุโลกกันนะครับ ปิดเทอมนี้
06 ตุลาคม 2552
เรื่องเสียวๆบนรถเมล์ (ตอนกลับบ้าน)
วันนี้มาขอเล่าเรื่องเสียวๆหน่อยนะครับ
สำหรับคนอ่านบางท่านอาจจะไม่เสียวเท่าไร แต่สำหรับคนที่อยู่ในเหตุการณ์เสียวสุดยอด
วันนี้หลังจากที่สอบเสร็จ และประชุมปิดภาคเรียนเสร็จแล้ว ก็รอทุกคนเสร็จกิจ
และเมื่อมาถึงสี่แยกปลวกสูง ก็รอรถได้ประมาณ 15 นาที ก็มีครูบางส่วนเท่านั้นที่ขึ้น
ปกติรถเมล์สายนี้ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์อะไรกับตัวผม
แม้ว่าจะเคยได้ยินกิตติศัพท์มาบ้างก็เถอะ
วันนี้ได้พบเจอกับตัวเอง
ขณะที่รถวิ่งไป
มันทั้งขย่ม เขย่าอย่างเมามัน โดยไม่สนสีหน้า แววตาของผู้โดยสาร
ผมมองเห็นสายตาของคนขับ เขายิ้มและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ขับๆไป มันก็เขย่า
ขับๆไป มันก็ขย่ม
ขับๆไป กันก็กระแทกจนตัวโยน
มาเสียวมากตอนที่กำลังขับข้ามทางเบี่ยงสะพานที่กำลังก่อสร้าง กลัวว่าหัวมันจะปักลงข้างทาง
แต่มาเสียวสุดๆตอนข้ามสะพาน กลัวมาหัวรถจะทิ่มลงในในแม่น้ำยม
ตอนนั้น
ผมเชิญทั้งพ่อแม่ครูบาอาจารย์
ผู้มีชื่อมีฤทธิ์อยู่ในพระเครื่อง อยู่ในตะกรุด
ทั้งพญาครุฑ หลวงพ่อสวัสดิ์
ทั้งเหรียญห้าแถวอาจารย์หนู กันภัย (ที่ได้มาจากคุณ เก่ง PP)
ทั้งจับ
ทั้งท่อง
ทั้งเรียก
ทั้งปลุก
กว่าจะผ่านหน้า ม.น. ไปได้ ลองเอามือจับดู รู้สึกร้อนๆเล็กน้อย
....โอ๊ยยยยย เสียวสุดๆๆ
ใครไม่ลองไม่รู้ว่า บนรถเมล์วันนี้ มันเสียวขนาดไหน
แทบดีใจเมื่อก้าวขาลงจากรถได้
สงสารแต่คนที่ยังไม่ได้ลง
สายตาละห้อยเชียว
(พี่สาวสุดที่รักก็ยังอยู่บนนั้นกับลูกของเค้า เหอะๆๆๆๆ)
สาธุ
กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่คุ้มครองให้ลูกปลอดภัย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ