29 มกราคม 2554
เคล็ดลับแก้นิสัยขี้ลืม
- ตั้งสมาธิ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลงลืมบ่อยเพราะไม่มีสมาธิ ควรจัดเวลาช่วงหนึ่งงดรับโทรศัพท์และ หาเวลานั่งเงียบๆ หลับตา หายใจเข้าช้าๆ เพื่อให้เกิดความสงบ
- ควรโน้ตสั้นๆ ว่าจะทำอะไรต่อไป ส่วนที่ชอบลืมแล้วลืมอีกควรจดโน๊ตต่างๆ เพื่อช่วยเตือนความจำอีกที
- ใส่ใจ การที่ลืมอะไรบ่อยๆ อาจเป็นเพราะไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนั้น ถ้าใครพู[คำไม่พึงประสงค์]อะไรด้วยแล้วลืม หรือจำชื่อคนไม่ค่อยได้ ลองหันมาสนใจตั้งใจฟังสักนิด
- พูดออกเสียง การจดจำเรื่องต่างๆ จากการฟัง และการพูดออกมาทำให้ได้ยินเสียงของตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้จำง่ายขึ้น
- พูดคุยหรือเล่าให้คนอื่นฟัง ก็เป็นการช่วยจำทางหนึ่ง และการเล่าให้คนอื่นฟังรู้เรื่อง ตัวเราเองต้องเข้าใจเรื่องนั้น
อย่างดีและจำได้ดี ถ้าอยากจำเรื่องที่ประชุม สัมมนา หรืออบรมได้ดีขึ้นลองพูดคุยหรือเล่าให้เพื่อนฟัง ถ้าอยากมีความจำที่ดีขึ้น ก็ลองนำเคล็ดลับนี้ไปใช้กันดูได้.
ที่มา เดลินิวส์
28 มกราคม 2554
กิจกรรมใช้เกมส่งเสริมการคิด
พอดีมีเกมในแบบเรียนคณิตพอดี เลขให้นักเรียนลองเล่นดู
แรกๆก็ไม่เข้าใจกัน งงกัน
พอรู้แนวทาง ก็สามารถทำได้
แล้วก็ไปเลน sudoku ต่อ เป็นแบบ 6 * 6
วันหลังจะทำเป็นชุดกิจกรรมให้นักเรียนเล่นกัน เพราะนอกจากจะส่งเสริมการคิดแล้ว ยังกระตุ้นสมองเรื่องมิติอีกด้วย
27 มกราคม 2554
กิจกรรมส่งเสริมการคิด การแก้ปัญหาฉับพลัน
หลังจากตรวจระเบียบแถวแล้ว ก็เริ่มให้เด็กนับ และแบ่งกลุ่มคี่ กลุ่มคู่
จากนั้น ก็เป็นแบบภาพละครับ
26 มกราคม 2554
และแล้ว ก็ได้ลอง projector
วันนี้ได้นำ projector ตัวใหม่ มาทดลองใช้ ภาพชัดดี การปรับแสงง่าย และการปิดเครื่องสามารถทำได้เร็ว
ส่วนประกอบ เครื่องเสียง และคอมพิวเตอร์ กำลังจะเสร็จแล้วครับ
ขอกราบขอบพระคุณท่าน ผอ. ที่ส่งเสริมให้มีอุปกรณ์สนับสนุนการศึกษา
ขอกราบขอบพระคุณพี่กร และพี่กุหลาบแดง ที่บริจาคเงิน 15,000 ครับ
กิจกรรมการสังเกตดิน และการสอบ lab กริ๊งงงง
ชั่วโมงสุดท้าย มีการทดสอบชั้น ม.3 เรียกกันว่า สอบ lab กริ๊งงงงง จริงๆแล้วต้องใช้ออด หรือกระดิ่งในการบอกสัญญาน แต่สำหรับโรงเรียนบ้านนอก ก็ใช่แค่เสียงบอกก็ได้
เป็นการฝึกนักเรียนให้ทดสอบพร้อมกับความกดดันหลายๆอย่าง ถ้าไปเจอการทดสอบที่ง่ายกว่านี้ นักเรียนก็จะปรับตัวได้ดี
เอามาประจาน เอ๊ยยย เอามาโชว์ครับ
25 มกราคม 2554
ซื้อเครื่องฉายโปรเจคเตอร์แล้ว
และแล้ว
การรอคอยที่แสนนานก็สิ้นสุด
วันนี้ได้ซื้อโปรเจคเตอร์ พร้อมชุดเครื่องเสียงแล้ว
ดีใจๆๆๆ ได้ใช้สื่อที่ทำซะที
24 มกราคม 2554
กฎของมาสโลว์
ทฤษฎีเกี่ยวกับการจูงใจ (Theories of motivation) มีมากมาย แต่ในที่นี้จะนำมากล่าวเพียงบางทฤษฎีที่ผู้บริหารการตลาดควรทราบ เพื่อจะได้เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคดีขึ้น และเพื่อจะได้นำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับการดำเนินงานการตลาด
1. ทฤษฎีการจูงใจของมาสโลว์
ทฤษฎีการจูงใจที่เป็นที่รู้จักกันกว้างขวางมากทฤษฎีหนึ่ง คือ “ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์” (Maslow’s hierarchy of needs) ทฤษฎีของมาสโลว์ ยึดถือข้อสมมติฐาน 4 ประการดังนี้ (Maslow, quoted in Hawkins, Best and Coney. 1998:367)
- 1.1 มนุษย์ทุกคนมีรูปแบบการรับแรงจูงใจคล้ายคลึงกัน โดยผ่านมาจากแหล่งกำเนิดภายในร่างกาย และจากการปฏิกิริยาสัมพันธ์ทางสังคม (social interaction)
- 1.2 แรงจูงใจบางอย่างมีความจำเป็นขั้นพื้นฐานและสำคัญมากกว่าแรงจูงใจอย่างอื่น
- 1.3 แรงจูงใจที่มีความจำเป็นขั้นพื้นฐานมากกว่า จำเป็นจะต้องได้รับการตอบสนองให้ได้รับความพอใจก่อนจนถึงระดับเป็นแรงจูงใจน้อยที่สุด ก่อนที่แรงจูงใจทางด้านอื่นจะได้รับแรงกระตุ้น
- 1.4 เมื่อแรงจูงใจขั้นพื้นฐานได้รับการตอบสนองจนได้รับความพอใจแล้ว แรงจูงใจขั้นที่สูงกว่าก็จะเกิดขึ้นเข้ามาแทนที่
มาสโลว์ได้จัดลำดับขั้นความต้องการขอมนุษย์ออกเป็น 5 ประเภท 5 ระดับ ดังนี้คือ (Maslow, quoted in Hoyer and MacInnis. 1997:39)
ระดับที่ 1 ความต้องการทางด้านร่างกาย (Physiological needs) ได้แก่ ความต้องการขั้นพื้นฐานเบื้องต้น อันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการดำรงชีพของมนุษย์ ได้แก่ อาหาร น้ำ อากาศ การพักผ่อนหลับนอน และความต้องการทางเพศ เป็นต้น ความต้องการเหล่านี้จะต้องได้รับการตอบสนองจนเป็นที่พอใจก่อนความต้องการในระดับสูงขึ้นจึงจะเกิดขึ้น
ระดับที่ 2 ความต้องการความปลอดภัย (Safety needs) เป็นความต้องการที่เกิดขึ้นภายหลังจากความต้องการในระดับที่ 1 ได้รับการตอบสนองจนเป็นที่พอใจแล้วและมีความรู้สึกอิสระไม่ต้องเป็นห่วงกังวลกับความต้องการทางด้านร่างกายอีกต่อไป ความต้องการความปลอดภัยจึงเกิดขึ้น ความต้องการนี้จะเห็นได้ชัดในเด็กเล็ก ซึ่งต้องการความอบอุ่นปลอดภัยจากพ่อแม่ ซึ่งสอดคล้องตามลักษณะ “ความต้องการหลีกเลี่ยงอันตราย” (harmavoidance need) ของเมอร์เรย์ ซึ่งจะได้กล่าวในตอนหลัง นักการตลาดใช้ความกลัวเป็นสิ่งดึงดูดใจ (fear appeal) ในการโฆษณาโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความกลัวในสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ หรืออันตรายที่จะเกิดขึ้น หากไม่ซื้อผลิตภัณฑ์บางอย่างไปใช้ก็สอดคล้องกับแนวความคิดต้องการความปลอดภัย และต้องการหลีกเลี่ยงอันตรายดังกล่าว เช่นการขู่ให้ผู้บริโภคกลัวว่า เงินเฟ้อจะทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นอย่างมาก ก็จะเป็นแรงผลักดันให้ผู้บริโภครีบซื้อสินค้าทันที เป็นต้น (Onkvisit and Shaw. 1994:42)
ระดับที่ 3 ความต้องการทางสังคม (Social needs) บางครั้งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ความต้องการความรักและการเป็นเจ้าของ” (love and belongingness) เป็นความต้องการที่จะมีความรักความผูกพันกับผู้อื่น เช่น ความรักจากเพื่อน เพื่อนร่วมงาน ครอบครัว หรือคนรัก เป็นต้น ซึ่งความรักดังกล่าวนี้มีความหมายรวมถึงทั้งการให้และการรับความรักด้วย ซึ่งความต้องการดังกล่าวนี้ เมอร์เรย์ เรียกว่า “ความต้องการความรักความผูกพัน” (affiliation need) (Onkvisit and Shaw. 1994:42)
ระดับที่ 4 ความต้องการมีเกียรติยศมีศักดิ์ศรีในสังคม (esteem needs หรือ egoistic needs) เป็นความต้องการที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกของตนเองว่าตนเองมีประโยชน์มีคุณค่า และต้องการให้ผู้อื่นเห็นคุณค่าของตน ยอมรับนับถือยกย่องตนว่าเป็นผู้มีชื่อเสียง มีเกียรติยศ และมีศักดิ์ศรีด้วย ซึ่งความต้องการดังกล่าวนี้ มีลักษณะเหมือนกับ “ความต้องการประสบความสำเร็จ” (achievement need) ของเมอร์เรย์ นั่นเอง
ระดับที่ 5 ความต้องการสมหวังในชีวิต (self-actualization หรือ self-fulfillment needs) เป็นความต้องการขั้นสูงสุดที่บุคคลปรารถนาที่จะได้รับผลสำเร็จในสิ่งที่ตนคิด และตั้งความหวังไว้ ซึ่งแต่ละคนต่างตั้งความมุ่งหวังของตนเองไว้แตกต่างกัน จึงยากที่จะให้คำนิยามได้ แต่หากจะกล่าวง่ายๆ ก็อาจจะกล่าวได้ว่า ความต้องการนี้เป็นความต้องการที่ตนอยากจะให้ตนเองเป็นในชีวิต เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งความหวังไว้
ความต้องการทั้ง 5 ระดับ อาจจำแนกออกได้เป็น 2 ขั้น เพื่อให้มองเห็นความแตกต่างของความต้องการที่ง่ายขึ้น คือ (Robbins. 1996:214)
1. ความต้องการขั้นต่ำ (Lower – order needs) เป็นความต้องการที่จะต้องได้รับการตอบสนองก่อนเพื่อให้เกิดความพอใจภายนอก ได้แก่ ความต้องการทางด้านร่างกาย และความต้องการความปลอดภัย
2. ความต้องการขั้นสูง (Higher – order needs) เป็นความต้องการที่จะได้รับการตอบสนองทีหลังเพื่อก่อให้เกิดความพอใจภายใน ได้แก่ ความต้องการด้านสังคม ความต้องการมีเกียรติยศ มีศักดิ์ศรีในสังคม และความต้องการความสมหวังในชีวิต
อ้างอิง
http://mkpayap.payap.ac.th/course/mk210/f3.3.htm
ขอบคุณครับ
http://www.seal2thai.org/ http://www.champ108.com/
23 มกราคม 2554
รับเชิญเป็นวิทยากรพิเศษ ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม
ในครั้งแรก มีการพูดคุยกันว่า จะพูดเรื่องการสืบค้นข้อมูลและการสร้างสื่อ vdo แต่พอได้ข้อสรุป จากระยะเวลา 2 วัน เหลือประมาณ 2 ชม. เลยต้องมีการปรับเปลี่ยนหัวข้อเล็กน้อย
จากการที่ทำงานในสถานศึกษา และรับทราบถึงจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ เลยนำเรื่องการใช้สื่อที่กระตุ้นการคิดระดับต่างๆ แม้ว่าจะไม่มีความสามารถระดับเจ้าพ่อการคิด แต่ผลบุญทีได้ร่ำเรียนกับครูบาอาจารย์มา และการนำกิจกรรมการคิดไปใช้ในโรงเรียนทุกวัน เลยทำให้มีข้อมูลมา "เล่าสู่กันฟัง" (ไม่ได้สอนนะครับ ยังไม่ช่ำชองพอ)
เป็นอันว่า วันนี้ดีใจมาก ที่ได้รับใช้สถาบันอันเป็นที่รักของเรา เพราะถ้าไม่มีพิบูลสงคราม ก็ไม่มี พิริยะ ตระกูลสว่าง คนนี้
รู้สึกดีจัง