07 พฤศจิกายน 2553

การสอนคิดในห้องเรียน

การสอนคิดในห้องเรียน
“ การเรียนรู้ที่ดีจะต้องพัฒนาการคิดเป็นพื้นฐานอยู่เสมอ”

ครูที่ประสงค์จะฝึกให้ผู้เรียนมีความสามารถในการคิด จะจัดการเรียนรู้ที่ยึดการพัฒนาทางสมองเป็นพื้นฐานหลักอยู่เสมอ

วิธีปฏิบัติที่นิยมใช้คือ “การสร้างนิสัยแห่งการคิด”

การสร้างนิสัยแห่งการคิด
  1. การฝึกให้ผู้เรียนแสวงหาข้อมูล
  2. การฝึกให้ผู้เรียนจัดกระทำข้อมูล
  3. การฝึกให้ผู้เรียนคิดเป็นผังความสัมพันธ์
  4. การฝึกให้ผู้เรียนสร้างและพิจารณาทางเลือกหลากหลาย
    4.1 การเปลี่ยนเงื่อนไขในผังความคิด
    4.2 การใช้บทบาทสมมุติ
    4.3 การใช้วิธีระดมสมอง
  5. การฝึกให้ผู้เรียนตรวจสอบผลกระทบและความสำคัญ

06 พฤศจิกายน 2553

ลักษณะสำคัญของการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาแบบอิงมาตรฐาน

ลักษณะสำคัญของการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาแบบอิงมาตรฐาน มีดังนี้

1) ทุกองค์ประกอบของหลักสูตรสถานศึกษาต้องเชื่อมโยงกับมาตรฐานการเรียนรู้

2) หน่วยการเรียนรู้ที่เป็นหัวใจของหลักสูตรสถานศึกษา

3) การจัดการเรียนรู้ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ ต้องช่วยให้ผู้เรียนบรรลุมาตรฐานและตัวชี้วัดที่ระบุในหน่วยการเรียนรู้นั้น ๆ

4) การวัดและประเมินผลชิ้นงาน / ภาระงานที่กำหนดในหน่วยการเรียนรู้ ควรเป็นการประเมินการปฏิบัติหรือการแสดงความสามารถของผู้เรียน (Performance Assessment)

5) ชิ้นงานหรือภาระงานที่กำหนดให้นักเรียนปฏิบัติ ควรเชื่อมโยงมาตรฐาน 2 – 3 มาตรฐาน

6) มีความยืดหยุ่นในกระบวนการ และขั้นตอนการจัดทำหน่วยการเรียนรู้ เช่น อาจเริ่มต้นจากการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ หรืออาจเริ่มจากความสนใจของนักเรียนหรือสภาพปัญหาของชุมชนก็ได้

05 พฤศจิกายน 2553

การเรียนรู้แบบร่วมมือโดยวิธีนิทรรศการ(Exhibition)

การเรียนรู้แบบร่วมมือโดยวิธีนิทรรศการ(Exhibition)
การเรียนรู้แบบร่วมมือ(Cooperative Learning) เป็นกระบวนการเรียนรู้ ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างทักษะของการอยู่ร่วมกันในสังคม และทักษะในด้านเนื้อหาวิชาการต่างๆ เป็นการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยจัดให้นักเรียนที่มีความสามารถต่างกัน เรียนและทำงานด้วยกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 2-4 คน โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันภายในกลุ่ม ผู้เรียนเก่งกว่าจะช่วยผู้เรียนอ่อนกว่า การยอมรับซึ่งกันและกัน การรู้จักแบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ ความมีน้ำใจ รวมทั้ง ความเอื้ออาทรซึ่งมีให้กันสำหรับสมาชิกภายในกลุ่ม จะนำมาซึ่งความสำเร็จในการเรียนรู้

กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ มีรูปแบบอย่างหลากหลาย อาทิ Jigsaw , Team Game Tournament(TGT) , Student Team Achievement Division(STAD) , Team Assisted Individualization(TAI) , Learning Together(LT) , Group Investigation(GI) , Think Pair Share , Pair Check , Three Step Interview , Number Head Together , Roundrobin เป็นต้น

จากประสบการณ์จัดกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือที่ผ่านมา ใคร่ขอนำเสนอเทคนิคการจัดการเรียนรู้ ซึ่งผู้เขียนได้นำหลายๆรูปแบบของการเรียนรู้มาผสมผสาน ทำให้นักเรียนมีความเอาใจใส่ และตั้งใจเรียนมากขึ้น รวมทั้งสนุกสนานกับการเรียน ผู้เขียนขอเรียกเองว่า การเรียนรู้แบบร่วมมือโดยวิธีนิทรรศการ(Exhibition)

ขั้นตอนของกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยวิธีนิทรรศการ ประกอบด้วย

1. แบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มประกอบด้วยผู้เรียนที่เก่ง ปานกลาง อ่อน คละกัน

2. แบ่งเรื่องที่จะศึกษาออกเป็นหัวข้อย่อยๆ

3. แต่ละกลุ่มเลือกหัวข้อย่อยเพื่อจะศึกษา หรืออาจสุ่มด้วยวิธีการจับฉลาก

4. สมาชิกในกลุ่มร่วมกันศึกษาหัวข้อย่อยที่เลือกได้ จากแหล่งข้อมูลต่างๆที่ผู้สอนจัดเตรียมไว้ อาทิ ใบความรู้ ใบงาน เอกสารประกอบการเรียน หนังสือเรียน ฯลฯ โดยแบ่งหน้าที่กันทำงาน ซึ่งอาจเป็นดังนี้

■สมาชิกคนที่ 1 เขียนผังมโนมติ(Mind Mapping)
■สมาชิกคนที่ 2 เขียนแผนภาพ เพื่อเป็นสื่อการเรียนรู้
■สมาชิกคนที่ 3 สร้างแบบประเมินผลการเรียนรู้
■สมาชิกคนที่ 4 ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
5. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มจัดนิทรรศการ โดยใช้ผังมโนมติ แผนภาพ ที่ได้จัดเตรียมไว้ เป็นอุปกรณ์ในการจัด

6. สมาชิกตัวแทนกลุ่มอย่างน้อย 1 คน สับเปลี่ยนกันประจำสถานที่ ที่จัดนิทรรศการของตนเอง เพื่อนำเสนอความรู้ให้กับเพื่อนสมาชิกกลุ่มอื่นๆ โดยใช้ผังมโนมติและแผนภาพ ประกอบการนำเสนอ หรือเป็นสื่อการเรียนรู้ จากนั้นประเมินผลการเรียนรู้เพื่อนสมาชิกกลุ่มอื่นๆทุกคน ซึ่งเข้าชมนิทรรศการ

7. สมาชิกทุกคนในกลุ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน เกี่ยวกับหัวข้อย่อยต่างๆที่ตนเองได้ไปศึกษามา

04 พฤศจิกายน 2553

เรียนภาษาจีน กับเหล่าซือสุดสวย

ว้าวๆๆๆ
จะโกอินเตอร์ ต้องรีบเรียนภาษาเพิ่มที่โรงเรียนรสิ่นหมิน จ.พิษณุโลก

เหล่าซือมาจากเมืองจีน ทั้งสวย และน่ารัก ว้าวๆๆๆๆๆ อยากไปเรียนทุกวันจัง

02 พฤศจิกายน 2553

การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ(Cooperative Learning)

การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ(Cooperative Learning)
หมายถึง กิจกรรมการเรียนการสอนที่แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อยๆ ส่งเสริมให้นักเรียนทำงานร่วมกัน โดยในกลุ่มประกอบด้วยสมาชิกที่มีความสามารถแตกต่างกัน มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีการช่วยเหลือพึ่งพาซึ่งกันและกัน และมีความรับผิดชอบร่วมกัน ทั้งในส่วนตนและส่วนรวม เพื่อให้ตนเองและสมาชิกทุกคนในกลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือมีข้อดีหลายประการ อาทิ

— ช่วยพัฒนาความเชื่อมั่นของนักเรียน
— ช่วยพัฒนาความคิดของนักเรียน
— ช่วยยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

— ช่วยส่งเสริมบรรยากาศในการเรียน
— ส่งเสริมทักษะการทำงานร่วมกัน

— ทำให้นักเรียนมีวิสัยทัศน์หรือมุมมองกว้างขึ้น
— ช่วยการปรับตัวในสังคมดีขึ้น



การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ มีรูปแบบอย่างหลากหลาย ดังต่อไปนี้

1.คิดและคุยกัน(Think Pairs Share) , เพื่อนเรียน(Partners) , ผลัดกันพูด(Say and Switch)

ทั้ง 3 รูปแบบเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่คล้ายคลึงกัน ให้นักเรียนจับคู่กันในการตอบคำถาม อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นสถานการณ์ หรือทำความเข้าใจเนื้อหาที่เป็นความคิดรวบยอดที่กำหนดให้

2.กิจกรรมโต๊ะกลม(Roundtable หรือ Roundrobin)

เป็นรูปแบบการสอนที่จัดกลุ่มนักเรียนที่มีจำนวนมากกว่า 2 คนขึ้นไป เปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคน เขียนความคิดเห็นของตน บอกเล่าประสบการณ์ความรู้ หรือสิ่งที่ตนกำลังศึกษาให้เพื่อนคนที่อยู่ถัดไปโดยเวียนไปทางด้านใดด้านหนึ่ง สมาชิกทุกคนจะใช้เวลาเท่าๆกันหรือใกล้เคียง

3.คู่ตรวจสอบ(Pairs Check) , มุมสนทนา(Corners) , ร่วมกันคิด(Numbered Heads together)

เป็นรูปแบบการสอนที่คล้ายคลึงกัน คือ เป็นการจัดการเรียนการสอนที่แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อยๆ ให้ช่วยกันตอบคำถาม แก้โจทย์ปัญหา หรือทำแบบฝึกหัด เมื่อสมาชิกทุกคนในกลุ่มย่อยสามารถตอบปัญหา หรือแก้โจทย์ได้แล้ว ให้แลกเปลี่ยนกันตรวจสอบคำตอบ โดยการจับคู่ตรวจสอบ หรือจัดมุมสนทนา

4.การสัมภาษณ์แบบสามขั้นตอน(Three Step Interview)

รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบนี้มี 3 ขั้นตอน โดยครูกำหนดคำถามหรือประเด็นโจทย์ปัญหาให้นักเรียนตอบ มีหลักการดังนี้

— นักเรียนจับคู่กัน คนที่ 1 เป็นผู้สัมภาษณ์โดยถามคำถามให้คนที่ 2 เป็นผู้ตอบ

— นักเรียนสลับบทบาทกัน จากผู้ถามเป็นผู้ตอบ และจากผู้ตอบเป็นผู้ถาม
— นักเรียนในแต่ละกลุ่มย่อย ผลัดกันเล่า สิ่งที่ตนรู้จากคู่ของตน ให้กลุ่มทราบ

5.การแข่งขันระหว่างกลุ่มด้วยเกม(Team Games Tournament หรือ TGT) , การแบ่งกลุ่มสัมฤทธิ์(Student Team Achievement Division หรือ STAD)

เป็นรูปแบบการสอนที่จัดกิจกรรมการเรียนการสอนคล้ายคลึงกัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

— การนำเสนอบทเรียน(Class Presentation)

— การจัดทีม(Team)

— การแข่งขัน/การทดสอบ(TGTใช้การแข่งขัน ส่วน STADใช้การทดสอบ)

— การยอมรับความสำเร็จของทีม(Team Recognition)

6.ปริศนาความรู้(Jigsaw)

เป็นการจัดการเรียนการสอนที่ทุกกลุ่มจะได้รับมอบหมายให้ทำกิจกรรมเดียวกันโดยครูผู้สอนแบ่งเนื้อหาของเรื่องที่จะเรียน ออกเป็นหัวข้อย่อยเท่าจำนวนสมาชิกแต่ละกลุ่ม และมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มค้นคว้าคนละหัวข้อย่อย โดยนักเรียนแต่ละคนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง ที่ตนได้รับมอบหมายจากกลุ่ม สมาชิกต่างกลุ่มที่ได้รับมอบหมายในหัวข้อเดียวกันจะร่วมกันศึกษา จากนั้นแต่ละคนจะกลับเข้ากลุ่มเดิมของตน เพื่ออธิบายหัวข้อที่ตนศึกษาให้เพื่อนร่วมกลุ่มฟัง

7.การสืบสอบเป็นกลุ่ม(Group Investigation)

เป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นบรรยากาศการทำงานร่วมกัน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และการเรียนรู้ ที่จะดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมประชาธิปไตยได้อย่างเหมาะสม กล่าวคือ สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มจะเลือกหัวข้อย่อย และเลือกวิธีการแสวงหาคำตอบในเรื่องนั้นๆด้วยตัวเอง หลังจากนั้นสมาชิกแต่ละคน จะรายงานความก้าวหน้าและผลการทำงานให้กลุ่มตนเองทราบ

8.การเรียนรู้เป็นกลุ่มเพื่อช่วยเหลือเพื่อนเป็นรายบุคคล(Team Assisted Individualization หรือ TAI)

เป็นการเรียนการสอนที่ผสมผสานระหว่างการจัดการเรียนแบบร่วมมือ และการเรียนการสอนแบบรายบุคคลเข้าด้วยกัน เน้นการสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล โดยให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเองตามความสามารถ ส่งเสริมความร่วมมือภายในกลุ่ม มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้และปฏิสัมพันธ์ทางสังคม

9.การเรียนรู้แบบร่วมมือผสมผสานการอ่านและการเขียน(Cooperative Integrated Reading and Composition หรือ CIRC)

เป็นรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ที่มีองค์ประกอบน่าสนใจ ได้แก่ การสร้างกลุ่มอ่าน การจัดกลุ่มย่อย กิจกรรมการอ่านพื้นฐาน การหาเพื่อนช่วยตรวจสอบ การทดสอบ การสอนอ่าน การสอนเขียน เป็นต้น

เก็บข้อมูลทำแฟ้มสะสมผลงานครู และพัฒนาตนเองด้วยการเป็นวิทยากร กันครับ

รูปแบบจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สามารถจัดได้อย่างหลากหลาย แต่ทุกแบบมีลักษณะร่วมกัน คือ แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อยๆประมาณ 2-6 คน โดยสมาชิกทุกคนช่วยเหลือกัน มีการฝึกฝนการทำงานกลุ่ม กระบวนการ กลุ่ม และการประเมินผลเป็นรายบุคคล นอกจากนี้ ยังพบว่าไม่มีรูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งสามารถใช้ได้กับบทเรียนได้ทุกลักษณะ ในการเรียนการสอนเนื้อหาในบทหนึ่งๆ ครูผู้สอนอาจจะต้องใช้รูปแบบมากกว่าหนึ่งรูปแบบมาผสมผสาน

28 ตุลาคม 2553

04 ตุลาคม 2553

เด็ก 3 ขวบ โชว์เก๋า

เด็ก 3 ขวบ โชว์การเล่นอูลาฮูป สุดยอดจริงๆครับ
จริงๆแล้วถ่ายเมื่อ 20 ส.ค. 53 แล้วละครับ พอดีเห็นในทีวีนำมาออก เลยอยากเอามาโชว์บ้างครับ

01 ตุลาคม 2553

ไปเป็นวิทยากรภูมิปัญญา ร.ร.โรจนวิทย์มาลาเบี่ยง

วันนี้ได้รับเชิญให้ไปเป็นวิทยากรเรื่องภูมิปัญญาไทย โดยนำมาประยุกต์ใช้กับเรื่องวิทยาศาสตร์ เลยตัดสินใจนำเรื่องเรือนแพมาพูดคุยกับนักเรียนชั้น ป.3/2 โรงเรีียนโรจนวิทย์มาลาเบี่ยง ซึ่งคนเชิญก็ไม่ใช่ใคร ครูนงนุช นกนาค นั้นเอง






































ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ