31 มีนาคม 2553

เมื่อสองวันก่อนได้รับบทความ ดีท็อกซ์ใจ เขียนโดย คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย ในเรื่อง หัวใจสีขาว

การ ดีท็อกซ์ ก็คือการชำระล้างของเสียหรือพิษออกจากร่างกาย ซึ่งการ ดีท็อกซ์ใจ ก็คือการชำระล้างจิตใจที่ขุ่นมัว เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ไม่เป็นที่พอใจ ไม่พึงประสงค์ ไม่เป็นที่สบอารมณ์ ซึ่งเกิดจากตัวเราเองหรือคนรอบข้างและสั่งสมจนเป็น ตะกอน เป็น ก้อนกรวด หรือเป็น สนิม ในใจเรา จนคิดไปว่าสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของจิตใจเรา
การดีท็อกซ์ หรือล้างของเสียหรือพิษเหล่านี้ออกจากจิตใจเราก็มีหลายระดับได้แก่
ระดับที่หนึ่ง ล้าง ตะกอนใจ ซึ่งได้แก่ อาการจู้จี้ ขี้บ่น ขี้โมโห ขี้หงุดหงิด เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่ก็เป็นง่ายหายเร็ว วิธีการล้างก็คือ
- อย่าไปซีเรียสหรือจริงจังกับชีวิตนัก
- อย่ามัวคอยมองหาแต่ความผิดของผู้อื่น ให้มองข้อดีของเขาบ้าง
- ทำอะไรก็ได้ที่ทำให้จิตใจเบิกบาน จะได้บรรเทาอารมณ์โกรธลงได้
- ปลอบใจตัวเองว่าปัญหาทั้งหลายจิ๊บจ๊อบ มีทางแก้ไขได้ทั้งนั้น
- ท่องไว้ว่า โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ถ้าทั้งโกรธและโมโห ก็คือทั้งโง่และบ้า
- คิดไว้เสมอว่า ถ้าโกรธเมื่อไร เราก็กลายจากมนุษย์เป็นยักษ์ กลายจากผู้ดีเป็นไพร่ กลายจากนางเอกเป็นนางร้าย ทันที
- จำไว้ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า ตายไประหว่างที่โกรธ เวลาเกิดใหม่ก็จะรูปชั่วตัวดำ

ดีท็อกซ์ระดับที่สอง ล้าง ก้อนกรวดแห่งความคับแค้นใจ ซึ่งถ้าเราไม่แก้ไข ล้างตะกอน ออกให้หมดก็จะตกผลึกสะสมพอกพูนเป็น ก้อนกรวด แห่งความคับแค้นใจและแสดงออกมาทางสีหน้าแววตา โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ แต่คนอื่นๆเขารู้กันทั่ว หากไม่ ดีท็อกซ์ ออกซะบ้าง หน้าตาก็มีแต่จะเหี่ยวเฉาร่วงโรย อาการที่แสดงออกมาก็คือไม่ไว้ใจใคร หากมีใครหรือเหตุการณ์ใดมาสะกิดปมแห่งความคับแค้นใจนี้แล้ว ก็พร้อมที่จะระเบิดได้ทันที วิธีการล้างก้อนกรวดนี้ก็คือ
- แผ่เมตตา รู้จักชื่นชม รักในสิ่งดีๆ ของตัวเอง มิฉะนั้นแล้วเราก็จะไม่สามารถไปรักหรือรู้จักชื่นชมคนอื่นได้
- เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น โดยเฉพาะในทางลบ
- เปลี่ยนความคิดร้ายๆ ที่เป็นหอกคอยทิ่มแทงให้เป็นความคิดดีหรือเป็นดอกไม้ให้คนอื่นแทน
- คิดเสียว่าหัวใจไม่ใช่ถังขยะ จะได้เอาแต่ของเหม็นของเน่า หรือเรื่องร้ายๆ มาใส่อยู่อยู่ตลอด โปรดเลือกเก็บแต่สิ่งดีไว้ในใจดีกว่า
- คิดเสียว่าทุกคนล้วนเป็นพี่น้องเป็นญาติกันทั้งนั้น อย่ามัวแยกพวกเขา พวกเรา พวกมัน
- แผ่เมตตา "ขอให้สัตว์ทั้งหลายจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวร อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย" ทุกครั้งที่จิตใจไม่สบาย

ดีท็อกซ์ระดับที่สาม ขัด สนิมใจ ซึ่งเป็นอาการของคนที่ฝังตนเองอยู่กับอดีตโดยเฉพาะเรื่องร้ายๆ ไม่ยอมยกโทษให้ใคร และคิดแต่ว่าโลกนี้ไม่มีความยุติธรรม ซึ่งคนประเภทนี้ก็มีแต่ความเคียดแค้น พยาบาทชิงชังเกาะลึกในจิตใจเหมือนสนิมที่ยากจะขัดออก มักอยู่ในโลกส่วนตัว ฝังใจอยู่กับอดีตและไฟแห่งความพยาบาท ไม่เข้าสังคม แม้จะไม่โกรธถี่เหมือนกลุ่ม ตะกอน แต่ถ้าโกรธแล้วก็ไม่ต่างกับระเบิดปรมาณู ที่ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า ดังนั้น การดีท็อกซ์ กลุ่มนี้จึงต้องทำบ่อยๆ ซ้ำๆ จนกว่า สนิม เหล่านี้จะค่อยๆ ถูกขัดออกไป โดยวิธีดังนี้
- ดึงตัวเองออกจากอดีตมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงในปัจจุบัน
- เชื่อในกฏแห่งกรรม โดยยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกล้าหาญ และไม่สร้างกรรมใหม่ในชาตินี้ให้ผูกพันกันต่อไป
- หยุดหาเหตุว่าทำไมเราจึงโชคร้ายกับชีวิตที่ผ่านมา แต่จงเลือกที่จะมีความสุขกับชีวิตที่เหลือ
- วางใจเป็นกลาง ไม่ให้ความสำคัญทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดทำร้ายจิตใจเรา
- หัดสวดมนต์ ทำสมาธิ จะได้ลดทอนความเห็นผิด ผูกพยาบาท
- ไถ่ชีวิตสัตว์เป็นอภัยทาน การให้ชีวิตผู้อื่นจะทำให้เราเห็นคุณค่าของชีวิตตัวเอง
- ระลึกมรณานุสติว่า อีกไม่ช้าเราก็จะตายไปจากโลกใบนี้แล้ว คนที่เราโกรธก็เช่นกัน จะได้ให้อภัยกันได้ง่ายขึ้น
- ประกาศให้อภัย อโหสิกรรมต่อตัวเองและคนรอบข้างโดยทำใจให้บริสุทธิ โดยเขียนชื่อ สาเหตุที่ไม่ชอบ ประกาศให้อภัยแล้วก็ฉีกกระดาษทิ้งไป
- เขียนชื่อคนเดิมที่เราแค้นเคือง แต่คราวนี้เขียนถึงสิ่งดีๆ ของเขาแล้วก็ขอโทษในสิ่งที่เราเคยล่วงเกินเขา แล้วจะส่งจดหมายนี้หรือไม่ส่ง จะบอกหรือไม่บอกให้เขารู้ก็แล้วไป แต่ก็ตั้งใจกับตัวเองแล้วกันว่าจะให้อภัยเขาและประกาศอโหสิกรรม
- แต่หากใครที่ส่งจดหมายแจ้งเขาไปแล้วเขาไม่ตอบกลับก็อย่าไปคาดหวัง ทุกอย่างอยู่ที่ใจเรา
- สุดท้ายคือหมั่นสำรวจว่าเรายังเก็บใครไว้ในหลุมดำบ้าง ถ้ายังมีหลงเหลือก็ค่อยๆ กลับไปทำตามขั้นตอนข้างต้นใหม่จนกว่าสนิมจะถูกขัดจนหมดเกลี้ยงจากใจเรา

การให้อภัยทาน การอโหสิกรรม ถือเป็นการทำทานขั้นสูงสุดและทำได้ยากกว่า การบริจาควัตถุทาน และสูงกว่า การสร้างวิหารทาน หรือสิ่งก่อสร้างที่เป็นสาธารณประโยชน์ และสูงกว่า การให้วิทยาทานและธรรมทาน ดังนั้น การให้อภัยและให้อโหสิกรรม จึงเป็น การชำระล้างตะกอน ก้อนกรวด และสนิมในใจของเรา เพื่อทำให้ชีวิตจิตใจปลอดโปร่ง เบา สะอาดและมีพลัง พร้อมที่จะก้าวไปสู่หัวใจสีขาวต่อไป

ก็ลองมาเริ่ม ดีท็อกซ์ใจ ไปพร้อมกัน

30 มีนาคม 2553

วิธีสวดคาถาบุญฤทธิ์หนุนดวง (คาถายันต์ห้าแถว)

ท่านอาจารย์หนู กันภัย เมตตาแนะนำให้สวดคาถาบุญฤทธิ์ตลอดเวลา
โดยให้สวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิ แผ่เมตตา และสวดคาถาบุญฤทธิ์

มีพี่น้องหลายท่านบนเว็บบอร์ดของครูพี รวมไปถึงครูพีเอง ก็แนะเคล็ดว่า "ถ้าจะให้ได้ผลดี ได้ผลเร็ว ก็ให้สวดก่อนนอน 109 จบ"

ใครอยากมีความสำเร็จ ลองปฏิบัติตามคำแนะนำดูนะครับ

.....................................
บูชาวัตถุมงคล อ.หนู กันภัย
เหรียญห้าแถวอ.หนู

29 มีนาคม 2553

ถอนหญ้า

" ก๊อกๆๆๆๆ"

เสียงเคาะประตูที่ดังผ่านแผ่นไม้ มา พร้อมๆ กับเสียงที่ดูเหมือนกับเป็นคำสั่งว่า

" ตื่น นอนได้แล้วจะได้ช่วยกันทำงาน"

เด็กน้อยคนหนึ่งตื่นขึ้นมา ท่าทางงัวเงียสลึมสลือ มือจับผ้าห่มที่อยู่ปลายเตียงมาพับและตอบรับเสียงปลุกนั้น

" อืม..... ตื่นแล้ว ได้ยินแล้ว" "นี่วันหยุดนะเนี่ย" เด็กน้อยบ่นกับตัวเอง

" เดี๋ยว กินข้าวเสร็จ ไปถอนหญ้าที่ไร่นะ" พ่อสั่งขณะที่ใช้ตะเกียบคีบเนื้อปลาให้ลูกชาย

เด็กน้อยพยักหน้าตอบ และลงมือทานอาหารมื้อแรกของวัน



หลังจากทานอาหารเสร็จ เด็กน้อยเดินไปหยิบหมวกและเสื้อแขนยาวมาสวมเพื่อกันแดด แล้ววิ่งออกไปหน้าบ้าน
กระโดดขึ้นซ้อนท้ายจักรยานโบราณสภาพเก่าโทรม บ่งบอกถึงอายุการใช้งานซึ่งมีพ่อเป็นผู้ขี่

ในระหว่างทาง เด็กน้อยคุยกับพ่อตลอด เขาป้อนคำถามที่อยากรู้

ซึ่งบางครั้งดู เหมือนกับว่าผู้เป็นพ่อจะพยายามสอดแทรกให้แง่คิดตลอด

โดยที่เด็ก น้อยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่นานนักก็ถึงไร่ที่เขามีภารกิจที่จะต้องทำ

" ถอน หญ้า" ภาระกิจที่ได้รับมอบหมาย ..หญ้าเปรียบเสมือน "ศัตรูตัวฉกาจของชาวไร่"

" เดี๋ยวเจ้าถอนแปลงนี้นะ" พ่อสั่งพร้อมกับชี้นิ้วไปที่แปลงผัก

เด็กน้อยรับคำและลงมือถอนหญ้า ออกจากแปลงผัก ทีละต้น ทีละต้น จนกระทั่งศัตรูตัวฉกาจของชาวไร่หายไปจากแปลงผักจนหมดสิ้น

" ไป พักกินน้ำที่ใต้ต้นมะม่วงก่อน....ไป" เด็กน้อยรับคำพ่อแล้วเดินไปพัก

" กลับ มาเร็วๆ นะ ยังมีอีกแปลงหนึ่ง" เสียงพ่อสั่งตามหลังเด็กน้อย




หลังจากได้พักกินน้ำ พ่อได้ส่งจอบให้เด็กน้อย พร้อมกับพูดว่า "เอ้า...เอาไปถากหญ้า"

เด็ก น้อยรับจอบและตรงไปยังแปลงผักเพื่อทำภารกิจต่อ

ดูเหมือนว่าเด็กน้อย จะพึงพอใจกับการใช้จอบถากหญ้ามากกว่าการใช้มือถอน

เหตุผลก็คือ มันทำให้เขาสามารถทำงานได้รวดเร็ว ซึ่งไม่นานนักเขาก็จัดการกับศัตรูตัวฉกาจของชาวไร่อย่างราบคาบ




หลังจากที่ภารกิจเสร็จสิ้นลง พ่อลูกก็พากันกลับบ้าน

ระหว่างทางเด็กน้อยถาม "ทำไมไม่ให้ผมใช้จอบตั้งแต่แรกล่ะ ทั้งๆ ที่ทำงานได้เร็วกว่า"

พ่อ ไม่ตอบ ได้แต่อมยิ้ม เก็บซ่อนคำตอบไว้เพียงผู้เดียว



ผ่านไป 1 สัปดาห์

พ่อได้พา เด็กน้อยกลับไปที่ไร่อีก สิ่งที่เด็กน้อยเห็นก็คือ

แปลงที่ใช้มือ ถอน บัดนี้ไม่มีหญ้าให้เขาถอนเลย แม้แต่ต้นเดียว

แต่... แปลงที่ใช้จอบถาก กลับมีต้นหญ้าปกคลุมเหมือนเดิม



" ทำไม มันเป็นอย่างนั้นล่ะ" เด็กน้อยถามด้วยความสงสัย ทั้งๆ ที่เขาได้จัดการมันหมดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

พ่อตอบ "แปลงที่เจ้าใช้มือถอนน่ะ เจ้าได้ถอนมันถึงรากถึงโคน ส่วนแปลงที่เจ้าใช้จอบถากน่ะ
เจ้าเพียงแต่ตัดเอาส่วนปลายของมันออกเท่า นั้น มันยังคงมีส่วนที่ฝังลึกอยู่ในดินอีก ”

“ มันก็เหมือนกับปัญหาต่างๆ ที่เราพบเจอนั่นแหละ ถ้าเราแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ โดยปล่อยสาเหตุของปัญหาไว้ ไม่นานนักปัญหานั้นก็จะกลับมาสร้างความเดือดร้อนให้เจ้าอีก แต่ถ้าเราแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แม้มันจะยากสักนิด แต่มันก็ทำให้ปัญหานั้นหมดไปได้"

เด็กน้อยยิ้มรับด้วยความ เข้าใจ

" จงหันหน้าสู้กับปัญหา..... จัดการกับสาเหตุ.....และอย่าท้อถอย"




ธรรมสวัสดี http://seal2thai.blogspot.com





............................................................

" เงินและอาหารเป็นเสบียงอันประเสริฐใน โลกนี้ฉันใด

บุญกุศลก็เป็นเสบียงในทางปรโลกฉันนั้น

ใช้ ชีวิตนี้ให้มีคุณค่า สะสมเสบียงให้เพียงพอ

เรียกว่า สั่งสมบุญบารมี "

หลวงปู่จันทร์ศรี ...

28 มีนาคม 2553

พักแบบสุดๆๆๆ

วันนี้เหนื่อยมาก
นอนพักกลางวันหลายชั่วโมงเลย

ตืนมาก็อัพเว็บ ตรวจสอบข้อมูล ทำหลายๆอย่าง

เหนื่อยครับ เหนื่อยเพราะทำงาน ดีกว่า เหนื่อยเพราะหางาน ใช่ไหมครับ

27 มีนาคม 2553

ส่งเล่มเขียวแล้วววว

วันนี้เดินทางไปส่งเล่มเขียนแล้ว
ดีใจมากๆ
หมดไปพันกว่าบาทเลย

เสร็จแล้วก็เอาไปส่ง
ทำเรื่องจบ
ไปถ่ายรูป
ไปแผงพระ
เฮ้อ
เหนื่อยแต่คุ้มจริงๆครับ พี่น้อง (ว่าแต่แผงพระ มันเกี่ยวไหมเนี่ย)

ป.ล. ชุดปกติขาวใส่ไม่ได้ ติดพุง

26 มีนาคม 2553

ยายๆ ทำไมหัวล้าน

ยายๆ ทำไมต้องโกนหัว

"แหม พอดีหมากฝรั่งติดผมหนะ"

แล้วไปกินทำไมละยาย

ยิ่งเคียวยิ่งมัน

ไม่มีฟันแล้วเนี่ยนะ

เออ แบบนี้แหละ ชอบ

คุ้มไหมยาย กินหมากฝรั่งแล้วโกนหัว

คุ้มดิ หมากฝรั่ง ก็มาจากเมืองนอก อร่อยดี

25 มีนาคม 2553

ผู้มีอุดมการณ์เอาธงทุบผู้หญิง

วันนี้ดูคลิป
เป็นคลิปของู้มีอุดมการณ์เข้าไปรุมผู้หญิง เอาธงไปทุบผู้หญิง

หลายคนคงบอกว่า ของปลอม คนปลอม

สุดยอดเลย เพราะลงทุนทั้งเสื้อ หมวก ธง เพื่อทำคลิปเนี่ยนะ

เรียกร้องได้ พึงทำ แต่ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง เพราะมันจะทำให้คนอื่นเค้าไม่เชื่อถือ

ป.ล. เรียกร้องประชาธิปไตย แต่ใส่หน้าการนักการเมือง งง จริงๆ

24 มีนาคม 2553

อหิงสา แบบเลือดๆ

วันนี้ดูหนังเรื่องหนึ่งทางเคเบิล
เป็นการเรียกร้องเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่างของกลุ่มสีผิว

มีการเอาเลือดมาสาด เท ทำหลายอย่าง เพื่อเรียกร้อง

ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอหิงสาแบบไหน

เมื่อก่อนเคยมีที่ว่า อดข้าวประท้วง แต่เจาะน้ำเกลือแทน 5555
ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ