07 ตุลาคม 2555

การให้ครูไปปฏิบัติธรรม


บางอย่าง ผู้ใหญ่ ก็ใช้อำนาจหน้าที่เกินไป
พอนายบอกว่า ให้ครูปฏิบัติธรรม ก็อาศัยอำนาจนโยบายนั้น บังคับครูไปปฏิบัติ ณ สถานที่ที่ตนเชื่อ ศรัทธา นับถือ โดยไม่ดูจริตของคนอื่นๆ

บ้างก็เชื่อในลัทธิใหม่ ก็เอาลัทธินั้นเข้าสู่โรงเรียน ซินแส เดินเข้าออกโรงเรียนเป็นว่าเล่น
บ้างก็เชื่อในลัทธิบางลัทธิ ก็ขวนขวายสร้างโอกาสครอบงำครู นักเรียน
บ้างก็เชื่อในมหานิกาย ธรรมยุิต ฯลฯ

บางสิ่งบางอย่าง ถ้าถอยออกมาหนึ่งก้าว แล้วมีโอกาสได้รู้อะไรหลายๆอย่าง คุณจะรู้เลยว่า ทำไม จริตของคนอื่นๆ จึงไม่มีความสุขเวลาไปปฏิบัติธรรม...

เคยเห็นพระนั่ง"กินกาแฟ" คุยเรื่องการเมืองใหม่
เคยเป็นแม่ชี มีทีวีดู แล้วไม่ยอมไปทำวัตร เพราะเชื่อว่า ตนพ้นจุดนั้นไหม
เคยเห็นแม่ชี ถือเงินไปซื้อกับข้าวในตลาดเป็นถุงๆไหม
เคยเห็นในห้องพักปฏิบัติธรรม มีจาน ชาม ช้อน น้ำปลา ฯลฯ ไหม

...การเป็นผู้ใหญ่ มันดีอย่างนี้นี่เอง คือ สามารถสร้างโอกาสให้ชักจูงบุคคลอื่นให้เชื่อในสิ่งที่ตนเชื่อได้ ด้วยอำนาจที่เรียกว่ามือที่มองไม่เห็น
...การบังคับให้คนปฏิบัติธรรมโดยไม่ถูกจริต ก็ไม่ต่างอะไรกับเทน้ำบนสนามบาสเก็ตบอล เดี๋ยวมันก็แห้งหายไป

...สู้ให้เค้าไปปฏิบัติในวัด ในสถานที่ที่เค้าชอบ เค้าถูกจริต แล้วกลับมาทำรายงานดีกว่า เพราะคนที่ตั้งใจไปทำจริงๆ ก็เยอะ และไม่ต้องไปคิดแทนเค้าว่า เดี๋ยวก็โกหก สร้างหลักฐานเท็จ เพราะคนเขาจะคิดว่า ท่านเอาประสบการณ์ตัวเองที่เคยทำ มาตัดสินคนอื่น  ถ้าเค้าโกหกจริง บาปกรรมก็มีจริง ไม่ต้องไปตัดสิน ไปลงโทษเขาหรอก หากเขาโกหกว่าไปทำความดี ไปฏิบัติธรรมมา เพื่อเอาตัวรอดไปปีหนึ่งๆ ลูกหลานของเขา ก็คงจะทำกับเขาเช่นกัน (คล้ายๆกับโกงเงินถวายพระ โกงควายที่ถูกไถ่ชีวิต) ประมาณนั้นครับ

(เขียนตอนฟังนโนบายของใครบางคน ทางทีวี)



ให้กำลังใจครูบ้านนอกด้วยนะจ๊ะ ... ขอบคุณจ้า




...............................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ