29 กรกฎาคม 2554

เมื่อครูท้อแท้..


ขออัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เพื่อเป็นข้อคิดในการทำงา

     ครั้งหนึ่งองคมนตรีสุเมธกำลังทำงานอยู่ในสภาพที่จิตใจย่ำแย่มาก ไม่มีกำลังใจทำอะไร ท้อแท้กับงานมาก ไม่มีใครเข้าใจ เหมือนทำดีแต่ไม่ดี ในหลวงท่านทรงเสด็จมาพอดีและท่านได้เห็นสีหน้าไม่สู้จะดี ท่านได้สอบถามจนได้ความ พระองค์ท่านจึงตั้งคำถาม และ รับสั่งว่า

     "ท่านสุเมธเคยขายเศษเหล็กไหม เศษเหล็กเหล่านั้น เวลาขายคุณค่ามันต่ำมาก คงได้เงินไม่กี่บาท แล้วถ้าเราเอาเศษเหล็กเหล่านั้นมาหลอมรวมกันเป็นแท่ง เวลาหลอมนี่เหล็กมันคงร้อนมาก พอหลอมเสร็จเรานำมาทำเป็นดาบ คงต้องนำมาตีให้แบนอีก เวลาตีต้องเอาไปเผาด้วย ตีไปเผาไป อยู่หลายรอบกว่าจะเป็นรูปดาบอย่างที่เราต้องการ ต้องผ่านความเจ็บปวด ความร้อนอยู่นาน แถมเมื่อเสร็จแล้ว ถ้าจะให้สวยงามดังใจ ก็ต้องนำไปแกะสลักลวดลาย ก็ต้องใช้ของมีคมมาตีให้เป็นลวดลายอีก แต่เมื่อเสร็จเป็นดาบที่งดงาม ก็จะมีคุณค่าที่สูงมาก เทียบกับเศษเหล็กคงจะต่างกันลิบลับ จะเห็นได้ว่ากว่าที่เศษเหล็กมีคุณค่าไม่มากนัก จะกลายเป็นดาบที่งดงามนั้น ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ทั้งความเจ็บปวดต่างๆกว่าจะประสบความสำเร็จ"

     ดังนั้น ขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า “ใครไม่เคยถูกตี ถูกทุบ เจอเรื่องเลวร้ายในชีวิตมาเลยนั้น จงอย่าได้หาญคิดทำการใหญ่”

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

........................................................................................................

     ผมจำได้ว่า ครั้งแรกที่ได้เห็นข้อความนี้ น่าจะเป็นไฟล์ power point ข้อความเดียวกันทั้งหมด แต่รูปภาพประกอบเป็นรูปภาพที่เราหลายคนอาจจะเคยเห็นบ่อยครั้งแล้ว ภาพของพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงงานหนักตลอด ภาพที่พระองค์มีพระเสโทตรงบริเวณจมูก ทำให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยอย่างผม ลุกขึ้นสู้ขึ้นมาบ้าง

     หลายครั้งที่การทำงานของเรามักจะถูกกระทบ ถูกตี ถูกกระทำต่างๆนานา ทั้งนี้เพราะ เราอยู่ในสังคม อยู่ในระบบนิเวศที่พยายามรักษาความสมดุล และผู้แข็งแกร่ง ย่อมมีโอกาสอยู่รอดเสมอ

     ...และการอยู่ในสังคม เป็นธรรมดาที่ต้องถูกติติง ถูกว่ากล่าว ถูกชมเชย ยกย่อง และติฉินนินทาเป็นธรรมดา

     ซึ่งบ่อยครั้ง บทกวีที่ว่า "จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน" อาจจะถูกมองว่า จริงแท้แน่นอน แต่คุณครูท่านหนึ่งที่เคยสอนผมตอนมัธยมปลาย ท่านสอนว่า "คนที่ไม่มีอะไรเด่น คือคนที่ไม่ทำอะไร และเป็นไปไม่ได้ ที่การทำความดี จะไม่เด่้นขึ้นมา" ดูอย่างเด็กนักเรียนเก็บเงินได้ แต่วินตอเตอร์ไซต์กลับบอกเด็กว่า ไม่ต้องเอาไปแจ้งตำรวจ เอาเงินมาแบ่งกันดีกว่า ซึ่งเด็กหญิงก็ไม่ยอม เพราะเขามีภูมิหลังที่ดี มีครอบครัวที่อบอุ่น ได้รับการอบรมมาดี เธอจึงบอกว่า "ไม่ได้ ครูสอนว่า อะไรไม่ใช่ของเรา ก็ไม่ควรนำมาเป็นของตน" ข่าวนี้โ่ด่งเพียง 3 วัน (3 วันจริงๆ เพราะหลังจากนั้น ก็เป็นข่าวของนักร้องดังที่ถูกกล่าวหาว่าไปทำดาราสาวท้่อง เรื่องของเด็กหญิงคนนี้ก็เงียบไป... จำไม่ได้แม้กระทั้งชื่อ หรือจังหวัดที่เกิดเรื่อง)

     เมื่อเราสังเกตดูเนื้อข่าวตามสื่อต่างๆ เราจะพบเรื่องดีๆเพียง 1 - 2 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือก็จะเป็นเรื่องที่อ่านแล้ว ดูแล้ว ไม่ค่อยสบายใจ ฉกชิงวิ่งราว ปล้น ฆ่า ข่มขืน และอีกมากมายสารพัด หรือว่าสังคมของเรามีความสุขกับการได้รู้ได้เห็นเรื่องของความเดือนร้อนของคนอื่น สนุกกับการพูดต่อ บอกเล่าเรื่องราวของคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง หรือคนรู้จัก

     ...หรือจะรอให้เกิดเรื่องนั้นกับตนเอง จึงจะเข้าใจความรู้สึกของบุคคลและคนรอบข้างที่ถูกกระทำในข่าว

     ผมโชคดี ที่มีครูบาอาจารย์ที่ดี คอยอบรมสั่งสอน ตักเตือน ดุด่า ลงโทษ ซึ่งการกระทำของท่านทั้งหลายได้หล่อหลอมให้ผมเป็นอย่างทุกวันนี้ แต่ครูบาอาจารย์ของผมมีหลายสาขา หลายประเภท ทั้งเป็นมนุษย์ และเอกสารตำรา (ปัจจุบันอาจหมายรวมถือสื่อต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ต CD ต่างๆ เป็นต้น) หลายท่านยังเมตตาตลอดมา แม้ได้เรียนกับท่านเพียงภาคเรียนเดียว แต่ท่านยังรักผมเหมือนลูก มีของดีมามอบให้ตลอด คอยตักเตือน ชี้แนะ (เมื่อตอนเรียนปริญญาตรี ผมเคยจะร้องเรียนมหาวิทยาลัย ที่ไม่เปิดรายวิชาเลือกเสรีให้กับนักศึกษา ในกรณีที่มีการลงชื่อสมัครไม่ถึง 25 คน จำได้ว่า เคยเขียนร้องเรียนโดยใช้ชื่อจริง นามสกุลจริง ลงในวารสาร สานปฏิรูปด้วย ... ทำไปได้ ) ถ้าไม่มีท่านในวันนั้น ผมอาจทำลายมหาวิทยาลัยอันเป็นที่รักของผมไปแล้ว 

หลังจากนั้น ผมได้สมัครเป็นประธานสภานักศึกษา คอยตรวจสอบการทำงานขององค์การนักศึกษา และประสานงานกับทางมหาวิทยาลัย ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆกับพี่น้องนักศึกษา เช่น มีคนโรคจิตเข้ามาลวนลามนักศึกษาหญิงที่ตึกคณะวิทยาศาสตร์ การไม่ได้รับเงินค่าหน่วยกิตคืน ในกรณีไม่เปิดสอนในรายวิชานั้นๆ การกระทำที่ไม่เหมาะสมของยามรักษาการณ์(บริษัทรับจ้าง) และอีกหลายๆเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเป็นหนังหน้าไฟ ไม่ใช่เรื่องอะไรของเราโดยตรง แถมยังโดนหลายคนมองด้วยสายตาที่ไม่พอใจ (มาทำให้เค้าเดือนร้อน) 

เรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับป้ายที่ท่าน ผอ. โรงเรียนเก่าของผมเขียนไว้ ท่านเขียนว่่า "การทำดี มีเพียงคนที่คิดและทำตรงกันข้ามกับเราจะมองว่าไม่ดี" เช่น การที่เราจอดรอไฟสัญญาณจราจรโดยที่ในทางตรงข้ามกันนั้น ไม่มีรถสวนมาเลยสักคน ก็มีเพียงคนที่ชอบแหกกฎ ทำผิดกฎหมายเท่านั้น ที่จะมองว่า เราทำบ้าอะไร

ดังนั้น เมื่อทำความดี ทำสิ่งดีๆ เราอาจจะฟังเพียงคนที่ตำหนื แสดงความเห็น แต่อาจไม่ต้องนำกลับมาคิดด้วยอารมณ์โกรธแค้น หวังจ้องจะทำร้ายทำลายคืนไปบ้าง เพราะบางคน อาจพูดด้วยนิสัยส่วนตัวที่ชอบเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น เห็นคนอื่นทำความดี ทำประโยชน์มากกว่าตนเองไม่ได้ และเมื่อเราเอาจิตไปประหวัดตาม จิตของเราก็ขุ่นหมองไป การทำดีของเราก็เกิดประโยชน์ไม่เต็มที่

ท่านอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านบอกว่า การที่เราทำเพื้อคนอื่น วันหนึ่ง อานิสงส์จะเกิดกับเรา ผมเอาความเกลียดชังของเจ้าหน้าที่บางคน (ที่เค้าถูกผู้บริหารตำหนิจากการไม่แก้ไขความผิดพลาดของตนเอง จนทำให้นักศึกษาเดือนร้อน และผมก็ร้องเรียนกับผู้บริหาร) แลกกับความสำเร็จก้าวแรก เพราะเมื่อเราตั้งใจทำให้คนอื่นๆด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผลบุญจะเกิดกับเรา เรื่องนี้เด่นชัดในด้านของหน้าที่การงาน เพราะสามารถเข้าทำงานที่เตรียมอุดมศึกษา ภาคเหนือได้ หลังจากจบปริญญาตรีได้เพียง 3 วัน โดยที่ไม่ได้ใช้เส้นสายใดๆจากใครเลย และอาจรวมไปถึง การสอบบรรจุข้าราชการได้ตั้งแต่อายุ 23 (จบปริญญาตรีได้ 7 เดือน) ซึ่งผมก็เชื่อมากๆว่า เป็นเพราะผลที่เราทำเพื่อคนอื่น ทำเพื่อสถาบันการศึกษาของเรา

และคนเพราะความที่เรารักสถาบันการศึกษา รักมหาวิทยาลัยของเรา รักเตรียมอุดมฯ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของวิชาชีพ เทวดาทั้งหลาย รวมไปถึงคณาจารย์ พี่ๆ ทั้งราชภัฏพิบูลสงคราม และเตรียมอุดมฯ รวมไปถึงที่อื่นๆ จึงดึงไปช่วยงานบ้าง ผมก็ดีใจมากๆ เพราะถือว่าได้ตอบแทนพระคุณมหาวิทยาัลัย ตอบแทนครูบาอาจารย์ ตอบแทนพี่ๆที่ให้ข้าวให้น้ำกินเมื่อครั้งก่อน ผลพลอยได้คือ ชื่อเสียงและความรู้ทีไ่ด้รับมากขึ้น และการทีไ่ด้มีโอกาสทำงานร่วมกับผู้ใหญ่มากขึ้น แม้่บางคนที่เคยร่วมงานกัน เค้าอาจจะมองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว แต่ทางผู้บริหารก็เข้าใจ ให้โอกาส(ซึ่งก็ไม่ได้บ่อยครั้งมากมาย) อาจเป็นเพราะ 1 สัปดาห์มี 30 ชั่วโมง ผมสอนไป 22 ชั่วโมง (ยังไม่รวมกับติวตอนพักเที่ยงทุกวันพุธ และภาระงานอีก 7 อย่าง) และจะเก็บงานทำ คศ. 2 ด้วย ท่านก็เลยเมตตาอย่างสูง แต่ก็ไม่วายที่ผู้ร่วมงานบางท่านที่เราเคารพนับถือ ยังติติงว่าไม่สมควร...

...เมื่อเราท้อแท้จากการทำความดี โปรดนึกถึงคำสอนของพระเจ้าอยู่หัว นึกถึงเหล็กกล้า ที่ต้องถูกไฟ ถูกหล่อหลอม ถูกตี จึงจะกลายมาเป็นสิ่งที่สวยงาม

... เราจำทำความดีเพื่อแผ่นดินของเราต่อไป เพื่อให้สมกับเป็นคนของพระราชา ข้าของแผ่นดินครับ

28 กรกฎาคม 2554

คำขงเบ้ง

1. ถ้าคุณคิดจะเป็นใหญ่ คุณก็จะได้เป็นใหญ่ ถ้าคุณคิดอยากเป็นอะไรคุณก็จะได้เป็นสิ่งนั้น 
2. เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาสเพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วยดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน" 
3. นกทำรังให้ดูไม้ ข้าเลือกนายให้ดูน้ำใจ 
4. ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด 
5. ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด 
6. ผู้ที่มีเกียรติ คือ ผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น 
7. ถ้าสติไม่มา ปัญญาก็ไม่มี 
8. ไม้คดใช้ทำขอเหล็กงอใช้ทำเคียว แต่ คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย 
9. เล่นหมากรุก อย่าเอาแต่บุกอย่างเดียว เดินหมากรุกยังต้องคิดเดินหมากชีวิต จะไม่คิดได้อย่างไร 
10. เมื่อใครสักคนหนึ่ง ทำผิด ท่านอย่าเพิ่งตำหนิหรือต่อว่าเขาเพราะถ้าท่านเป็นเขาและตกอยู่ในสภาพแวดล้อม เช่นเดียวกับเขาท่านอาจจะตัดสินใจทำเช่นเดียวกับเขาก็ได้ 
11. การบริหารคือการทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยมือผู้อื่น 
12. ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสารมารถของตนอย่างเต็มที 
13. ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่นอย่างเต็มที่ 
14. ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่นอย่างเต็มที่ 
15. อ่านคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น 
16. เมื่อนักการฑูตพูดว่า "ใช่ หรือ อาจจะ" เขามีความหมายว่า "อาจจะ" 
17. เมื่อนักการฑูตพูดว่า "อาจจะ" เขามีความหมายว่า "ไม่" 
18. เมื่อนักการฑูตพูดว่า "ไม่" เขาไม่ใช่นักการฑูตเพราะนักการฑูตที่ดีจะไม่ปฏิเสธใคร) 
19. เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ไม่" หล่อนมีความหมายว่า "อาจจะ" 
20. เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "อาจจะ" หล่อนมีความหมายว่า "ใช่ หรือ ได้" 
21. เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ใช่ หรือ ได้" หล่อนไม่ใช่สุภาพสตรี. 
22. สุภาพสตรีจะไม่ตอบรับใครง่าย ๆ 
23. คิดทำการใหญ่ อย่าสนใจเรื่องเล็กน้อย 
24. ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน 
25. คนส่วนใหญ่ใส่ใจกับผลได้ระยะสั้นเท่านั้น แต่คนฉลาดอย่างแท้จริงจะมองไปยังอนาคต



...................................

25 กรกฎาคม 2554

ปฏิบัติราชการ

วันนี้ ไปปฏิบัติราชการ คณะทำงานพัฒนาตัวชี้วัดฯ ตามคำสั่ง สพป.พล.1 ที่ 425/2554 ลว. 1 กค. 2554

ณ ห้องประชุม 2 สพป. พล. 1

เพื่อร่วมร่างคู่มือในการจัดเตรียมปฏิบัติในการประเมินจุดเน้น และกลยุทธ์ของ สพฐ.

งานใหญ่จริงๆเลย เฮ้ออออ

24 กรกฎาคม 2554

สอบภาค ก. ของ ก.พ.

วันนี้มีการสอบ ภาค ก. หรือภาคความรู้ทั่วไป
ที่จังหวัดพิษณุโลกวันนี้มีสนามสอบหลายจุด หลายคนมาสอบความความหวังอย่างเต็มที่ บางคนอาจเป็นการทดสอบครั้งแรก หลังจากสำเร็จปริญญามาหมาดๆ

การสอบภาค ก. หรือภาคความรู้ทั่วไป มีการแบ่งการทดสอบเป็นระดับ คือ ระดับ 1 - 3 จัดสอบเป็นครั้งๆ ส่วนระดับ 4 หรือปริญญาโท จะเปิดสอบโดยสามารถดูรายละเอียดบนหน้าเว็บของ ก.พ. ได้ครับ

ผลการสอบ ก็คงจะออกมาในเร็ววันนี้

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน และขอให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพนะครับ


...................................
หนุ่มฮอต & หนุ่มฮอต

23 กรกฎาคม 2554

วิทยากร "Social Network for Education" วันที่ 2

วันนี้เป็นวันที่สองที่ได้รับเชิญเป็นวิทยากรเรื่อง Social Network for Education ตามโครงการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนสำหรับครูวิทยาศาสตร์โรงเรียนในฝัน (โรงเรียนดีใกล้บ้าน) ด้วยระบบเครือข่ายออนไลน์เพื่อการศึกษา Social Media ณ ศูนย์พัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์โรงเรียนในฝัน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ภาคเหนือ ตามหนังสือที่ ศธ. ๐๔๒๖๙.๐๕/๓๐๔ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ภาคเหนือ ลงวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔


สำหรับวันนี้ กิจกรรมและผลงานของผู้เข้าร่วมอบรม ได้เริ่มมีการเผยแพร่ และทดลองทำสื่อประเภทหลักๆที่ต้องใช้งาน ดีใจ ทีไ่ด้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาไทยครับ







.........................
พิริยะ  ตระกูลสว่าง


ทดสอบการใส่ vdo ที่สร้างจากกล้องถ่ายรูป

ทดสอบการใส่ vdo

22 กรกฎาคม 2554

วิทยากร "Social Network for Education"

วันนี้ได้รับเชิญเป็นวิทยากรเรื่อง Social Network for Education ตามโครงการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนสำหรับครูวิทยาศาสตร์โรงเรียนในฝัน (โรงเรียนดีใกล้บ้าน) ด้วยระบบเครือข่ายออนไลน์เพื่อการศึกษา Social Media ณ ศูนย์พัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์โรงเรียนในฝัน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ภาคเหนือ ตามหนังสือที่ ศธ. ๐๔๒๖๙.๐๕/๓๐๔ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ภาคเหนือ ลงวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔


สำหรับวันนี้ถือว่า เป็นการอบรมพี่น้องชาววิทย์ด้วยกันเอง มีทั้งที่สอนระดับประถม และระดับมัธยม ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคหลายอย่าง แต่พี่น้องชาววิทย์ก็ร่วมมือร่วมใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในทุกขั้นตอน















มาติดตามกันวันที่ 2 นะครับ
.........................


19 กรกฎาคม 2554

มองเรยา ในสายตาของ(ครู)ผู้ชาย


แม้ละครดอกส้มสีทอง ซึ่งเป็นภาคต่อของมงกุฏดอกส้มจะจบไปนานแล้ว แต่กระแสเรยายังคงไม่จบในสังคมไทย ซึ่งคำว่าเรยา กลายเป็นคำด่าทอเสียดสีของคนที่ชอบแย่งแฟนชาวบ้านไปเสียแล้ว
แต่เดิมผมไม่ได้ตั้งใจเขียนถึงเรยา แต่เพราะอาการปวดประสาท(จริงๆ) เมื่อได้ชมละครเมียแต่ง ที่ทำได้แรงมาก มีทั้งตบ ทั้งขู่ ทั้งยิง ตั้งแต่ในตอนแรกเลย ซึ่งถ้าจะกล่าวว่ามองดูละครย้อนดูสังคมก็คงจะไม่ผิด (เพราะเมื่อไรที่มีคนออกมากำกับดูแลเรื่องเหล่านี้ ก็จะถูกเหน็บแนมว่า"มือถือสากปากถือศีล"ไป) จนเราต้องกลับมามองย้อนในสังคมว่า เรามีคน มีเหตุการณ์ มีคดีแบบเดียวกับ "เมียแต่ง" กี่กรณี
อ่านต่อฉบับสมบูรณ์ที่ http://www.seal2thai.org/sara/sara229.htm




...................................

18 กรกฎาคม 2554

คิดถึงสมเด็จย่า

ฟ้าห่มฟ้า ห่อมอ้อม มาปกดิน
เพียงธาริน สูงค่า มหาศาล
สมเด็จย่า จากไป ใช่จากนาน
ทุกวันวาน วันนี้ มีพระองค์

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
นายพิริยะ ตระกูลสว่าง

09 กรกฎาคม 2554

อบรมครูภาษาไทย กับ IT

การอบรมครูภาษาไทยกับ IT
เรื่อง การใช้ social media ในการจัดการเรียนรู้ โดยศูนย์ภาษาไทยโรงเรียนในฝัน และเครือข่าย

การอบรมครั้งนี้กลุ่มเป้าหมายคือครูภาษาไทยท่เป็นเครือข่ายโรงเรียนในฝัน
มี่ทั้งโรงเรียนในเมือง และโรงเรียนที่อยู่ห่างออกไป แต่ก็มีความพร้อมความสามารถในการจัดการเรียนเชิง e - Learning

การอบรมครั้งนี้เหมือนเช่นเดียวกับทุกครั้ง
คือกลุ่มผู้เข้ารับการอบรมมีหลากหลาย ดังนั้น จึงต้องหาวิธีดึงช่องว่างระหว่างกันให้แคบที่สุด มีความเป็นกันเอง และต้องถือว่า ทุกคนคิดคนในครอบครัว เราจึงจะรักและมอบสิ่งที่เราเรียนรู้ร่วมกันได้อย่างเต็มที่

ในการอบรม มีผู้เข้าร่วมประมาณกว่า 50 ท่าน
แต่ละท่านมีความน่ารัก คือ มีความพยายาม

แถมหลายท่าน นำของฝากมาให้คณะวิทยากร (โดยเฉพาะผม ซึ่งผอมซูบกว่าเค้ามาก...)

ก็ต้องกราบขอบพระคุณมา ณ ที่นี้นะครับ เพราะจริงๆแล้ว เราำทำงานเป็นทีม ซึ่งแม้ว่าผมอาจดูเป็นคนนอก ไม่ได้สังกัดศูนย์คอมพิวเตอร์ของ ต.อ. โดยตรง แต่ความรักที่มีต่อ ต.อ. ยังไม่เสื่อมคลาย ร่วมไปถึงความเมตตาจากพี่ๆในศูนย์ ความผูกพันของพี่น้องในศูนย์ จึงได้ร่วมงานกันเสมอมา

... เราคือพี่น้องกันทั้งสิ้น

มาชมภาพกิจกรรมของวันที่ 8 - 9 กรกฎาคม 2554 กันครับ (สามารถคลิกรูป save ได้นะครับ)


ในการอบรมครั้งนี้
สิ่งที่ it-zon นั้นมีให้
คือความรู้ คือความรัก จากดวงใจ
ฝากฝันให้ ไทยเรา ก้าวหน้าเอย


...................................

ทดลองใส่ vdo

ทดลองใส่ vdo ใน blog
เพลงนี้ชอบมาก
เพราะมากๆ เวลาฟังแล้วนึกถึงบรรยากาศตอนเย็นๆ นั่งริมแม่น้ำ

เป็นการเปรียบเปรยผู้หญิงที่มีคุณค่าเปรียบประหนึ่งเพชรเม็ดงาม

คุณค่าของคน ไม่ได้อยู่ที่ความมีเงินทอง มีอำนาจ ...
... แต่อยู่ที่ การสร้างประโยชน์ให้กับคนที่รักรอบข้างได้มากที่สุด
ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ