25 กันยายน 2552

เทคนิคการอ่านหนังสือยังไงน่ะให้จำง่ายๆ

อันนี้เห็นแปลกดี ภาษาวัยรุ่นซะ เลยเอามาฝากครับ

...เทคนิคการอ่านหนังสือยังไงน่ะให้จำง่ายๆ...

ข้อที่ 1. น้องๆต้องใส่ใจเรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆก่อนเลยล่ะ ดูซิ!!!ว่าวิชาไหนน่ะที่เราต้องสอบเป็นอันดับแรกๆ หยิบวิชานั้นขึ้นมาก่อนเลย เตรียมไว้นะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับวิชาที่จะสอบ ชีท เอกสารต่างๆ หรือแนวข้อสอบ(อันนี้สำคัญนะค่ะ หาให้เจอล่ะ) ค้นเลยๆ ทุกวิชานะค่ะ

ข้อที่ 2.แยกหมวดหมู่แต่ละวิชา ก่อน-หลัง แล้วหาที่วางไว้อย่างเป็นระเบียบด้วยล่ะ

ข้อที่ 3.เตรียม ดินสอ/ปากกา สมุด และปากกาเน้นข้อความไว้ด้วยนะ


ข้อที่ 5.เริ่มอ่านวิชาที่จะต้องสอบก่อนเป็นวิชาแรกเลยค่ะ ตรงนี้แหละสำคัญมาก น้องๆอย่าอ่านๆๆๆๆๆแล้วก็อ่านเพื่อให้จบ แบบผ่านๆนะค่ะ ต่อให้น้องๆอ่านสัก 10 รอบแล้วบอกคนอื่นๆว่า "ก็เค้าอ่านเป็นสิบๆรอบแล้วอ่ะ แต่ทำไมทำข้อสอบไม่ได้เลยน่ะ?" อ่ะๆๆๆ!!! อ่านสัก 100 รอบก็ไม่ช่วยอะไรหรอกเจ้าค่ะ อ่านแล้วต้องทำความเข้าใจไปด้วย ตรงไหนที่คิดว่าสำคัญๆ น้องๆก็เน้นตรงจุดนั้นไว้ อาจจะใช้วิธีการจดบันทึกไว้ หรือ เน้นข้อความด้วยปากกาสีต่างๆก็ได้ค่ะ เพื่อว่าจะได้กลับมาอ่านอีกครั้ง


ข้อที่ 6.นั้นงัยๆๆๆพี่บอกไปตะกี้เองนะค่ะว่าอย่าอ่านแบบผ่านๆ ดูสิ!!!น้องๆลองกลับไปอ่านข้อ 3 ใหม่สิค่ะ แล้วดูซิว่าที่ต่อจากข้อ 3 นะเป็นข้อที่เท่าไหร่ ข้อที่ 4หายไปๆๆๆๆ ส่วนน้องๆคนไหนสังเกตเห็นก่อนที่พี่เฉลย น้องก็ไม่มีปัญหาในเรื่องของการอ่านหนังสือแล้วละค่ะ เก่งมากๆเลย ส่วนน้องๆคนไหนที่ไม่ทันได้สังเกต ก็เอาจุดนี้เนี่ยแหละค่ะไปลองปรับใช้กับการอ่านหนังสือดูตามที่พี่บอกไว้ในข้อที่ 5 นะค่ะ


ข้อที่ 7.อ่ะ ต่อๆๆ การไม่ปล่อยให้ท้องว่างก็เป็นสิ่งสำคัญนะค่ะ ถ้าน้องๆอ่านๆๆๆหนังสืออย่างเดียวจนลืมทานข้าวแล้วละก็ นอกจากน้องๆ จะอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องแล้ว อาจจะทำให้ป่วย และทำให้เป็นโรคกระเพาะได้ด้วยนะจ๊ะ สำคัญเลย ต้องหาอะไรทานเมื่อท้องว่างด้วยน้า...อย่าทรมาณตัวเองละ


ข้อที่ 8.ในการอ่านหนังสือ น้องๆควรเลือกเวลาที่รู้สึกว่าสมองเราพร้อมจะทำงานด้วยนะจ๊ะ แล้วเมื่อน้องๆรู้สึกว่าเริ่มอ่านไม่ไหวแล้วล่ะ อ่านนานมากไปทำให้ปวดตา ปวดหัว ให้น้องๆพักก่อน อาจจะหาอย่างอื่นทำ เช่นพักสายตาโดยการหาเพลงเพราะๆฟัง(อ่ะๆๆๆเลือเพลงที่ฟังแล้วจรรโลงใจด้วยละ ถ้าฟังเพลงที่หนักไป อาจทำให้ยิ่งปวดหัวมากกว่าเดิม ไม่รู้ด้วยนะเจ้าค่ะ) จะดูทีวี เล่นเกม หรือกิจกรรมอื่นๆที่ทำแล้วผ่อนคลายก็หามาลองทำกันดูนะเจ้าค่ะ แต่ๆๆๆๆแล้วก็แต่...อย่าพักจนเพลินละ เมื่อถึงเวลาที่ร่างกายผ่อนคลายเพียงพอแล้วก็กลับเข้าสู่โหมดการอ่านหนังสือต่อเลยยย (เอาน่าๆทนเอาหน่อยนะเจ้าค่ะ สอบไม่ได้มีมาบ่อยๆ ตั้งใจให้สุดๆไปเลย)

ข้อที่ 9.นั้นแน่ๆ พี่รู้นะว่าน้องๆเริ่มใส่ใจในรายละเอียดในการอ่านกันบ้างแล้ว คงคิดใช่มั้ยละ ว่าพี่จะแกล้งทำให้ข้อไหนหายไปอีกน่ะ!!! ดีแล้วค่ะถ้าน้องๆคิดแบบนี้นะ เป็นการฝึกตัวเองไปด้วย ให้เป็นคนรอบคอบ ดีค่ะๆ อ่ะต่อๆ


ข้อที่ 10.อ้า....อ่านไม่ทันแล้วอ่ะ!!!ทำไงดีๆ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนๆคนอื่นๆเกือบทุกคนละค่ะ ที่สำคัญเลย อย่าตื่นเต้นจนรนล่ะ ตั้งสตินะค่ะตรงนี้สำคัญมากๆเลย ให้น้องๆหยุดอ่านหนังสือต่อสักพักนึง แล้วดูซิว่า...พรุ่งนี้เราสอบวิชาอะไรบ้าง แล้วหยิบวิชาที่สอบเป็นวิชาแรกมาอ่านทบทวนก่อนเลย แล้วก็ทบทวนวิชาอื่นๆต่อไป (ตรงถ้าคิดว่ากลัวอ่านไม่ทันรอบทบทวนให้น้องๆอ่านในส่วนที่เน้น ที่สำคัญๆเอาไว้ก่อนเลย จำได้มั้ยเอ๋ยว่าในการอ่านรอบแรกพี่ให้น้องๆจดบันทึกที่สำคัญๆไว้ที่คิดว่าน่าจะออก หรือส่วนที่มันยาก จำไม่ได้ก็นำมาอ่านก่อนเลย ตรงส่วนไหนที่น้องๆจำได้ หรือเข้าใจก็เปิดผ่านๆเลยค่ะ ตอนนี้เราต้องทำเวลาแหละน่ะ)


ข้อที่ 11.เอาละ...อ่านหนังสือสอบก็ต้องฟิสหน่อย น้องๆบางคนอาจจะอ่านหนังสือเร็วและเข้าใจง่ายทำให้การอ่านหนังสือไม่ค่อยมีปัญหาเลยก็ดีไป ส่วนน้องคนไหนเป็นคนที่อ่านหนังสือช้าก็ต้องขยันกว่าคนอื่นๆหน่อยแล้ว อาจจะทำให้อ่านหนังสือไม่ทัน ทำให้ต้องนอนดึกหน่อย ก็อย่าลืมดูแลตัวเองนะค่ะ หานมอุ่นๆหรือของว่างทานสักนิดนึง ใส่ใจในสุขภาพหน่อยนะค่ะ เพราะเดี๋ยวน้องๆอาจป่วยได้ แล้วเป็นงัยน่ะ ไปสอบไม่ได้ แย่เลยน่ะเจ้าค่ะ สำคัญเลย ถ้าอ่านหนังสือไม่ทันแล้วจริงๆ แต่ร่างกายเราไม่ไหวแล้ว อย่าฝืนนะค่ะ ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น รีบเตรียมตัวเข้านอนกันดีกว่าค่ะ ตื่นเช้ามาจะได้สดชื่น แถมถ้าเราตื่นเร็ว ก็จะมีเวลาอีกนิดในการทบทวนก่อนเข้าห้องสอบนะค่ะน้องๆ

จากพี่ นางฟ้าซาตาน

1 ความคิดเห็น:

Kunezjug กล่าวว่า...

เทคนิคการเดาอย่างมีหลักการ เพิ่มโอกาสถูก 30-100% ถึงเรียนไม่เก่ง อ่านไม่จำ แต่ก็ทำข้อสอบได้

1. เข้าห้องสอบตรวจสอบเลย เลขที่สอบถูกไหม เขียนชื่อ รายละเอียดต่างๆ ให้ครบ แต่ละปีจะมีผู้ทำข้อสอบแบบไม่ประสงค์ออกนามมากมาย
2. ให้ดูข้อสอบโดยรวมว่าวิชาที่เราทำอยู่มันตรงไหม จำนวนข้อมันเท่ากับที่เขาบอกไหม ถ้ามันถูกต้อง ก็เริ่มทำข้อสอบ
3. เวลาเริ่มทำข้อสอบอย่างแรกเลย ไม่ต้องเร่ง ค่อยๆทำ ควรมีการจัดการเรื่องข้อสอบก็คือทำข้อง่ายถึงข้อยาก ถามว่าข้อไหนข้อง่าย คือเรื่องที่เรารู้ บทไหนรู้เรื่องทำมันเลย ทำข้อง่ายก่อนข้อยาก พอเวลาทำข้อง่ายได้แล้วไม่ต้องรีบทำนะ ทำแบบสบายๆ ไม่ต้องร้อนรน ข้อไหนทำได้มาร์คใว้ อย่าทำไปเดาไป เดี๋ยวเรามาเดารวดเดียวตอน 10 นาทีสุดท้าย เดารวดเดียวไม่เป็นไร เรามีโอกาสถูกมากกว่า 25% แน่นอน
4. เราจะแบ่งเวลา 3 ช่วง 90 นาที ,20 นาที , และ 10 นาทีสุดท้าย 90นาทีแรกทำข้อสอบที่ทำได้ ข้อทำไม่ได้ทำไม่ทันปล่อยมัน พอ 90 นาทีหมดเวลาเลิกทำเลยครับ ข้อไหนทำไม่ทันไม่ได้อ่านโจทย์ไม่เป็นไร
5. 20 นาทีที่เหลือให้ทบทวนข้อที่ทำได้ (ที่เรามาร์คไว้) ข้อที่บอกว่าได้คะแนนแน่ๆ เพราะเป็นเรื่องที่เรารู้เรื่อง ทำไมถึงไม่ให้ไปทำข้อที่ทำไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่รู้เรื่องจะไปเสียเวลากับมันอีกทำไม ทบทวน 20 นาทีทำกับเรื่องที่ทำได้ให้ชัวร์
6. 10 นาทีสุดท้ายเดา ผมมีวิธีเดาให้คุณเดาตั้งแต่ถูกตั้งแต่ 30% - 100% ใน 8 เทคนิคการเดา ใน 3-4 เทคนิคหลังถูก 100% ไม่ต้องไปหาหนังสือที่ไหน เพราะไม่มีใครเขาทำกัน
กฎการเดาข้อที่ 1 โอกาสที่เป็นไปได้ หลักการตัวเลขที่ใช้ตัวจริงตัวปลอม ถ้าเราเจอ ข้อสอบคณิตศาสตร์ที่มันมีตัวเลขเศษส่วน บอกได้เลยคำตอบนี้มักจะเป็นเลขลงตัว เพราะว่าอาจารย์เขารู้คำตอบอยู่แล้ว เขาก็เอาคำตอบที่มันลงตัวมาเป็นคำตอบ คณิตศาสตร์ชอบเลขลงตัวอยู่แล้ว ส่วนถ้าเป็นวิทยาศาสตร์ โจทย์ที่ออกมาในรูปแบบเป็นตัวเลขยุ่งๆ ซับซ้อน พวกนี้คำตอบก็จะเป็นเลขลงตัวเหมือนกันครับ

ติดตามกฎการเดาข้อที่เหลือได้ที่ http://tuent.eduzones.com/53/

แสดงความคิดเห็น

ขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

ให้คะแนนข้อเขียนนี้...คุณจะให้กี่ดาวดีจ๊ะ